ตั้งแต่ชีวิตในวัยเด็ก วัยเรียน จนกระทั่งมา ณ บัดนี้ วัยทำงาน ผู้เขียนไ การแปล - ตั้งแต่ชีวิตในวัยเด็ก วัยเรียน จนกระทั่งมา ณ บัดนี้ วัยทำงาน ผู้เขียนไ อังกฤษ วิธีการพูด

ตั้งแต่ชีวิตในวัยเด็ก วัยเรียน จนกร

ตั้งแต่ชีวิตในวัยเด็ก วัยเรียน จนกระทั่งมา ณ บัดนี้ วัยทำงาน ผู้เขียนได้เรียนรู้เรื่องราวต่าง ๆ ในแต่ละเรื่อง แต่ละความรู้มารวบรวมเป็นองค์ความรู้ในตัวของผู้เขียนเอง ผู้เขียนนั่งลำดับเหตุการณ์ เรื่องราวต่าง ๆ องค์ความรู้ในตัวของเราทุก ๆ เรื่อง แยกออกเป็น ๒ ใบปริญญา ปริญญาแรกที่คนเราไขว่คว้าหามาไว้เพื่อเป็นเจ้าของและครอบครอง นั่นคือ ปริญญาตรี โท เอก ผู้เขียนจำแนกใบปริญญาประเภทนี้ว่า "ปริญญาวิชาชีพ" ซึ่งแต่ละคนมีองค์ความรู้แต่ละสถานภาพ แต่ละบุคคล เพราะบางคนก็จบการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี ปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก แล้วแต่กำลังความสามารถในการศึกษาเรียนรู้ เป็นปริญญาแห่งวิชาชีพของแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับความพร้อมและการได้รับโอกาสของแต่ละบุคคล

อีกใบปริญญาหนึ่งที่ผู้เขียนขอจำแนกไว้เนื่องจากอยู่ควบคู่กับแต่ละบุคคลมาตั้งแต่เกิด ผู้เขียนขอเรียกว่า "ปริญญาชีวิต" ปริญญาใบนี้จะอยู่คู่กับคนเรามาตั้งแต่เกิดจนถึงวันที่คนเราสิ้นลมหายใจ เพราะทุกลมหายใจ ทุกขั้นตอน ทุกกระบวนการของแต่ละบุคคล จะต้องเกิดการเรียนรู้ จึงทำให้แต่ละบุคคลมีองค์ความรู้ที่ตนเองได้รับมา มีความแตกต่างกัน บางคนก็ประสบผลสำเร็จในชีวิต บางคนก็ไม่ค่อยประสบผลสำเร็จสักเท่าไหร่? บางคนก็ไม่ประสบผลสำเร็จในชีวิตเลย ซึ่งมีหลากหลายประเภท...สำหรับใบปริญญาชีวิตนี้ ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่จบการศึกษาระดับสูงเสมอไป แต่อาจได้สำหรับคนที่ไม่จบปริญญาเลยก็ว่าได้ ขึ้นอยู่กับการครองตน การใช้ชีวิตในทางที่ถูกที่ควรมากกว่า...องค์ความรู้สำหรับปริญญาชีวิตนี้ ขึ้นอยู่กับการใช้ "ทักษะชีวิต" ของแต่ละบุคคลที่จะเป็นเข็มทิศคอยนำทางเพื่อให้พบกับความสำเร็จในชีวิต

ในตอนแรก ๆ ผู้เขียนก็ยังไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไร? ยังงง ๆ กับเรื่อง "ชีวิต" ของคนเรา เมื่อสมัยเด็ก ๆ ตั้งใจเรียนเพื่อศึกษาหาความรู้ เพื่อให้ได้ใบปริญญาใบแรก คือ ใบปริญญาวิชาชีพ ได้ใบแรก คือ ปริญญาตรี ใบที่ ๒ คือ ปริญญาโท ว่าแต่จะทำใบที่ ๓ อีก เมื่อพิจารณาดูแล้วสำหรับวัยย่างเข้า ๕๑ ก็คงพอแล้วกระมังสำหรับวัยขนาดนี้ เพราะเมื่อหันหลังกลับมามองลูก ๆ หลาน ๆ แบ่งให้พวกเขาได้เรียนกันบ้างจะดีกว่า...ความรู้เท่านี้ก็เพียงพอและมีความสุขแล้วกับชีวิตปัจจุบัน...การเรียนรู้หรือการพัฒนาตนเองมีอีกมากมายหลายวิธีขึ้นอยู่กับตัวของเราเองว่าจะพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นได้อย่างไร?... เคยถามตนเองว่า...เรียนมาได้แล้วจะนำไปทำอะไร? ถ้าพูดถึงเรื่องพัฒนาตนเองแล้ว ผู้เขียนคิดว่า...มีอีกหลายวิธีที่จะทำให้ตนเองได้รับการพัฒนา การเรียนรู้ในสมัยนี้ เรียนรู้ได้ด้วยตนเองก็ได้ มีความรู้มากมายที่ตัวเราจะสามารถไขว่คว้าหาความรู้ได้ ว่าแต่จะเลือกเรียนและรับความรู้ประเภทไหน จำเป็นแล้วหรือ เมื่อเรียนแล้วต้องได้รับใบปริญญามาเป็นตัวการันตีรับรอง...ผู้เขียนมีความคิดเห็นว่า "คงไม่ใช่"...ไม่จำเป็นต้องให้ใครรับรองแล้ว เพราะตัวเราก็มีสถาบันรับรองเรามาแล้วตั้ง ๒ ใบปริญญาวิชาชีพ...ต่อไปนี้ ก็คือ ใบปริญญาที่ตัวเรารับรองด้วยตัวของเราเอง นั่นคือ "ใบปริญญาชีวิต"

ใบปริญญาใบหลังนี้ ตัวเราแต่ละคนจะสามารถการันตี และรับรองการประสบผลสำเร็จของชีวิตด้วยตัวของเราเอง เพราะชีวิตแต่ละคนเกิดมา ได้รับความรู้แตกต่างกัน ซึ่งผู้เขียนมีความคิดเห็นว่า "ความรู้ในแต่ละคนนี้ ไม่สามารถแบ่งได้ออกเป็นเกรดเฉลี่ยว่าแต่ละคนจะได้รับเกรดเท่าไร? แต่สิ่งที่สำคัญที่คนเราจะได้รับสำหรับใบปริญญาใบนี้ นั่นคือ คุณค่าของความเป็นคน ความสำเร็จ ความภาคภูมิใจ ความสุข ฯลฯ ซึ่งในทุกวันนี้ ผู้เขียนมีความคิดเห็นว่า...คนเราเกิดมาเมื่อเรียนในระดับสูง บางคนยังหลงทาง ให้ความสำคัญกับใบปริญญาวิชาชีพมากจนเกินไป ๆ กว่า ใบปริญญาชีวิต ที่ไม่ว่าใคร ๆ ก็เลือกที่จะจบได้สำหรับใบปริญญาใบนี้...ใบปริญญาชีวิตใบนี้จะเติบโตไปพร้อม ๆ กับ "ธรรมะ" (คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า) ที่จะนำมาใช้กับชีวิตประจำวันเพื่อให้เกิดควบคู่ไปกับคำว่า "คนดี"...คนมีคุณธรรม จริยธรรม...ใบปริญญาใบหลังนี้จะให้ประสบผลสำเร็จได้นั้นจะต้องมีการนำทักษะชีวิต (Life skill) เข้ามาช่วยให้เกิดเป็นใบปริญญาใบนี้

ความหมายของทักษะชีวิต ก็คือ คำว่า "ทักษะ" (skill) หมายถึง ความชัดเจน ความชำนาญในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ซึ่งบุคคลสามารถสร้างขึ้นได้จากการเรียนรู้ของตนเอง เช่น ทักษะการอ่าน ทักษะการสอน ทักษะการจัดการ ทักษะการทำงาน ทักษะการอาชีพ ทักษะทางด้านการกีฬา ทักษะทางด้านภาษา ทักษะการใช้เทคโนโลยี ฯลฯ เป็นทักษะภายนอกที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากการกระทำหรือการปฎิบัติ ทักษะเหล่านี้เป็นทักษะที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตที่จะทำให้ผู้มีทักษะดังกล่าว มีชีวิตที่ดีขึ้นและสามารถดำรงชีพอยู่ในสังคมได้ โดยมีโอกาสที่ดีกว่าผู้ที่ไม่ได้ใช้ทักษะดังกล่าว ซึ่งเป็นคนละอย่างกับทักษะชีวิต (Life skill)

ดังนั้น ทักษะชีวิต จึงหมายถึง คุณลักษณะหรือความสามารถเชิงสังคมจิตวิทยา ที่เป็นทักษะภายในที่จะช่วยให้บุคคลสามารถเผชิญสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเตรียมพร้อมสำหรับการปรับตัวในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการดูแลสุขภาพ ความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม คุณธรรมจริยธรรม ฯลฯ เพื่อให้สามารถมีชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขหรือกล่าวว่า ทักษะชีวิต คือ ความสมารถในการแก้ปัญหาที่ต้องเผชิญในชีวิตประจำวัน เพื่อให้อยู่รอด ปลอดภัยและสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข...ซึ่งทักษะชีวิตนี้ ตรงกับความคิดเห็นของผู้เขียนในฐานะที่ทำงานด้านบุคคลมาเกือบ ๓๐ ปี ทำให้เห็นถึงว่า คนเรามีเรื่องทักษะชีวิตนี้ร่วมด้วยกับการทำงาน เพราะแต่ก่อนก็ไม่เคยนึกถึงในเรื่องนี้ แต่เมื่อในแต่ละวันที่ทำงานทำให้ผู้เขียนได้พบกับปัญหา สิ่งต่าง ๆ ที่ตนเองต้องแก้ไข จึงทำให้ผู้เขียนมีความคิดเห็นตรงกับเรื่อง "ทักษะชีวิต" เช่นกัน

สำหรับองค์ประกอบของทักษะชีวิตนั้นจะแตกต่างกันตามวัฒนธรรมและสถานที่ในแต่ละแห่ง แต่ละบุคคล แต่ทักษะชีวิตที่จำเป็นที่ทุกคนควรมี โดยองค์การอนามัยโลกได้สรุปไว้และถือว่าเป็นหัวใจสำคัญในการดำรงชีวิต ก็คือ

๑. ทักษะการตัดสินใจ(Decision making) เป็นความสามารถในการตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตได้อย่างมีระบบ

๒. ทักษะการแก้ปัญหา (Problem Solving) เป็นความสามารถในการจัดการกับป
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
Since life in childhood wairian until now. Working age author learned various stories in each individual's knowledge is gathered as a body of knowledge on the of the author himself. The author of the story series seat Our knowledge in every subject, split into 2 first degree graduate people search to a clutch to ownership and possession, that is, the Bachelor master Ph.d. author recognizes the degree of this type as "professional degree" in which each person has an individual knowledge of marital status. Each person because some people graduating less than Bachelor's degree and master s degree but are capable of education is designed for individual professional degree, depending on the availability and opportunity of each person. Another graduate, one of the authors of the resolution requests because it is coupled with an individual since born. The author hereby called "bachelor life" this degree is with us since we were born until the end of the breath, because every breath. Every step, every individual will need to learn so that each person has knowledge that they have acquired. There is a difference. Some people succeed in life. Some people rarely succeed much? Some people do not succeed in life. With a variety of ... for a bachelor life. Not necessarily people who graduated a high level always, but it may be for those who did not finish the degree at all, depending on whether its. Living in a way that is more than it should ... of knowledge for this life degree depends on the use of "life skills" for each person who will be on the compass to navigate to find success in life. ในตอนแรก ๆ ผู้เขียนก็ยังไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไร? ยังงง ๆ กับเรื่อง "ชีวิต" ของคนเรา เมื่อสมัยเด็ก ๆ ตั้งใจเรียนเพื่อศึกษาหาความรู้ เพื่อให้ได้ใบปริญญาใบแรก คือ ใบปริญญาวิชาชีพ ได้ใบแรก คือ ปริญญาตรี ใบที่ ๒ คือ ปริญญาโท ว่าแต่จะทำใบที่ ๓ อีก เมื่อพิจารณาดูแล้วสำหรับวัยย่างเข้า ๕๑ ก็คงพอแล้วกระมังสำหรับวัยขนาดนี้ เพราะเมื่อหันหลังกลับมามองลูก ๆ หลาน ๆ แบ่งให้พวกเขาได้เรียนกันบ้างจะดีกว่า...ความรู้เท่านี้ก็เพียงพอและมีความสุขแล้วกับชีวิตปัจจุบัน...การเรียนรู้หรือการพัฒนาตนเองมีอีกมากมายหลายวิธีขึ้นอยู่กับตัวของเราเองว่าจะพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นได้อย่างไร?... เคยถามตนเองว่า...เรียนมาได้แล้วจะนำไปทำอะไร? ถ้าพูดถึงเรื่องพัฒนาตนเองแล้ว ผู้เขียนคิดว่า...มีอีกหลายวิธีที่จะทำให้ตนเองได้รับการพัฒนา การเรียนรู้ในสมัยนี้ เรียนรู้ได้ด้วยตนเองก็ได้ มีความรู้มากมายที่ตัวเราจะสามารถไขว่คว้าหาความรู้ได้ ว่าแต่จะเลือกเรียนและรับความรู้ประเภทไหน จำเป็นแล้วหรือ เมื่อเรียนแล้วต้องได้รับใบปริญญามาเป็นตัวการันตีรับรอง...ผู้เขียนมีความคิดเห็นว่า "คงไม่ใช่"...ไม่จำเป็นต้องให้ใครรับรองแล้ว เพราะตัวเราก็มีสถาบันรับรองเรามาแล้วตั้ง ๒ ใบปริญญาวิชาชีพ...ต่อไปนี้ ก็คือ ใบปริญญาที่ตัวเรารับรองด้วยตัวของเราเอง นั่นคือ "ใบปริญญาชีวิต" ใบปริญญาใบหลังนี้ ตัวเราแต่ละคนจะสามารถการันตี และรับรองการประสบผลสำเร็จของชีวิตด้วยตัวของเราเอง เพราะชีวิตแต่ละคนเกิดมา ได้รับความรู้แตกต่างกัน ซึ่งผู้เขียนมีความคิดเห็นว่า "ความรู้ในแต่ละคนนี้ ไม่สามารถแบ่งได้ออกเป็นเกรดเฉลี่ยว่าแต่ละคนจะได้รับเกรดเท่าไร? แต่สิ่งที่สำคัญที่คนเราจะได้รับสำหรับใบปริญญาใบนี้ นั่นคือ คุณค่าของความเป็นคน ความสำเร็จ ความภาคภูมิใจ ความสุข ฯลฯ ซึ่งในทุกวันนี้ ผู้เขียนมีความคิดเห็นว่า...คนเราเกิดมาเมื่อเรียนในระดับสูง บางคนยังหลงทาง ให้ความสำคัญกับใบปริญญาวิชาชีพมากจนเกินไป ๆ กว่า ใบปริญญาชีวิต ที่ไม่ว่าใคร ๆ ก็เลือกที่จะจบได้สำหรับใบปริญญาใบนี้...ใบปริญญาชีวิตใบนี้จะเติบโตไปพร้อม ๆ กับ "ธรรมะ" (คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า) ที่จะนำมาใช้กับชีวิตประจำวันเพื่อให้เกิดควบคู่ไปกับคำว่า "คนดี"...คนมีคุณธรรม จริยธรรม...ใบปริญญาใบหลังนี้จะให้ประสบผลสำเร็จได้นั้นจะต้องมีการนำทักษะชีวิต (Life skill) เข้ามาช่วยให้เกิดเป็นใบปริญญาใบนี้
ความหมายของทักษะชีวิต ก็คือ คำว่า "ทักษะ" (skill) หมายถึง ความชัดเจน ความชำนาญในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ซึ่งบุคคลสามารถสร้างขึ้นได้จากการเรียนรู้ของตนเอง เช่น ทักษะการอ่าน ทักษะการสอน ทักษะการจัดการ ทักษะการทำงาน ทักษะการอาชีพ ทักษะทางด้านการกีฬา ทักษะทางด้านภาษา ทักษะการใช้เทคโนโลยี ฯลฯ เป็นทักษะภายนอกที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากการกระทำหรือการปฎิบัติ ทักษะเหล่านี้เป็นทักษะที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตที่จะทำให้ผู้มีทักษะดังกล่าว มีชีวิตที่ดีขึ้นและสามารถดำรงชีพอยู่ในสังคมได้ โดยมีโอกาสที่ดีกว่าผู้ที่ไม่ได้ใช้ทักษะดังกล่าว ซึ่งเป็นคนละอย่างกับทักษะชีวิต (Life skill)

ดังนั้น ทักษะชีวิต จึงหมายถึง คุณลักษณะหรือความสามารถเชิงสังคมจิตวิทยา ที่เป็นทักษะภายในที่จะช่วยให้บุคคลสามารถเผชิญสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเตรียมพร้อมสำหรับการปรับตัวในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการดูแลสุขภาพ ความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม คุณธรรมจริยธรรม ฯลฯ เพื่อให้สามารถมีชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขหรือกล่าวว่า ทักษะชีวิต คือ ความสมารถในการแก้ปัญหาที่ต้องเผชิญในชีวิตประจำวัน เพื่อให้อยู่รอด ปลอดภัยและสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข...ซึ่งทักษะชีวิตนี้ ตรงกับความคิดเห็นของผู้เขียนในฐานะที่ทำงานด้านบุคคลมาเกือบ ๓๐ ปี ทำให้เห็นถึงว่า คนเรามีเรื่องทักษะชีวิตนี้ร่วมด้วยกับการทำงาน เพราะแต่ก่อนก็ไม่เคยนึกถึงในเรื่องนี้ แต่เมื่อในแต่ละวันที่ทำงานทำให้ผู้เขียนได้พบกับปัญหา สิ่งต่าง ๆ ที่ตนเองต้องแก้ไข จึงทำให้ผู้เขียนมีความคิดเห็นตรงกับเรื่อง "ทักษะชีวิต" เช่นกัน

สำหรับองค์ประกอบของทักษะชีวิตนั้นจะแตกต่างกันตามวัฒนธรรมและสถานที่ในแต่ละแห่ง แต่ละบุคคล แต่ทักษะชีวิตที่จำเป็นที่ทุกคนควรมี โดยองค์การอนามัยโลกได้สรุปไว้และถือว่าเป็นหัวใจสำคัญในการดำรงชีวิต ก็คือ

๑. ทักษะการตัดสินใจ(Decision making) เป็นความสามารถในการตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตได้อย่างมีระบบ

๒. ทักษะการแก้ปัญหา (Problem Solving) เป็นความสามารถในการจัดการกับป
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
ตั้งแต่ชีวิตในวัยเด็ก วัยเรียน จนกระทั่งมา ณ บัดนี้ วัยทำงาน ผู้เขียนได้เรียนรู้เรื่องราวต่าง ๆ ในแต่ละเรื่อง แต่ละความรู้มารวบรวมเป็นองค์ความรู้ในตัวของผู้เขียนเอง ผู้เขียนนั่งลำดับเหตุการณ์ เรื่องราวต่าง ๆ องค์ความรู้ในตัวของเราทุก ๆ เรื่อง แยกออกเป็น ๒ ใบปริญญา ปริญญาแรกที่คนเราไขว่คว้าหามาไว้เพื่อเป็นเจ้าของและครอบครอง นั่นคือ ปริญญาตรี โท เอก ผู้เขียนจำแนกใบปริญญาประเภทนี้ว่า "ปริญญาวิชาชีพ" ซึ่งแต่ละคนมีองค์ความรู้แต่ละสถานภาพ แต่ละบุคคล เพราะบางคนก็จบการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี ปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก แล้วแต่กำลังความสามารถในการศึกษาเรียนรู้ เป็นปริญญาแห่งวิชาชีพของแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับความพร้อมและการได้รับโอกาสของแต่ละบุคคล

อีกใบปริญญาหนึ่งที่ผู้เขียนขอจำแนกไว้เนื่องจากอยู่ควบคู่กับแต่ละบุคคลมาตั้งแต่เกิด ผู้เขียนขอเรียกว่า "ปริญญาชีวิต" ปริญญาใบนี้จะอยู่คู่กับคนเรามาตั้งแต่เกิดจนถึงวันที่คนเราสิ้นลมหายใจ เพราะทุกลมหายใจ ทุกขั้นตอน ทุกกระบวนการของแต่ละบุคคล จะต้องเกิดการเรียนรู้ จึงทำให้แต่ละบุคคลมีองค์ความรู้ที่ตนเองได้รับมา มีความแตกต่างกัน บางคนก็ประสบผลสำเร็จในชีวิต บางคนก็ไม่ค่อยประสบผลสำเร็จสักเท่าไหร่? บางคนก็ไม่ประสบผลสำเร็จในชีวิตเลย ซึ่งมีหลากหลายประเภท...สำหรับใบปริญญาชีวิตนี้ ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่จบการศึกษาระดับสูงเสมอไป แต่อาจได้สำหรับคนที่ไม่จบปริญญาเลยก็ว่าได้ ขึ้นอยู่กับการครองตน การใช้ชีวิตในทางที่ถูกที่ควรมากกว่า...องค์ความรู้สำหรับปริญญาชีวิตนี้ ขึ้นอยู่กับการใช้ "ทักษะชีวิต" ของแต่ละบุคคลที่จะเป็นเข็มทิศคอยนำทางเพื่อให้พบกับความสำเร็จในชีวิต

ในตอนแรก ๆ ผู้เขียนก็ยังไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไร? ยังงง ๆ กับเรื่อง "ชีวิต" ของคนเรา เมื่อสมัยเด็ก ๆ ตั้งใจเรียนเพื่อศึกษาหาความรู้ เพื่อให้ได้ใบปริญญาใบแรก คือ ใบปริญญาวิชาชีพ ได้ใบแรก คือ ปริญญาตรี ใบที่ ๒ คือ ปริญญาโท ว่าแต่จะทำใบที่ ๓ อีก เมื่อพิจารณาดูแล้วสำหรับวัยย่างเข้า ๕๑ ก็คงพอแล้วกระมังสำหรับวัยขนาดนี้ เพราะเมื่อหันหลังกลับมามองลูก ๆ หลาน ๆ แบ่งให้พวกเขาได้เรียนกันบ้างจะดีกว่า...ความรู้เท่านี้ก็เพียงพอและมีความสุขแล้วกับชีวิตปัจจุบัน...การเรียนรู้หรือการพัฒนาตนเองมีอีกมากมายหลายวิธีขึ้นอยู่กับตัวของเราเองว่าจะพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นได้อย่างไร?... เคยถามตนเองว่า...เรียนมาได้แล้วจะนำไปทำอะไร? ถ้าพูดถึงเรื่องพัฒนาตนเองแล้ว ผู้เขียนคิดว่า...มีอีกหลายวิธีที่จะทำให้ตนเองได้รับการพัฒนา การเรียนรู้ในสมัยนี้ เรียนรู้ได้ด้วยตนเองก็ได้ มีความรู้มากมายที่ตัวเราจะสามารถไขว่คว้าหาความรู้ได้ ว่าแต่จะเลือกเรียนและรับความรู้ประเภทไหน จำเป็นแล้วหรือ เมื่อเรียนแล้วต้องได้รับใบปริญญามาเป็นตัวการันตีรับรอง...ผู้เขียนมีความคิดเห็นว่า "คงไม่ใช่"...ไม่จำเป็นต้องให้ใครรับรองแล้ว เพราะตัวเราก็มีสถาบันรับรองเรามาแล้วตั้ง ๒ ใบปริญญาวิชาชีพ...ต่อไปนี้ ก็คือ ใบปริญญาที่ตัวเรารับรองด้วยตัวของเราเอง นั่นคือ "ใบปริญญาชีวิต"

ใบปริญญาใบหลังนี้ ตัวเราแต่ละคนจะสามารถการันตี และรับรองการประสบผลสำเร็จของชีวิตด้วยตัวของเราเอง เพราะชีวิตแต่ละคนเกิดมา ได้รับความรู้แตกต่างกัน ซึ่งผู้เขียนมีความคิดเห็นว่า "ความรู้ในแต่ละคนนี้ ไม่สามารถแบ่งได้ออกเป็นเกรดเฉลี่ยว่าแต่ละคนจะได้รับเกรดเท่าไร? แต่สิ่งที่สำคัญที่คนเราจะได้รับสำหรับใบปริญญาใบนี้ นั่นคือ คุณค่าของความเป็นคน ความสำเร็จ ความภาคภูมิใจ ความสุข ฯลฯ ซึ่งในทุกวันนี้ ผู้เขียนมีความคิดเห็นว่า...คนเราเกิดมาเมื่อเรียนในระดับสูง บางคนยังหลงทาง ให้ความสำคัญกับใบปริญญาวิชาชีพมากจนเกินไป ๆ กว่า ใบปริญญาชีวิต ที่ไม่ว่าใคร ๆ ก็เลือกที่จะจบได้สำหรับใบปริญญาใบนี้...ใบปริญญาชีวิตใบนี้จะเติบโตไปพร้อม ๆ กับ "ธรรมะ" (คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า) ที่จะนำมาใช้กับชีวิตประจำวันเพื่อให้เกิดควบคู่ไปกับคำว่า "คนดี"...คนมีคุณธรรม จริยธรรม...ใบปริญญาใบหลังนี้จะให้ประสบผลสำเร็จได้นั้นจะต้องมีการนำทักษะชีวิต (Life skill) เข้ามาช่วยให้เกิดเป็นใบปริญญาใบนี้

ความหมายของทักษะชีวิต ก็คือ คำว่า "ทักษะ" (skill) หมายถึง ความชัดเจน ความชำนาญในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ซึ่งบุคคลสามารถสร้างขึ้นได้จากการเรียนรู้ของตนเอง เช่น ทักษะการอ่าน ทักษะการสอน ทักษะการจัดการ ทักษะการทำงาน ทักษะการอาชีพ ทักษะทางด้านการกีฬา ทักษะทางด้านภาษา ทักษะการใช้เทคโนโลยี ฯลฯ เป็นทักษะภายนอกที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากการกระทำหรือการปฎิบัติ ทักษะเหล่านี้เป็นทักษะที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตที่จะทำให้ผู้มีทักษะดังกล่าว มีชีวิตที่ดีขึ้นและสามารถดำรงชีพอยู่ในสังคมได้ โดยมีโอกาสที่ดีกว่าผู้ที่ไม่ได้ใช้ทักษะดังกล่าว ซึ่งเป็นคนละอย่างกับทักษะชีวิต (Life skill)

ดังนั้น ทักษะชีวิต จึงหมายถึง คุณลักษณะหรือความสามารถเชิงสังคมจิตวิทยา ที่เป็นทักษะภายในที่จะช่วยให้บุคคลสามารถเผชิญสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเตรียมพร้อมสำหรับการปรับตัวในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการดูแลสุขภาพ ความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม คุณธรรมจริยธรรม ฯลฯ เพื่อให้สามารถมีชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขหรือกล่าวว่า ทักษะชีวิต คือ ความสมารถในการแก้ปัญหาที่ต้องเผชิญในชีวิตประจำวัน เพื่อให้อยู่รอด ปลอดภัยและสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข...ซึ่งทักษะชีวิตนี้ ตรงกับความคิดเห็นของผู้เขียนในฐานะที่ทำงานด้านบุคคลมาเกือบ ๓๐ ปี ทำให้เห็นถึงว่า คนเรามีเรื่องทักษะชีวิตนี้ร่วมด้วยกับการทำงาน เพราะแต่ก่อนก็ไม่เคยนึกถึงในเรื่องนี้ แต่เมื่อในแต่ละวันที่ทำงานทำให้ผู้เขียนได้พบกับปัญหา สิ่งต่าง ๆ ที่ตนเองต้องแก้ไข จึงทำให้ผู้เขียนมีความคิดเห็นตรงกับเรื่อง "ทักษะชีวิต" เช่นกัน

สำหรับองค์ประกอบของทักษะชีวิตนั้นจะแตกต่างกันตามวัฒนธรรมและสถานที่ในแต่ละแห่ง แต่ละบุคคล แต่ทักษะชีวิตที่จำเป็นที่ทุกคนควรมี โดยองค์การอนามัยโลกได้สรุปไว้และถือว่าเป็นหัวใจสำคัญในการดำรงชีวิต ก็คือ

๑. ทักษะการตัดสินใจ(Decision making) เป็นความสามารถในการตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตได้อย่างมีระบบ

๒. ทักษะการแก้ปัญหา (Problem Solving) เป็นความสามารถในการจัดการกับป
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
From early life, school until now workers author learned the story are various in each subject. Each knowledge collected as knowledge in of the author. The author was a sequence of events.. knowledge in our every subject is divided into two degree first degree that people pursue it as owner and possession. That is, bachelor's degree, the author classified the degree of this kind of "professional degree".Each person, because some people's education bachelor's degree bachelor's degree bachelor's and master's degrees, and then it is their ability to learn. A degree of profession of each individual.
.A degree one the author classified as alongside with individuals born with. The author hereby called "degree of life." this degree will be paired with a person from birth until the day a person dies. Because every breath.All of the individual process will be learning. Therefore, each person has their knowledge. There were differences, some people achieve success in life. Some people don't succeed, how much?Some are not successful in life, which has a wide range of...For the degree of this life. Don't need to be a graduate of higher education always. But it may have for someone over a degree that it is based on the second life in his ที่ถูกที่ should more than...The knowledge for degree this life, based on the use of "life skills" of the individual will and direction to guide me to find success in life

. At first, the author still don't understand how much?Still confused. About "life" of the people, when children learn to learn to get the ปริญญาใบแรก is professional diploma The first is the bachelor's degree has leaves 2 is a master's degree, but to do that leaf. 3.5 1 would be enough perhaps for this age. When you look back, you. Give them learn some better.... the knowledge that is enough and happy with life at present... Learning or development ตนเองมี many ways depending on ourselves to develop themselves better?...? Never ask themselves...The school has already come to do?? Talking about self development. The author think...There are many ways to make their own developed learning in this day and age, learn by themselves. There are many knowledge ourselves can the pursuit of knowledge. But to choose to learn and what type of knowledge necessary?... the author opinion. "Not"... No one certification. Because we have a certification institution set 2 leaves us professional degree. The following is the guarantee ปริญญาที่ ourselves with our own, that is. "College life"!
.Graduate certificate and leaves behind this ourselves each person can guarantee. And assure the success of life on our own, because each life is born, get knowledge, which the author has different opinions. "Knowledge of each person.But the important things we can get for this diploma, that is, the value of humanity, success, pride, happiness, etc., which today. The author thought that...People are born when studying in the high, some people also lost. The importance of professional degrees too much more than diploma life that everyone can choose to end for degrees in this world...College life this will grow with the "Dharma" (doctrine of the Buddha). To be used in daily life to achieve alongside the "good"... People have moral...Graduate certificate and leaves behind the will to success that will have to the life skills (Life skill) to help to produce a certificate of this

.The meaning of life skills is "skill" (skill) means to clear any skill in about one. In which a person can be generated from their learning, such as reading skills teaching skills. Skill management, work skills.Skills in sports, language skills, skills in using technology etc. are the external skills can be seen clearly from the action or practice.Life is good and can make a living in the society. By chance, better than those who do not use such skills. Which is exactly the opposite from life skills (Life skill)
.
.
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: