ปัญหาที่เกิดจากการอยู่ร่วมกัน จากกา

ปัญหาที่เกิดจากการอยู่ร่วมกัน
จากการสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างจำนวน 30 คน สามารถสรุปเป็นประเด็นต่างๆได้ดังนี้ ประเด็นที่หนึ่ง คุณมีวิธีแก้ปัญหาอย่างไรเมื่อรูมเมทของคุณไม่ทำความสะอาดห้อง 80% ของกลุ่มตัวอย่างเลือกวิธีเตือนหรือบอกรูทเมทขอตัวเองในเรื่องความไม่สะอาด ความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยของห้อง และอีก 20% เลือกที่จะทำเองเวลาห้องไม่สะอาดเพื่อตัดปัญหาที่เกิดจากการทะเลาะกันเมื่อเตือนรูมเมท ประเด็นที่สอง ถ้ารูมเมทของคุณพาเพื่อนต่างคณะมานอนที่ห้องหลายวันจนทำให้ค่าน้ำและค่าไฟของห้องคุณแพงขึ้น คุณจะมีวิธีการบอกเพื่อนร่วมห้องของคุณอย่างไร 90% ของกลุ่มตัวอย่างเลือกวิธีบอกหรือถามรูทเมทของตัวเองตรงๆว่ามีความจำเป็นที่มานอนห้องหรือไม่ หรือบอกให้รูทเมทไปบอกเพื่อนว่าช่วยออกค่าไฟค่าน้ำได้ไหม อีก 10% เป็นคนไม่คิดอะไรมากเลยยอมให้มานอนห้องได้เนื่องจากไม่อยากมีปัญหากับเพื่อนร่วมห้อง ประเด็นที่สาม ถ้าคุณจับได้ว่ารูมเมทของคุณเป็นคนขโมยของคุณไปคุณจะทำอย่างไร 95% ของกลุ่มตัวอย่างเลือกวิธีถามเหตุผลตรงๆ ว่ามีปัญหาอะไรหรือป่าว ทำไมถึงต้องขโมยของเพื่อนร่วมห้อง และถ้าคุยกันรู้เรื่องก็ให้อภัย แต่ถ้าการขโมยนั้นไม่มีเหตุผลก็ขอให้เขาย้ายห้อง และอีก 5% ขอให้รูทเมทคนนั้นย้ายห้อง ประเด็นที่สี่ ถ้าคุณมีรูมเมทเป็นไบโพลาร์ คุณจะมีวิธีการรับมือกับรูมเมทของคุณอย่างไร 100% ของกลุ่มตัวอย่างเลือกวิธีปรับความเข้าใจ ยอมรับในเรื่องที่เขาเป็น และอดทน คอยพูดคุยให้กำลังใจเขาเวลามีปัญหา ประเด็นสุดท้าย ถ้าให้คุณเลือกรูมเมทสองประเภท คนที่หนึ่งเป็นคนที่ไม่ชอบอาบน้ำแต่เป็นคนที่นอนเร็วและเวลานอนเขาจะไม่รบกวนคุณ ส่วนคนที่สองเป็นคนที่เจ้าระเบียบและมีกฎเกณฑ์มากมายและเรียบร้อยทุกอย่าง คุณจะเลือกรูมเมทแบบใด 60% ของกลุ่มตัวอย่างเลือกแบบที่2 เนื่องจากเป็นคนสะอาด มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย จัดการตัวเองได้ และอีก40% เลือกแบบที่1 เนื่องจากไม่มีกฎเกณฑ์มากมาย ไม่รบกวน และไม่วุ่นวายกับตัวเรามากเกินไป
สุดท้ายนี้ปัญหาที่เกิดจากการอยู่ร่วมกันของรูมเมทภายในห้องพักจะไม่เกิดขึ้นเลย ถ้าทุกคนภายในห้องเห็นใจกันและเอาใจเขามาใส่ใจเรา ให้เกียรติซึ่งกันและกัน และเคารพกฎและกติกาการอยู่ร่วมกัน ปัญหาทุกอย่างก็จะไม่เกิดขึ้นและไม่ทำให้เกิดปัญหาทะเลาะกันระหว่างเพื่อนร่วมห้องอีกด้วย

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

The problem of the coexistence จากการสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างจำนวน 30 คน สามารถสรุปเป็นประเด็นต่างๆได้ดังนี้ ประเด็นที่หนึ่ง คุณมีวิธีแก้ปัญหาอย่างไรเมื่อรูมเมทของคุณไม่ทำความสะอาดห้อง 80% ของกลุ่มตัวอย่างเลือกวิธีเตือนหรือบอกรูทเมทขอตัวเองในเรื่องความไม่สะอาด ความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยของห้อง และอีก 20% เลือกที่จะทำเองเวลาห้องไม่สะอาดเพื่อตัดปัญหาที่เกิดจากการทะเลาะกันเมื่อเตือนรูมเมท ประเด็นที่สอง ถ้ารูมเมทของคุณพาเพื่อนต่างคณะมานอนที่ห้องหลายวันจนทำให้ค่าน้ำและค่าไฟของห้องคุณแพงขึ้น คุณจะมีวิธีการบอกเพื่อนร่วมห้องของคุณอย่างไร 90% ของกลุ่มตัวอย่างเลือกวิธีบอกหรือถามรูทเมทของตัวเองตรงๆว่ามีความจำเป็นที่มานอนห้องหรือไม่ หรือบอกให้รูทเมทไปบอกเพื่อนว่าช่วยออกค่าไฟค่าน้ำได้ไหม อีก 10% เป็นคนไม่คิดอะไรมากเลยยอมให้มานอนห้องได้เนื่องจากไม่อยากมีปัญหากับเพื่อนร่วมห้อง ประเด็นที่สาม ถ้าคุณจับได้ว่ารูมเมทของคุณเป็นคนขโมยของคุณไปคุณจะทำอย่างไร 95% ของกลุ่มตัวอย่างเลือกวิธีถามเหตุผลตรงๆ ว่ามีปัญหาอะไรหรือป่าว ทำไมถึงต้องขโมยของเพื่อนร่วมห้อง และถ้าคุยกันรู้เรื่องก็ให้อภัย แต่ถ้าการขโมยนั้นไม่มีเหตุผลก็ขอให้เขาย้ายห้อง และอีก 5% ขอให้รูทเมทคนนั้นย้ายห้อง ประเด็นที่สี่ ถ้าคุณมีรูมเมทเป็นไบโพลาร์ คุณจะมีวิธีการรับมือกับรูมเมทของคุณอย่างไร 100% ของกลุ่มตัวอย่างเลือกวิธีปรับความเข้าใจ ยอมรับในเรื่องที่เขาเป็น และอดทน คอยพูดคุยให้กำลังใจเขาเวลามีปัญหา ประเด็นสุดท้าย ถ้าให้คุณเลือกรูมเมทสองประเภท คนที่หนึ่งเป็นคนที่ไม่ชอบอาบน้ำแต่เป็นคนที่นอนเร็วและเวลานอนเขาจะไม่รบกวนคุณ ส่วนคนที่สองเป็นคนที่เจ้าระเบียบและมีกฎเกณฑ์มากมายและเรียบร้อยทุกอย่าง คุณจะเลือกรูมเมทแบบใด 60% ของกลุ่มตัวอย่างเลือกแบบที่2 เนื่องจากเป็นคนสะอาด มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย จัดการตัวเองได้ และอีก40% เลือกแบบที่1 เนื่องจากไม่มีกฎเกณฑ์มากมาย ไม่รบกวน และไม่วุ่นวายกับตัวเรามากเกินไป Finally, the problem of the coexistence of the room mate within the room will not occur at all. If everyone in the room together and commiserate Sociopaths we honor each other and respect the rules and the rules of coexistence. All the problems, it will not happen and do not cause problems, the brawl between classmates too.