As someone who is very important in the history of the country, one of the United States page. He sees the value of human rights since the Universal Declaration of human rights, will shape the world of Jack. This is one thing that makes him become the world's major party until today. It also produces many effects, Wang and the American people at the time, by including ณ๊นี้ย่อม in that he is a leader in the abolition of slavery policy that no one is interested in or under such policies, will push for concrete success is truly. There are lots of people making must fall under the unfair exploitation, but when Lincoln came into this policy, and to dare to find, sound. Reverse such policies appear to result in the election, and he has been successful in the job beautifully, that shows that there are many citizens in the United States who disagree with others to slavery. Only no one dared come out to comment on this subject per the perilous public forum.ในปี ค.ศ. 1834 อับราฮัม ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐโดยอยู่ในตำแหน่ง 4 สมัยจนถึงปี 1841 และได้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มพรรคริพับลิกัน ย้อนกลับไปช่วงปี 1836 เขาได้รับใบอนุญาตประกอบอาชีพทนายความ ซึ่งมีหุ้นส่วนทางกฎหมายคือจอห์น ที สจ๊วต และได้มีงานว่าความอย่างต่อเนื่อง เบื้องหลังความสำเร็จครั้งมากจากสตีเฟ่น ที โลแกน และวิลเลี่ยม เอช เฮิร์นดอน ซึ่งเขาคือคนที่อยู่กับอับราฮัมตลอดและได้เขียนอัตชีวประวัติ ของลินคอล์นด้วย ในปี 1842 เขาหลุดพ้นจากปัญหาติดพันผู้หญิงด้วยการแต่งงานกับแมรี่ ทอดด์ และก็ได้ทำงานที่สภาครองเกรส 1 สมัย ช่วงปี 1847-1849 ในช่วงนั้นเขาได้ใช้โอกาสนี้ในการลงเลือกตั้งผู้สมัครพรรคริพับบลิกัน แต่เขาสอบตกและได้หันหลังให้กับการเมืองไป ใช่ว่าเขาจะยอมแพ้อับราฮัมกลับมาอีกครั้งในปี 1854 โดยเขานำความขัดแย้งเรื่องทาสมาเป็นประเด็นและได้ประกาศเอกราชไว้ในสุนทรพจน์ที่เมืองสปริงฟิลด์และพีโอเรีย ในปีถัดมาเขาลงสมัครวุฒิสมาชิกแต่ก็พลาดไปอีก ต่อมาในปี 1856 เขาได้เข้าพรรคริพับลิกัน และโดดเด่นขึ้นมาโดยการคัดค้านเรื่องทาสและด้วยนิสัยของเขาทำให้เขาได้รับการไว้วางใจและยอมรับจากทั้งกลุ่มก้าวหน้าผู้ต้องการเลิกทาสและกลุ่มรัฐอิสระที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด สองปีต่อมาเขาได้รับการแต่งตั้งจากพรรคฯให้เป็นตัวแทนเพื่อชิงตำแหน่งวุฒิสมาชิกในรัฐอิลลินอยส์
อับราฮัม ยังคงหาเสียงต่อไปเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 1860 แม้ว่าเขาจะพ่ายแพ้การเลือกตั้งวุฒิสมาชิกต่อดักลาสแล้วก็ตาม จนในที่สุดเขาก็ได้รับชัยชนะ แต่ก็มีฝ่ายใต้ที่ไม่เห็นด้วกับอับราฮัมจึงแยกตัวออกไป 7 รัฐ และได้ใช้ชื่อว่า The Confederates States ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 1861 อับราฮัมได้ใช้ป้อมซัมเทอร์และทำให้เกิดสงครามกลางเมืองขึ้น แม้ว่าเป้าหมายที่แท้จริงของเขาจะทำเพื่อหวังให้ประเทศเป็นหนึ่งเดียว และในช่วงที่สงครามใกล้จบลงเขาก็ได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีอีกครั้งโดยชนะ จอร์จ บี แมคเคลแลน และมีสุนทรพจน์เด็ดถึงฝ่ายใต้ที่มีมุมมองของการให้อภัยว่า “ไม่ประสงค์ร้ายใคร และด้วยกุศลจิตสำหรับทุกคน” และแล้วเขาก็ได้เห็นสงครามยุติลง แต่ก็ไม่สามารถฟื้นฟูประเทศได้เนื่องจากคืนวันที่ 14 เมษายน 1865 อับราฮัมถูกลอบยิงที่โรงละครฟอร์ด เธียเตอร์ และเสียชีวิตลงในเช้าวันต่อมา ด้วยฝีมือของนักแสดงชื่อ จอห์น วิสกี้ส์ บู้ธ แม้ว่าการเสียชีวิตของเขาจะทำให้ใครหลายคนเศ้ราเสียใจแต่ก็มีคนยกย่องเขาเป็น “ผู้เสียสละเพื่อเพื่อนมนุษย์”
การแปล กรุณารอสักครู่..