คิดแบบนักบริหาร ก่อนก้าวสู่การบริหารจัดการ1. พัฒนาความมั่นใจในตนเอง- ซ การแปล - คิดแบบนักบริหาร ก่อนก้าวสู่การบริหารจัดการ1. พัฒนาความมั่นใจในตนเอง- ซ อังกฤษ วิธีการพูด

คิดแบบนักบริหาร ก่อนก้าวสู่การบริหา

คิดแบบนักบริหาร
ก่อนก้าวสู่การบริหารจัดการ
1. พัฒนาความมั่นใจในตนเอง
- ซึ่งต้องมีอยู่ทั้งในใจผู้นำและแสดงออกทางกริยาภายนอกให้ผู้คนได้เห็น
2. พยายามควบคุมทัศนคติของตนเองให้ได้
- การควบคุมทัศนคติของตนเอง คือ การเลือกแนวคิดที่เหมาะสมกับสถานการณ์
- หากควบคุมท่าทีและทัศนคติของตนเองได้ ก็เท่ากับควบคุมคนอื่นได้เช่นกัน แต่หากไม่สามารถควบคุมทัศนคติของตนเองได้ ผู้อื่นก็จะเข้ามาควบคุมให้
- ท่าทีในการควบคุมทัศนคติ เช่น เตือนตนเองอยู่เสมอว่า จะต้องควบคุมตนเองรับรู้และควบคุมทิศทางของตนเองอยู่ตลอดเวลา
3. พร้อมจะมุ่งมั่น ไม่ย่อท้อ
ลักษณะที่จำเป็นสำหรับนักบริหารที่จะประสบความสำเร็จ ต้องมีรากฐานความคิดของ "ความอดทน" "ความเพียรพยายาม" ความสามารถที่จะยืนหยัดได้ด้วยตนเอง" หรือ"ความตั้งใจจริงที่จะกระทำ"
4. มุ่งมั่นที่จะพัฒนาตนเองอย่างไม่หยุดยั้ง
- หาอาหารสมองเพื่อเติมให้แก่ตนเองโดยตลอด
- เรียนรู้จากประสบการณ์ของคนอื่น
- เลียนแบบผู้นำที่มีความสามารถ
5. มุ่งมั่นที่จะพัฒนาสร้างสรรค์
* จุดสำคัญที่นักบริหารต้องมี คือ มีความคิดเห็นที่ริเริ่มสร้างสรรค์ เพราะมีโอกาสมากกว่าใครๆที่จะกระทำและคิดด้วยจินตนาการ
* การมีความคิดสร้างสรรค์ มิได้มุ่งเน้นเพียงการฝันถึงประเด็นใหม่ๆ เท่านั้น
แต่ยังหมายถึง การใช้วิธีการที่แตกต่างออกไปในการเสนอความคิดเห็นของตนเอง การจัดการกับปัญหาเก่า ๆ ด้วยวิธีใหม่
* ผู้นำสามารถสร้างความคิดสร้างสรรค์โดย เริ่มต้นจากการมีทัศนคติเชิงบวก สนับสนุนผู้อื่นให้พยายามพัฒนาความคิด อย่างไม่ท้อถอย
ความคิดที่อันตรายที่สุดสำหรับนักบริหาร คือ ความวิตกกังวล
เพราะฉะนั้น นักบริหารต้อง "สนุกกับการแก้ปัญหา" มากกว่า "กังวลกับปัญหา"
- นักบริหารที่มีประสิทธิภาพ จะไม่เคยคิดพอใจ ไมว่าสิ่งต่าง ๆ จะดำเนินไปอย่างดีเพียงใดก็ตาม ต้องคิดว่าทุกสิ่งจะต้องเปลี่ยนแปลง คนที่มีความคิดริเริ่มจะไม่กลัวการเปลี่ยนแปลง แต่จะมองหาหนทางการเปลี่ยนแปลง เพราะรู้ว่าเป็นการนำมาวึ่งความก้าวหน้าและรุ่งโรจน์
" ยิ่งคุณก้าวขึ้นสูงเพียงไร ก้าวย่างของคุณจะยิ่งเป็นอันตรายมากขึ้นเท่านั้น จึงควรจะต้องก้าวให้ช้าลง และคิดให้รอบคอบ"
มุมมองต่อสภาพแวดล้อมในปัจจุบันและอนาคต
* อดีตที่ผ่านมา ความแน่นอนมีสูง การเปลี่ยนแปลงค่อนช้างช้า การเดินตามอดีตที่เคยเป็นมา สามารถจะทำได้และไม่ก่อให้เกิดความเสียหายมากนัก
* แต่จากวันนี้เป็นต้นไป เรากำลังอยู่ในโลกแห่งความไม่แน่นอน และโลกแห่งการเปลี่ยนแปลงซึ่งจะมีอัตราเร่งที่รวดเร็วและมีอยู่ตลอดเวลา นำไปสู่การเกิดสภาพแวดล้อมที่ผันผวน มี
ความแตกต่างจากอดีตโดยสิ้นเชิง
* ถนนสู่อนาคตต่อจากนี้ไป ไม่รู้ว่าสภาพถนนจะเป็นอย่างไร เดาได้ยาก เพราะฉะนั้นรถที่จะต้องใช้ จะต้องมีความคล่องตัว และปรับเปลี่ยนได้ในทุกสภาพถนน
* เพราะฉะนั้น องค์กรกิจกรรมนิสิตจะต้องรู้จัก ติดตามความเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิด
พัฒนามุมมองแบบนักบริหาร
- ผู้นำกิจกรรมนิสิตต้องตระหนักว่า "อนาคตแตกต่างจากอดีต"
โอกาสที่จะกลับไปสู่สภาพเดิมเป็นไปได้ยาก ดังนั้นในหลายเรื่อง เราอาจต้องเลิกเรียนรู้ตัวแบบเก่า กระบวนทัศน์เก่า กลยุทธ์เก่า สมมุติฐานเก่า ตำรับความสำเร็จเก่า ๆ
- ยุคใหม่ต้องการองค์กรแบบใหม่ ต้องการวิธีการบริหารจัดการแบบใหม่ เพื่อให้พร้อมรับมือกับสภาพการณ์ที่ "ไม่แน่นอน" และให้สอดคล้องกับ "โลกยุคข้อมูลข่าวสาร"
- ผู้นำจึงต้องคิดว่า "เราจะไปไหนกันต่อไป" เราจำเป็นต้องมองไปข้างหน้า สแกนทัศนียภาพ เฝ้ามองการแข่งขัน วางแนวโน้มและโอกาสใหม่ ๆ กำหนดวิสัยทัศน์ มุมมอง เป้าหมายเกี่ยวกับอนาคตที่ชัดเจน ต้องสร้างความคิดของตนเองเกี่ยวกับทิศทางที่ควรจะไป และวางแนวทางในอนาคตสำหรับองค์กรของตนเอง
- เช่นนั้น บทบาทของผู้นำกิจกรรมนิสิต จึงต้อง
* ต้องบริหารโดยมุ่งเน้นเป้าหมายมากขึ้น ท่ามกลางสภาพการณ์ที่ไม่แน่นอน
* ต้องสามารถสร้างทีมงานได้ ซึ่งแต่ละคนในกลุ่มต้องสามารถจัดการงานของตนเองได้
* ต้องสื่อสารส่งผ่านข้อมูลได้รวดเร็วและชัดเจน
* ต้องสามารถทำงานร่วมกันกับผู้อื่นในทีมได้
* ต้องมองเห็นภาพรวมในภารกิจขององค์กร
* ต้องสร้างวัฒนธรรมการทำงานในองค์กร (Corporate Culture) เพื่อสนับสนุน
ลักษณะการคิดแบบนักบริหาร : คิดกว้าง มองใกล ใฝ่สูง มุ่งความสำเร็จ

คิดกว้าง
* คิดอย่างผู้ประกอบการ
* คิดใหญ่ ไม่คิดเล็ก
* คิดหลายมิติ
* ไม่ยึดติดกรอบความคิดเก่า
มองใกล
* จินตนาการภาพอนาคตขององค์กร
* พยากรณ์สภาพแวดล้อมในอนาคต เพื่อพิจารณาโอกาสและความเสี่ยง
ใฝ่สูง
* คิดพัฒนาสร้างสรรค์ เพื่อสร้างวันนี้ให้ดีกว่าวันวาน
* คิดสร้างสรรค์สิ่งที่ดีให้เกิดขึ้นในสังคม
* ตั้งมาตรฐานการดำเนินงานไว้สูง
มุ่งความสำเร็จ
* ยึดมั่นในวิสัยทัศน์ที่กำหนด
* มุ่งมั่น เอาจริงเอาจัง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ได้วางไว้
รูปแบบและวิธีการคิดแบบนักบริหาร

คิดเชิงบวก คือ วิธีคิดที่มีลักษณะดังต่อไปนี้
* มีทัศนคติสามารถมองเห็นความเป็นไปได้ (Can-do attitude)
* มองปัญหาให้เป็นโอกาส
* ทำความยากลำบากให้เป็นบันไดของความสำเร็จ
คิดมองภาพรวมการดำเนินงาน มากกว่าคิดมองแบบแยกส่วน
* มองเห็นภาพรวมการดำเนินงานตลอดทั้งปี
* มองเห็นแนวทางการขับเคลื่อนของโครงการตั้งแต่ต้นจนจบ
* ไม่มองเรื่องยิบย่อย แต่มองภาพความเชื่อมโยงและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ในภาพรวม
คิดแบบทวิลักษณ์
* คิดมองเรื่องใดเรื่องหนึ่งในหลาย ๆ มิติ มองทั้งในแง่บวกและแง่ลบ ไม่มองมุมเดียว โดยเฉพาะในเรื่องที่ต้องแก้ปัญหาและตัดสินใจ
คิดเชิงกลยุทธ์ ด้วยการตอบคำถามว่า
Where are we now ?
What do we want to be ?
How do we get there ?
How do we measure progress ?
คิดอย่างมีวิสัยทัศน์ คือ
* คิดให้ไกล ไปให้ถึง คำนึงถึงความเป็นไปได้ (มองเห็นวิธีการและความเป็นไปได้ในเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้)
คิดบนฐานข้อมูลเชิงวิเคราะห์ มากกว่าใช้สามัญสำนึก (Common Sense)
* คิดเรื่องอะไรต้องใช้ฐานข้อมูลในเรื่องนั้น ๆ ประกอบการคิด (ไม่คิดคาดเดาเอาเอง)
คิดแบบ End Mean คือ กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนก่อนพิจารณาวิธีการ
มีความเชื่อว่าหลายหัวดีกว่าหัวเดียว (สร้างการมีส่วนร่วม) รู้จักระดมความคิดที่หลากหลายเพื่อวิเคราะห์ปัญหาร่วมกัน เอาประเด็นการมองทั้งหมดมาดูร่วมกัน สร้างบรรยากาศร่วมกันคิด ร่วมกันทำ สร้างการมองประเด็นปัญหาให้ตรงกัน นำไปสู่การแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพ
รู้จักใช้ความคิดนอกกรอบ (Think out of the box) ให้หลุดพ้นจากกรอบความคิด
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
Think the executives Before stepping into management1. developing confidence in ourselves.-Which must exist in both mind and express manner, people have seen.2. try to control their attitudes.-Control your own attitude is to select an appropriate concept to the situation.-If the control and their attitude is equal to control others. but if they cannot control their own attitudes. For others, it will come,-Like in their own attitudes, such as control, warning that they must control themselves recognize and control their own direction at all times.3. to strive SuchCharacteristics necessary for executives to be successful. There must be a foundation for the idea of "patience", "diligence trying." Being able to stand by themselves "or" ambition to action. "4. strive to develop their own non-stop. -Brain food for themselves, always -Learning from the experience of others.-Mimic the leader with the ability to5. committed to creative development.* Important point there is that executives must have feedback of creative initiatives, because more than anyone the chance to act and think with imagination.* การมีความคิดสร้างสรรค์ มิได้มุ่งเน้นเพียงการฝันถึงประเด็นใหม่ๆ เท่านั้นแต่ยังหมายถึง การใช้วิธีการที่แตกต่างออกไปในการเสนอความคิดเห็นของตนเอง การจัดการกับปัญหาเก่า ๆ ด้วยวิธีใหม่* ผู้นำสามารถสร้างความคิดสร้างสรรค์โดย เริ่มต้นจากการมีทัศนคติเชิงบวก สนับสนุนผู้อื่นให้พยายามพัฒนาความคิด อย่างไม่ท้อถอยความคิดที่อันตรายที่สุดสำหรับนักบริหาร คือ ความวิตกกังวลเพราะฉะนั้น นักบริหารต้อง "สนุกกับการแก้ปัญหา" มากกว่า "กังวลกับปัญหา"- นักบริหารที่มีประสิทธิภาพ จะไม่เคยคิดพอใจ ไมว่าสิ่งต่าง ๆ จะดำเนินไปอย่างดีเพียงใดก็ตาม ต้องคิดว่าทุกสิ่งจะต้องเปลี่ยนแปลง คนที่มีความคิดริเริ่มจะไม่กลัวการเปลี่ยนแปลง แต่จะมองหาหนทางการเปลี่ยนแปลง เพราะรู้ว่าเป็นการนำมาวึ่งความก้าวหน้าและรุ่งโรจน์" ยิ่งคุณก้าวขึ้นสูงเพียงไร ก้าวย่างของคุณจะยิ่งเป็นอันตรายมากขึ้นเท่านั้น จึงควรจะต้องก้าวให้ช้าลง และคิดให้รอบคอบ"มุมมองต่อสภาพแวดล้อมในปัจจุบันและอนาคต* อดีตที่ผ่านมา ความแน่นอนมีสูง การเปลี่ยนแปลงค่อนช้างช้า การเดินตามอดีตที่เคยเป็นมา สามารถจะทำได้และไม่ก่อให้เกิดความเสียหายมากนัก * แต่จากวันนี้เป็นต้นไป เรากำลังอยู่ในโลกแห่งความไม่แน่นอน และโลกแห่งการเปลี่ยนแปลงซึ่งจะมีอัตราเร่งที่รวดเร็วและมีอยู่ตลอดเวลา นำไปสู่การเกิดสภาพแวดล้อมที่ผันผวน มีความแตกต่างจากอดีตโดยสิ้นเชิง* ถนนสู่อนาคตต่อจากนี้ไป ไม่รู้ว่าสภาพถนนจะเป็นอย่างไร เดาได้ยาก เพราะฉะนั้นรถที่จะต้องใช้ จะต้องมีความคล่องตัว และปรับเปลี่ยนได้ในทุกสภาพถนน* เพราะฉะนั้น องค์กรกิจกรรมนิสิตจะต้องรู้จัก ติดตามความเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิดพัฒนามุมมองแบบนักบริหาร- ผู้นำกิจกรรมนิสิตต้องตระหนักว่า "อนาคตแตกต่างจากอดีต"โอกาสที่จะกลับไปสู่สภาพเดิมเป็นไปได้ยาก ดังนั้นในหลายเรื่อง เราอาจต้องเลิกเรียนรู้ตัวแบบเก่า กระบวนทัศน์เก่า กลยุทธ์เก่า สมมุติฐานเก่า ตำรับความสำเร็จเก่า ๆ- ยุคใหม่ต้องการองค์กรแบบใหม่ ต้องการวิธีการบริหารจัดการแบบใหม่ เพื่อให้พร้อมรับมือกับสภาพการณ์ที่ "ไม่แน่นอน" และให้สอดคล้องกับ "โลกยุคข้อมูลข่าวสาร"- ผู้นำจึงต้องคิดว่า "เราจะไปไหนกันต่อไป" เราจำเป็นต้องมองไปข้างหน้า สแกนทัศนียภาพ เฝ้ามองการแข่งขัน วางแนวโน้มและโอกาสใหม่ ๆ กำหนดวิสัยทัศน์ มุมมอง เป้าหมายเกี่ยวกับอนาคตที่ชัดเจน ต้องสร้างความคิดของตนเองเกี่ยวกับทิศทางที่ควรจะไป และวางแนวทางในอนาคตสำหรับองค์กรของตนเอง- เช่นนั้น บทบาทของผู้นำกิจกรรมนิสิต จึงต้อง
* ต้องบริหารโดยมุ่งเน้นเป้าหมายมากขึ้น ท่ามกลางสภาพการณ์ที่ไม่แน่นอน
* ต้องสามารถสร้างทีมงานได้ ซึ่งแต่ละคนในกลุ่มต้องสามารถจัดการงานของตนเองได้
* ต้องสื่อสารส่งผ่านข้อมูลได้รวดเร็วและชัดเจน
* ต้องสามารถทำงานร่วมกันกับผู้อื่นในทีมได้
* ต้องมองเห็นภาพรวมในภารกิจขององค์กร
* ต้องสร้างวัฒนธรรมการทำงานในองค์กร (Corporate Culture) เพื่อสนับสนุน
ลักษณะการคิดแบบนักบริหาร : คิดกว้าง มองใกล ใฝ่สูง มุ่งความสำเร็จ

คิดกว้าง
* คิดอย่างผู้ประกอบการ
* คิดใหญ่ ไม่คิดเล็ก
* คิดหลายมิติ
* ไม่ยึดติดกรอบความคิดเก่า
มองใกล
* จินตนาการภาพอนาคตขององค์กร
* พยากรณ์สภาพแวดล้อมในอนาคต เพื่อพิจารณาโอกาสและความเสี่ยง
ใฝ่สูง
* คิดพัฒนาสร้างสรรค์ เพื่อสร้างวันนี้ให้ดีกว่าวันวาน
* คิดสร้างสรรค์สิ่งที่ดีให้เกิดขึ้นในสังคม
* ตั้งมาตรฐานการดำเนินงานไว้สูง
มุ่งความสำเร็จ
* ยึดมั่นในวิสัยทัศน์ที่กำหนด
* มุ่งมั่น เอาจริงเอาจัง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ได้วางไว้
รูปแบบและวิธีการคิดแบบนักบริหาร

คิดเชิงบวก คือ วิธีคิดที่มีลักษณะดังต่อไปนี้
* มีทัศนคติสามารถมองเห็นความเป็นไปได้ (Can-do attitude)
* มองปัญหาให้เป็นโอกาส
* ทำความยากลำบากให้เป็นบันไดของความสำเร็จ
คิดมองภาพรวมการดำเนินงาน มากกว่าคิดมองแบบแยกส่วน
* มองเห็นภาพรวมการดำเนินงานตลอดทั้งปี
* มองเห็นแนวทางการขับเคลื่อนของโครงการตั้งแต่ต้นจนจบ
* ไม่มองเรื่องยิบย่อย แต่มองภาพความเชื่อมโยงและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ในภาพรวม
คิดแบบทวิลักษณ์
* คิดมองเรื่องใดเรื่องหนึ่งในหลาย ๆ มิติ มองทั้งในแง่บวกและแง่ลบ ไม่มองมุมเดียว โดยเฉพาะในเรื่องที่ต้องแก้ปัญหาและตัดสินใจ
คิดเชิงกลยุทธ์ ด้วยการตอบคำถามว่า
Where are we now ?
What do we want to be ?
How do we get there ?
How do we measure progress ?
คิดอย่างมีวิสัยทัศน์ คือ
* คิดให้ไกล ไปให้ถึง คำนึงถึงความเป็นไปได้ (มองเห็นวิธีการและความเป็นไปได้ในเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้)
คิดบนฐานข้อมูลเชิงวิเคราะห์ มากกว่าใช้สามัญสำนึก (Common Sense)
* คิดเรื่องอะไรต้องใช้ฐานข้อมูลในเรื่องนั้น ๆ ประกอบการคิด (ไม่คิดคาดเดาเอาเอง)
คิดแบบ End Mean คือ กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนก่อนพิจารณาวิธีการ
มีความเชื่อว่าหลายหัวดีกว่าหัวเดียว (สร้างการมีส่วนร่วม) รู้จักระดมความคิดที่หลากหลายเพื่อวิเคราะห์ปัญหาร่วมกัน เอาประเด็นการมองทั้งหมดมาดูร่วมกัน สร้างบรรยากาศร่วมกันคิด ร่วมกันทำ สร้างการมองประเด็นปัญหาให้ตรงกัน นำไปสู่การแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพ
รู้จักใช้ความคิดนอกกรอบ (Think out of the box) ให้หลุดพ้นจากกรอบความคิด
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
Tomorrow we live as something pulling us, it's in the past.Tomorrow we live as something pulling us, it's in the past.Tomorrow we live as something pulling us, it's in the past.Tomorrow we live as something pulling us, it's in the past.Tomorrow we live as something pulling us, it's in the past.Tomorrow we live as something pulling us, it's in the past.Tomorrow we live as something pulling us, it's in the past.Tomorrow we live as something pulling us, it's in the past.Tomorrow we live as something pulling us, it's in the past.Tomorrow we live as something pulling us, it's in the past.Tomorrow we live as something pulling us, it's in the past.Tomorrow we live as something pulling us, it's in the past.Tomorrow we live as something pulling us, it's in the past.Tomorrow we live as something pulling us, it's in the past.Tomorrow we live as something pulling us, it's in the past.Tomorrow we live as something pulling us, it's in the past.
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: