มัสยิดกลางปัตตานี มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี ตั้งอยู่ถนนยะรัง ตำบลอาเนาะ การแปล - มัสยิดกลางปัตตานี มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี ตั้งอยู่ถนนยะรัง ตำบลอาเนาะ อังกฤษ วิธีการพูด

มัสยิดกลางปัตตานี มัสยิดกลางจังหวัด

มัสยิดกลางปัตตานี
มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี ตั้งอยู่ถนนยะรัง ตำบลอาเนาะรู อำเภอเมืองปัตตานี เลขทะเบียนที่ 249 มีประวัติและความเป็นมาดังนี้
ในปีพุทธศักราช 2497 รัฐบาลได้ตระหนักถึงความสำคัญของศาสนาอิสลามว่าเป็นศาสนาที่ประชาชนชาวปัตตานีส่วนใหญ่นับถืออย่างเคร่งครัดอันจะนำมาซึ่งสันติสุข ประกอบกับในพื้นที่สี่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีประชากรนับถือศาสนาอิสลาม (มุสลิม) เป็นจำนวนมาก สมควรสร้างมัสยิดกลางที่มีขนาดใหญ่ และสวยงามขึ้นเพื่อเป็นศรีสง่าแก่ชาวไทยผู้นับถือศาสนาอิสลามทั่วประเทศตลอดจนเป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจ ของชาวไทยมุสลิม จึงได้พิจารณาพื้นที่บริเวณริมถนนหลวงสายปัตตานี-ยะลา ตำบลอาเนาะรู อำเภอเมืองปัตตานี เนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ 55 ตารางวา คณะรัฐมนตรีจึงได้อนุมัติงบประมาณสำหรับการก่อสร้างมัสยิดกลางปัตตานีขึ้น โดย ฯพณฯ พลตำรวจเอก เผ่า ศรียานนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในสมัยนั้นได้เดินทางมาวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ.2500 เวลา 10.00 น.

มัสยิดกลางแห่งนี้ใช้เวลาในการก่อสร้างและตกแต่งอย่างวิจิตรพิสดารเป็นเวลา 9 ปีกว่าจะแล้วเสร็จ ต่อมาเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2506 ฯพณฯ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรีในสมัยนั้นได้เดินทางมาประกอบพิธีเปิดอย่างเป็นทางการและมอบมัสยิดแห่งนี้ให้แก่ชาวไทยมุสลิมจังหวัดปัตตานี โดยให้ตั้งชื่อว่า “มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี”

มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานีสร้างเป็นตึกคอนกรีตเสริมเหล็กสองชั้น รูปทรงคล้ายกับ “ทัชมาฮาล” ประเทศอินเดีย ตรงกลางเป็นอาคารมียอดโดมขนาดใหญ่และมีโดมบริวาร 4 ทิศ มีหอคอยอยู่สองข้างสูงเด่นเป็นสง่า บริเวณด้านหน้ามัสยิดมีสระน้ำสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ ภายในมัสยิดมีลักษณะเป็นห้องโถง มีระเบียงสองข้าง ภายในห้องโถงมีบัลลังก์ทรงสูงและแคบเป็นที่สำหรับ “คอฏีบ” ยืนอ่านคุฏบะฮ์ในการละหมาดวันศุกร์ หอคอยสองข้างนี้เดิมใช้เป็นหอกลางสำหรับตีกลอง เป็นสัญญาณเรียกให้มุสลิมมาร่วมปฏิบัติศาสนกิจ ต่อมาใช้เป็นที่ติดตั้งลำโพง เครื่องขยายเสียงแทนเสียงกลอง ปัจจุบันขยายด้านข้างออกไปทั้ง 2 ข้าง และสร้างหอบัง (อะซาน) พร้อมขยายสระน้ำและที่อาบน้ำละหมาดให้ดูสง่างามยิ่งขึ้น ภายในมัสยิดประดับด้วยหินอ่อนอย่างสวยงาม


- เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2536 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพื่อพบปะเยี่ยมเยียนผู้นำศาสนาอิสลามและประชาชน ณ มัสยิดกลางปัตตานี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งกับ ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นายสัมพันธ์ ทองสมัคร) ให้ดำเนินการบูรณะปรับปรุงอาคารมัสยิดกลางปัตตานี
กระทรวงศึกษาธิการจึงได้กำหนดให้เป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองศิริราชสมบัติเป็นปีที่ 50 ใน พ.ศ.2539
- วันที่ 11 พฤศจิกายน 2536 ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี (นายพลากร สุวรรณรัฐ) ได้ลงนามคำสั่งจังหวัดปัตตานี ที่ 1627/2536 แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อประสานและติดตามงานต่อเติมอาคารมัสยิดกลางปัตตานี จำนวน 12 คน
- วันที่ 17 ธันวาคม 2536 เจ้าหน้าที่กรมศิลปากร ประกอบด้วย สถาปนิก และนายช่างโยธา ได้มาสำรวจอาคารมัสยิดกลางเพื่อออกแบบปรับปรุงต่อเติม
- วันที่ 22 ธันวาคม 2536 ฯพณฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายปราโมทย์ สุขุม ได้เชิญ นายอุดมศักดิ์ อัศวรางกูร รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นายสวัสดิ์ แก้วสมบูรณ์ ผู้ช่วยศึกษาธิการจังหวัดปัตตานี นายนิเดร์ วาบา ดาโต๊ะยุติธรรมประจำจังหวัดปัตตานี นายอับดุลวาฮับ อับดุลวาฮับ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี นายนิเล็ก สุไลมาน เทศมนตรีเมืองปัตตานี เพื่อร่วมประชุมวางแผนการบูรณะขยายอาคารมัสยิดกลางปัตตานี ซึ่งที่ประชุมได้มติ ดังนี้
1. บูรณะและขยายอาคารให้ยึดรูปแบบเดิม
2. ขยายและต่อเติมอาคารออกทั้ง 2 ข้าง
3. เพิ่มหออะซาน 2 หอ
4. ใช้วัสดุที่ได้มาตรฐานผลิตในประเทศไทย
- วันที่ 19 เมษายน 2537 กระทรวงศึกษาธิการได้มอบหมายให้กรมการศาสนา เป็นผู้ออกแบบและกำหนดงบประมาณ ในการบูรณะต่อเติมเป็นเงิน 35,212,000 บาท (สามสิบห้าล้านสองแสนหนึ่งหมื่นสองพันบาทถ้วน) คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติตามหนังสือที่ สร 0202/10614 ลงวันที่ 18 มีนาคม 2537 ให้กระทรวงศึกษาธิการเสนอแปรญัตติ เพื่อของบประมาณรายจ่ายประจำปี 2538 จำนวน 12 ล้านบาท และส่วนที่เหลือให้เป็นงบประมาณผูกพันในปี 2539 และปี 2540 แต่ปรากฏว่าในปีงบประมาณ 2538 ไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณแต่อย่างใด

จากการติดตามการจัดตั้งงบประมาณกระทรวงศึกษาธิการ ได้ตั้งงบประมาณในปี 2539 เป็นเงิน 30 ล้านบาท ปีงบประมาณ 2540 เป็นเงิน 5.212 ล้านบาท และจากการประสานงานทราบว่า สำนักงบประมาณได้ตั้งงบประมาณปรับปรุงสิ่งก่อสร้างเพียง 4,601,100 บาทเท่านั้น
จังหวัดได้มีหนังสือถึง ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี (นายบรรหาร ศิลปอาชา) ผู้นำฝ่ายค้าน (นายชวน หลีกภัย) ผู้แทนราษฎรจังหวัดปัตตานี (นายมุข สุไลมาน) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา) และอธิบดีกรมการศาสนา เพื่อให้การสนับสนุนในการขอแปรญัตติงบประมาณให้ได้ 30 ล้านบาทในปี 2539 เพื่อจะได้บูรณะต่อเติมมัสยิดกลางให้แล้วเสร็จสมบูรณ์
- วันที่ 14 กันยายน 2546 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ เสด็จพระราชดำเนินพระราช ทานรางวัลให้แก่ผู้ชนะเลิศการประกวดการอัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกรุอ่านแห่งประเทศไทย ณ มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี ผู้ชนะเลิศฝ่ายชาย คือ นายสุกรี บันบา ผู้แทนจากจังหวัดนครนายก รองชนะเลิศอันดับ 1 นายอาหามะ กาแว ผู้แทนจากจังหวัดกระบี่ รองชนะเลิศอันดับ 2 นายอุสมาน โต๊ะอาลี ผู้แทนจากจังหวัดยะลาและผู้ชนะเลิศฝ่ายหญิง คือ นางสาวฮาวา หมัดหมุด ผู้แทนจากจังหวัดเพชรบุรี รองชนะเลิศอันดับ 1 นางซามีฮะ ตะโล๊ะดิง ผู้แทนจากจังหวัดปัตตานี รองชนะเลิศอันดับ 2 นางมัยดีนา สว่างลิขิต ผู้แทนจากจังหวัดยะลา

มัสยิดกลางปัตตานีส่วนใหญ่จะใช้เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจ (ละหมาด) วันละ 5 เวลา เป็นกิจวัตรประจำวัน ใช้ในการละหมาดวันศุกร์ และการละหมาดในวันตรุษต่าง ๆ โดยมีชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ปัตตานี และพื้นที่อื่นทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะในวันศุกร์และวันเสาร์ จะมีการบรรยายธรรมะมีผู้เข้าฟังกา
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
Pattani central mosque Pattani central mosque Located on the road, Tambon yarang, Pattani, mueang district, adidas no hole. The registration number 249 with a history and following.ในปีพุทธศักราช 2497 รัฐบาลได้ตระหนักถึงความสำคัญของศาสนาอิสลามว่าเป็นศาสนาที่ประชาชนชาวปัตตานีส่วนใหญ่นับถืออย่างเคร่งครัดอันจะนำมาซึ่งสันติสุข ประกอบกับในพื้นที่สี่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีประชากรนับถือศาสนาอิสลาม (มุสลิม) เป็นจำนวนมาก สมควรสร้างมัสยิดกลางที่มีขนาดใหญ่ และสวยงามขึ้นเพื่อเป็นศรีสง่าแก่ชาวไทยผู้นับถือศาสนาอิสลามทั่วประเทศตลอดจนเป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจ ของชาวไทยมุสลิม จึงได้พิจารณาพื้นที่บริเวณริมถนนหลวงสายปัตตานี-ยะลา ตำบลอาเนาะรู อำเภอเมืองปัตตานี เนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ 55 ตารางวา คณะรัฐมนตรีจึงได้อนุมัติงบประมาณสำหรับการก่อสร้างมัสยิดกลางปัตตานีขึ้น โดย ฯพณฯ พลตำรวจเอก เผ่า ศรียานนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในสมัยนั้นได้เดินทางมาวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ.2500 เวลา 10.00 น. มัสยิดกลางแห่งนี้ใช้เวลาในการก่อสร้างและตกแต่งอย่างวิจิตรพิสดารเป็นเวลา 9 ปีกว่าจะแล้วเสร็จ ต่อมาเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2506 ฯพณฯ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรีในสมัยนั้นได้เดินทางมาประกอบพิธีเปิดอย่างเป็นทางการและมอบมัสยิดแห่งนี้ให้แก่ชาวไทยมุสลิมจังหวัดปัตตานี โดยให้ตั้งชื่อว่า “มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี” มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานีสร้างเป็นตึกคอนกรีตเสริมเหล็กสองชั้น รูปทรงคล้ายกับ “ทัชมาฮาล” ประเทศอินเดีย ตรงกลางเป็นอาคารมียอดโดมขนาดใหญ่และมีโดมบริวาร 4 ทิศ มีหอคอยอยู่สองข้างสูงเด่นเป็นสง่า บริเวณด้านหน้ามัสยิดมีสระน้ำสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ ภายในมัสยิดมีลักษณะเป็นห้องโถง มีระเบียงสองข้าง ภายในห้องโถงมีบัลลังก์ทรงสูงและแคบเป็นที่สำหรับ “คอฏีบ” ยืนอ่านคุฏบะฮ์ในการละหมาดวันศุกร์ หอคอยสองข้างนี้เดิมใช้เป็นหอกลางสำหรับตีกลอง เป็นสัญญาณเรียกให้มุสลิมมาร่วมปฏิบัติศาสนกิจ ต่อมาใช้เป็นที่ติดตั้งลำโพง เครื่องขยายเสียงแทนเสียงกลอง ปัจจุบันขยายด้านข้างออกไปทั้ง 2 ข้าง และสร้างหอบัง (อะซาน) พร้อมขยายสระน้ำและที่อาบน้ำละหมาดให้ดูสง่างามยิ่งขึ้น ภายในมัสยิดประดับด้วยหินอ่อนอย่างสวยงาม

- เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2536 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพื่อพบปะเยี่ยมเยียนผู้นำศาสนาอิสลามและประชาชน ณ มัสยิดกลางปัตตานี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งกับ ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นายสัมพันธ์ ทองสมัคร) ให้ดำเนินการบูรณะปรับปรุงอาคารมัสยิดกลางปัตตานี
กระทรวงศึกษาธิการจึงได้กำหนดให้เป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองศิริราชสมบัติเป็นปีที่ 50 ใน พ.ศ.2539
- วันที่ 11 พฤศจิกายน 2536 ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี (นายพลากร สุวรรณรัฐ) ได้ลงนามคำสั่งจังหวัดปัตตานี ที่ 1627/2536 แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อประสานและติดตามงานต่อเติมอาคารมัสยิดกลางปัตตานี จำนวน 12 คน
- วันที่ 17 ธันวาคม 2536 เจ้าหน้าที่กรมศิลปากร ประกอบด้วย สถาปนิก และนายช่างโยธา ได้มาสำรวจอาคารมัสยิดกลางเพื่อออกแบบปรับปรุงต่อเติม
- วันที่ 22 ธันวาคม 2536 ฯพณฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายปราโมทย์ สุขุม ได้เชิญ นายอุดมศักดิ์ อัศวรางกูร รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นายสวัสดิ์ แก้วสมบูรณ์ ผู้ช่วยศึกษาธิการจังหวัดปัตตานี นายนิเดร์ วาบา ดาโต๊ะยุติธรรมประจำจังหวัดปัตตานี นายอับดุลวาฮับ อับดุลวาฮับ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี นายนิเล็ก สุไลมาน เทศมนตรีเมืองปัตตานี เพื่อร่วมประชุมวางแผนการบูรณะขยายอาคารมัสยิดกลางปัตตานี ซึ่งที่ประชุมได้มติ ดังนี้
1. บูรณะและขยายอาคารให้ยึดรูปแบบเดิม
2. ขยายและต่อเติมอาคารออกทั้ง 2 ข้าง
3. เพิ่มหออะซาน 2 หอ
4. ใช้วัสดุที่ได้มาตรฐานผลิตในประเทศไทย
- วันที่ 19 เมษายน 2537 กระทรวงศึกษาธิการได้มอบหมายให้กรมการศาสนา เป็นผู้ออกแบบและกำหนดงบประมาณ ในการบูรณะต่อเติมเป็นเงิน 35,212,000 บาท (สามสิบห้าล้านสองแสนหนึ่งหมื่นสองพันบาทถ้วน) คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติตามหนังสือที่ สร 0202/10614 ลงวันที่ 18 มีนาคม 2537 ให้กระทรวงศึกษาธิการเสนอแปรญัตติ เพื่อของบประมาณรายจ่ายประจำปี 2538 จำนวน 12 ล้านบาท และส่วนที่เหลือให้เป็นงบประมาณผูกพันในปี 2539 และปี 2540 แต่ปรากฏว่าในปีงบประมาณ 2538 ไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณแต่อย่างใด

จากการติดตามการจัดตั้งงบประมาณกระทรวงศึกษาธิการ ได้ตั้งงบประมาณในปี 2539 เป็นเงิน 30 ล้านบาท ปีงบประมาณ 2540 เป็นเงิน 5.212 ล้านบาท และจากการประสานงานทราบว่า สำนักงบประมาณได้ตั้งงบประมาณปรับปรุงสิ่งก่อสร้างเพียง 4,601,100 บาทเท่านั้น
จังหวัดได้มีหนังสือถึง ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี (นายบรรหาร ศิลปอาชา) ผู้นำฝ่ายค้าน (นายชวน หลีกภัย) ผู้แทนราษฎรจังหวัดปัตตานี (นายมุข สุไลมาน) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา) และอธิบดีกรมการศาสนา เพื่อให้การสนับสนุนในการขอแปรญัตติงบประมาณให้ได้ 30 ล้านบาทในปี 2539 เพื่อจะได้บูรณะต่อเติมมัสยิดกลางให้แล้วเสร็จสมบูรณ์
- วันที่ 14 กันยายน 2546 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ เสด็จพระราชดำเนินพระราช ทานรางวัลให้แก่ผู้ชนะเลิศการประกวดการอัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกรุอ่านแห่งประเทศไทย ณ มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี ผู้ชนะเลิศฝ่ายชาย คือ นายสุกรี บันบา ผู้แทนจากจังหวัดนครนายก รองชนะเลิศอันดับ 1 นายอาหามะ กาแว ผู้แทนจากจังหวัดกระบี่ รองชนะเลิศอันดับ 2 นายอุสมาน โต๊ะอาลี ผู้แทนจากจังหวัดยะลาและผู้ชนะเลิศฝ่ายหญิง คือ นางสาวฮาวา หมัดหมุด ผู้แทนจากจังหวัดเพชรบุรี รองชนะเลิศอันดับ 1 นางซามีฮะ ตะโล๊ะดิง ผู้แทนจากจังหวัดปัตตานี รองชนะเลิศอันดับ 2 นางมัยดีนา สว่างลิขิต ผู้แทนจากจังหวัดยะลา

มัสยิดกลางปัตตานีส่วนใหญ่จะใช้เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจ (ละหมาด) วันละ 5 เวลา เป็นกิจวัตรประจำวัน ใช้ในการละหมาดวันศุกร์ และการละหมาดในวันตรุษต่าง ๆ โดยมีชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ปัตตานี และพื้นที่อื่นทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะในวันศุกร์และวันเสาร์ จะมีการบรรยายธรรมะมีผู้เข้าฟังกา
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
Pattani Central Mosque
in Pattani Central Mosque. Located Yarang district Anoru district of Pattani. No. 249 has history and is as follows:
In 2497, the government has recognized the importance of Islam as a religion that the people of Pattani most strictly respect will bring peace. Moreover, in four southern provinces. The population is Muslim (Islam) is a relatively large number of medium build a large mosque. Sri elegant and beautiful to the people of Thailand as Muslims across the country and a place of worship. The Muslims of Thailand Therefore, the area along Highway Pattani - Yala, Pattani Muang district Anoru. Spread over 3 acres, 55 square meters, the Cabinet has approved funding for the construction of the central mosque in Pattani by HE Gen. Phao Sriyanond Minister of the Interior has traveled in those days laid the foundation stone on July 6 2500 at 10:00 am. This is a central mosque in the construction and exquisitely appointed for nine years to be completed. Later, on May 25, 2506, His Excellency Chom Phon Sarit Thanarat Prime Minister in those days have come to an official opening ceremony and delivered to the people of Thailand Muslim mosque in Pattani. By name "Pattani Central Mosque" Pattani Central Mosque, built a two-story concrete building. The shape is similar to the "Taj Mahal" Indian Country. The center is building a large dome and dome host the four sides of the tower is a landmark majestic. In front of the mosque has a large rectangular pool. The mosque has a hall. There are two balconies Inside the hall a tall and narrow bench is for "the Supreme Court's" stand Chiba Read familiar rule of Allah in the Friday prayers. This second tower was used as a medium for the Drum Tower. A call to Muslims to join the ministry. Later, the speaker is installed. The drum sound amplifier The current expansion side to the second side, and built a tower block (azan) and expanded the pool and showers, prayer, look more elegant. The mosque is beautifully decorated with marble - On October 21, 2536 His Majesty the King. His Majesty was accompanied by Her Majesty. Queen Islamic leaders and to visit with the people at the central mosque in Pattani. His Majesty the King He has his remarks to the Prime Minister, the Ministry of Education (Mr relationships Gold subscription) to perform renovation building Pattani Central Mosque Ministry of Education has set up a project to celebrate the occasion of His Majesty the King. Siriraj properties reigned 50 years in 2539 - on November 11, 2536, the governor of Pattani (Mr. Suwanrath armed forces) have signed a statement in Pattani, the 1627/2536 appoint a working group to coordinate and follow-up. RENOVATION Pattani Central Mosque Number 12 - On December 17, 2536 include the Department of Fine Arts architect and civil engineer. The survey buildings Central Mosque to design improved upon - at December 22, 2536, His Excellency the Deputy Minister of Education Mr. Pramod discreetly invited Mr. Udomsak Atsawa loan that tracks the deputy governor of Pattani Mr. Sawat glass completely Assistant Provincial Education. Pattani Mr. Younis Aqaba Justice Datuk Pattani province. Abdul Abdul Wah Wah hub hub chairman of the Islamic Committee of Pattani, Mr. Suleiman, a city alderman Pattani. The participants plan to renovate the building to expand the central mosque in Pattani. The Meeting approved the following: 1. renovate and expand the building to hold the traditional two. Expansion and renovation, building out the two sides 3. Add two minarets tower 4. Use standard materials manufacturer in Thailand - On April 19, 2537 the Ministry of Education has authorized the Department of Religious Affairs. Is a designer and Budgeting In addition to the restoration of 35.212 million baht (thirty five million two hundred and twelve thousand Baht) Cabinet approved the creation of books 0202/10614 dated March 18, 2537, the Ministry of Education proposed amendment. Annual Budget for 2538 of 12 million baht and the rest of the budget commitments in 2539 and 2540, but it appears that in fiscal year 2538 has not been allocated any budget from following the establishment of the Ministry of Education. Set budget in fiscal year 2539, amounting to 30 million baht in 2540, amounting to 5.212 million baht and the coordination that. Budget Office has revised budget structure only 4.6011 million baht only province sent a letter to the Prime Minister (Mr. Banharn) Leader of the Opposition (Mr. Chuan Leekpai) Representatives Pattani (Mr. Muk Suleiman) Minister of Transport. (Mr. Smooth sacred bundle of Matha) and Director General of Religious Affairs. To provide support to request an amendment to the budget to 30 million baht in 2539 to be restored upon completion of the Central Mosque - On September 14, 2546 His Royal Majesty King crown prince. Review the award to the winner of the contest to summon the great scriptures of the Quran at the central mosque in Pattani. The male winner is Mr. Green Saban said representatives of the offense. First runner up for Mr. Ma Ka resources representatives from Krabi. Runner 2 Mr Usman Ali, a representative from Yala and the female winner was Miss Eve punch pins representatives from the province. Sara has one runner huh Talo ding representatives from Pattani. Runner 2 Drina reminded her bright destined representatives of Yala, Pattani Central Mosque is mainly used as a place of worship (prayer) five times a day is routine. In Friday prayers And on New Year prayer by various people in Thailand Pattani Muslims. And other areas, both at home and abroad. Especially on Friday and Saturday. There will be a Dharma lecture attendees check.





















การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
The mosque in Pattani
Pattani central mosque located road yarang District anoru, Mueang Pattani. Registration number 249 history and background as follows:
.In the era 2497 government has realized the importance of Islam as a religion that people of Pattani, most respected strictly that will bring peace. According to the four areas of southern border provinces.(Muslims) is a lot, should build a large central mosque And beautiful as well-organized Si among local Islamic country, as well as a religious สถานที่ประกอบ of Thai Muslims.District, anoru Mueang Pattani area about 3 Rai 55 square meters. The cabinet has approved the budget for the construction of the mosque in Pattani. By his Excellency, the private police major Phao sriyanond.On July 6 B.Professor 2500 time 10.00.

.The mosque, this time in construction and decorated exquisitely for 9 years to be completed later on 25 May 2506 H.E. Field marshal Sarit thanarat.The name, "the central mosque in Pattani."
.
.Pattani central mosque built a two-story concrete building shapes similar to the "Taj Mahal." India center building has a large dome and dome of 4 direction. There are two side towers high is elegant.Inside the mosque were the hall, terrace two sides. Inside the hall is the tall and narrow is for "คอฏี". Read your noodle distinctive rules in prayer Friday. The tower sides this original use as a center for the drum.Later used as install loudspeakers. Amplifier instead of drums. At present, side extension out both sides and create 2 asthma are (SAN) with expanded pool and baths for tacky to elegant more.

.- on October 2536 21 king. Served with the queen To visit to meet Islamic leaders and people at the mosque in Pattani.
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: