นโยบายสวัสดิการสังคมของสิงคโปร์สิงค

นโยบายสวัสดิการสังคมของสิงคโปร์
สิงคโปร์ให้ความสำคัญกับการพึ่งพาตนเอง (self-reliance) จึงมีการจัดตั้งระบบกองทุน Central Provident Fund (CPF)
ระบบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพกลาง

สิงคโปร์ให้ความสำคัญกับการพึ่งพาตนเอง (self-reliance) จึงมีการจัดตั้งระบบกองทุน Central Provident Fund (CPF) เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2498 เพื่อบังคับการสะสมเงินออมไว้ใช้หลังเกษียณ โดยทุกเดือนลูกจ้าง[1]และนายจ้างจะสมทบเงินเข้ากองทุนของลูกจ้างในอัตราร้อยละ 20 สำหรับนายจ้าง และร้อยละ 10 สำหรับลูกจ้าง ปัจจุบันการคำนวณเงินสมทบขึ้นอยู่กับอายุของลูกจ้าง ลักษณะของการทำงาน และลักษณะประเภทของบัญชี CPF[2]

ต่อมา กองทุน CPF ได้พัฒนาเป็นระบบประกันสังคมเต็มรูปแบบ มีการเพิ่มบริการต่าง ๆ ให้แก่สมาชิกในกองทุนฯ โดยสมาชิกในกองทุนฯ สามารถนำเงินสะสม CPF มาใช้ในโครงการต่าง ๆ อาทิ

การรักษาพยาบาล (Healthcare) โดยรัฐบาลจัดตั้งบัญชี Medisave เมื่อปี 2527เพื่อให้สมาชิกกองทุนฯ สะสมเงินเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลของตนเองและสมาชิกครอบครัว และในปี 2533 รัฐบาลเริ่มระบบประกันค่ารักษาพยาบาล Medishield เพื่อประกันค่ารักษาพยาบาลสำหรับโรคที่ต้องรักษาเป็นเวลานานและมีความร้ายแรง โดยสมาชิกสามารถนำเงินในบัญชี Medisave มาชำระค่าเบี้ยประกันของโครงการ MediShield หรือของบริษัทประกันเอกชน
การเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัย (Home Ownership) รัฐบาลสิงคโปร์ให้ความสำคัญกับนโยบาย “Housing Policy” ที่เน้นให้ประชาชนสามารถเป็นเจ้าของบ้าน/ที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยรัฐบาลจะให้เงินอุดหนุนประชาชนในการซื้อบ้านเคหะของรัฐบาล (Housing Development Board - HDB) ในราคาถูก และในอนาคตห้องพักดังกล่าวอาจมีราคาสูงขึ้น ถือเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับการลงทุนของประชาชนและเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง
ค่าเล่าเรียนบุตร (Education Scheme) สมาชิกสามารถนำเงินสะสม CPF มาชำระค่าเล่าเรียนบุตร (full-time tertiary education) ได้อีกทางหนึ่ง
การเพิ่มสินทรัพย์ (Asset Enhancement) สมาชิกสามารถนำเงินสะสม CPF ไปซื้อหุ้นรัฐบาลและหุ้นอื่น ๆ ในตลาดหลักทรัพย์
นอกจากเรื่องการจัดตั้งกองทุนฯ สิงคโปร์ยังให้ความสำคัญเรื่องสวัสดิการทางด้านการศึกษา โดยรัฐบาลให้การอุดหนุนค่าเล่าเรียนในโรงเรียนรัฐบาลจำนวนมาก (ค่าเล่าเรียนในสิงคโปร์ ประมาณ 13-60 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อเดือน) ทำให้ค่าเล่าเรียนมีราคาถูก นอกจากนี้กระทรวงศึกษาธิการยังให้ความช่วยเหลือทางการเงินด้านการศึกษาต่อครอบครัวที่รายได้น้อยกว่า 1,500 หรือ 1,800 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อเดือน



2. การดูแลผู้สูงอายุ

ประเด็นเรื่องผู้สูงอายุเป็นประเด็นที่สิงคโปร์ให้ความสำคัญ เนื่องจากสิงคโปร์มีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นทุกปี คาดกันว่า ภายในปี 2573 ประชากร 1 ใน 5 จะมีอายุมากกว่า 65 ปี สิงคโปร์มีการจัดตั้ง Ministry of Community Development, Youth and Sports (MCYS) ซึ่งทำงานร่วมกับกระทรวงที่เกี่ยวข้องในการดูแลผู้สูงอายุในด้านต่าง ๆ รวมทั้งมีการจัดตั้ง Ministerial Committee on Ageing เมื่อเดือน มี.ค. 2550 โดยมีนาย Lim Boon Heng รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมและหาแนวทางช่วยเหลือให้กับประชาชนในสังคมผู้สูงอายุ ภายใต้คำขวัญ “Successful Ageing for Singapore” มีแนวนโยบายดังนี้

ส่งเสริมการจ้างงานและความมั่นคงทางด้านการเงิน (Enhance employability and financial security)
ให้การดูแลสุขภาพและการดูแลผู้สูงอายุแบบองค์รวมในราคาย่อมเยา (provide holistic and affordable healthcare and eldercare) โดยเน้นให้ผู้สูงอายุและผู้ดูแลผู้สูงอายุสามารถเข้าถึงบริการด้านสุขภาพที่มีคุณภาพ ราคาประหยัด และตรงกับความต้องการของแต่ละบุคคล
ช่วยเหลือผู้สูงอายุในสังคม (Enable ageing–in-place) ให้ความสะดวกแก่ผู้สูงอายุในอาคาร สถานที่สาธารณะ และในระบบขนส่งมวลชน และสนับสนุนให้ผู้สูงอายุมีส่วนร่วมในกิจกรรม ต่าง ๆ ในสังคม
ส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีอายุยืน (Promote active ageing) โดยการสนับสนุนให้ผู้สูงอายุมีร่างกายและจิตใจที่แข็งแรงเพื่อให้อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข การบริการผู้สูงอายุในสิงคโปร์แบ่งเป็น (1) การดูแลระยะกลาง ได้แก่ การรักษาตามอาการที่โรงพยาบาลชุมชน และศูนย์ดูแลผู้สูงอายุแบบเช้าไปเย็นกลับ (2) การดูแลระยะยาว ได้แก่ บ้านพักคนชรา การบริหารด้านการแพทย์ พยาบาล และการฟื้นฟูผู้สูงอายุที่บ้าน และสถานที่ดูแลผู้สูงอายุระยะสุดท้าย (hospice) เป็นต้น
รัฐบาลได้ออกกฎหมายเกี่ยวกับสวัสดิการสังคม ผ่านการดูแลของหน่วยงาน ได้แก่ MCYSและคณะกรรมการกองทุน Central Provident Fund (CPF) Board เพื่อสร้างระบบให้บุคคลในครอบครัวมีหน้าที่ดูแลเลี้ยงดูพ่อแม่ในยามชรา และหากไม่เลี้ยงดู พ่อแม่สามารถฟ้องร้องเรียกค่าเลี้ยงดูจากบุตรของตนได้ รวมทั้งให้ความสำคัญกับองค์กรชุมชนท้องถิ่น เพื่อเป็นกลไกในการดูแลประชาชนที่ประสบความลำบาก เพื่อลดภาระให้กับรัฐบาล



3. การสนับสนุนทางการเงินเพื่อการพัฒนาเด็ก

เนื่องจากผู้สูงอายุมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อีกทั้งคนสิงคโปร์มีอัตราการแต่งงานและ

การเกิดค่อนข้างต่ำ โดยอัตราการเกิดอยู่ที่ประมาณร้อยละ 1.2 จากสถิติในปี 2551 -2552 ดังนั้นรัฐบาลสิงคโปร์จึงส่งเสริมการมีคู่และเพิ่มจำนวนประชากร โดยหน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้แก่ MCYS ทุก ๆ ปี นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์จะกล่าวย้ำถึงความสำคัญของการเพิ่มจำนวนประชากรในถ้อยแถลงวันชาติ (National Day Rally)

รัฐบาลสิงคโปร์มีนโยบาย/มาตราการเพื่อส่งเสริมการแต่งงานและการมีบุตรอย่างต่อเนื่อง ดังนี้

รัฐบาลได้ปรับปรุงแผนการสนับสนุนทางการเงินเพื่อการพัฒนาเด็ก (Baby Bonus) ประกาศใช้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2544 และได้ปรับปรุงอย่างต่อเนื่องทุก 3-4 ปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้ชาวสิงคโปร์มีบุตร โดยรัฐจะช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินให้แก่บิดามารดา แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่
เงินสด (cash gift) สำหรับการคลอดบุตรคนที่ 1 และ 2 จำนวน 4,000 ดอลลาร์สิงคโ

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

Singapore's social welfare policy.Singapore, with self-reliance (self-reliance), has established a Central Provident Fund System Fund (CPF).Chipklang Provident Fund System.Singapore, with self-reliance (self-reliance), has established a Central Provident Fund System Fund (CPF) savings 2498 Jul. 1 to enforce the retirement savings are used by every month, employees and the employer [1] contribution to employee's Fund at a rate of 20 percent and 10 percent for employers, for employees. The current contribution calculation, depending on the age of the employee. The nature of work and the characteristics of the CPF account type [2]. Subsequently, Fund the social security system, the CPF has evolved into a full service is added, offers membership in the Fund by Fund members can bring the CPF contributions to be used in various projects.Medical treatment (Healthcare), established by the Government last year to Medisave account members, 2527 (1984) Fund money as the costs of medical treatment for themselves and family members, and in recent years the Government insurance system start 2533 medical expenses medical expenses insurance for Medishield to diseases that must be maintained for a long time and are serious. Members can bring money in Medisave Accounts, payment of insurance premiums of insurance companies or private MediShield project.Ownership of housing (Home Ownership) Singapore Government gives priority to the "Housing Policy" that highlight to the public can be the owner of the home/residential as your own. By the Government to provide subsidies to people buying a house the Government's Housing Authority (Housing Development Board-HDB) in cheap hotel rooms and, in the future, they may have higher prices is considered to add value to the investment public and encourage citizens with their own habitat.Tuition (Education Scheme) the cumulative amount Member CPF payment tuition (full-time tertiary education).Add assets (Asset Enhancement) contributions to CPF members can apply to buy shares in Government and other securities market.In addition, subject to the establishment of the Fund, the Singapore education welfare, Government contributions in many government schools, the tuition fee (tuition in Singapore Singapore dollars about 13-60 per month), tuition is cheap. In addition, the Ministry of education also provides financial assistance to study the family income less than 1500 or 1800 Singapore dollar per month. 2. take care of the elderly.Elderly issues Singapore issues, is important because Singapore has a number of older people increases every year. Expected within the year 1 in 5 will have a population of 2573 aged more than 65 years, Singapore has set up Ministry of Community Development, Youth and Sports (MCYS), which works with the ministries involved in the care of the elderly in various aspects, including the Ministerial Committee on Ageing established last month by Mr. Lim Boon 2550 Mar Heng Minister of Prime Minister's Office as the Chairman of the annual. The objective is to prepare and help to the public, the elderly in society. Under the motto "Successful Ageing for Singapore," the policy is as follows:ส่งเสริมการจ้างงานและความมั่นคงทางด้านการเงิน (Enhance employability and financial security)ให้การดูแลสุขภาพและการดูแลผู้สูงอายุแบบองค์รวมในราคาย่อมเยา (provide holistic and affordable healthcare and eldercare) โดยเน้นให้ผู้สูงอายุและผู้ดูแลผู้สูงอายุสามารถเข้าถึงบริการด้านสุขภาพที่มีคุณภาพ ราคาประหยัด และตรงกับความต้องการของแต่ละบุคคลช่วยเหลือผู้สูงอายุในสังคม (Enable ageing–in-place) ให้ความสะดวกแก่ผู้สูงอายุในอาคาร สถานที่สาธารณะ และในระบบขนส่งมวลชน และสนับสนุนให้ผู้สูงอายุมีส่วนร่วมในกิจกรรม ต่าง ๆ ในสังคมส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีอายุยืน (Promote active ageing) โดยการสนับสนุนให้ผู้สูงอายุมีร่างกายและจิตใจที่แข็งแรงเพื่อให้อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข การบริการผู้สูงอายุในสิงคโปร์แบ่งเป็น (1) การดูแลระยะกลาง ได้แก่ การรักษาตามอาการที่โรงพยาบาลชุมชน และศูนย์ดูแลผู้สูงอายุแบบเช้าไปเย็นกลับ (2) การดูแลระยะยาว ได้แก่ บ้านพักคนชรา การบริหารด้านการแพทย์ พยาบาล และการฟื้นฟูผู้สูงอายุที่บ้าน และสถานที่ดูแลผู้สูงอายุระยะสุดท้าย (hospice) เป็นต้นรัฐบาลได้ออกกฎหมายเกี่ยวกับสวัสดิการสังคม ผ่านการดูแลของหน่วยงาน ได้แก่ MCYSและคณะกรรมการกองทุน Central Provident Fund (CPF) Board เพื่อสร้างระบบให้บุคคลในครอบครัวมีหน้าที่ดูแลเลี้ยงดูพ่อแม่ในยามชรา และหากไม่เลี้ยงดู พ่อแม่สามารถฟ้องร้องเรียกค่าเลี้ยงดูจากบุตรของตนได้ รวมทั้งให้ความสำคัญกับองค์กรชุมชนท้องถิ่น เพื่อเป็นกลไกในการดูแลประชาชนที่ประสบความลำบาก เพื่อลดภาระให้กับรัฐบาล 3. การสนับสนุนทางการเงินเพื่อการพัฒนาเด็กเนื่องจากผู้สูงอายุมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อีกทั้งคนสิงคโปร์มีอัตราการแต่งงานและ การเกิดค่อนข้างต่ำ โดยอัตราการเกิดอยู่ที่ประมาณร้อยละ 1.2 จากสถิติในปี 2551 -2552 ดังนั้นรัฐบาลสิงคโปร์จึงส่งเสริมการมีคู่และเพิ่มจำนวนประชากร โดยหน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้แก่ MCYS ทุก ๆ ปี นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์จะกล่าวย้ำถึงความสำคัญของการเพิ่มจำนวนประชากรในถ้อยแถลงวันชาติ (National Day Rally)รัฐบาลสิงคโปร์มีนโยบาย/มาตราการเพื่อส่งเสริมการแต่งงานและการมีบุตรอย่างต่อเนื่อง ดังนี้รัฐบาลได้ปรับปรุงแผนการสนับสนุนทางการเงินเพื่อการพัฒนาเด็ก (Baby Bonus) ประกาศใช้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2544 และได้ปรับปรุงอย่างต่อเนื่องทุก 3-4 ปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้ชาวสิงคโปร์มีบุตร โดยรัฐจะช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินให้แก่บิดามารดา แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่เงินสด (cash gift) สำหรับการคลอดบุตรคนที่ 1 และ 2 จำนวน 4,000 ดอลลาร์สิงคโ

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

Social welfare policy of Singapore.Singapore focus on self-reliance (self-reliance) have established fund system Central Provident Fund (CPF).Central provident fund systemSingapore focus on self-reliance (self-reliance) have established fund system Central Provident Fund (CPF) on that day 1 Jul 2498 to force the accumulated savings for retirement. By every month [] and the employer employee 1 will be contributed money to fund of employees at the rate of 20 for employers, and the percentage 10 for employees. The calculation of contribution depending on the age of the employee, style of work and the type of account 2 CPF [].Later, the fund CPF has developed into a full social security system, with the addition of various services to members of the fund by the members of the fund. The amount CPF used in various projects such asThe medical treatment (Healthcare) by the government accounting Medisave when years 2527 members to the fund. Accumulate money is the medical expenses of self and family members, and in 2533 government medical insurance, Medishield boots To insure the medical treatment for diseases to keep for a long time and have serious repercussions. The members can take the money in the account Medisave to pay insurance premiums of the project MediShield or of the company ประกันเอกชน.Owned housing (Home Ownership) the Singapore government to focus on policy. "Housing Policy" focusing on people can own a house / house of their own. The government will give subsidies people in buying house housing of government (Housing Development Board - HDB) in a cheap and future such rooms may be higher. Is adding value to the investment of the people and to promote to the public housing as their own.School fees of children (Education Scheme) members can take delivery CPF to pay tuition children (full-time tertiary education) discount.Adding assets (Asset Enhancement) members can take the amount CPF to buy the stock, government and other stocks in the stock market.In addition to the establishment of the fund. Singapore also focus on the welfare in education. By government patronage tuition in public schools (the number.