ถ้าจะพูดถึงเรื่องความสวยความงามกับผ

ถ้าจะพูดถึงเรื่องความสวยความงามกับผู้หญิงแล้วถือว่าเป็นของคู่กันมาตั้งแต่ยุคโบราณกาล แต่สมัยก่อนนั้นต่างคนต่างอยู่ บทบาทของผู้หญิงทางสังคมยังไม่ค่อยเป็นที่ยอมรับเหมือนในปัจจุบัน แต่เมื่อโลกเปลี่ยนไป พัฒนาการทางสังคมที่มากขึ้น ผู้หญิงมีบทบาทมากขึ้น มีการพบปะสังสรรค์และ Social Interaction กันมากขึ้น รูปลักษณ์ที่มองเห็นจากภายนอก คือด่านแรกที่สร้างความประทับใจ จึงเกิดเป็นคำถามขึ้นมาว่าแบบไหนดีหรือไม่ดี แบบนี้สวยหรือไม่สวย และถ้าสวยน่าจะมีชัยไปกว่าครึ่ง

เพราะพัฒนาการของสังคมที่เปลี่ยนไป ทำให้ผู้หญิงหรือแม้กระทั่งผู้ชายในปัจจุบันหันมาให้ความสำคัญและพึ่งพาศัลยกรรมตกแต่งกันมากยิ่งขึ้น จนกลายเป็นเทรนด์ “สวยหรือหล่อด้วยแพทย์” กันเป็นทิวแถว วันนี้ ไอเกิล ได้รับเกียรติจาก นายแพทย์ชาติชาย รัตนามหัทธนะ ศัลยแพทย์ตกแต่งและเสริมสวย โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท มาให้ความกระจ่างเกี่ยวกับเรื่องของการทำศัลยกรรมกันค่ะ

“คำว่า ศัลยกรรม หรือในภาษาอังกฤษคือ Plastic Surgery คำว่าพลาสติกมาจากรากศัพท์ของภาษากรีก Plastikos แปลว่า การทำให้รูปร่างหรือ Form กลับไปเหมือนเดิม ตั้งแต่ในยุคสมัยสงคราม ศัลยแพทย์ใช้ความรู้ในวิชาศัลยกรรมเพื่อผ่าตัดรักษาให้กับทหารที่ได้รับบาดเจ็บ พิการจากการรบ ดังนั้นคำว่า ศัลยกรรมตกแต่งหมายถึง การผ่าตัดอวัยวะเพื่อรักษาหรือปรับปรุงรูปร่างของอวัยวะให้สวยงามและเหมาะสม ทำให้อวัยวะนั้นๆ คงทำหน้าที่ได้ตามปกติ รวมทั้งเป็นการบูรณะส่วนที่ผิดปกติให้กลับสู่สภาพปกติด้วย ซึ่งใช้ในการรักษาผ่าตัดแก้ไขให้กับเด็กที่มีปัญหา ปากแหว่ง เพดานโหว่ ผ่าตัดเนื้องอก หรือคนไข้ที่ประสบอุบัติเหตุ ถูกไฟไหม้ น้ำร้อนลวก หน้าเป็นแผลเสียโฉม แพทย์จะต้องทำหน้าที่ช่วยรักษาให้คนไข้เหล่านี้กลับมามีชิวิตที่ใกล้เคียงเดิมมากที่สุด น่าเกลียดน้อยที่สุด ทำให้เค้าสามารถมีชีวิตดำเนินอยู่ต่อไปในสังคมนี้ได้ สิ่งเหล่านี้เป็นจุดเริ่มต้นของคำว่า ศัลยกรรมตกแต่ง”

เมื่อมีการพัฒนามากขึ้น จากศัลยกรรมตกแต่งเพื่อการรักษาและแก้ไข ก็ขยับไปถึงคำว่า เพื่อความสวยงาม ซึ่งคนทั่วไปจะมักคุ้นกับคำนี้ดี หากพูดถึงคำว่าศัลยกรรมตกแต่งปุ๊บ ก็จะต้องร้องอ๋อ เสริมจมูก เสริมคาง หรือเสริมสวยนั่นเอง แต่ในทางการแพทย์ศัลยกรรมตกแต่งเป็นทั้ง ศัลยศาสตร์เสริมสร้าง (Reconstructive Plastic Surgery) ผ่าตัดแก้ไขความผิดปกติ ของรูปร่างหรือความพิการที่มีมาแต่กำเนิด หรือเกิดขึ้นภายหลังจากอุบัติเหตุ หรือสภาพร่างกายที่เป็นผลจากการผ่าตัดเนื้อมะเร็ง และ ศัลยศาสตร์ตกแต่งเสริมสวย (Cosmetic Plastic Surgery) คือ การผ่าตัดเพื่อความสวยงาม ในคนที่ปกติให้ดูดีขึ้น สวยน้อยให้สวยมากขึ้น

แนวทางในการรักษา ถ้าเป็นทางด้านศัลยศาสตร์เสริมสร้าง แน่นอนว่าคุณหมอต้องรักษาแก้ไขตามความผิดปกติของอวัยวะนั้นๆ แต่หากเป็นทางด้านเสริมสวย ปัจจุบันสามารถทำได้ทั้งตัว แต่ที่นิยมกันอย่างเช่น การผ่าตัดเสริมจมูก ทำตา 2 ชั้น เสริมหน้าอก ดึงหน้า การผ่าตัดด้วยเลเซอร์ ดูดไขมันหน้าท้อง สะโพกและขา เป็นต้น

หากจะแบ่งการศัลยกรรมที่นิยมทำกันตามวัยต่างๆ ของบ้านเรานั้น ในกลุ่มวัยรุ่นมักนิยมเสริมจมูก พออายุมากขึ้นหน่อยซักประมาณ 30 ขึ้นไป จะเริ่มเสริมหน้าอก พออายุไต่ไปถึง 40 กว่า หนังตาเริ่มตก เริ่มหย่อนก็มักจะทำตากันมากขึ้น พอย่างเข้าอายุ 50 อะไรๆ ก็เริ่มหย่อนยาน ก็จะมาในรูปแบบของการดึง การยกหน้า ยกหน้าอก ยกหน้าท้อง เป็นต้น

สำหรับวัสดุที่นำมาใช้ในการช่วยเสริม เช่น ซิลิโคนเสริมจมูกหรือเสริมเต้านม ต้องเป็นซิลิโคนเฉพาะทางการแพทย์ที่ปลอดภัย และสามารถอยู่ในร่ายกายได้ โดยไม่มีปฏิกิริยาต่อร่างกายแต่อย่างใด และร่างกายสามารถสร้างเยื่อพังผืดเหมือนเป็นแคบซูล มาห่อหุ้มรอบแท่งซิลิโคนให้ยืดอยู่กับเนื้อเยื่อได้ดี และหากต้องการนำเอาแท่งซิลิโคนออก ก็สามารถเอาออกมาได้ทั้งหมด

ปัจจัยเสี่ยงของการทำศัลยกรรม

อาจารย์อยากให้ทุกท่านตระหนักไว้ว่า การผ่าตัดศัลยกรรมทุกอย่างมีความเสี่ยง และอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ทุกเมื่อ เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับความปลอดภัยและผลการรักษาออกมาดี ควรคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและควรศึกษาหาข้อมูลให้ถี่ถ้วน

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

If you are talking about the story beauty with a girl and then treated as of early ancient. But the person is. Women's social roles are still not accepted as current, but the world has changed. Social development. Women have a greater role. Social Interaction is to socialize and much more. The visual appearance from outside is Dan, the first impression a question came up that good or bad? This beautiful, beautiful, beautiful or not, if it would unnerve more than half.เพราะพัฒนาการของสังคมที่เปลี่ยนไป ทำให้ผู้หญิงหรือแม้กระทั่งผู้ชายในปัจจุบันหันมาให้ความสำคัญและพึ่งพาศัลยกรรมตกแต่งกันมากยิ่งขึ้น จนกลายเป็นเทรนด์ “สวยหรือหล่อด้วยแพทย์” กันเป็นทิวแถว วันนี้ ไอเกิล ได้รับเกียรติจาก นายแพทย์ชาติชาย รัตนามหัทธนะ ศัลยแพทย์ตกแต่งและเสริมสวย โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท มาให้ความกระจ่างเกี่ยวกับเรื่องของการทำศัลยกรรมกันค่ะ“คำว่า ศัลยกรรม หรือในภาษาอังกฤษคือ Plastic Surgery คำว่าพลาสติกมาจากรากศัพท์ของภาษากรีก Plastikos แปลว่า การทำให้รูปร่างหรือ Form กลับไปเหมือนเดิม ตั้งแต่ในยุคสมัยสงคราม ศัลยแพทย์ใช้ความรู้ในวิชาศัลยกรรมเพื่อผ่าตัดรักษาให้กับทหารที่ได้รับบาดเจ็บ พิการจากการรบ ดังนั้นคำว่า ศัลยกรรมตกแต่งหมายถึง การผ่าตัดอวัยวะเพื่อรักษาหรือปรับปรุงรูปร่างของอวัยวะให้สวยงามและเหมาะสม ทำให้อวัยวะนั้นๆ คงทำหน้าที่ได้ตามปกติ รวมทั้งเป็นการบูรณะส่วนที่ผิดปกติให้กลับสู่สภาพปกติด้วย ซึ่งใช้ในการรักษาผ่าตัดแก้ไขให้กับเด็กที่มีปัญหา ปากแหว่ง เพดานโหว่ ผ่าตัดเนื้องอก หรือคนไข้ที่ประสบอุบัติเหตุ ถูกไฟไหม้ น้ำร้อนลวก หน้าเป็นแผลเสียโฉม แพทย์จะต้องทำหน้าที่ช่วยรักษาให้คนไข้เหล่านี้กลับมามีชิวิตที่ใกล้เคียงเดิมมากที่สุด น่าเกลียดน้อยที่สุด ทำให้เค้าสามารถมีชีวิตดำเนินอยู่ต่อไปในสังคมนี้ได้ สิ่งเหล่านี้เป็นจุดเริ่มต้นของคำว่า ศัลยกรรมตกแต่ง” เมื่อมีการพัฒนามากขึ้น จากศัลยกรรมตกแต่งเพื่อการรักษาและแก้ไข ก็ขยับไปถึงคำว่า เพื่อความสวยงาม ซึ่งคนทั่วไปจะมักคุ้นกับคำนี้ดี หากพูดถึงคำว่าศัลยกรรมตกแต่งปุ๊บ ก็จะต้องร้องอ๋อ เสริมจมูก เสริมคาง หรือเสริมสวยนั่นเอง แต่ในทางการแพทย์ศัลยกรรมตกแต่งเป็นทั้ง ศัลยศาสตร์เสริมสร้าง (Reconstructive Plastic Surgery) ผ่าตัดแก้ไขความผิดปกติ ของรูปร่างหรือความพิการที่มีมาแต่กำเนิด หรือเกิดขึ้นภายหลังจากอุบัติเหตุ หรือสภาพร่างกายที่เป็นผลจากการผ่าตัดเนื้อมะเร็ง และ ศัลยศาสตร์ตกแต่งเสริมสวย (Cosmetic Plastic Surgery) คือ การผ่าตัดเพื่อความสวยงาม ในคนที่ปกติให้ดูดีขึ้น สวยน้อยให้สวยมากขึ้นแนวทางในการรักษา ถ้าเป็นทางด้านศัลยศาสตร์เสริมสร้าง แน่นอนว่าคุณหมอต้องรักษาแก้ไขตามความผิดปกติของอวัยวะนั้นๆ แต่หากเป็นทางด้านเสริมสวย ปัจจุบันสามารถทำได้ทั้งตัว แต่ที่นิยมกันอย่างเช่น การผ่าตัดเสริมจมูก ทำตา 2 ชั้น เสริมหน้าอก ดึงหน้า การผ่าตัดด้วยเลเซอร์ ดูดไขมันหน้าท้อง สะโพกและขา เป็นต้นหากจะแบ่งการศัลยกรรมที่นิยมทำกันตามวัยต่างๆ ของบ้านเรานั้น ในกลุ่มวัยรุ่นมักนิยมเสริมจมูก พออายุมากขึ้นหน่อยซักประมาณ 30 ขึ้นไป จะเริ่มเสริมหน้าอก พออายุไต่ไปถึง 40 กว่า หนังตาเริ่มตก เริ่มหย่อนก็มักจะทำตากันมากขึ้น พอย่างเข้าอายุ 50 อะไรๆ ก็เริ่มหย่อนยาน ก็จะมาในรูปแบบของการดึง การยกหน้า ยกหน้าอก ยกหน้าท้อง เป็นต้น
สำหรับวัสดุที่นำมาใช้ในการช่วยเสริม เช่น ซิลิโคนเสริมจมูกหรือเสริมเต้านม ต้องเป็นซิลิโคนเฉพาะทางการแพทย์ที่ปลอดภัย และสามารถอยู่ในร่ายกายได้ โดยไม่มีปฏิกิริยาต่อร่างกายแต่อย่างใด และร่างกายสามารถสร้างเยื่อพังผืดเหมือนเป็นแคบซูล มาห่อหุ้มรอบแท่งซิลิโคนให้ยืดอยู่กับเนื้อเยื่อได้ดี และหากต้องการนำเอาแท่งซิลิโคนออก ก็สามารถเอาออกมาได้ทั้งหมด

ปัจจัยเสี่ยงของการทำศัลยกรรม

อาจารย์อยากให้ทุกท่านตระหนักไว้ว่า การผ่าตัดศัลยกรรมทุกอย่างมีความเสี่ยง และอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ทุกเมื่อ เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับความปลอดภัยและผลการรักษาออกมาดี ควรคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและควรศึกษาหาข้อมูลให้ถี่ถ้วน

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

.If you are talking about beauty, with a woman is considered to be together since ancient times. But the old days each. The role of women has not accepted social like at present, but when the world changed.The girl plays more important role. There are gatherings Social Interaction and more, appearance visible from outside. Is the first impress. It is a question that is good or bad. This pretty or not.
.Because of the development of social change. The woman, or even a man turned to the importance and rely on current cosmetic กันมากยิ่งขึ้น become the trend. "Pretty or handsome doctor." A row. Today, Aigle.Dr. fun-seeking rattana rich surgeon decoration and beauty, Samitivej Sukhumvit hospital to clarify about surgery.
.
."That surgery, or in English is Plastic Surgery" plastic from the middle of Greek Plastikos แปลว่า making a shape. Form back since the war.Disability from the battle, so the cosmetic means The organ to maintain or improve the shape of beautiful and proper organ, อวัยวะนั้นๆ would function normally.Which is used in the treatment of corrective surgery for children with cleft lip and palate surgery problem, tumor, or the patient is on fire accident. Scald is scar deformity.Ugly is minimal. So he can live on going in this society. These are the beginning of "cosmetic"
.
.