บทที่2ความเป็นมาของทัศนศิลป์ความเป็

บทที่2
ความเป็นมาของทัศนศิลป์
ความเป็นมาของคำว่า “ทัศนศิลป์” เกิดจากแนวความคิดของศิลปินเบาเฮาส์ในเยอรมนี ซึ่งก่อตั้งสถาบัน “เบาเฮาส์” นี้ขึ้นในปี ค.ศ. 1919 และก่อตั้งได้ไม่นานก็แยกย้ายกันไปในประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งย้ายไปอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกามากที่สุด และได้ตั้งสถาบันศิลปะแห่งใหม่ขึ้นมาที่นครชิโก้ ชื่อ Instituite of Design โดย โมโฮลี นาจ (Mr. Moholy Nagy) และพยายามทบทวนจุดยืนทางศิลปะขึ้นใหม่ตามแนวคิดทางศิลปะที่มีพื้นฐานจากความเข้าใจของการมองเห็น การสัมผัส การได้ยินและการได้กลิ่น ซึ่งทำให้ศิลปะมีลักษณะเป้นเหตุผลและวิทยาศาสตร์มากยิ่งขึ้น เมื่อมีผู้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันนี้มากขึ้นจึงได้คิดค้นคำใหม่ที่เหมาะสมรัดกุมจึงได้ใช้คำว่า Visual Art แต่ความเข้าใจและความหมายของคำตามสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ โดยเฉพาะสังคมที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอจึงส่งผลต่อการรับรู้ถึงความหมายและขอบข่ายของ Visual Art
ดังนั้นจึงได้มีการทบทวนกันใหม่ โดยสถาบัน “เบาเฮาส์” ในเยอรมนี ซึ่งได้รวมขอบข่ายของศิลปะ 3 สาขา คือ สถาปัตยกรรม จิตกรรม และประติมากรรม เข้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันภายใต้นาม Visual Art ซึ่งในภาษาไทยใช้คำว่า ทัศนศิลป์ หมายถึง ผลงานที่มนุษย์สร้างขึ้นให้เห็นถึงรูปทรง 2 มิติและ 3 มิติ มีเนื้อที่ของปริมาตรและเนื้อหาที่บริเวณว่างตามปริมาตรของการรับรู้ที่มีลักษณะเป็น 2 มิติและ 3 มิติและที่สำคัญ คือ ต้องสามารถมองเห็นได้นั่นเอง

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

Chapter 2
of the visual arts
of the word "Art" was born from the idea of the artist Bauhaus in Germany. The founder of "Light House" is founded in 1919 and soon dispersed in various countries, especially the move to the United States the most. And set up a new City Art Institute of Chicago's Holy Name Instituite of Design molar authority (Mr. Moholy Nagy) and to review the position of art in a new concept of art based on the understanding of vision. see, touch, hearing and smell. This makes the art look that bordered on science and more. The graduates of this institution is therefore more appropriate to have invented a new word has been tightened using the Visual Art, but understanding and meanings of words based on the social conditions are always changing. The society is always changing, so it affects the perception of the meaning and scope of Visual Art
, so it can be reviewed again by the institution "Bauhaus" in Germany, which includes the areas of arts, three branches of the architectural spirit. Dental and sculpture In unison under the Visual Art, which in Thailand use the visual arts refers to the man-made that the contours two-dimensional and three-dimensional space of the volume and content of the area occupied by the volume of. recognize that there is a two-dimensional and three-dimensional, and it is important to be able to see it.

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

บทที่ 2ความเป็นมาของทัศนศิลป์ความเป็นมาของคำว่า " ทัศนศิลป์ " เกิดจากแนวความคิดของศิลปินเบาเฮาส์ในเยอรมนีซึ่งก่อตั้งสถาบัน " เบาเฮาส์ " นี้ขึ้นในปีค . ศ . 1919 และก่อตั้งได้ไม่นานก็แยกย้ายกันไปในประเทศต่างจะโดยเฉพาะอย่างยิ่งย้ายไปอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกามากที่สุดและได้ตั้งสถาบันศิลปะแห่งใหม่ขึ้นมาที่นครชิโก้ชื่อ instituite ออกแบบโดยโมโฮลีนาจ ( นาย moholy Nagy ) และพยายามทบทวนจุดยืนทางศิลปะขึ้นใหม่ตามแนวคิดทางศิลปะที่มีพื้นฐานจา กความเข้าใจของการมองเห็นการสัมผัสการได้ยินและการได้กลิ่นซึ่งทำให้ศิลปะมีลักษณะเป้นเหตุผลและวิทยาศาสตร์มากยิ่งขึ้นเมื่อมีผู้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันนี้มากขึ้นจึงได้คิดค้นคำใหม่ที่เหมาะสมรัดกุมจึงได้ใช้คำว่าแต่ความเข้าใจและความหมายของคำตามสภาพสังคทัศนศิลป์ มที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอโดยเฉพาะสังคมที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอจึงส่งผลต่อการรับรู้ถึงความหมายและขอบข่ายของทัศนศิลป์ดังนั้นจึงได้มีการทบทวนกันใหม่โดยสถาบัน " เบาเฮาส์ " ในเยอรมนีซึ่งได้รวมขอบข่ายของศิลปะ 3 สาขาความสถาปัตยกรรมจิตกรรมและประติมากรรมเข้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันภายใต้นามทัศนศิลป์ซึ่งในภาษาไทยใช้คำว่าทัศนศิลป์หมายถึงผลงานที่มนุษย์สร้างขึ้นให้เห็นถึงรูปทรง 2 มิติแ ละ 3 ภาพ 3 มิติมีเนื้อที่ของปริมาตรและเนื้อหาที่บริเวณว่างตามปริมาตรของการรับรู้ที่มีลักษณะเป็น 2 มิติและ 3 มิติและที่สำคัญความต้องสามารถมองเห็นได้นั่นเอง