สมเด็จพระจักรพรรดิฉินที่ 1 หรือ ฉินชื่อหวง (จีน: 秦始皇; พินอิน: Qín Shǐhuáng) มีพระนามเดิมว่า เจิ้ง (政) สันนิษฐานว่าประสูติเมื่อ พฤศจิกายน/ธันวาคม พ.ศ. 283 (260 ปีก่อนคริสตกาล) และสวรรคตเมื่อ กันยายน พ.ศ. 333 (210 ปีก่อนคริสตกาล) ทรงเป็นกษัตริย์แห่งแคว้นฉิน (秦王) ตั้งแต่ พ.ศ. 297 (247 ปีก่อนคริสตกาล) ถึง พ.ศ. 322 (221 ปีก่อนคริสตกาล จากการรวมประเทศในสมัยราชวงศ์นี้ ทำให้กลายมาเป็นคำเรียกว่าจีนในภาษาไทย และ china ในภาษาอังกฤษ (มาจากคำว่า chin หรือ qin)
ปัจจุบันยังไม่ทราบแน่ชัดว่าพระองค์เป็นบุตรของใครแต่โดยทั่วไปเชื่อว่า เป็นบุตรชายของพ่อค้าคนสำคัญคนหนึ่ง ที่ต่อมาภายหลังได้เป็นเสนาบดีคนสำคัญของแคว้นฉิน ชื่อ หลี่ปู้เหว่ย กับมารดาที่เป็นนางสนมชื่อ เจ้าจี
แคว้นฉินเป็นแคว้นหนึ่งในประเทศจีน สมัยนั้นซึ่งยังมีแว่นแคว้นต่างๆ มากมาย และมีเจ้าผู้ครองแคว้นของตนเอง ต่อมา ฉินอ๋อง (จิ๋นซีฮ่องเต้) ได้ทรงรวบรวมแว่นแคว้นต่างๆ เข้ามาเป็นปึกแผ่น เป็นจักรวรรดิจีน และทรงดำรงตำแหน่งจักรพรรดิหรือฮ่องเต้ -หวงตี้องค์ แรกของจักรวรรดิจีนตั้งแต่ พ.ศ. 323 (221 ปีก่อนคริสตกาล) ถึง พ.ศ. 334 (210 ปีก่อนคริสตกาล) โดยขนานนามพระองค์เองว่า จักรพรรดิ องค์แรก (始皇帝) พระองค์เป็นจักรพรรดิองค์แรกแห่งราชวงศ์จิ๋น ราชวงศ์ฉินของพระองค์มีอายุเพียง 15 ปี แต่ก็เป็นจุดหักเหสำคัญของประวัติศาสตร์ จีน
ในการที่จะรวบรวมแผ่นดินจีนให้เป็นปึกแผ่นได้นั้น จิ๋นซีฮ่องเต้และเสนาบดีของพระองค์ นาม หลี่ซือ ต้องยกกองทัพไปตีแคว้นต่างๆ และทำการปฏิรูปมากมายหลายด้าน ซึ่งรวมทั้งด้านการเมือง ภาษา วัฒนธรรม และภูมิปัญญาความคิด พระองค์ทรงเผาทำลายหนังสือ และสังหารนักปราชญ์ไปจำนวนมหาศาล เนื่องจากพระองค์ทรงดำริว่าถ้าต่างแคว้นต่างมีวัฒนธรรมความคิดของตนเองแล้ว การที่จะทำให้แผ่นดินเป็นปึกแผ่นหนึ่งเดียวนั้นไม่มีทางเป็นไปได้ และพระองค์ทรงริเริ่มสร้างผลงานที่โลกต้องยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ซึ่งก็คือ กำแพงเมืองจีน ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อป้องกันประเทศจีนจากชนเผ่าทางเหนือ โดยการสร้างครั้งนี้ มีการบันทึกว่ามีประชาชนชาวจีนและเชลยศึกจำนวนมหาศาลต้องสังเวยชีวิตไปในการ สร้างกำแพงครั้งนี้ นอกจากนี้ ยังมีสุสานของพระองค์ ซึ่งยังปริศนาให้ชาวโลกรอไขความจริง
แม้ว่าพระองค์จะทรงถูกชาวโลกจดจำว่าเป็นจักรพรรดิผู้โหดเหี้ยมหรือเป็น ทรราชย์องค์หนึ่งของโลก แต่ชาวจีนก็ยังคงยกย่องพระองค์ให้เป็นบิดาผู้รวบรวมประเทศจีนให้เป็นปึกแผ่น ซึ่งเคยแตกกระจายเป็นแว่นแคว้นต่างๆ มานานกว่าสองสหัสวรรษ และการปฏิรูปทั้งหลายของพระองค์ก็ยังคงมีผลกระทบถึงคนปัจจุบัน ซึ่งเรื่องราวในส่วนนี้กลายมาเป็นวัฒนธรรมสมัยนิยมในปัจจุบันต่าง ๆ มากมาย ทั้งนวนิยาย ละครโทรทัศน์ หรือภาพยนตร์ เช่น เจาะเวลาหาจิ๋นซี นิยายกำลังภายในแฟนตาซีของหวงอี้ หรือภาพยนตร์เรื่อง The Emperor and The Assassin ใน ค.ศ. 1998 ของเฉิน ข่ายเกอ ที่เป็นเรื่องราวของพระองค์กับนักลอบสังหารที่ชื่อ จิงเคอ จากแคว้นเอี้ยน ที่เล่ากันว่ามีโอกาสเข้าประชิดตัวพระองค์มากที่สุดขณะเข้าเฝ้าและพยายาม สังหารด้วยมีดสั้นที่ซ่อนไว้ในแผนที่ แต่ไม่สำเร็จ