ประวัติ นิคม รายยวา เกิดเมื่อวันที่ 9 เมษายน พ.ศ.2487  ที่ตำบลหาดเสี้ย การแปล - ประวัติ นิคม รายยวา เกิดเมื่อวันที่ 9 เมษายน พ.ศ.2487  ที่ตำบลหาดเสี้ย อังกฤษ วิธีการพูด

ประวัติ นิคม รายยวา เกิดเมื่อวันที่

ประวัติ
นิคม รายยวา เกิดเมื่อวันที่ 9 เมษายน พ.ศ.2487
ที่ตำบลหาดเสี้ยว อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย
เดิมชื่อนิคม ประกอบวงศ์ ภายหลังเปลี่ยนนามสกุลใหม่เป็น "รายยวา"
ปัจจุบันสมรสกับนางกันยารัตน์ (คีรี) รายยวา
มีบุตรชายและบุตรหญิงรวม 2 คน ชื่อ รวี รายยวาและรูป รายยวา







การศึกษาและอาชีพ
นิคม รายยวา เริ่มเข้าเรียนชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนเมืองเชลียง จังหวัดสุโขทัย เขาสนใจในการเขียนหนังสือมาตั้งแต่เยาว์วัย จนเข้ามาเรียนหนังสือในกรุงเทพฯ ได้พบปะกับเพื่อนพ้องกลุ่ม "พระจันทร์เสี้ยว" ความคิดและความตั้งใจที่จะเขียนหนังสือแสดงทรรศนะต่อชีวิตสังคมรอบข้างก็แตกแขนงออกไป เริ่มเขียนเรื่องสั้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2510 ผลงานเรื่องยาวเรื่องแรกชื่อเรื่อง "คนบนต้นไม้" ลงพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือรวมข้อเขียนของชาวมหาวิทยาลัยชื่อ "ตะวัน"

หลังจากที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อปี พ.ศ.2509 เขาเข้าทำงานกับบริษัทน้ำมันในกรุงเทพฯ ประมาณ 10 ปี แล้วย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดทำงานเกี่ยวกับอุตสาหกรรมบ้าง และเกษตรกรรมบ้าง ต้องเดินทางขึ้นเหนือล่องใต้เสมอ ทำให้ได้พบเห็นชีวิตในหลายๆ ด้าน ซึ่งเป็นข้อมูลในการนำมาเขียนหนังสือ สิบกว่าปีที่ผ่านมา นิคม รายยวา มีผลงานออกมาสู่ผู้อ่านเพียงไม่กี่เล่ม เช่น รวมเรื่องสั้น "คนบนต้นไม้" (2527), เรื่องยาว "ตะกวดกับคบผุ" สำหรับเรื่อง "ตะกวดกับคบผุ" นั้น ได้รับรางวัลชมเชยประเภทนวนิยายประจำปี 2526 จากคณะกรรมการพัฒนาหนังสือ นิคม รายยวา กล่าวถึงความรู้สึกที่เริ่มเขียนหนังสือเรื่องสั้นครั้งแรกว่า

"เหมือนกับความรู้สึกตอนที่เขียนกลอน เขียนกาพย์ซึ่งเป็นการแสดงออกอย่างหนักที่ต้องศึกษา ระยะแรกเป็นช่วงของการพยายาม เมื่อออกมาเป็นงานเขียนจริงๆ แล้ว ก็จะเป็นอีกอย่าง เวลาจะเขียนอะไรก็ต้องมีเรื่องที่จะบอก ถ้าไม่มีอะไรจะบอกหรือไม่เคยพบอะไรที่เป็นปรัชญาจริงๆ เข้าใจสังคมหรือเข้าใจมนุษย์ไม่รอบด้าน ไม่รู้ที่มาที่ไปของปัญหาที่เกิด ซึ่งก็จะเอาอารมณ์และความรู้สึกส่วนตัวเข้ามาร่วมด้วยแม้ว่าจะไม่ถูกนัก สำหรับแรงบันดาลใจในการเขียนหนังสือนั้นก็คงจะมาจากการสะสมทีละนิดทีละหน่อยโดยที่ตนเองไม่รู้สึกตัว ตั้งแต่เยาว์วัยเมื่ออ่านหนังสือแล้วก็รู้สึกว่ามีอะไรน่าสนใจ การเขียนเรื่องสั้นหรือเรื่องยาวนั้นแตกต่างกันเพียงวิธีการแสดงออก เมื่อมีหัวข้อที่จะแสดงออกก็ทำออกมาให้ถึงผู้รับได้เพื่อให้ผู้อ่านได้คิด และรู้สึกเหมือนกับที่เราคิด เรารู้สึกหลังจากนั้นก็เป็นวิธีการ ทีนี้เรื่องที่จะแสดงนั้นก็เป็นหัวข้อใหญ่หรือเล็ก กว้างหรือแคบและต้องการรายละเอียดมากหรือน้อย ถ้ามากก็ยาวหน่อย ถ้าน้อยก็สั้นหน่อย แล้วในทางมาก ทางน้อย ยาว สั้น ก็ให้มีองค์ประกอบของศิลปะที่จะออกมาพอดี กลมกลืนและมีเอกภาพ…"

ผลงานเกียรติยศ
คือ นวนิยายเรื่อง ตลิ่งสูง ซุงหนัก ซึ่งได้รับรางวัลดีเด่นจากคณะกรรมการพัฒนาหนังสือแห่งชาติ ในปีพ.ศ.2527 และได้รับรางวัลซีไรต์หรือรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียนประจำปี 2531 ภายหลังได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษชื่อ High Banks, Heavy Log โดย Richard C. Lair สำหรับข้อมูลในการเขียนนวนิยายเรื่องนี้ นิคม รายยวากล่าวว่า

" เรื่องนี้อยู่ในใจผมตั้งแต่อายุสิบหก…เมื่อตอนเป็นเด็ก บ้านผมอยู่ริมแม่น้ำยม เวลามองออกไปทางฝั่งโน้นก็จะเห็นตลิ่งสูง แล้วข้างบนก็มีซุงอยู่มากเลย มีช้างลากซุงทำงานกันอยู่แทบทุกวัน มีอยู่วันหนึ่งผมได้ยินเสียงช้างร้อง มันพยายามจะลากซุง ควาญช้างก็สับตะขอลงไป แล้วยังไงก็ไม่ทราบ ตลิ่งพัง ภาพนี้ประทับใจและมีอะไรบางอย่างที่น่าจะเอามาใช้ได้ ก็เลยลองเขียน เขียนไปเขียนมาเราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเราจะบอกอะไร เราก็เก็บเอาไว้ เขียนใส่สมุดสองสามบรรทัดว่า ช้างตกตลิ่ง เก็บไว้จนกระดาษขาด ผ่านมาหลายปี จนกระทั่งเรียนหนังสือออกมาทำงานทำการ ไปเห็นช้างไม้ตัวใหญ่ใหญ่ เจ้าของบอกว่าใช้เวลาแกะสลักหลายปี แล้วแพงกว่าช้างจริงๆ เสียอีก ก็ได้แต่สะท้อนใจ แล้วได้ไปเห็นเขาสตั๊ฟฟ์สัตว์อีก เราเลยคิดว่าเรามีอะไรบางอย่างที่เราไม่เข้าใจ มาเห็นโน้ตเก่าๆ บนกระดาษขาดๆ ก็คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องเดียวกัน…"

ตลิ่งสูง ซุงหนัก เป็นเรื่องของช้างกับคนซึ่งรักผูกพันกันมาก คำงายรักพลายสุดซึ่งเป็นช้างที่พ่อมีความจำเป็นต้องขายไปเพื่อเอาเงินมารักษาตัว เพราะเขาไม่มีทางเลือก ถึงแม้จะเสียดายและเฝ้าคิดถึง ต่อมาคำงายบุตรชายซึ่งรักพลายสุดมากได้แกะสลักช้างไม้ที่สง่างามเหมือนพลายสุด เขาอุทิศทั้งกายและใจทั้งหมดในการแกะช้างไม้นั้น และในขณะเดียวกันเขาก็คิดว่าเป็นวิธีเดียวที่เขาจะได้ใกล้ชิดช้างที่เขารัก เขาจึงได้สมัครเป็นควาญช้างรับจ้างพ่อเลี้ยงโดยรับเป็นควาญของพลายสุดรับจ้างลากซุง เขาเกิดความคิดว่า มิใช่พลายสุดเท่านั้นที่ลากซุง เขาเองและทุกชีวิตต่างก็กำลังลากซุงด้วยกันทั้งนั้นเพราะความอดอยาก หิวโหย เขาพยายามทำงานอย่างขยันขันแข็งต่อไปและหวังว่าวันหนึ่งจะได้พลายสุดกลับคืนมา โดยแลกกับช้างไม้ที่เขาพยายามแกะสลัก แต่ในที่สุดได้เกิดอุบัติเหตุขึ้น ร่างคำงายได้ถูกซุงบดทับทำให้สิ่งที่เขาคิดไว้กลายเป็นความฝัน

ผลงานเรื่อง "ตลิ่งสูง ซุงหนัก" ของ นิคม รายยวา ได้รับการยกย่องจากคณะกรรมการตัดสินว่า "เป็นเรื่องของคนผู้แสวงหาความหมายและคุณค่าของชีวิต และพบว่า ทุกคนมีการเกิดและความตายอย่างละหนึ่งหนเท่ากัน แต่สิ่งที่อยู่ระหว่างกลางนั้นเป็นชีวิต เราต้องหากันเอาเอง…" ในขบวนการแสวงหานี้ตัวละครเอก คือ คำงาย ก็ได้ตระหนักถึงคุณค่าที่แท้จริงของชีวิต โดยเห็นว่า "คนเรานั้นมัวแต่รักษาซากที่ไม่มีชีวิต ไม่เคยรักษาชีวิตที่อยู่ในซากเลย " คำงายจึงเลือกรักษาชีวิตโดย "เลี้ยงมัน รักมัน ถนอมมัน" และเห็นความสัมพันธ์โยงใยระหว่างชีวิตทั้งหลาย
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
History Yawa list estate Born April 9 2487 (1944) At Crescent beach. SI satchanalai district, Sukhothai Originally the name assembled estate later changed surname to the new dynasty as "list of yawa." The current marriage with Mrs. Kanyarat (Kiri) yawa. There are women and children, 2 sons name and image list yawa rawee people list yawa. Education and career Yawa list estate Start school elementary school city of Sukhothai chaliang His interest in writing books since childhood, until the coming study in Bangkok, meet with friends, phongklum the "Crescent Moon". The idea and intention to write the book shows it surrounding social life thatna branching out into. Start writing short stories since the first story long story contributions 2510 titles "on the tree" was first published in a book written called "University of East Asians". หลังจากที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อปี พ.ศ.2509 เขาเข้าทำงานกับบริษัทน้ำมันในกรุงเทพฯ ประมาณ 10 ปี แล้วย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดทำงานเกี่ยวกับอุตสาหกรรมบ้าง และเกษตรกรรมบ้าง ต้องเดินทางขึ้นเหนือล่องใต้เสมอ ทำให้ได้พบเห็นชีวิตในหลายๆ ด้าน ซึ่งเป็นข้อมูลในการนำมาเขียนหนังสือ สิบกว่าปีที่ผ่านมา นิคม รายยวา มีผลงานออกมาสู่ผู้อ่านเพียงไม่กี่เล่ม เช่น รวมเรื่องสั้น "คนบนต้นไม้" (2527), เรื่องยาว "ตะกวดกับคบผุ" สำหรับเรื่อง "ตะกวดกับคบผุ" นั้น ได้รับรางวัลชมเชยประเภทนวนิยายประจำปี 2526 จากคณะกรรมการพัฒนาหนังสือ นิคม รายยวา กล่าวถึงความรู้สึกที่เริ่มเขียนหนังสือเรื่องสั้นครั้งแรกว่า "เหมือนกับความรู้สึกตอนที่เขียนกลอน เขียนกาพย์ซึ่งเป็นการแสดงออกอย่างหนักที่ต้องศึกษา ระยะแรกเป็นช่วงของการพยายาม เมื่อออกมาเป็นงานเขียนจริงๆ แล้ว ก็จะเป็นอีกอย่าง เวลาจะเขียนอะไรก็ต้องมีเรื่องที่จะบอก ถ้าไม่มีอะไรจะบอกหรือไม่เคยพบอะไรที่เป็นปรัชญาจริงๆ เข้าใจสังคมหรือเข้าใจมนุษย์ไม่รอบด้าน ไม่รู้ที่มาที่ไปของปัญหาที่เกิด ซึ่งก็จะเอาอารมณ์และความรู้สึกส่วนตัวเข้ามาร่วมด้วยแม้ว่าจะไม่ถูกนัก สำหรับแรงบันดาลใจในการเขียนหนังสือนั้นก็คงจะมาจากการสะสมทีละนิดทีละหน่อยโดยที่ตนเองไม่รู้สึกตัว ตั้งแต่เยาว์วัยเมื่ออ่านหนังสือแล้วก็รู้สึกว่ามีอะไรน่าสนใจ การเขียนเรื่องสั้นหรือเรื่องยาวนั้นแตกต่างกันเพียงวิธีการแสดงออก เมื่อมีหัวข้อที่จะแสดงออกก็ทำออกมาให้ถึงผู้รับได้เพื่อให้ผู้อ่านได้คิด และรู้สึกเหมือนกับที่เราคิด เรารู้สึกหลังจากนั้นก็เป็นวิธีการ ทีนี้เรื่องที่จะแสดงนั้นก็เป็นหัวข้อใหญ่หรือเล็ก กว้างหรือแคบและต้องการรายละเอียดมากหรือน้อย ถ้ามากก็ยาวหน่อย ถ้าน้อยก็สั้นหน่อย แล้วในทางมาก ทางน้อย ยาว สั้น ก็ให้มีองค์ประกอบของศิลปะที่จะออกมาพอดี กลมกลืนและมีเอกภาพ…" ผลงานเกียรติยศ คือ นวนิยายเรื่อง ตลิ่งสูง ซุงหนัก ซึ่งได้รับรางวัลดีเด่นจากคณะกรรมการพัฒนาหนังสือแห่งชาติ ในปีพ.ศ.2527 และได้รับรางวัลซีไรต์หรือรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียนประจำปี 2531 ภายหลังได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษชื่อ High Banks, Heavy Log โดย Richard C. Lair สำหรับข้อมูลในการเขียนนวนิยายเรื่องนี้ นิคม รายยวากล่าวว่า " เรื่องนี้อยู่ในใจผมตั้งแต่อายุสิบหก…เมื่อตอนเป็นเด็ก บ้านผมอยู่ริมแม่น้ำยม เวลามองออกไปทางฝั่งโน้นก็จะเห็นตลิ่งสูง แล้วข้างบนก็มีซุงอยู่มากเลย มีช้างลากซุงทำงานกันอยู่แทบทุกวัน มีอยู่วันหนึ่งผมได้ยินเสียงช้างร้อง มันพยายามจะลากซุง ควาญช้างก็สับตะขอลงไป แล้วยังไงก็ไม่ทราบ ตลิ่งพัง ภาพนี้ประทับใจและมีอะไรบางอย่างที่น่าจะเอามาใช้ได้ ก็เลยลองเขียน เขียนไปเขียนมาเราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเราจะบอกอะไร เราก็เก็บเอาไว้ เขียนใส่สมุดสองสามบรรทัดว่า ช้างตกตลิ่ง เก็บไว้จนกระดาษขาด ผ่านมาหลายปี จนกระทั่งเรียนหนังสือออกมาทำงานทำการ ไปเห็นช้างไม้ตัวใหญ่ใหญ่ เจ้าของบอกว่าใช้เวลาแกะสลักหลายปี แล้วแพงกว่าช้างจริงๆ เสียอีก ก็ได้แต่สะท้อนใจ แล้วได้ไปเห็นเขาสตั๊ฟฟ์สัตว์อีก เราเลยคิดว่าเรามีอะไรบางอย่างที่เราไม่เข้าใจ มาเห็นโน้ตเก่าๆ บนกระดาษขาดๆ ก็คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องเดียวกัน…" ตลิ่งสูง ซุงหนัก เป็นเรื่องของช้างกับคนซึ่งรักผูกพันกันมาก คำงายรักพลายสุดซึ่งเป็นช้างที่พ่อมีความจำเป็นต้องขายไปเพื่อเอาเงินมารักษาตัว เพราะเขาไม่มีทางเลือก ถึงแม้จะเสียดายและเฝ้าคิดถึง ต่อมาคำงายบุตรชายซึ่งรักพลายสุดมากได้แกะสลักช้างไม้ที่สง่างามเหมือนพลายสุด เขาอุทิศทั้งกายและใจทั้งหมดในการแกะช้างไม้นั้น และในขณะเดียวกันเขาก็คิดว่าเป็นวิธีเดียวที่เขาจะได้ใกล้ชิดช้างที่เขารัก เขาจึงได้สมัครเป็นควาญช้างรับจ้างพ่อเลี้ยงโดยรับเป็นควาญของพลายสุดรับจ้างลากซุง เขาเกิดความคิดว่า มิใช่พลายสุดเท่านั้นที่ลากซุง เขาเองและทุกชีวิตต่างก็กำลังลากซุงด้วยกันทั้งนั้นเพราะความอดอยาก หิวโหย เขาพยายามทำงานอย่างขยันขันแข็งต่อไปและหวังว่าวันหนึ่งจะได้พลายสุดกลับคืนมา โดยแลกกับช้างไม้ที่เขาพยายามแกะสลัก แต่ในที่สุดได้เกิดอุบัติเหตุขึ้น ร่างคำงายได้ถูกซุงบดทับทำให้สิ่งที่เขาคิดไว้กลายเป็นความฝัน ผลงานเรื่อง "ตลิ่งสูง ซุงหนัก" ของ นิคม รายยวา ได้รับการยกย่องจากคณะกรรมการตัดสินว่า "เป็นเรื่องของคนผู้แสวงหาความหมายและคุณค่าของชีวิต และพบว่า ทุกคนมีการเกิดและความตายอย่างละหนึ่งหนเท่ากัน แต่สิ่งที่อยู่ระหว่างกลางนั้นเป็นชีวิต เราต้องหากันเอาเอง…" ในขบวนการแสวงหานี้ตัวละครเอก คือ คำงาย ก็ได้ตระหนักถึงคุณค่าที่แท้จริงของชีวิต โดยเห็นว่า "คนเรานั้นมัวแต่รักษาซากที่ไม่มีชีวิต ไม่เคยรักษาชีวิตที่อยู่ในซากเลย " คำงายจึงเลือกรักษาชีวิตโดย "เลี้ยงมัน รักมัน ถนอมมัน" และเห็นความสัมพันธ์โยงใยระหว่างชีวิตทั้งหลาย
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
History
nikom rayawa born on 9 April 2487
at the Crescent Beach district. district of Sukhothai Sukhothai province
, formerly known as Wong later settlement includes a new extension. "The Wah"
is married to Mrs. Kanyarattana (Kiri) retail Eve
had sons and daughters, including two named Trevi Retail meters and the Wah educational and professional settlement of retail that began in grade school. the school Echliyong Sukhothai He was interested in writing since childhood. Until he came to the city. Met with a group of friends "Crescent" of thought and intention to write a letter of opinions on social life around it blossomed into. Began writing short stories since 2510, the first long title story, "The Tree," published the first book in the writing of the university. "West" after completing a bachelor's degree from the Faculty of Economics. Thammasat University in 2509 when he took a job with an oil company in Bangkok about 10 years and then moved to other provinces working on some industries. And some agricultural Must always be always on a journey Thus found life in many ways, which is introduced in the book. Ten years ago nikom rayawa works out to read a few books, such as the short story "The Tree" (2527), the term 'lizard to dating decay "for" lizard to dating decay ". the novel won the admiration of the year in 2526 by the Board of Directors of the book that mentions a settlement in the sense that first began writing short stories, "I feel like writing a poem. Wrote a poem which expresses the need to study hard. During the early stages of trying. Once out of work, it really is more. Time to write something, you must have a story to tell. If nothing is said, or did not find anything that was really philosophical. I do not understand human society or the surrounding environment. Do not know the source of the problem. This will remove the emotions and feelings came together, though not cheap. For inspiration in writing, it would come from the accumulated bit by bit by bit by the unconscious self. When reading from a young age I feel that there is nothing interesting. Long story short story or it's just different ways of expression. When a topic is to show it's made ​​out to the recipient so that the reader can imagine. And felt like we think We feel that it is a way. Now, the story shows that it is a topic large or small. Wide or narrow, and more or less details. If it's a little long If it's a little bit short in the very short term at least, it has elements of art to be fitted out. Harmony and unity ... " The honor is. The novel embankment height Samsung Heavy, which won the Best of the National Book Development in the year.. In 2527 and won the SEA Write award literary creations of the annual ASEAN in 2531 was subsequently translated. English name High Banks, Heavy Log by Richard C. Lair for information on how to write a novel about this settlement, retail, said , "this is in my heart since I was sixteen ... when I was a child. I live by the river Looking to the other side will see a high embankment. Above, there is so much timber. Haye skidders working together almost every day. One day I heard carnivores. It seeks to forestry Mahout was chopped down hooks. I also do not know the erosion of this impressive and something that should be taken. Try to write Write to write, we do not know whether we can say anything. We just kept Write your book a few lines that banks keep elephants out of the paper over the past several years, until the book comes out in your work. To see the big wooden elephant. The owner said that it takes several years to carve. Then more expensive elephant really bad but Satganใh. I went to see him drive Stoughton animal. We think we have something that we do not understand. See notes on old paper shortage was thought to be the same story ... " high embankment Samsung Heavy is the subject of an elephant with people who love each other very binding. Supply super simple word love, which is the elephant's necessary to sell to get money for treatment. Because he had no choice Although watch and think. The son, who loves simple words carved wooden elephant Elephant far more elegant like a real elephant. He devoted his entire body and mind of an elephant carved wood. At the same time, he thought the only way he will get closer to the elephants he loved. He has become a mahout hired by stepfather received a supply of bulldozers, skidders Top Contractors. He was born the idea that Not only to supply super skidders. And his own life also are skidders with them because hunger, he worked diligently to try and hopefully will one day end supply restored. In exchange for his efforts carved wooden elephant. But in most accidents. The draft report was crushed timber made ​​what he thought was a dream job on "high waterline heavy timber" of the settlement and have been praised by the judges. "It's the people who seek the meaning and value of life and that all people are born and die each one the same. But what's in between is life. We have to find out yourself ... "in the process of acquiring this character is not easy to realize the true value of life, that" the people but preserve the remains of the dead. Never has life in ruins "choose life by the simple words" I love it, cherish it, feed it, "and the relationship between the souls unite.





















การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: