** หลังจากการประชุม
ฉันเดินออกจากโรงแรมและหากุญแจรถ ฉันต้องตกใจมากเพราะกุญแจรถไม่อยู่ในกระเป๋าของดิฉัน ฉันรีบวิ่งไปที่ห้องประชุมฯมองหากุญแจรถ ไม่พบเช่นกัน ฉับพลันฉันนึกขึ้นได้ ฉันต้องลืมทิ้งไว้ในรถแน่ เพราะสามีเคยตะโกนบอกหลายครั้งว่า อย่าลืมคากุญแจไว้ที่รถนะ! ฉันยิ่งมั่นใจว่าการคาลูกกุญแจไว้ในรถน่าจะเป็นสาเหตุที่หาลูกกุญแจไม่เจอ
ฉับพลันฉันก็นึกได้ว่า รถต้องถูกขโมยขับไปแล้ว
ทันที ทันใด ฉันก็วิ่งไปที่จอดรถ ฉันคิดถูก ที่จอดรถว่างเปล่า! ฉันไม่รีรอหยิบโทรศัพท์โทรแจ้งตำรวจ บอกสถานที่ของเหตุการณ์ ลักษณะรถยนต์ สถานที่จอดรถ พร้อมสารภาพกับตำรวจว่า ฉันลืมดึงลูกกุญแจ. คาลูกกุญแจไว้ที่รถ และนั่นคือสาเหตุที่รถถูกขโมยขับออกไป
หลังจากนั้น ฉันโทรหาสามีด้วยความลำบากใจและรู้สึกผิด.ว่า...ฮัลลโล ที่รัก! (พูดตะกุกตะกัก ไพเราะที่สุดแบบรู้สึกผิด) ฉันลืมกญแจไว้ในรถ และรถถูกขโมยไปแล้ว
เงียบ..ไม่มีเสียงตอบ? ฉันคิดว่าเขาไม่รับสาย. ? และแล้วฉันต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงตะโกนออกมาจากโทรศัพท์ว่า..: กูเป็นคนขับรถไปส่งมึงที่โรงแรม!!!
แม้ไม่สุภาพ ฉันก็เงียบ
และพูดตอบอย่างขวยเขินว่า..กรุณามารับฉันหน่อย ค่ะ?
#เสียงสามีตะโกนใส่มาอีกครั้ง
!! ว่า .. กูจะไปรับให้เร็วที่สุด ตอนนี้กูถูกจับ!
ให้กูอธิบายให้ตำรวจเข้าใจก่อนว่า กูไม่ได้ขโมยรถมา !!!