ดือนวาด พิมวนา เป็นนามปากกาของ พิมใจ จูกลิ่น นักเขียนสตรีจากภาคตะวันออ การแปล - ดือนวาด พิมวนา เป็นนามปากกาของ พิมใจ จูกลิ่น นักเขียนสตรีจากภาคตะวันออ อังกฤษ วิธีการพูด

ดือนวาด พิมวนา เป็นนามปากกาของ พิมใ

ดือนวาด พิมวนา เป็นนามปากกาของ พิมใจ จูกลิ่น นักเขียนสตรีจากภาคตะวันออก เกิดเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2512 ในครอบครัวชาวไร่ จบการศึกษาจากวิทยาลัยอาชีวศึกษาจังหวัดชลบุรี ทำงานหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนลาออกมาเขียนหนังสืออย่างจริงจัง ผลงานเรื่องสั้นเรื่องแรก "สายลมที่พัดผ่านสวนร้าง" ตีพิมพ์ในนิตยสารแพรว เมื่อปี 2532 เรื่องสั้นของเธอสามเรื่องได้แก่ "รอยภาพ" (2535) ได้ประดับช่อการะเกด เรื่องสั้น "ผู้บรรลุ” (2536) ได้ประดับช่อการะเกด โดยควบรางวัลเรื่องสั้นช่อการะเกดยอดเยี่ยมและรางวัลช่อการะเกดยอดนิยม นับเป็นนักเขียนหญิงคนแรกที่ได้รับการประดับช่อสองหน และได้รับรางวัลยอดเยี่ยมและยอดนิยมสองรางวัลในเรื่องสั้นเรื่องเดียวกัน ผลงานรวมเรื่องสั้นเรื่องแรกคือ "หนังสือเล่มสอง" ตีพิมพ์เมื่อปี 2539 และเป็นหนึ่งในเจ็ดเล่มสุดท้ายในการประกวดรางวัลซีไรต์ ก่อนที่จะมาคว้ารางวัลซีไรต์ประจำปี 2546 ได้สำเร็จ จากนวนิยาย “ช่างสำราญ” ปัจจุบันเธอปักหลักเขียนหนังสืออยู่ที่บ้านเกิดและผลิตผลงานออกมาอย่างต่อเนื่อง

อะไรที่ทำให้คุณเริ่มเป็นนักเขียน และอะไรที่ทำให้คุณยังเป็นนักเขียน
เริ่มต้นจริงๆ น่าจะเป็นเพราะได้เจอพี่ประกาย (ประกาย ปรัชญา) ตอนไปทำหนังสือพิมพ์อยู่ช่วงหนึ่ง พี่ประกายคงเห็นอะไรในตัวเราสักอย่างและเกิดเชื่อว่าเราน่าจะทำงานเขียนได้ ก็ขอร้องให้เขียน ขณะที่เราเองยังอิดออดเพราะไม่เชื่อว่าตัวเองจะทำได้ เราแค่ชอบอ่านหนังสือ แต่ถึงกับเขียนให้คนอื่นอ่านดูไม่น่าเป็นไปได้ ช่วงนั้นมีเล่นตัวประมาณว่า จะไม่เขียนจนกว่าจะมีนามปากกาสวยๆ ทำเป็นเล่นตัวแต่ใจจริงก็อยาก เป็นเพราะความไม่เชื่อมั่นมากกว่า พอกลับบ้านอยู่คนเดียวก็เขียนเป็นบ้าเป็นหลัง ส่งไปให้สตรีสารพิจารณาสัปดาห์ละหนึ่งเรื่อง พอได้ลงตีพิมพ์ก็ทำให้มั่นใจขึ้นมาบ้าง พี่ประกายก็ขวนขวายหาหนังสือดีๆ มาให้อ่าน เราได้เรียนรู้ไปพร้อมๆ กันสองทาง คืออ่านวรรณกรรมเพื่อเรียนรู้การเขียน และอ่านงานที่ฝึกให้เราใช้กระบวนการทางความคิดเพื่อทำความเข้าใจทั้งกับตัวเราเองและคนอื่น การได้จัดการกับความคิดของตัวเองในช่วงนั้นสำคัญมาก เพราะทำให้เกิดเหตุผลที่หนักแน่นยิ่งขึ้นว่า เราคงมีชีวิตแบบอื่นไม่ได้เสียแล้ว นอกจากมีชีวิตแบบนักเขียน ซึ่งโชคดีมากที่นิตยสารหลายเล่มต้อนรับงานของเราดีพอสมควร ก็ทำให้ต่อเนื่องมาได้เรื่อยๆ แต่เบื้องลึกก็คือจนถึงเดี๋ยวนี้เราก็ยังชั่งน้ำหนักไม่ได้เสียทีเดียวว่า ที่เรามาทำงานเขียนอยู่ทุกวันนี้เพราะความอยากเป็นนักเขียนจริงๆ หรือเพราะเราไม่อยากไปมีชีวิตในรูปแบบอื่นๆ มากกว่า ในความอยากเป็นนักเขียนนั้นเรามักสะกิดตัวเองอยู่เรื่อยๆ ว่าถ้าเขียนแล้วไม่มีคนพิมพ์ ไม่มีคนอ่าน ก็จะไม่ดื้อดึงเขียนต่อไป แต่ความไม่อยากไปมีชีวิตในรูปแบบอื่นนี้อาจทำให้เราดื้อดึงที่จะเขียนหนังสือไปจนตายก็เป็นได้

คุณลักษณะของ “นักเขียน” และ “ต้นแบบ” ในการเขียนหนังสือ
เรามักคาดหวังตั้งเกณฑ์กันไว้อย่างสวยงาม แต่ไม่ค่อยเป็นอย่างที่คิดหรอก ส่วนใหญ่เราไม่ค่อยสนใจตัวนักเขียน จะดูเฉพาะงานเขียนเท่านั้น คือตราบใดที่คนคนหนึ่งยังไม่ลงมือเขียน มีคุณลักษณะดีพร้อมไปก็เท่านั้น ไม่แน่ว่าจะเขียนได้ดี เราเชื่อว่าจนถึงที่สุดแล้วถ้าจะมองหาคุณสมบัติของนักเขียนคงต้องดูกันที่งานเขียนเท่านั้น เนื้องานนั้นถือเป็นการแสดงตัวและเป็นคำสารภาพของผู้เขียนอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง ว่าเขามีต้นทุนทางความคิดหรือไม่ มีความใส่ใจและละเอียดอ่อนหรือไม่ มีความอุตสาหะอย่างต่อเนื่องยาวนานพอหรือไม่ หรือเขามีลักษณะเฉพาะสูง หรือเขาชอบลอกเลียน เขาใส่ใจถี่ถ้วนหรือค่อนข้างหยาบ สรุปว่าถ้าเนื้องานดี ไม่ว่าจะดีในด้านใด มันก็คือคุณลักษณะที่ดีของผู้เขียนนั่นเอง ซึ่งอาจแตกต่างกันไปหลายมุมหลายด้าน แต่เนื่องเราเป็นคนชอบแยกแยะระหว่างนักเขียนกับงานเขียน ต้นแบบการทำงานอย่างจริงจังจึงไม่มี แม้มีงานเขียนที่รู้สึกชื่นชมนับถืออยู่มาก แต่การเขียนถือเป็นความสัมพันธ์อันโดดเดี่ยวระหว่างเรากับเนื้องาน น่าจะดีกว่าถ้าเราจะขอเดินในแบบของเราเอง

หลักในการทำงาน
ไม่ค่อยชัดเจนตายตัวนัก แต่เราเป็นคนติดละเอียด ขี้ระวังขี้ระแวง คิดมากกับทุกเรื่องทุกประเด็น สิ่งที่ง่ายสำหรับเราก็คือการแตกแขนงต่อยอดจากประเด็นนี้ไปสู่ประเด็นนั้น เลี้ยวไปประเด็นโน้น พออยู่กับงานแล้วความคิดมันจะเลื้อยไปเรื่อย ปัญหาจึงอยู่ที่ต้องคุมให้ได้ เพราะถ้าเผลอมันจะมากไปอยู่เรื่อย ก็ตั้งใจและมีสมาธิให้มาก เมื่อต้องนั่งเขียนเราต้องอยู่กับมัน เมื่อต้องลุกไปไหนความคิดก็อุ้มเอางานไปด้วย มันเหมือนเราเบลอๆ เหมือนค้างคาคิดไม่ออก แต่จริงๆ ความคิดกำลังทำงานอยู่ มันคงเลื้อยอยู่ตลอดเวลาในหัวของเรา พอถึงเวลาเหมาะๆ มันก็ออกดอก แล้วเราก็คิดออก ตอนที่ทำงานเป็นแบบนี้แหละ

ในความเป็นนักเขียน อะไรสำคัญกว่ากัน ระหว่าง “พรสวรรค์” กับ “พรแสวง”
สำหรับการสร้างเนื้องานนั้นพรสวรรค์ดีกว่า มันคล้ายกับเป็นการจัดวางโดยธรรมชาติ ซึ่งมีความเหมาะเจาะและลงตัวมากกว่าที่มนุษย์จะจัดการได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องฝึกฝนและเรียนรู้มากนัก จู่ๆ เราก็ทำงานเขียนได้ดีและทำได้อย่างง่ายๆ เหมือนกับธรรมชาติของแม่ให้กำเนิดลูก หรือการบานของดอกไม้ แต่พรสวรรค์ไม่ดีสำหรับชีวิต เพราะคนที่มีพรสวรรค์ก็มักยึดติดกับพรสวรรค์ของตัวเอง คล้ายได้ของฟรีโดยไม่ต้องลงแรง และของฟรีมักถูกใช้อย่างไม่รู้คุณค่า คนมีพรสวรรค์จึงละทิ้งการเรียนรู้ฝึกฝน ละทิ้งความอุตสาหะพยายามซึ่งเป็นคุณสมบัติด้านบวกของชีวิต เราจึงมักเห็นศิลปินมีชื่อเสียงโด่งดังแต่ชีวิตกลับดำมืดและไร้สุข เพราะต้องอยู่กับโทษสมบัติของตัวเองตลอดชีวิต ส่วนพรแสวงนั้นไม่ว่าจะประสบผลสำเร็จในเนื้องานหรือไม่ก็ตาม ความอุตสาหะเรียนรู้ถือเป็นคุณสมบัติด้านบวกของชีวิต และหากฝึกฝนจนสำเร็จได้ก็ยิ่งดีใหญ่ อะไรที่ได้มายาก คุณค่าก็มากเป็นธรรมดา

สิ่งสำคัญที่สุดที่วรรณกรรมชิ้นหนึ่งพึงมี
ตอบยากมากว่าจะมีอะไรสำคัญกว่าอะไร นัยยะที่คมคายลึกซึ้ง ประเด็นแปลกใหม่สร้างสรรค์ ศิลปะการนำเสนอที่ชวนติดตาม มุมมองใหม่หรือภาษาที่สวยงาม ทุกอย่างเป็นองค์ประกอบและเอื้ออำนวยในกันและกัน วรรณกรรมชิ้นหนึ่งพึงมีทุกสิ่งที่ควรมี ความสำคัญจึงน่าจะอยู่ที่ความสามารถในการทำให้องค์ประกอบทุกอย่างสอดร
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
WANA is the pen name nawat due PIM PIM's mind-the smell. Women writers from the East Born March 22, 1969, when a family farmer graduated from the vocational college Chonburi. The local newspaper is the work of one phase. Before you leave out writing seriously. Work first short story, "the wind that blows through the Park is deserted," published in the magazine operates. When her three-year-2532 (1989) short story "footprints" (2535 (1992)). Cho karaket short story "reach" (2536 (1993)). Cho karaket short story award by the merger and the prize Cho Cho karaket karaket popular writers, such as the first woman to receive two bunches of jewelry.And was awarded the second prize of excellent and popular in the short story, the same story. The works include the short story, the first story is "two books" published last year, and is one of the seven books of 2539 (1996) final prize c Wright. Before joining award-winning c Wright the year 2546 (2003) succeeded from the novel "the mechanic ran" to her current main embroidery is the homeland and produces work continuously.What made you start as a writer, and what you do as a writer.เริ่มต้นจริงๆ น่าจะเป็นเพราะได้เจอพี่ประกาย (ประกาย ปรัชญา) ตอนไปทำหนังสือพิมพ์อยู่ช่วงหนึ่ง พี่ประกายคงเห็นอะไรในตัวเราสักอย่างและเกิดเชื่อว่าเราน่าจะทำงานเขียนได้ ก็ขอร้องให้เขียน ขณะที่เราเองยังอิดออดเพราะไม่เชื่อว่าตัวเองจะทำได้ เราแค่ชอบอ่านหนังสือ แต่ถึงกับเขียนให้คนอื่นอ่านดูไม่น่าเป็นไปได้ ช่วงนั้นมีเล่นตัวประมาณว่า จะไม่เขียนจนกว่าจะมีนามปากกาสวยๆ ทำเป็นเล่นตัวแต่ใจจริงก็อยาก เป็นเพราะความไม่เชื่อมั่นมากกว่า พอกลับบ้านอยู่คนเดียวก็เขียนเป็นบ้าเป็นหลัง ส่งไปให้สตรีสารพิจารณาสัปดาห์ละหนึ่งเรื่อง พอได้ลงตีพิมพ์ก็ทำให้มั่นใจขึ้นมาบ้าง พี่ประกายก็ขวนขวายหาหนังสือดีๆ มาให้อ่าน เราได้เรียนรู้ไปพร้อมๆ กันสองทาง คืออ่านวรรณกรรมเพื่อเรียนรู้การเขียน และอ่านงานที่ฝึกให้เราใช้กระบวนการทางความคิดเพื่อทำความเข้าใจทั้งกับตัวเราเองและคนอื่น การได้จัดการกับความคิดของตัวเองในช่วงนั้นสำคัญมาก เพราะทำให้เกิดเหตุผลที่หนักแน่นยิ่งขึ้นว่า เราคงมีชีวิตแบบอื่นไม่ได้เสียแล้ว นอกจากมีชีวิตแบบนักเขียน ซึ่งโชคดีมากที่นิตยสารหลายเล่มต้อนรับงานของเราดีพอสมควร ก็ทำให้ต่อเนื่องมาได้เรื่อยๆ แต่เบื้องลึกก็คือจนถึงเดี๋ยวนี้เราก็ยังชั่งน้ำหนักไม่ได้เสียทีเดียวว่า ที่เรามาทำงานเขียนอยู่ทุกวันนี้เพราะความอยากเป็นนักเขียนจริงๆ หรือเพราะเราไม่อยากไปมีชีวิตในรูปแบบอื่นๆ มากกว่า ในความอยากเป็นนักเขียนนั้นเรามักสะกิดตัวเองอยู่เรื่อยๆ ว่าถ้าเขียนแล้วไม่มีคนพิมพ์ ไม่มีคนอ่าน ก็จะไม่ดื้อดึงเขียนต่อไป แต่ความไม่อยากไปมีชีวิตในรูปแบบอื่นนี้อาจทำให้เราดื้อดึงที่จะเขียนหนังสือไปจนตายก็เป็นได้A feature of the "writers" and "masters" to write a book.เรามักคาดหวังตั้งเกณฑ์กันไว้อย่างสวยงาม แต่ไม่ค่อยเป็นอย่างที่คิดหรอก ส่วนใหญ่เราไม่ค่อยสนใจตัวนักเขียน จะดูเฉพาะงานเขียนเท่านั้น คือตราบใดที่คนคนหนึ่งยังไม่ลงมือเขียน มีคุณลักษณะดีพร้อมไปก็เท่านั้น ไม่แน่ว่าจะเขียนได้ดี เราเชื่อว่าจนถึงที่สุดแล้วถ้าจะมองหาคุณสมบัติของนักเขียนคงต้องดูกันที่งานเขียนเท่านั้น เนื้องานนั้นถือเป็นการแสดงตัวและเป็นคำสารภาพของผู้เขียนอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง ว่าเขามีต้นทุนทางความคิดหรือไม่ มีความใส่ใจและละเอียดอ่อนหรือไม่ มีความอุตสาหะอย่างต่อเนื่องยาวนานพอหรือไม่ หรือเขามีลักษณะเฉพาะสูง หรือเขาชอบลอกเลียน เขาใส่ใจถี่ถ้วนหรือค่อนข้างหยาบ สรุปว่าถ้าเนื้องานดี ไม่ว่าจะดีในด้านใด มันก็คือคุณลักษณะที่ดีของผู้เขียนนั่นเอง ซึ่งอาจแตกต่างกันไปหลายมุมหลายด้าน แต่เนื่องเราเป็นคนชอบแยกแยะระหว่างนักเขียนกับงานเขียน ต้นแบบการทำงานอย่างจริงจังจึงไม่มี แม้มีงานเขียนที่รู้สึกชื่นชมนับถืออยู่มาก แต่การเขียนถือเป็นความสัมพันธ์อันโดดเดี่ยวระหว่างเรากับเนื้องาน น่าจะดีกว่าถ้าเราจะขอเดินในแบบของเราเองThe main work.ไม่ค่อยชัดเจนตายตัวนัก แต่เราเป็นคนติดละเอียด ขี้ระวังขี้ระแวง คิดมากกับทุกเรื่องทุกประเด็น สิ่งที่ง่ายสำหรับเราก็คือการแตกแขนงต่อยอดจากประเด็นนี้ไปสู่ประเด็นนั้น เลี้ยวไปประเด็นโน้น พออยู่กับงานแล้วความคิดมันจะเลื้อยไปเรื่อย ปัญหาจึงอยู่ที่ต้องคุมให้ได้ เพราะถ้าเผลอมันจะมากไปอยู่เรื่อย ก็ตั้งใจและมีสมาธิให้มาก เมื่อต้องนั่งเขียนเราต้องอยู่กับมัน เมื่อต้องลุกไปไหนความคิดก็อุ้มเอางานไปด้วย มันเหมือนเราเบลอๆ เหมือนค้างคาคิดไม่ออก แต่จริงๆ ความคิดกำลังทำงานอยู่ มันคงเลื้อยอยู่ตลอดเวลาในหัวของเรา พอถึงเวลาเหมาะๆ มันก็ออกดอก แล้วเราก็คิดออก ตอนที่ทำงานเป็นแบบนี้แหละAs a writer, what more important than talent, "the" between "to seek blessings."สำหรับการสร้างเนื้องานนั้นพรสวรรค์ดีกว่า มันคล้ายกับเป็นการจัดวางโดยธรรมชาติ ซึ่งมีความเหมาะเจาะและลงตัวมากกว่าที่มนุษย์จะจัดการได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องฝึกฝนและเรียนรู้มากนัก จู่ๆ เราก็ทำงานเขียนได้ดีและทำได้อย่างง่ายๆ เหมือนกับธรรมชาติของแม่ให้กำเนิดลูก หรือการบานของดอกไม้ แต่พรสวรรค์ไม่ดีสำหรับชีวิต เพราะคนที่มีพรสวรรค์ก็มักยึดติดกับพรสวรรค์ของตัวเอง คล้ายได้ของฟรีโดยไม่ต้องลงแรง และของฟรีมักถูกใช้อย่างไม่รู้คุณค่า คนมีพรสวรรค์จึงละทิ้งการเรียนรู้ฝึกฝน ละทิ้งความอุตสาหะพยายามซึ่งเป็นคุณสมบัติด้านบวกของชีวิต เราจึงมักเห็นศิลปินมีชื่อเสียงโด่งดังแต่ชีวิตกลับดำมืดและไร้สุข เพราะต้องอยู่กับโทษสมบัติของตัวเองตลอดชีวิต ส่วนพรแสวงนั้นไม่ว่าจะประสบผลสำเร็จในเนื้องานหรือไม่ก็ตาม ความอุตสาหะเรียนรู้ถือเป็นคุณสมบัติด้านบวกของชีวิต และหากฝึกฝนจนสำเร็จได้ก็ยิ่งดีใหญ่ อะไรที่ได้มายาก คุณค่าก็มากเป็นธรรมดาThe most important thing that one piece of literature are.Answer very difficult that what is more important than anything. The sharp tip of spit deep words. Creative issues. Art show invite new perspectives, or tracking a beautiful language. Everything is a component and it's in. One piece of literature are all things that should be important to you is the ability to make every element in a service.
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
Wana month draw Pim Pim is the pen name of writer's mind tuning smell from the East. Born on March 22, 2512 in a peasant family. A graduate of the College of Chonburi. Working in a local newspaper Before resigned to writing seriously. The first story "Wind through the garden deserted," published in 2532 about her gleaming on the subject, including "hundreds of images" (2535) has decorated bouquet Brandyzone story "who achieved" (2536) has decorated bouquet Brandyzone. The short story bouquet fittings prizes and awards Brandyzone wonderful bouquet Brandyzone popular. This is the first female writer to be honored with a bouquet twice. And has received awards and top two awards in the same story. The first story is included. "Volume Two" published the year 2539 and is one of the seven books in the last SEA Write Award. Prior to winning the SEA year 2546 was achieved by the novel "What getaway" She is currently writing a book on homeland to settle down and work out consistently produce what made ​​you start as a writer. And what makes you a writer really started. Probably because I saw sparks (spark philosophy) at the newspaper for a while. See what sparks something in ourselves and believe that we will work written. Was asked to write While we are still reluctant to do so because they do not believe themselves. We just like to read But even wrote another reader does not look possible. It is estimated that the lineup. Will not write until it's pretty amazing. But I really wanted to make a play. Because not believe it's over. He returned home alone write seriously. Send it to women of the week, one story. Published it reassuring to some. Flashed it strives for a good book to read, we learned to simultaneously read two ways to learn to write literature. And readers who trained us to use thought processes in order to understand both ourselves and others. To deal with the idea of himself in that very important. It causes even more firmly that reason. We still have not passed, then another. In addition to a living writer Which are very fortunate to welcome our numerous magazine reasonably well. He continued indefinitely. But depth is up to now we have not weighed that much interest. We come to work every day, because the writers really wanted to be a writer. Or because we do not want to live in a format other than the desire to be a writer, I often nudged itself is passive. I wrote then that nobody reads print will not stubbornly continue to write. But I do not want to live in a different format, this may make us stubborn to writing until I die, it is not a feature of the "writer" and "master" in the book is expected to set criteria together nicely. But not as much as you think. Most of us are not interested in a writer. Only to see the works As long as one person is not writing. A nice feature with nothing. Maybe that is well written. We believe that until the end, if you look for the writer would have to look at the writings only. A job is considered a confession of the author and do not be avoided. That cost him the idea or not. Are attentive and sensitive or not. Perseverance has continued long enough or not. Or his characteristic high He likes to imitate He cares thoroughly or fairly rough That works fine if meat It is well on any side. It is a great feature of the author itself. Which may differ in many aspects. But because we like to distinguish between writers and writing. Seriously, no working prototype. Although there is much work to feel appreciated, respected. But writing is a solitary relationship between me and the material. It would be better if we would walk in our own work in a less obvious stereotype. But we are stuck profile Penny careful skeptic Thinking about all the issues Easy thing for us is branching further from this point to that point. Turning to issues Yon Enough already with the idea it would be so bittersweet. It is a problem that needs to be controlled. It is needed because it will go on indefinitely. And intends to concentrate more. We need to sit on it. To get an idea how it carries out the task. It's like we blur I have no idea inconclusive but the idea is working. It's a bittersweet time in our heads. At the time, it is flowering, and then we figured it out. When the work is like that of a writer. What's more important, the "talent" to "seek the blessings" for a job that better talent. It is similar to the arrangement by nature. Which is perfectly fitting and more people to manage on their own. Without practice and learn very suddenly, we were running well written and easily done. Like nature of the mother giving birth. Or the blossoming of flowers But talent is not good for life Because talented people are often identified with their own talents. It's like free without effort. And free is often the value unknown. Gifted people abandon learning experience. Abandon the painstaking effort, which features the positive side of life. We often see famous artists but dark and unhappy life back. I have to blame myself all the treasures of life. The Act does not seek to be successful in the job or not. Perseverance learning is a positive feature of life. If trained to accomplish it would be great. What has been difficult It's very common value is the most important piece of literature they are very difficult to answer that there is nothing more important than anything. Poetically profound implications The exotic creations Following the presentation of art that invites A new view or a beautiful language. All the elements in each other and permitting. One good piece of literature has everything it should have. Therefore, it is important that the ability to make all the elements of compliance.














การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
De Anwar. พิมวนา is a pseudonym of พิมใจ จูกลิ่น. Women writers. From Eastern was born on March 22 2512 in a farming family. Graduated from college in the province. Work in local newspapers on for a while.The first story, "the wind blows a deserted garden" in the magazine interview last year 2532 about short and her three are: "the pictures". (2535) with ช่อการะเกด short story "achieve" (2536 decked ช่อการะเกด.)The first female writers has been decorated with a bouquet of two times. And the prize for top two awards in the short stories and the same thing. The short story the first story is "the book", published two years when 2539.Before winning the annual 2546 Seawright successfully from the novel "Chang Samran." now you settle down to write a book in my hometown and produce work out consistently
.
what makes you started as a writer. And what makes you is also the writer
.Start really probably because see you shining (shiny, Philosophy) at the newspaper อยู่ช band. You will see what spark in us something and believe that we should write, asked to writeWe like to read. But to write to someone read seems unlikely. The are playing about. Don't write unless there is a beautiful pen name Play hard to get, but I want to. Because of a loss of confidence.Sent to women considering a week substance one. It published is confident. You shine it tend to find good books to read. We learn at the same time two-way is reading the literature to learn writing.To deal with their own ideas in the range is very important. Because the cause why firm increasingly. We have no other life; but live a writer.It continued to be passive. But deep down is until now we still weigh not once and for all. We write these days because the desire to be a writer.Rather than in the craving is a writer, we often provoke themselves constantly. If the write and no one print the reader would not stubborn continue writing.
the characteristics of "writers" and "master" in writing the book
.
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: