จากคอลัมภ์จี้ สธ ปฏิรูปตัวเอง โดยอา

จากคอลัมภ์จี้ สธ ปฏิรูปตัวเอง โดยอาจารย์แพทย์อาวุโสท่านหนึ่ง เกษียนอายุราชกรรไปแล้วซึ่งเป็นคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพภาพแห่งชาติ แกนนำอาวุโสชมรมแพทย์ชนบท จากคำให้สัมภาษณ์ของท่านพอสรุปได้เป็น3 ประเด็นดังนี้

1 กระทรวงสาธารณสุขและ สสจ ละเลยมาตรา 41 ตาม พรบ หลักประกันสุขภาพ ไม่มีการเรียกประชุมคณะกรรมการ เพื่อช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ผู้ได้รับผลกระทบจากการรักษาพยาบาล ต้องขอเรียนว่า

ช่วงก่อน สิ้นสุด การเป็นผู้อำนวยการสาขาจังหวัดของ สสจ คือ1 ตุลาคม 2557 นั้นหลายจังหวัดก็มีการประชุม ถ้ามีเรื่องขอรับการช่วยเหลือเข้าหลักเกณฑ์ แต่ถ้าไม่มีเรื่องร้องเรียนของผู้ได้รับผลกระทบทางการแพทย์ก็คงไม่ได้ประชุม ซึ่งแต่ละปี แต่ละจังหวัด ไม่เกิน10 เรื่องซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับปริมาณ ผู้ป้วยที่มารับการรักษาในระบบบริการของกระทรวงสาธารณสุข ในแต่ละจังหวัด ซึ่งในสามัญสำนึกแล้วทาง สสจ ไม่ละเลยแน่เพราะเรื่องร้องเรียนเหล่านี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ผู้บริหารของ สสจ ในระดับจังหวัดตระหนักดี ถึงปัญหาที่จำเป็นต้องเยียวยาเบื้องต้นเพื่อลดผลกระทบต่อบริการประชาชน ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่เริ่มมี พรบ หลักประกันสุขภาพ พศ.2544 ซึ่งก็ไม่เคยมีปัญหา การละเลยแต่อย่างใด แต่จู่ ๆ ก็ยกมาเป็นประเด็น ตีวัวกระทบคราด เพื่อเสริมแรงความขัดแย้งของ กสธ กับ สปสช ซึ่งอันที่ก็ไม่ได้มีอะไรรุนแรงยังทำงานด้วยกันได้ แต่จุดประสงค์จริง คือต้องการเตะตัดขาปลัดณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ซึ่งกลุ่มก๊วนตระกูล ส และ ชพบ กำลังไล่ล่า ให้จนตรอก ด้วยการสหบาทา ผ่านสื่อที่กลุ่มกว๊นพวกนี้มีอยู่ อย่างมากมาย ช่วยกันกระพือโหมไฟเผาบ้านตัวเอง ประเด็นปัญหาที่ สสจ เกือบทุกแห่งกังวลใจคือ เมื่อ สสจ ไม่ได้เป็น ผอ สาขาจังหวัดของ. สปสช อำนวจในการดำเนินการ เรื่อง ม 41 จะเป็นอย่างไร ซึ่งอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน. สปสช ต้องชัดเจน ไม่ใช้ปล่อยให้คนทำงานไปตายดาบหน้า. ข้อกังวลใจคือ
1. มีระเบียบรองรับ ในการให้ สสจ ดำเนินเรื่องตามมาตร 41. หรือไม่ หลัง 1 ตุลาคม ต่อนี้ไป
2. คณะกรรมการชุดเดิมระดับจังหวัดจะยังคงบทบาทเดิม หรือต้องต้ังใหม่ ใครแต่งตั้ง
3. เงินเยียวยาตามมาตรา41 จะเปิดบัญชีที่ สสจ หรือที่ เขต สปสช ขั้นตอนดำนินงาน ชัดเจนเพียงไร สำนักงบประมาณ สตง เห็นด้วยแล้วหรือ. หรือ สปสช ตัดสินใจเองได้ เขียนระเบียบ ประกาศใช้ เป็นทางการหรือไม่ หากการดำเนิงานไม่เป็นไปตามระเบียบ ใครรับผิดชอบ สสจ หรือ เขต สปสช

เอาให้ชัด อย่าอ้างประชาชน อย่างเดียว คนทำงานต้องการความชัดเจน ไม่ผิดระเบียบ สำนักงบประมาณ สตง หารือหน่วยงานดังกล่าวแล้วหรือยัง สสจ ทุกแห่งพร้อมทำงานเพื่อประชาชน ซึ่งก่อนหน้านั้น ก็ทำมาแล้ว ถึง 13 ปี ทำไมผู้ให้สัมภาษณ์ ไม่กล่าวถึงคุณความดีในข้อนี้บ้าง เข้าตำราความดีรับไว้ ความชั่วใส่ไคร้คนอื่น หรือเปล่า

2. ตั้งเขตสุขภาพเพื่อดึงงบค่าหัวบริการหลักประกันสุขภาพมาบริหารเอง. ต้องขอเรียนว่า

บริการสุขภาพ ประชาคมสาธารณสุข มีความเห็นร่วมกันว่า ควรต้องเกิดขึ้นอย่างหลึกเลี่ยงไม่ได้ สาเหตุมาจากปัญหาวิกฤตทางการเงิน ซึ่งสถานบริการ รพศ/รพท/รพช ประสบอยู่ ตั้งแต่ระดับวิกฤตทางการเงิน 1-7 จำนวน 300กว่าแห่งทั่วประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินของสถานบริการ ที่ต้องใช้จ่าย ค่าสาธารณูปโภค ค่ายาเวชภัณฑ์ วัสดุการแพทย์ วัสดุวิทยาศาสตร์การแพทย์ ครุภัณฑ์จำเป็นในการช่วยเหลือชีวิตผู้ป่วย อุปกรณ์ห้องผ่าตัด ค่าเวรแพทย์พยาบาล ค่าจ้างลูกจ้างชั่วคราว ค่าจ้างพนักงานกระทรวงสาธารณสุข ต้องอาศัยเงินบำรุงทั้งสิ้น. หลายโรงพยาบาล บริษัทยา เริ่มส่งยาล่าช้า บ้างแห่งเริ่มไม่ส่งยาอุปกรณ์การแพทย์ให้ กับ รพ คนเดือดร้อนคือประชาชนและผู้ให้บริการ. ทุกแห่งพยายามประคองตัวเองปรับลดค่าใช้จ่าย จัดซื้อยาร่วมระดับเขตระดับจังหวัด เพื่อลดค่าใช้จ่าย บางแห่งเงินเบี้ยเลี้ยงไม่ได้ ค่าเวรแพทย์พยาบาลออกล่าช้าเพื่อให้มีงบบริหารโรงพยาบาล เพื่อบริการผู้ป่วย ไปก่อน สภาพอย่างนี้เป็นมาตั้งแต่เริ่มมี พรบ หลักประกันสุขภาพ ปี 2544 เริ่มแรกไม่กระทบกับฐานะทางการเงิน รพ เท่าไร. เนื่องจากมีเงินบำรุงก้อนเดิม อยู่ เมื่อนานเข้า ภาวะขาดทุนสะสมมากเข้า เงินบำรุงซึ่งเป็นบุญเก่าเริ่มลดลง ปัญหาวิกฤตการเงินจึงพอกพูนขึ้น โดยทางกระทรวง. พยายามสะท้อนให้เห็นถึงปัญหา. การจ่ายงบค่าหัวลงสถานบริการซึ่ง จริงแล้ว ไม่สะท้อนภาพจริงๆ ของการบริการ งบขาขึ้น ที่ขอไว้กับสำนักงบ และรัฐสภา. มี่รายการ ที่ขอ ไม่เกิน10 รายการ แต่เวลาได้งบประมาณรายหัวแล้วกลับซอยงบขาลง ยิบย่อย มากกว่า20 รายการเป็นเบี้ยหัวแตก โดยเฉพาะพยายามขยายกองทุนต่างๆ ไว้บริหารเองที่ส่วนกลาง เงินที่ลงไปสถานบริการจึงลดลง ไม่เพียงพอในการบริหารงาน เงินรายหัวประชากร ทั้งหมด ถูกส่งลงสู่สถานบริการ ประมาณ 50 % ของงบรายหัวทั้งหมด ซ้ำร้ายวันดีคืนร้าย ใกล้สิ้นปีงบประมาณ เงินที่จ่ายล่วงหน้า (prepaid) กลับถูกเรียกคืนอ้างว่าทำงานไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งห่างเป้าหมายเท่าไรเรื่องอะไร บ้าง สถานบริการไม่รู้ถูกหักเงินหน้าตาเฉย เคยให้เจ้าหน้าที่งานประกันสุขภาพของโรงพยาบาลโทรไปถาม ที่ สปสช คนรับโทรศัพท์ก็ตอบไม่ได้หักเงินหัวข้ออะไร ทำไม่ต้องหัก คนแจ้งมาให้หัก ก็ไม่ได้บอกนักบัญชี โทรหลายครั้งติดต่อยากมาก คำตอบเดิมคือไม่รู้ งบรายหัวประชากรเพิ่มทุกปี ตั้งแต่ปี 2544 หัวละ1202 บาท จนปัจจุบัน หัวละ 2835 บาท ดูแลคนไทย 46 ล้านคนเป็นเงิน 1.4 แสนล้านบ้าน หักเป็นเงินเดือนข้าราชการ ประมาณ 3.6 หมื่นล้านบาท นอกนั้นจัดให้เป็นงบลงไปสู่ สถานบริการสาธารณสุขทั่วประเทศ ประมาณ50% ทั้งในรูปของงานแลกเงิน (qof) เงิน op. Ip. Pp. เงิน ip. ซึ่งเป็นglobal. Budget. ถูกจัดสรรลดลงทั้งที่จริงก้ไม่พอจัดให้กับสถานบริการ ซึ่งมีต้นทุน( unit. Cost) ชัดเจนอยู่แล้ว ถูกจัดให้จ่ายตามค่า adj. RW. ตามระดับสถานบริการ ซึ่งก็ไม่เพียงพอในแต่ละปี สรุปสถานบริการขาดทุน ควักเนื้อตัวเอง เป็นอย่างนี้มาโดยตลอด ต้องเป็นโรบินฮูนปล้นข้าราชการมาจ่าย uc. กองทุนโรค กองทุนทันตกรรม กองทุนเอดส์ และอีกหลายกองทุน เงินกองทุนแต่ละปีใช้หมดหรือไม่

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

From a column by itself reform hijacked the sot, senior lecturer of the. His retirement South intelligence which is the main health insurance Committee national image. Senior leaders of the rural physician from the clubs to interview you, your summary is 3. Following questions:1. Ministry of public health, and section neglectful sasot 41 according to the BU parent health insurance doesn't have to call a meeting of the Board of Directors. To help relieve those affected by medical treatment. Requires thatช่วงก่อน สิ้นสุด การเป็นผู้อำนวยการสาขาจังหวัดของ สสจ คือ1 ตุลาคม 2557 นั้นหลายจังหวัดก็มีการประชุม ถ้ามีเรื่องขอรับการช่วยเหลือเข้าหลักเกณฑ์ แต่ถ้าไม่มีเรื่องร้องเรียนของผู้ได้รับผลกระทบทางการแพทย์ก็คงไม่ได้ประชุม ซึ่งแต่ละปี แต่ละจังหวัด ไม่เกิน10 เรื่องซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับปริมาณ ผู้ป้วยที่มารับการรักษาในระบบบริการของกระทรวงสาธารณสุข ในแต่ละจังหวัด ซึ่งในสามัญสำนึกแล้วทาง สสจ ไม่ละเลยแน่เพราะเรื่องร้องเรียนเหล่านี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ผู้บริหารของ สสจ ในระดับจังหวัดตระหนักดี ถึงปัญหาที่จำเป็นต้องเยียวยาเบื้องต้นเพื่อลดผลกระทบต่อบริการประชาชน ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่เริ่มมี พรบ หลักประกันสุขภาพ พศ.2544 ซึ่งก็ไม่เคยมีปัญหา การละเลยแต่อย่างใด แต่จู่ ๆ ก็ยกมาเป็นประเด็น ตีวัวกระทบคราด เพื่อเสริมแรงความขัดแย้งของ กสธ กับ สปสช ซึ่งอันที่ก็ไม่ได้มีอะไรรุนแรงยังทำงานด้วยกันได้ แต่จุดประสงค์จริง คือต้องการเตะตัดขาปลัดณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ซึ่งกลุ่มก๊วนตระกูล ส และ ชพบ กำลังไล่ล่า ให้จนตรอก ด้วยการสหบาทา ผ่านสื่อที่กลุ่มกว๊นพวกนี้มีอยู่ อย่างมากมาย ช่วยกันกระพือโหมไฟเผาบ้านตัวเอง ประเด็นปัญหาที่ สสจ เกือบทุกแห่งกังวลใจคือ เมื่อ สสจ ไม่ได้เป็น ผอ สาขาจังหวัดของ. สปสช อำนวจในการดำเนินการ เรื่อง ม 41 จะเป็นอย่างไร ซึ่งอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน. สปสช ต้องชัดเจน ไม่ใช้ปล่อยให้คนทำงานไปตายดาบหน้า. ข้อกังวลใจคือ1. There are regulations in accordance to tale sasot, 41. Back to October 1.2. the original Provincial Committee will continue the original role or want linkage new. Who to appoint,3. the monetary remedies under section 41 to open an account or a procedural Tcl Thailand sasot black well clear just how Nicklaus Office budget. Stratton d or sympathize with, or Tcl Thailand decided himself had written regulations apply or not. If the move is according to the regulations. Who is responsible or sasot Tcl Thailand?Do not remove the references, only citizens. Working people need clarity. Not wrong, Bureau of the budget mess. Stratton d discuss such departments or working anywhere to sasot citizens, which the previous 13 years, it's already done, why the interviewee. Not to mention that in this text? Into the textbooks of good. Evil put khrai others2. set the zone to retrieve the head budget health services primary health insurance service Division. Requires thatบริการสุขภาพ ประชาคมสาธารณสุข มีความเห็นร่วมกันว่า ควรต้องเกิดขึ้นอย่างหลึกเลี่ยงไม่ได้ สาเหตุมาจากปัญหาวิกฤตทางการเงิน ซึ่งสถานบริการ รพศ/รพท/รพช ประสบอยู่ ตั้งแต่ระดับวิกฤตทางการเงิน 1-7 จำนวน 300กว่าแห่งทั่วประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินของสถานบริการ ที่ต้องใช้จ่าย ค่าสาธารณูปโภค ค่ายาเวชภัณฑ์ วัสดุการแพทย์ วัสดุวิทยาศาสตร์การแพทย์ ครุภัณฑ์จำเป็นในการช่วยเหลือชีวิตผู้ป่วย อุปกรณ์ห้องผ่าตัด ค่าเวรแพทย์พยาบาล ค่าจ้างลูกจ้างชั่วคราว ค่าจ้างพนักงานกระทรวงสาธารณสุข ต้องอาศัยเงินบำรุงทั้งสิ้น. หลายโรงพยาบาล บริษัทยา เริ่มส่งยาล่าช้า บ้างแห่งเริ่มไม่ส่งยาอุปกรณ์การแพทย์ให้ กับ รพ คนเดือดร้อนคือประชาชนและผู้ให้บริการ. ทุกแห่งพยายามประคองตัวเองปรับลดค่าใช้จ่าย จัดซื้อยาร่วมระดับเขตระดับจังหวัด เพื่อลดค่าใช้จ่าย บางแห่งเงินเบี้ยเลี้ยงไม่ได้ ค่าเวรแพทย์พยาบาลออกล่าช้าเพื่อให้มีงบบริหารโรงพยาบาล เพื่อบริการผู้ป่วย ไปก่อน สภาพอย่างนี้เป็นมาตั้งแต่เริ่มมี พรบ หลักประกันสุขภาพ ปี 2544 เริ่มแรกไม่กระทบกับฐานะทางการเงิน รพ เท่าไร. เนื่องจากมีเงินบำรุงก้อนเดิม อยู่ เมื่อนานเข้า ภาวะขาดทุนสะสมมากเข้า เงินบำรุงซึ่งเป็นบุญเก่าเริ่มลดลง ปัญหาวิกฤตการเงินจึงพอกพูนขึ้น โดยทางกระทรวง. พยายามสะท้อนให้เห็นถึงปัญหา. การจ่ายงบค่าหัวลงสถานบริการซึ่ง จริงแล้ว ไม่สะท้อนภาพจริงๆ ของการบริการ งบขาขึ้น ที่ขอไว้กับสำนักงบ และรัฐสภา. มี่รายการ ที่ขอ ไม่เกิน10 รายการ แต่เวลาได้งบประมาณรายหัวแล้วกลับซอยงบขาลง ยิบย่อย มากกว่า20 รายการเป็นเบี้ยหัวแตก โดยเฉพาะพยายามขยายกองทุนต่างๆ ไว้บริหารเองที่ส่วนกลาง เงินที่ลงไปสถานบริการจึงลดลง ไม่เพียงพอในการบริหารงาน เงินรายหัวประชากร ทั้งหมด ถูกส่งลงสู่สถานบริการ ประมาณ 50 % ของงบรายหัวทั้งหมด ซ้ำร้ายวันดีคืนร้าย ใกล้สิ้นปีงบประมาณ เงินที่จ่ายล่วงหน้า (prepaid) กลับถูกเรียกคืนอ้างว่าทำงานไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งห่างเป้าหมายเท่าไรเรื่องอะไร บ้าง สถานบริการไม่รู้ถูกหักเงินหน้าตาเฉย เคยให้เจ้าหน้าที่งานประกันสุขภาพของโรงพยาบาลโทรไปถาม ที่ สปสช คนรับโทรศัพท์ก็ตอบไม่ได้หักเงินหัวข้ออะไร ทำไม่ต้องหัก คนแจ้งมาให้หัก ก็ไม่ได้บอกนักบัญชี โทรหลายครั้งติดต่อยากมาก คำตอบเดิมคือไม่รู้ งบรายหัวประชากรเพิ่มทุกปี ตั้งแต่ปี 2544 หัวละ1202 บาท จนปัจจุบัน หัวละ 2835 บาท ดูแลคนไทย 46 ล้านคนเป็นเงิน 1.4 แสนล้านบ้าน หักเป็นเงินเดือนข้าราชการ ประมาณ 3.6 หมื่นล้านบาท นอกนั้นจัดให้เป็นงบลงไปสู่ สถานบริการสาธารณสุขทั่วประเทศ ประมาณ50% ทั้งในรูปของงานแลกเงิน (qof) เงิน op. Ip. Pp. เงิน ip. ซึ่งเป็นglobal. Budget. ถูกจัดสรรลดลงทั้งที่จริงก้ไม่พอจัดให้กับสถานบริการ ซึ่งมีต้นทุน( unit. Cost) ชัดเจนอยู่แล้ว ถูกจัดให้จ่ายตามค่า adj. RW. ตามระดับสถานบริการ ซึ่งก็ไม่เพียงพอในแต่ละปี สรุปสถานบริการขาดทุน ควักเนื้อตัวเอง เป็นอย่างนี้มาโดยตลอด ต้องเป็นโรบินฮูนปล้นข้าราชการมาจ่าย uc. กองทุนโรค กองทุนทันตกรรม กองทุนเอดส์ และอีกหลายกองทุน เงินกองทุนแต่ละปีใช้หมดหรือไม่

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

From the column pendant, BT, reforming themselves by medical teachers of senior one. Retirement of director now, which is the universal health national image. Senior leaders club doctors in rural areas. From your interviewed indicated a 3 issues as follows.1 Ministry of public health and สสจ neglect section 41 according to bill, health insurance, no meeting committee. To assist the relief vacationer affected by the medical care, need to learn.The first end, is the director of provincial branches of สสจ is 1 October 2557 that many provinces have a meeting. If things get rescued the main criteria. But if there is a complaint of the medical impact would not meeting each year, each province, no more than 10 about which very little compared to volume. ผู้ป with the Ministry of public health service system in each province, which in common sense. สสจ. Don"t neglect it because these complaints is delicate. Vacationer board of สสจ in provincial level realize. To treat the basic problems that must be to reduce the impact on public service The coming from the start was Bill, health insurance (1976-1983 2544 which was never trouble neglect. But surprisingly was quoted as the point. Hit cow collide with a rake to reinforcement of กสธ conflict with the nhso, which one is not what"s worse still work together, but the purpose. Is want to kick the leg cut permanent campaign United methanol to the gang the SOC and ชพบ chasing down to stalled with a rash on the skin, through media group more it these are available. So much to fan fuelled the fires burned his house down. Issues. สสจ almost universally worried is when สสจ is not the director branch, province of. In the district. นวจ nhso on M 41 are located in the transition. The nhso, clarity, not let people ไปตายดาบหน้า.? Concerns.1. Organized support for providing สสจ introducing followed. 41.? after 1 October. From now on.2. The original set of province level will remain the same role or to be appointed who are new.3..