ประวัติความเป็นมาของมวยไทยมวยไทยเริ่มขึ้นในสมัยไม่ปรากฏ และไม่มีหนังสื การแปล - ประวัติความเป็นมาของมวยไทยมวยไทยเริ่มขึ้นในสมัยไม่ปรากฏ และไม่มีหนังสื อังกฤษ วิธีการพูด

ประวัติความเป็นมาของมวยไทยมวยไทยเริ

ประวัติความเป็นมาของมวยไทย

มวยไทยเริ่มขึ้นในสมัยไม่ปรากฏ และไม่มีหนังสือเล่มใดเขียนไว้ว่าจะเกิดขึ้นในสมัยใด แต่เท่าที่ได้ปรากฏนั้นมวยไทยได้เกิดขึ้นมานานแล้วและอาจเกิดขึ้นมาพร้อมๆกับชาติไทย เพราะมวยไทยนั้นเป็นศิลปประจำชาติไทยเราจริงๆยากที่ชาติอื่นจะลอกเลียนแบบได้

มวยไทยในสมัยก่อนเท่าที่ทราบจะมีการฝึกฝนอยู่ในบรรดาหมู่ทหาร เพราะในสมัยก่อนไทยเราได้มีการรบพุ่งและสู้รบกันกับประเทศเพื่อนบ้านบ่อยครั้ง การสู้รบในสมัยนั้นยังไม่มีปืนจะสู้กันแต่ดาบสองมือและมือเดียว เมื่อเป็นเช่นนี้การรบพุ่งก็มีการรบประชิดตัว คนไทยเห็นว่าในสมัยนั้นการรบด้วยดาบเป็นการรบพุ่งที่ประชิดตัวมากเกินไปบางครั้งคู่ต่อสู้อาจเข้ามาฟันเราได้ง่าย คนไทยจึงได้ฝึกหัดการถีบและเตะคู่ต่อสู้เอาไว้เพื่อคู่ต่อสู้จะได้เสียหลักแล้วเราจะได้เลือกฟันง่ายขึ้นทำให้คู่ต่อสู้แพ้ได้

ต่อมาเมื่อในหมู่ทหารได้มีการฝึกถีบเตะแล้วก็เกิดมีผู้คิดว่าทำอย่างไรจึงจะใช้การถีบเตะนั้นมาเป็นศิลปสำหรับการต่อสู้ด้วยมือได้ จึงต้องให้มีผู้ที่จะคิดจะฝึกหัดการต่อสู้ป้องกันตัวสำหรับการใช้แสดงเวลามีงานเทศกาลต่างๆไว้อวดชาวบ้านและเป็นของแปลกสำหรับชาวบ้าน เมื่อเป็นเช่นนี้นานเข้า ชาวบ้านหรือคนไทยได้เห็นการถีบเตะแพร่หลายและบ่อยครั้งเข้า จึงทำให้ชาวบ้านมีการฝึกหัดมวยไทยกันมากจนถึงกับตั้งเป็นสำนักฝึกกันมากมาย แต่สำหรับที่ฝึกมวยไทยนั้นก็ต้องเป็นสำนักดาบที่มีชื่อดีมาก่อนและมีอาจารย์ดีไว้ฝึกสอน

ดังนั้นมวยไทยในสมัยนั้นจึงฝึกเพื่อความหมาย ๒ อย่างคือ

๑. เพื่อไว้สำหรับสู้รบกับข้าศึก

๒. เพื่อไว้ต่อสู้ป้องกันตัว

ในสมัยนั้นใครมีเพลงดาบดีและเก่งกาจทางรบพุ่งนั้นจะต้องเก่งทางมวยไทยด้วย เพราะเวลารบพุ่งนั้นต้องอาศัยมวยไทยเข้าช่วย ดังนั้นวิชามวยไทยในสมัยนั้นจึงมุ่งหมายที่จะฝึกฝนเพลงดาบและวิชามวยไทยไปพร้อมๆกันเพื่อที่จะรับใช้ประเทศชาติด้วยการเป็นทหารได้เป็นอย่างดี

แต่เมื่อพ้นจากหน้าสงครามก็จะมีการชกมวยกันเพื่อความสนุกสนาน และมีการพนันขันต่อกันระหว่างนักมวยที่เก่งจากหมู่บ้านหนึ่งกับนักมวยที่เก่งจากอีกหมู่บ้านหนึ่งมาชกกันในหน้าที่มีงานเทศกาล หรือเกิดมีการท้าทายกันขึ้นและมีการพนันขันต่อ มวยในสมัยนั้นชกกันด้วยหมัดเปล่าๆยังไม่มีการคาดเชือก เช่น สมัยอยุธยาตอนต้น ในสมัยนั้นคนไทยที่ทำชื่อเสียงให้กับประเทศในวิชามวยไทยมากที่สุดคือนายขนมต้ม ซึ่งได้ใช้วิชามวยไทยต่อสู้พม่าถึง ๑๐ คนและพม่าก็ได้แพ้นายขนมต้มหมดทุกคน จนถึงกับกษัตริย์พม่าพูดว่า

"คนไทยถึงแม้ว่าจะไม่มีดาบ แม้แต่มือเปล่าก็ยังมีพิษสงรอบตัว"

นายขนมต้มจึงเปรียบเสมือนผู้เป็นบิดาของวิชามวยไทยเพราะทำให้คนไทยมีชื่อเสียงเกี่ยวกับวิชามวยไทยเป็นอันมากในสมัยนั้น และชื่อเสียงก็ได้เลื่องลือมาจนถึงกับปัจจุบันนี้

ในสมัยต่อมามวยไทยก็ยังฝึกฝนคู่กับการฝึกเพลงดาบอยู่และยังฝึกและใช้เพื่อการทำสงครามและฝึกฝนเพื่อการต่อสู้ป้องกันตัว บางทีก็ฝึกเพื่อชกในงานเทศกาลต่างๆ ในสมัยอยุธยาตอนปลายพระมหากษัตริย์ของไทยบางพระองค์มีฝีมือในทางมวยไทยอยู่มาก เช่น พระเจ้าเสือหรือขุนหลวงสรศักดิ์ ซึ่งได้หนีออกจากพระราชวังไปชกมวยกับชาวบ้านและชกชนะด้วย ต่อมาประชาชนทราบและเห็นว่าพระองค์ก็เป็นผู้มีฝีมือในวิชามวยไทยอยู่ในขั้นดีเยี่ยม ในสมัยต่อมา ผู้ที่มีฝีมือในทางมวยไทยก็มีมาก เช่น พระเจ้าตากสิน

วิชามวยไทยได้ยั่งยืนมาจนถึงสมัยปัจจุบัน และในสมัยอยุธยาตอนปลายนี้ มวยไทยได้ชกกันด้วยการคาดเชือกคือใช้เชือกเป็นผ้าพันมือ บางครั้งการชกก็อาจถึงตายเพราะเชือกที่คาดมือนั้นบางครั้งก็ใช้น้ำมันชุบเศษแก้วละเอียดชกถูกตรงไหนก็เป็นแผลตรงนั้น จะเห็นได้ว่ามวยไทยในสมัยนั้นมีอันตรายเป็นอันมาก

ต่อมาในปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา

มวยไทยก็มีการฝึกตามสำนักฝึกต่างๆและมีการฝึกกันอย่างกว้างขวาง จนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ก็มีเวทีมวยที่จัดให้มีการแข่งขันกันอย่างสนุกสนาน เช่น เวทีสวนเจ้าเชษฐและเวทีสวนกุหลาบ ซึ่งการชกมวยในสมัยนี้ก็ยังมีการคาดเชือกกันอยู่ จนตอนหลังนวมได้เข้ามาแพร่หลายในประเทศไทย การชกกันในสมัยหลังๆจึงได้สวมนวมชก แต่การชกกันก็ยังเหมือนเดิมคือยังใช้การ ถีบ ชก ศอกและเข่า ดังที่เห็นอยู่ในปัจจุบันนี้ฯ

สนามมวย

ที่เรียกกันว่าสนาม ครั้งก่อนๆนั้นเป็นสนามจริงๆ คือนายสนามเอาเชือกมากั้นพอเป็นบริเวณเข้า แล้วมวยก็คาดเชือกชกกันบนพื้นดิน ใช้จอกหรือกะลาเจาะรูลอยน้ำเป็นมาตรากำหนดเวลา จมครั้งหนึ่งเรียกว่ายกหนึ่ง การต่อสู้ตามความรู้สึกในขณะนั้นเรียกว่าตื่นเต้น แต่ถ้าหากให้ชกกันเดี๋ยวนี้ก็คงจะถูกผู้ดูให้ลงกรรมการไล่ลงหรือออกจากเวทีแน่เพราะกว่าจะชกกันแต่ละครั้งนั้นนานจนเมื่อยตา แต่ก็น่าเห็นใจเนื่องจากหมัดที่ใช้ชกคาดด้วยเชือกแทนสวมนวม อย่างไรก็ดีกีฬามวยเริ่มเข้าสู่ระเบียบอย่างจริงจังก็เมื่สร้างเวทีขึ้นกลางสนามฟุตบอลสวนกุหลาบ พื้นใช้ไม้กระดาน เสื่อเป็นแบบเสื่อกระจูดทับข้างบน มีการนับโดยจับเวลาเป็นนาที มีกรรมการขึ้นคอยห้าม ครั้งแรกเคยใช้กรรมการสองคน คนหนึ่งคอยกันจับฝ่ายแดงอีกคนหนึ่งคอยกันจับฝ่ายน้ำเงิน ในสมัยก่อนมีกรรมการ ๒ คนคนหนึ่งคือพระยานนท์เสน อีกคนหนึ่งคือพระยานเรนทร์ราชา ที่เป็นกรรมการตัดสินที่นิยมยกย่องแพร่หลายในระหว่างนักมวยและคณะหัวหน้านักมวยทั่วไป

สำหรับการชกนั้นชกกันสลับคู่ อาทิคู่ ๑ ชกครบ ๑ ยก แล้วก็ลงจากเวทีแล้วให้คุ่ที่ ๒ ขึ้นไปชกกันเพื่อมิให้คนดูเสียเวลา ถ้ายังไม่แพ้ชนะกันก็สลับไปถึงคู่ ๓ - ๔ - ๕ จนกว่าจะสิ้นแสงตะวัน หลักเกณฑ์และกติกาเบื้องต้นอนุญาตให้ซ้ำกันได้ในเวลาล้ม นักมวยตอนนั้นจึงต้องเรียนรู้วิธีต่อสู้รอบตัวทีเดียวเพราะฟาวล์ไม่มี แม้กระทั่งกัดใบหูก็เคยปรากฏ อีกอย่างหนึ่ง สมัยนั้นนักเรียนพลศึกษามีมากอยากจะขึ้นชกเป็นการแสดงฝีมือและสอบไล่มวยไทยไปในตัวเสร็จ แต่กลัวพวกนักมวยต่างจังหวัด จึงตกลงวางหลักกติกาให้กรรมการใช้ยูยิตสูช่วยด้วย จึงเป็นของธรรมดาที่เราจะเห็นนักมวยต่างจังหวัดซึ่งไม่รู้ว่ายูยิตสูคืออะไร ถูกทุ่มถูกล็อคจนออกปากส่งเสียงร้องเอ็ดตะโรยอมแพ้ให้ไป นอกจากบางรายที่ถูกเตะเสียจนตั้งตัวไม่ติดและแพ้ไปก่อน

ประโยชน์ของมวยไทย

ผู้ที่ฝึกวิชามวยพอใช้การได้แล้วย่อมทำให้เกิดประโยชน์แก่ตน ดังนี้ (คนละส่วนกับการฝึกชกม
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
The history of Muay ThaiMuay Thai in style does not appear, and there is no any books written that occurs in any era, but the Thai boxing has appeared as has occurred for a long time, and may occur with Thai national. Because Thai Boxing Thai National Park, it is really difficult for us, other Nations imitators.Muay Thai in the past as far as I know, the practice in those among the soldiers, because in the past we have to hurl a Thai fighter and fight with the neighboring countries often. The fight only to have no guns to fight each other, but the two-sword hands and fingers only. When this occurs it is gushing battle combat at close range; Thai people believe that only combat with a sword as a battle that continued to gush too much, sometimes rival might easily come to our teeth. Thai people have practice pedal and kick an opponent to opponent to get tipsy and then we will have fun easier, make the opponent lose.Later, when the military has been in practice in the hands of the kick and then there are people think how to use the arts as a kick pedal for a fight with tools. Therefore, there must be people who think the martial training for show time with the flourish Festival, villagers, and is owned by the State for the villagers. When it is like this for a long time to. The villagers or Thai people has seen widespread and frequent kick pedal input. So the villagers have Thai boxing training together until the set is training a lot. But for Thai boxing training, it must be a named sword Bureau well before and has a good teacher trainer.Therefore, Thai Boxing, and then in practice to mean 2 as is.1. in order for the fight against the enemy.2. to protect against.In those who have a good sword fighter's maneuver and the music rises, it will be good to Muay Thai. Because of the time it requires to combat Muay Thai Thai Boxing course helped so in vogue then to practice Thai Boxing and sword song simultaneously in order to serve the nation with a good soldier.But once out in front of the war, you have to punch each other for fun and a game between the good boxers from one village to another talented boxers from one village to fight each other in the Festival page or there are challenging each other up and Gamble. In boxing, punch by punch in vain is not yet guesswork ropes such as early Ayutthaya period. The Thai people only known to the countries in most Thai Boxing is Mr. Tom rice, which has major Thai Boxing fight in Burma to Myanmar, and 10 people have lost all, Mr. Tom candy to everyone until the Burmese King, saying,"Thai people, although there are no swords, and even bare hands, it is also phitsong around," he said.Mr. Tom desserts sphere, who is the father of Thai Boxing course, because Thai people are famous about major Thai Boxing is an art in itself, and the reputation to spread a rumor until today.In a later era, the Thai boxing training with a practising music, sword, and the training and is used to make war and trained to fight against the. Maybe it is to practice the various Festival fight. In the late Ayutthaya period of some Thai Kings had skilled in Muay Thai are more like God, Tiger or Royal King sonsak which escape from the forbidden city to the punch with the villagers and fight to win. Later, the public knows and sees that he is skilled in Muay Thai is a great stage. In a later era Those who are skilled in Muay Thai, there is so much like God Taksin.Major Muay Thai has sustained until today, and in the late Ayutthaya period. Muay Thai has to fight by using a rope is the rope tying scarves hand. Sometimes, however, it can be deadly, because the ropes tying it off with oil sometimes detailed glass punch is a straight incision where. Thai Boxing can be seen that there is a danger that in many.Later, in the late Ayutthaya period.Muay Thai training, according to the Office of training and training widely. Till it is old boxing arena that provides rigorous competition such as the arena gardens hosted a rose garden arena chaset, a punch in this era, it is also projected the same rope. Until now, after Mitt became widespread in Thai To punch each other in the district will have to wear glove punch, but the same punch is a punch and elbow and knee pedal is used, as seen in the current ni.Boxing StadiumKnown as the previous Stadium's pitch really is Mr. Ulan to remove the rope came out boxing and a barrier, Boran punch each other on the ground. Using a drinking glass or shell holes as the timing scale floating sink once called lift. The battle followed a sense at that time called the thrill. But if that fight each other now, they probably will be people watching, a Director of chase down or out of the arena, of course, because the punch each other for a long time, but until then entirely of sympathy because the punch punch is expected to wear a glove instead of a rope. However, the sport began to organize into boxing seriously, เมื่ created the rose garden arena, in the middle of the football field. Using the floor planks Mats krachut mats are transcribed above are counted by a timer in minutes. There are more first-time directors on the Committee had banned two people. Red Wing wait one match one another keep holding the Blue Division. In the past, there are directors. 2 one person was small earthen cistern Prince Sen. Another one is the craft's decision Director Raja ranet favorite widely praised during the Boxer and the leader of the General Board of boxers.สำหรับการชกนั้นชกกันสลับคู่ อาทิคู่ ๑ ชกครบ ๑ ยก แล้วก็ลงจากเวทีแล้วให้คุ่ที่ ๒ ขึ้นไปชกกันเพื่อมิให้คนดูเสียเวลา ถ้ายังไม่แพ้ชนะกันก็สลับไปถึงคู่ ๓ - ๔ - ๕ จนกว่าจะสิ้นแสงตะวัน หลักเกณฑ์และกติกาเบื้องต้นอนุญาตให้ซ้ำกันได้ในเวลาล้ม นักมวยตอนนั้นจึงต้องเรียนรู้วิธีต่อสู้รอบตัวทีเดียวเพราะฟาวล์ไม่มี แม้กระทั่งกัดใบหูก็เคยปรากฏ อีกอย่างหนึ่ง สมัยนั้นนักเรียนพลศึกษามีมากอยากจะขึ้นชกเป็นการแสดงฝีมือและสอบไล่มวยไทยไปในตัวเสร็จ แต่กลัวพวกนักมวยต่างจังหวัด จึงตกลงวางหลักกติกาให้กรรมการใช้ยูยิตสูช่วยด้วย จึงเป็นของธรรมดาที่เราจะเห็นนักมวยต่างจังหวัดซึ่งไม่รู้ว่ายูยิตสูคืออะไร ถูกทุ่มถูกล็อคจนออกปากส่งเสียงร้องเอ็ดตะโรยอมแพ้ให้ไป นอกจากบางรายที่ถูกเตะเสียจนตั้งตัวไม่ติดและแพ้ไปก่อนBenefits of Muay ThaiThose who practice of boxing, and applied enough surely causes benefit. As follows (each section with practice punch m
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
ประวัติความเป็นมาของมวยไทย

มวยไทยเริ่มขึ้นในสมัยไม่ปรากฏ และไม่มีหนังสือเล่มใดเขียนไว้ว่าจะเกิดขึ้นในสมัยใด แต่เท่าที่ได้ปรากฏนั้นมวยไทยได้เกิดขึ้นมานานแล้วและอาจเกิดขึ้นมาพร้อมๆกับชาติไทย เพราะมวยไทยนั้นเป็นศิลปประจำชาติไทยเราจริงๆยากที่ชาติอื่นจะลอกเลียนแบบได้

มวยไทยในสมัยก่อนเท่าที่ทราบจะมีการฝึกฝนอยู่ในบรรดาหมู่ทหาร เพราะในสมัยก่อนไทยเราได้มีการรบพุ่งและสู้รบกันกับประเทศเพื่อนบ้านบ่อยครั้ง การสู้รบในสมัยนั้นยังไม่มีปืนจะสู้กันแต่ดาบสองมือและมือเดียว เมื่อเป็นเช่นนี้การรบพุ่งก็มีการรบประชิดตัว คนไทยเห็นว่าในสมัยนั้นการรบด้วยดาบเป็นการรบพุ่งที่ประชิดตัวมากเกินไปบางครั้งคู่ต่อสู้อาจเข้ามาฟันเราได้ง่าย คนไทยจึงได้ฝึกหัดการถีบและเตะคู่ต่อสู้เอาไว้เพื่อคู่ต่อสู้จะได้เสียหลักแล้วเราจะได้เลือกฟันง่ายขึ้นทำให้คู่ต่อสู้แพ้ได้

ต่อมาเมื่อในหมู่ทหารได้มีการฝึกถีบเตะแล้วก็เกิดมีผู้คิดว่าทำอย่างไรจึงจะใช้การถีบเตะนั้นมาเป็นศิลปสำหรับการต่อสู้ด้วยมือได้ จึงต้องให้มีผู้ที่จะคิดจะฝึกหัดการต่อสู้ป้องกันตัวสำหรับการใช้แสดงเวลามีงานเทศกาลต่างๆไว้อวดชาวบ้านและเป็นของแปลกสำหรับชาวบ้าน เมื่อเป็นเช่นนี้นานเข้า ชาวบ้านหรือคนไทยได้เห็นการถีบเตะแพร่หลายและบ่อยครั้งเข้า จึงทำให้ชาวบ้านมีการฝึกหัดมวยไทยกันมากจนถึงกับตั้งเป็นสำนักฝึกกันมากมาย แต่สำหรับที่ฝึกมวยไทยนั้นก็ต้องเป็นสำนักดาบที่มีชื่อดีมาก่อนและมีอาจารย์ดีไว้ฝึกสอน

ดังนั้นมวยไทยในสมัยนั้นจึงฝึกเพื่อความหมาย ๒ อย่างคือ

๑. เพื่อไว้สำหรับสู้รบกับข้าศึก

๒. เพื่อไว้ต่อสู้ป้องกันตัว

ในสมัยนั้นใครมีเพลงดาบดีและเก่งกาจทางรบพุ่งนั้นจะต้องเก่งทางมวยไทยด้วย เพราะเวลารบพุ่งนั้นต้องอาศัยมวยไทยเข้าช่วย ดังนั้นวิชามวยไทยในสมัยนั้นจึงมุ่งหมายที่จะฝึกฝนเพลงดาบและวิชามวยไทยไปพร้อมๆกันเพื่อที่จะรับใช้ประเทศชาติด้วยการเป็นทหารได้เป็นอย่างดี

แต่เมื่อพ้นจากหน้าสงครามก็จะมีการชกมวยกันเพื่อความสนุกสนาน และมีการพนันขันต่อกันระหว่างนักมวยที่เก่งจากหมู่บ้านหนึ่งกับนักมวยที่เก่งจากอีกหมู่บ้านหนึ่งมาชกกันในหน้าที่มีงานเทศกาล หรือเกิดมีการท้าทายกันขึ้นและมีการพนันขันต่อ มวยในสมัยนั้นชกกันด้วยหมัดเปล่าๆยังไม่มีการคาดเชือก เช่น สมัยอยุธยาตอนต้น ในสมัยนั้นคนไทยที่ทำชื่อเสียงให้กับประเทศในวิชามวยไทยมากที่สุดคือนายขนมต้ม ซึ่งได้ใช้วิชามวยไทยต่อสู้พม่าถึง ๑๐ คนและพม่าก็ได้แพ้นายขนมต้มหมดทุกคน จนถึงกับกษัตริย์พม่าพูดว่า

"คนไทยถึงแม้ว่าจะไม่มีดาบ แม้แต่มือเปล่าก็ยังมีพิษสงรอบตัว"

นายขนมต้มจึงเปรียบเสมือนผู้เป็นบิดาของวิชามวยไทยเพราะทำให้คนไทยมีชื่อเสียงเกี่ยวกับวิชามวยไทยเป็นอันมากในสมัยนั้น และชื่อเสียงก็ได้เลื่องลือมาจนถึงกับปัจจุบันนี้

ในสมัยต่อมามวยไทยก็ยังฝึกฝนคู่กับการฝึกเพลงดาบอยู่และยังฝึกและใช้เพื่อการทำสงครามและฝึกฝนเพื่อการต่อสู้ป้องกันตัว บางทีก็ฝึกเพื่อชกในงานเทศกาลต่างๆ ในสมัยอยุธยาตอนปลายพระมหากษัตริย์ของไทยบางพระองค์มีฝีมือในทางมวยไทยอยู่มาก เช่น พระเจ้าเสือหรือขุนหลวงสรศักดิ์ ซึ่งได้หนีออกจากพระราชวังไปชกมวยกับชาวบ้านและชกชนะด้วย ต่อมาประชาชนทราบและเห็นว่าพระองค์ก็เป็นผู้มีฝีมือในวิชามวยไทยอยู่ในขั้นดีเยี่ยม ในสมัยต่อมา ผู้ที่มีฝีมือในทางมวยไทยก็มีมาก เช่น พระเจ้าตากสิน

วิชามวยไทยได้ยั่งยืนมาจนถึงสมัยปัจจุบัน และในสมัยอยุธยาตอนปลายนี้ มวยไทยได้ชกกันด้วยการคาดเชือกคือใช้เชือกเป็นผ้าพันมือ บางครั้งการชกก็อาจถึงตายเพราะเชือกที่คาดมือนั้นบางครั้งก็ใช้น้ำมันชุบเศษแก้วละเอียดชกถูกตรงไหนก็เป็นแผลตรงนั้น จะเห็นได้ว่ามวยไทยในสมัยนั้นมีอันตรายเป็นอันมาก

ต่อมาในปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา

มวยไทยก็มีการฝึกตามสำนักฝึกต่างๆและมีการฝึกกันอย่างกว้างขวาง จนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ก็มีเวทีมวยที่จัดให้มีการแข่งขันกันอย่างสนุกสนาน เช่น เวทีสวนเจ้าเชษฐและเวทีสวนกุหลาบ ซึ่งการชกมวยในสมัยนี้ก็ยังมีการคาดเชือกกันอยู่ จนตอนหลังนวมได้เข้ามาแพร่หลายในประเทศไทย การชกกันในสมัยหลังๆจึงได้สวมนวมชก แต่การชกกันก็ยังเหมือนเดิมคือยังใช้การ ถีบ ชก ศอกและเข่า ดังที่เห็นอยู่ในปัจจุบันนี้ฯ

สนามมวย

ที่เรียกกันว่าสนาม ครั้งก่อนๆนั้นเป็นสนามจริงๆ คือนายสนามเอาเชือกมากั้นพอเป็นบริเวณเข้า แล้วมวยก็คาดเชือกชกกันบนพื้นดิน ใช้จอกหรือกะลาเจาะรูลอยน้ำเป็นมาตรากำหนดเวลา จมครั้งหนึ่งเรียกว่ายกหนึ่ง การต่อสู้ตามความรู้สึกในขณะนั้นเรียกว่าตื่นเต้น แต่ถ้าหากให้ชกกันเดี๋ยวนี้ก็คงจะถูกผู้ดูให้ลงกรรมการไล่ลงหรือออกจากเวทีแน่เพราะกว่าจะชกกันแต่ละครั้งนั้นนานจนเมื่อยตา แต่ก็น่าเห็นใจเนื่องจากหมัดที่ใช้ชกคาดด้วยเชือกแทนสวมนวม อย่างไรก็ดีกีฬามวยเริ่มเข้าสู่ระเบียบอย่างจริงจังก็เมื่สร้างเวทีขึ้นกลางสนามฟุตบอลสวนกุหลาบ พื้นใช้ไม้กระดาน เสื่อเป็นแบบเสื่อกระจูดทับข้างบน มีการนับโดยจับเวลาเป็นนาที มีกรรมการขึ้นคอยห้าม ครั้งแรกเคยใช้กรรมการสองคน คนหนึ่งคอยกันจับฝ่ายแดงอีกคนหนึ่งคอยกันจับฝ่ายน้ำเงิน ในสมัยก่อนมีกรรมการ ๒ คนคนหนึ่งคือพระยานนท์เสน อีกคนหนึ่งคือพระยานเรนทร์ราชา ที่เป็นกรรมการตัดสินที่นิยมยกย่องแพร่หลายในระหว่างนักมวยและคณะหัวหน้านักมวยทั่วไป

สำหรับการชกนั้นชกกันสลับคู่ อาทิคู่ ๑ ชกครบ ๑ ยก แล้วก็ลงจากเวทีแล้วให้คุ่ที่ ๒ ขึ้นไปชกกันเพื่อมิให้คนดูเสียเวลา ถ้ายังไม่แพ้ชนะกันก็สลับไปถึงคู่ ๓ - ๔ - ๕ จนกว่าจะสิ้นแสงตะวัน หลักเกณฑ์และกติกาเบื้องต้นอนุญาตให้ซ้ำกันได้ในเวลาล้ม นักมวยตอนนั้นจึงต้องเรียนรู้วิธีต่อสู้รอบตัวทีเดียวเพราะฟาวล์ไม่มี แม้กระทั่งกัดใบหูก็เคยปรากฏ อีกอย่างหนึ่ง สมัยนั้นนักเรียนพลศึกษามีมากอยากจะขึ้นชกเป็นการแสดงฝีมือและสอบไล่มวยไทยไปในตัวเสร็จ แต่กลัวพวกนักมวยต่างจังหวัด จึงตกลงวางหลักกติกาให้กรรมการใช้ยูยิตสูช่วยด้วย จึงเป็นของธรรมดาที่เราจะเห็นนักมวยต่างจังหวัดซึ่งไม่รู้ว่ายูยิตสูคืออะไร ถูกทุ่มถูกล็อคจนออกปากส่งเสียงร้องเอ็ดตะโรยอมแพ้ให้ไป นอกจากบางรายที่ถูกเตะเสียจนตั้งตัวไม่ติดและแพ้ไปก่อน

ประโยชน์ของมวยไทย

ผู้ที่ฝึกวิชามวยพอใช้การได้แล้วย่อมทำให้เกิดประโยชน์แก่ตน ดังนี้ (คนละส่วนกับการฝึกชกม
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
The history of Muay Thai

.Boxing began in the reign of appearing. And no book is written that it would happen in any fashion. But as I appear that Muay Thai has happened a long time and may occur simultaneously with the Thai nation.
.Boxing in the past as you know they are training among those in the military. In the past, we have to fight a battle rush, and with neighboring countries frequently. A battle in those days there was no guns to fight but one hand and swordThe people that in those days the battle with the sword's battle at hand-to-hand too sometimes คู่ต่อสู้อาจ in teeth, we easily.
.And it came to pass, when among the soldiers have trained kick kick and there was the thought that how to use the kick kick then comes arts for battle with your hands.When this for a long time. People or people have seen kicking kicking widely and often. The villagers have training Muay Thai together to set up a department of training.
so Muay Thai in those days was trained to meaning. 2. The

1. To for the fight against ข้าศึก

2.). To combat

.In those days, who has the sword and versatility the battle will be good Muay Thai. Because the time battle is rely on boxing to help.
.But when away from the war front will have a boxing for fun And wagering between great fighter from one village with a great fighter from the other assistances one to fight at the festival.Boxing in that fight with bare fists no expected rope, such as the early period In those days people who made a name sounds to countries in Muay Thai subjects most is Nai khanomtom. The use of Muay Thai fight Myanmar to 10Until to the Burmese king said
.
"people, although there is no sword. Even empty-handed also prepared around "

.Nai khanomtom is like the father of Muay Thai subjects because people known about the subject of Muay Thai, many in those days. And reputation have spoken to with the current

.In the days later boxing is also trained with training the sword and has trained and used to war and trained for combat, rain Sometimes trained to fight in the festivals.Such as the tiger 's or ขุนหลวงสรศักดิ์. Which has escaped from the palace to the punch with the villagers and win the fight. Later, people know and see that he is skilled in Muay Thai subjects in a great step in the later.Such as the king
.
.
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: