What is Freedom? คำว่าอิสรภาพเป็นคำที่มนุษย์ทุกคนเรียกร้อง โหยหากันแทบ การแปล - What is Freedom? คำว่าอิสรภาพเป็นคำที่มนุษย์ทุกคนเรียกร้อง โหยหากันแทบ อังกฤษ วิธีการพูด

What is Freedom? คำว่าอิสรภาพเป็นคำ

What is Freedom?
คำว่าอิสรภาพเป็นคำที่มนุษย์ทุกคนเรียกร้อง โหยหากันแทบทั้งสิ้น แม้บางคนจะไม่รู้ความหมายของคำว่าอิสรภาพเลย บางคนอาจไม่รู้ว่าตัวเองมีอิสรภาพอยู่แล้ว แต่ยังเรียกร้องมันอีก บางคนเมื่อได้พบกับอิสรภาพ แต่ไม่รู้ความหมายของมันก็เหมือนกับไม่ได้อะไรเลย
เมื่อกล่าวถึงอิสรภาพ แต่ละคนก็จะมีความหมายเกี่ยวกับอิสรภาพของคนที่แตกต่างกันออกไป สำหรับฉัน ฉันคิดว่า อิสรภาพคือ ความมีอิสระทางความคิด และการตัดสินใจ ไม่ว่าเราจะอยู่ภายใต้กฏเกณฑ์ใด เราก็มีสิทธิคิด และเลือกที่จะทำหรือไม่ทำ หลายสิ่งหลายอย่าง บางอย่างกรอบได้กำหนดจำกัดว่า ต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ในที่สุดแล้วหากเรายังคงรู้สึกเป็นทุกข์ เราก็ต้องแสวงหา สิ่งที่เราพอใจและเราต้องการ แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานที่ไม่เบียดเบียนและทำให้ ผู้อื่นรู้สึกสูญเสียอิสระที่บุคคลอื่นควรมี
อิสรภาพนั้นมีปรากฏให้เห็นในสังคมอยู่หลายรูปแบบ อิสรภาพทางกาย อิสรภาพทางใจ สำหรับอิสรภาพที่จะกล่าวในใบงานนี้ ฉันจะกล่าวอิสรภาพทางใจ โดยใช้หลักทางพระพุทธศาสนา เพื่อแสดงให้เห็นว่าในทางพระพุทธศาสนานั้นมีมุมมองเกี่ยวกับอิสรภาพคืออะไร
ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่ให้ความสำคัญกับอิสรภาพเป็นอย่างมาก เริ่มตั้งแต่กำเนิดศาสนาพุทธ ไปจนมาถึงศาสนาพุทธที่เป็นอยู่ในรูปแบบปัจจุบันดังต่อไปนี้
พระพุทธเจ้านั้นเป็นผู้ให้อิสรภาพแก่ประชาชน พระพุทธเจ้าไม่สนับสนุนการมีชนชั้นวรรณะในสังคม เขามองว่า ทุกคนในสังคมมีความเท่าเทียมกัน มีอิสรภาพที่จะคิด มีอิสรภาพที่จะทำ เขาไม่จำกัดคนที่จะมาเป็นสาวกของเขา คนจนและคนรวยมีอิสรภาพเท่ากัน
ในพระพุทธศาสนานั้นไม่ได้ ไม่ได้มีกฎบังคับว่า ต้องทำสิ่งนี้ ห้ามทำสิ่งนี้ แต่ใช้เพียงคำว่า ควรทำ หรือ ไม่ควรทำ การแสดงธรรมของพระพุทธเจ้านั้นจะเป็นการแสดงโทษของการกระทำนั้นๆก่อน หลังจากนั้นก็แสดงธรรมที่จะให้พ้นจากโทษนั้น สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าพระพุทธศาสนานั้นเปิดโอกาสให้แก่ผู้นับถือศาสนามีเสีภาพในการเลือกที่จะกระทำในสิ่งต่างๆ เช่น ศีล ๕ พระพุทธศาสนาไม่ได้บังคับว่าทุกคนต้องทำตามศีล ๕ แต่ท่านบอกว่า ควรเว้นจากการกระทำเหล่านี้ เพราะเมื่อบุคคลเว้นจากการทำสิ่งเหล่านี้แล้ว คนที่ปฏิบัติตามก็จะได้รับความสุข ทั้งความสุขต่อตัวเอง และความสุขของบุคคลอื่น แม้แต่ธรรมะที่พระพุทธเจ้าสอนนั้น พระพุทธเจ้าก็ได้กล่าวหลักธรรมสุดท้ายของการแสดงธรรมว่า อย่าเชื่อเพราะได้ยินมาอย่างนั้น แม้แต่คำพูดหรือธรรมะที่พระพุทธเจ้าสอนเขา พระพูทธเจ้าก็บอกว่า อย่าเชื่อเพราะว่าเป็นคำพูดของพระพุทธเจ้า ถ้าอยากรู้ต้องปฏิบัติเอง สิ่งนี้ยิ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าศาสนาพุทธเป็นศาสนาเป็นอิสรภาพ
และสิ่งที่เป็นอิสรภาพสูงสุดของพระพุทธศาสนาคือ นิพพาน(เถรวาท) /สุขาวดี(มหายาน) นิพพานคือการหลุดพ้น การดับสิ้น เราจะเห็นว่าพระพุทธศาสนานั้นให้ความสำคัญแก่อิสรภาพทุกขั้นตอน ไม่เฉพาะขั้นสุดท้ายที่ว่าต้องการให้คนเข้าถึงความหลุดพ้นเท่านั้น แต่มีลักษณะของการไม่ยึดติด ถ้าหากเรายึดติดกับวัตถุต่างๆ เราก็จะกลายเป็นทาสของวัตถุนั้นไป สิ่งนี้ก็จะทำให้เราไม่มีอิสรภาพที่แท้จริง ดังนั้นพระพุทธศาสนาจึงสอนให้คนมองโลกตามความเป็นจริง และไม่ยึดติดในวัตถุต่างๆ ทั้งที่เป็นรูปธรรมและนามธรรม แม้กระทั้งการเข้าถึงนิพพานพระพุทธเจ้าก็ไม่ให้ยึดติด เพราะถ้ายึดติดนิพพานแล้ว นิพพานก็จะเป็นเพียงสิ่งที่เราปรารถนาเท่านั้น ไม่ได้เป็นความจริงตามธรรมชาติ เมื่อมนุษย์ไม่ยึดติดแล้ว มนุษย์ก็จะเป็นหลุดพ้นจากทุกๆสิ่ง มนุษย์จะมีอิสรภาพอย่างแท้จริง ซึ่งทางพระพุทธศาสนานั้นเรียกว่าการเข้าถึงนิพพาน(เถรวาท) /สุขาวดี(มหายาน)
เมื่อคนในศาสนาพุทธไม่ยึดติดในวัตถุแล้ว ก็จะทำให้คนนั้นหลุดพ้นจากวัตถุเหล่านี้ และเป็นคนที่มีอิสรภาพอย่างมาก ดังจะเห็นได้จากตัวอย่างคนที่ทำงานเพื่อสังคม หรือที่เรียกว่า พุทธศาสนาเพื่อสังคม โดยในรายงานนี้จะกล่าวถึง สันติอโศก
สันติอโศก เป็นสำนักหลักของลัทธิอโศกซึ่งมีสมณะโพธิรักษ์ก่อตั้งขึ้น เนื่องจากสมณะโพธิรักษ์นั้นได้กระทำความผิดพระวินัยอย่างต่อเนื่อง สมณะโพธิรักษ์จึงประกาศแยกตัวออกจากศาสนาพุทธ และตั้งอาศรมสันติอโศกขึ้นมา หลัการปฏิบัติของสันติอโศกนั้นจะเน้นศาสนาพุทธในรูปแบบเดิม คือไม่มีพระพุทธรูป ส่วนหลักคำสอนนั้นก็เป็นแบบเดียวกับพระพุทธศาสนาเถรวาทในประเทศไทย แต่สิ่งที่ไม่เหมือนกับพระพุทธศาสนาเถรวาทในประเทศไทยคือ สันติอโศกจะไม่พึ่งพารัฐ จะรวมกลุ่มกันเพื่อให้อยู่ได้ด้วยตนเอง เมื่ออยู่ได้ด้วยตนเองแล้วก็ต้องแบ่งปันแก่สังคม สันติอโศกเชื่อว่าเมื่อพึ่งตนเองไม่ได้ ก็ไม่สามารถที่จะช่วยเหลือคนอื่นได้ ดังนั้นจึงทำให้สันติอโศกนี้รวมกลุ่มกันเพื่อสร้างสังคมขึ้นมาเอง สังคมของพวกเขาจะเป็นสังคนที่ช่วยเหลือตนเอง มีการทำเกษตรกรรมเป็นต้น เมื่อช่วยเหลือตนเองได้แล้วก็จะต้องช่วยเหลือผู้อื่นในสังคมด้วย ตัวอย่างเช่น สันติอโศกจะมีการค้าขายที่เรียกว่า การค้าบุญนิยม การค้าบุญนิยมมีนโยบายประกอบด้วย (1)ขายถูก (2)ไม่ฉวยโอกาส (3)ขยัน (4)ประณีต ประหยัด (5)ซื่อสัตว์ เสียสละ โดยรูปแบบของการค้าบุญนิยมคือ สันติอโศกจะนำสินค้าที่ตนผลิตได้มาขายในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาด ขายเท่าทุน เพื่อให้คนในสังคมได้ใช้ของที่มีคุณภาพและราคาถูก
ตามความคิดของฉัน ฉันมองว่า ถ้าเราตัดเรื่องบางเรื่องที่เป็นเรื่องไม่ดีออกไป แนวความคิดของสันติอโศกนั้นได้สร้างประโยชน์ให้แก่สังคมเป็นอย่างมาก การที่สังคมจะพัฒนานั้นควรเริ่มจากตัวเราก่อน ซึ่งสันติอโศกก็ได้พัฒนาตัวเองอย่างเต็มที่ เมื่อพัฒนาตัวเองอย่างเต็มที่แล้วก็ได้สร้างประโยชน์ให้แก่สังคม เช่นการสร้างโรงเรียน การสร้างคนให้พึ่งพาตนเอง ฉันหวังคิดว่าสันติอโศกจะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในอนาคต แต่การที่จะได้รับความนิยมนั้น พวกเขาก็ควรที่จะเปลี่ยนแนวคิดแบบเดิมๆ เช่นไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเมือง เพื่อที่จะไม่ทำให้ถูกนินทาจากคนภายนอกได้ และควรที่จะมีการเปลี่ยนข้อปฏิบัติบางอย่างที่พระพุทธเจ้าไม่ได้กล่าวไว้ และเป็นข้อที่สังคมไม่ยอมรับออกด้วย
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
What is Freedom? The word freedom, as demanded by every human being. Yearning for each other almost totally Although some people will not know the meaning of freedom at all. Some people may not know it, but freedom itself has also demanded it again. Some people when they meet, but I do not know the meaning of freedom, and it was the same as does not have anything.When it comes to individual freedom, it will mean about different people's freedom away. For me. I think freedom is the freedom of thinking and decision making. No matter where we are located under the rules which we have the right to think and choose to do or not to do many things that need to be assigned limited bangayangkrop do it like this, but in the end, if we still feel is suffering, we must seek. What we need, and we are satisfied, but must be based on the persecution, and makes no. Others feel the loss of freedom that other people should have.It has the freedom to appear in many forms. Physical freedom. For freedom, freedom to say this in a job. I would say the main psychological freedom using Buddhism to show that it is in the Buddhist perspective on what is freedom. Buddhism is a religion that gives priority to freedom very much. Starting from the origin of Buddhism, to the arrival of Buddhism in the current format is as follows: The Buddha then gave people freedom. The Buddha does not support with caste in society. He sees everyone in society with equality with freedom to think. Have the freedom to do. He does not limit a person to become his Apostles. Poor people and rich people have the same freedom.In Buddhism. Does not have a rule that prohibits the use of only the words, but this should do or should not do Buddha's preaching it as the consequence of an action. After that, it will keep them from preaching, then the penalty. This suggests that Buddhism, then open the opportunity for an unforgettable image of religion have to choose to act on such things as the precepts of Buddhism is not mandatory 5 that everyone must follow the 5 precepts but tell that should be omitted from these actions, because when a person from these exceptions.This hunt. The people who follow it to get happy all the joy and happiness of yourself, another person, even a Buddha Dhamma teaching it. The Buddha principle says it's the last of the preaching that don't believe because they hear. Even the words of the Buddha or Dharma which teaches him. Lord Poole thotchao say don't believe because that is the words of the Buddha. If you want to know your own to-do. This clearly indicates that the more Buddhism as a religion is freedom.And what is the maximum freedom of Buddhism is Nirvana (Theravada)/Sukhavati (Mahayana) Nirvana is a survivor. The extinguished We will see that Buddhism, freedom, seriously every step. Not only final if we want to give people access to the only survivor. But there was no appearance of adhesion. If we adhere to the various objects, we will become the slave of an object. What will we do not have any real freedom. So the Buddha taught people to view the world as fact and not sticking in objects, both concrete and abstract even Nirvana, the Buddha did not access the. Because if it is sticking, then Nirvana, Nirvana is just what we desire only. Not true, according to nature. When man is not already mounted to the man, it's going to be a survivor out of every thing. Human freedom, which will be a true Buddhist is called Nirvana (Theravada) access/Sukhavati (Mahayana)When people in Buddhism is not mounted in the object, then it will make people break free from these objects and people with tremendous freedom. These can be seen from the example of people who work for a society known as the Buddhist society in this report will be discussed by the Santi Asoke.สันติอโศก เป็นสำนักหลักของลัทธิอโศกซึ่งมีสมณะโพธิรักษ์ก่อตั้งขึ้น เนื่องจากสมณะโพธิรักษ์นั้นได้กระทำความผิดพระวินัยอย่างต่อเนื่อง สมณะโพธิรักษ์จึงประกาศแยกตัวออกจากศาสนาพุทธ และตั้งอาศรมสันติอโศกขึ้นมา หลัการปฏิบัติของสันติอโศกนั้นจะเน้นศาสนาพุทธในรูปแบบเดิม คือไม่มีพระพุทธรูป ส่วนหลักคำสอนนั้นก็เป็นแบบเดียวกับพระพุทธศาสนาเถรวาทในประเทศไทย แต่สิ่งที่ไม่เหมือนกับพระพุทธศาสนาเถรวาทในประเทศไทยคือ สันติอโศกจะไม่พึ่งพารัฐ จะรวมกลุ่มกันเพื่อให้อยู่ได้ด้วยตนเอง เมื่ออยู่ได้ด้วยตนเองแล้วก็ต้องแบ่งปันแก่สังคม สันติอโศกเชื่อว่าเมื่อพึ่งตนเองไม่ได้ ก็ไม่สามารถที่จะช่วยเหลือคนอื่นได้ ดังนั้นจึงทำให้สันติอโศกนี้รวมกลุ่มกันเพื่อสร้างสังคมขึ้นมาเอง สังคมของพวกเขาจะเป็นสังคนที่ช่วยเหลือตนเอง มีการทำเกษตรกรรมเป็นต้น เมื่อช่วยเหลือตนเองได้แล้วก็จะต้องช่วยเหลือผู้อื่นในสังคมด้วย ตัวอย่างเช่น สันติอโศกจะมีการค้าขายที่เรียกว่า การค้าบุญนิยม การค้าบุญนิยมมีนโยบายประกอบด้วย (1)ขายถูก (2)ไม่ฉวยโอกาส (3)ขยัน (4)ประณีต ประหยัด (5)ซื่อสัตว์ เสียสละ โดยรูปแบบของการค้าบุญนิยมคือ สันติอโศกจะนำสินค้าที่ตนผลิตได้มาขายในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาด ขายเท่าทุน เพื่อให้คนในสังคมได้ใช้ของที่มีคุณภาพและราคาถูก ตามความคิดของฉัน ฉันมองว่า ถ้าเราตัดเรื่องบางเรื่องที่เป็นเรื่องไม่ดีออกไป แนวความคิดของสันติอโศกนั้นได้สร้างประโยชน์ให้แก่สังคมเป็นอย่างมาก การที่สังคมจะพัฒนานั้นควรเริ่มจากตัวเราก่อน ซึ่งสันติอโศกก็ได้พัฒนาตัวเองอย่างเต็มที่ เมื่อพัฒนาตัวเองอย่างเต็มที่แล้วก็ได้สร้างประโยชน์ให้แก่สังคม เช่นการสร้างโรงเรียน การสร้างคนให้พึ่งพาตนเอง ฉันหวังคิดว่าสันติอโศกจะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในอนาคต แต่การที่จะได้รับความนิยมนั้น พวกเขาก็ควรที่จะเปลี่ยนแนวคิดแบบเดิมๆ เช่นไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเมือง เพื่อที่จะไม่ทำให้ถูกนินทาจากคนภายนอกได้ และควรที่จะมีการเปลี่ยนข้อปฏิบัติบางอย่างที่พระพุทธเจ้าไม่ได้กล่าวไว้ และเป็นข้อที่สังคมไม่ยอมรับออกด้วย
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
What is Freedom?
Freedom is a word that every human claim. Well, almost wistful Some will even know the meaning of the word freedom at all. Some may not know that they already have freedom. But it also calls for more Some people find freedom. But its meaning was as nothing
when it comes to freedom. Each would have implications for the freedom of people different to me, I think freedom is the freedom of thought. And decisions Not that we are under any criteria. We have the right idea And choose to do or not do. everything Ltd. has determined that certain framework. To do that, this But ultimately, if we continue to feel distressed. We must seek What we feel we need. But must not encroach on that and make. Others feel the loss of freedom that other people should have
the freedom to appear in many forms. Physical, psychological freedom freedom freedom to say in this. I would say that freedom The main Buddhist To show that in Buddhism there is a view on freedom
of religion and freedom is very important. From birth to Buddhism Until the arrival of Buddhism as it is in its current form following
the Buddha gave freedom to the people. Buddha does not support a caste society, he looked everyone in the society are equal. The freedom to think Freedom to do He was not a man to be his disciples. Rich and poor have equal freedom
of religion is not. There is a rule that is not enforced To do this Do not do this But the only words that should or should not do the preaching of the Buddha is to express condemnation of such acts before. After that, it's unfair to kick out of it. This shows that Buddhism is a religion open to the sound image to choose to act on such things as the five precepts of Buddhism is not mandatory that everyone must follow the five precepts, but he said that. Should refrain from these actions. Because when people abstain from doing these things. People who follow it will be happy. Both enjoyed themselves And the happiness of others Even the Buddha taught the Dharma Buddha has said that the principle of fair representation. I believe I heard that. Even the words Dharma, the Buddha taught him. The pool Tim Prince said. I do not believe a word of the Buddha. If you need to own It just shows clearly that religion is freedom
and what freedom of religion is. Nirvana (Theravada) / Eden (Mahayana) attain is to break off the end, we see that religious freedom is important to the process. Not only want to reach the final disengagement only. But the appearance of a stick. If we stick to objects. We become slaves to the object. This will give us no true freedom. Thus, Buddhism teaches people to view the world as a reality. And not attached to various objects. Both concrete and abstract Even reach the nirvana of Buddha was not adhered to. You then attach nirvana Nirvana, it was just what we desire only. Not a natural fact. When the man was not identified Man be free from everything. Human freedom is truly The Buddha called Nirvana access (Theravada) / Eden (Mahayana)
Buddhism When not attached to the object. It makes him break out of these objects. And a man of enormous freedom. As can be seen from the example of social work. Also known as Buddhism Social The report will be discussed. Santi Asoke
Santi Asoke The main office of the cult, which has Asoke Buddhist monk Bodhi Conservation was established. Bodhi Thai Buddhist monk because he had committed the discipline continues. Bodhi Thai Buddhist monk declared secession from Buddhism. And set up an ashram Santi Asoke Maybe it will focus on the implementation of the Santi Asoke Buddhist in its original form. Is no Buddha The doctrine is the same as Theravada Buddhism in Thailand. But things are not the same as Theravada Buddhism in Thailand. Santi Asoke is not relying on the state Are grouped together in order to live independently. Once they have their own share to society. Santi Asoke is not believed to be self-reliant. It's impossible to help others. Santi Asoke is thus grouped together to create their own society. Their society is a society where self-help. With agriculture, etc. When self-help, then it will have to help others in society by, for example, Santi Asoke has called the trade. Trade Top Bun Top Bun trade policy include: (1) Sales (2) No opportunistic (3) derivatives (4) finely savings (5) Harmony sacrifice by the pattern of trade is the most merit. Santi Asoke to bring their produce to sell at a price lower than the market sold at par to the social use of quality and price
, according to my opinion, I believe that if we cut some things that are not. well away The concept of the Santi Asoke has created a benefit to society is huge. The social development should start from ourselves first. The Santi Asoke has developed itself fully. When fully developed itself and could contribute to society. Such as building schools To create a self-sufficient I hope that Santi Asoke is getting more and more popular in the future. But to be popular then. They should change the traditional concept. For example, should not interfere with politics. In order not to make the gossip from the outside. And should there be any change certain practices that the Buddha was not mentioned. And a society that does not accept out.
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: