เซฟน้อง เกิดมาในครอบครัวที่ไม่ได้หรูหรา เธอโตมาในครอบครัวจนๆ แม่ทำงานหนักเพื่อหาเลี้ยงคนทั้งครอบครัว ในขณะที่พ่ออาชีพขับรถรับจ้าง บางครั้งขับรถเมล์ แต่โดนไล่ออกเป็นประจำ เพราะเมาเหล้าและ อาละวาด เธอและครอบครัวของเธอถูกดูถูกจากคนรอบข้าง
เมื่อเธอเรียนจบ เธอตัดสินใจไปตายเอาดาบหน้าที่อเมริกา มันคือเมืองแห่งโอกาส ถึงไม่มั่นใจว่าจะอยู่รอดแน่นอน แต่ก็เชื่อว่าความขยันและอดทนจะทำให้เธอไม่อดตายอยู่ที่นั่น
ระหว่างทาง เธอแวะซื้อน้ำหอมกับบรัชออนปัดแก้ม เครื่องสำอางที่เคยเป็นแค่ความฝันในวัยเด็ก แต่ในวันนี้เธอตัดสินใจจะเป็นเจ้าของมัน เพื่อเตือนตัวเองว่าชีวิตต้องดีขึ้นดั่งความฝัน
เธอเหยียบแผ่นดินอเมริกาโดยมีเงินติดตัว 70 ดอลลาร์ จนกระทั่ง 3 สัปดาห์ผ่านไป เธอได้งานแรกเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ เธอคิดว่าตัวเธอเองพูดภาษาอังกฤษได้ แต่พอพูดจริงๆ คนฟังเธอไม่รู้เรื่อง เธอโดนคนที่ทำงานแกล้ง เพราะเธอเป็นคนไทยคนเดียวในร้านที่พูดกับเขาก็ไม่รู้เรื่องถือเป็นการเริ่มชีวิตจากศูนย์
เธอทำงาน 7 วันต่อสัปดาห์ รับงานเข้ากะเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านอาหารไทยทุกร้านที่มีในพอร์ทแลนด์ เพราะไม่เคยลืมว่ามาที่นี่เพื่ออะไร และเธอไม่เคยลืมว่ามาที่นี่เพื่ออะไร เธออยากจะเก็บเงินเพื่อสร้างอนาคต มีบ้านเป็นของตนเอง ซึ่งมันเป็นความฝันของเธอตั้งแต่เด็กๆ
เมื่อเวลาผ่านไปเธอรู้สึกไม่มีความสุข และเริ่มหมดหวัง กับชีวิต รู้สึกเป็นเหมือนเทียน ที่กำลังจะดับ ถ้าไม่อยากเป็นเด็กเสิร์ฟไปจนตาย ต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิต นั่นคือจุดเริ่มต้นของ “น้อง ข้าวมันไก่” หรือ NONG’S KHAO MAN GAI ที่ชาวพอร์ทแลนด์รู้จักกันดี
นับตั้งแต่วันนั้น เธอใช้เงินทั้งหมดที่มีไปกับการพัฒนาสูตรข้าวมันไก่ ทดลองทำครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะรสชาติที่ดีจะช่วยลดความเสี่ยง เธอทุ่มหมดหน้าตัก ถ้าไปไม่รอดก็ต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่ แต่อุปสรรคของเธอคือ“คนไม่รู้จัก ข้าวมันไก่คืออะไร?” แต่เธอก็ผ่านปัญหานั้นมาได้ด้วยคุณภาพของสินค้าและบริการ เพราะเธอคิดว่า“มันไม่ใช่แค่ไก่และข้าว แต่ต้องมั่นใจว่าลูกค้าแฮปปี้ ได้รับบริการที่ดีและรวดเร็ว แม่เธอสอนมาว่า จงเป็นผู้ให้ก่อน แล้วจะได้รับ ต้องให้ความเคารพลูกค้า และอย่าลืมยิ้ม”
เธอบอกว่า คำสอนของแม่ทำให้เธอได้รับความช่วยเหลือจากหลายๆ คน เพราะนอกจากรสชาติแล้ว ความอ่อนน้อมและซื่อสัตย์แบบไทยๆ ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คนจำนวนมากอยากอุดหนุนข้าวมันไก่ของเธอ
แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็เรียนรู้ว่า แค่ทำข้าวมันไก่ดีๆ ยังดีไม่พอ เพราะในวันนี้ เธอมีพนักงานอีก 19 คนที่ต้องดูแล ทุกคนเรียกเธอว่า “เชฟน้อง”
สำหรับความท้าทายของเธอในตอนนี้คือการบริหารงาน บริหารคน การคงคุณภาพสินค้า และบริการ ต้องเรียนรู้เรื่องธุรกิจ ต้องเป็นผู้นำ เพราะวันนี้มีทีมมาช่วยงานแล้ว เธอยอมรับว่าถ้าไม่มีพวกเขา คงไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้ เธอได้ทำงานหาเลี้ยงครอบครัวตามที่ฝันไว้ แม่ไม่ต้องทำงานหนักอีกแล้ว นี่คือสิ่งที่เธอภูมิใจที่สุด
เธอบอกว่า ความฝันจะกลายเป็นความจริงเมื่อเชื่อในตัวเอง เชื่อว่าทำได้ ลงมือทำ และทำให้ดีกว่าที่คนอื่นคาดหวัง