Altitude sickness เป็นภาวะหรือโรคที

Altitude sickness เป็นภาวะหรือโรคที่พบในนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปในพื้นที่ที่มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลมากๆ เช่น ไปเที่ยวทิเบต เที่ยวประเทศเปรู โบลิเวีย หรือไปปีนเขาในประเทศเนปาล ฯลฯ ซึ่งโรคดังกล่าวเกิดจากร่างกายไม่สามารถปรับตัวให้อยู่ในภาวะที่มีออกซิเจนน้อยได้ ทำให้เกิดอาการต่างๆตามมา เช่น ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ เหนื่อยง่าย ฯลฯ ซึ่งอาการอาจจะรุนแรงมากขึ้น จนอาจเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะในรายที่ยังฝืนเดินทางขึ้นที่สูงต่อ และไม่ได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง ดังนั้นนักท่องเที่ยวทุกคนที่จะไปพื้นที่ดังกล่าว จึงควรรู้จักภาวะนี้และการป้องกันไว้บ้างเพื่อการท่องเที่ยวของเราจะได้ปลอดภัยและมีความสุข

อย่างไรก็ตามการจะเข้าใจโรคหรือภาวะดังกล่าวอาจจะยากสักหน่อย เพราะพวกเราคนไทยจะไม่คุ้นเคย จึงขอเริ่มด้วยข้อมูลพื้นฐานบางประการก่อนครับ

1. ในภูมิประเทศที่สูงเหนือระดับน้ำทะเลมากๆจะมีความกดอากาศและมีออกซิเจนเบาบาง เมื่อเทียบกับระดับน้ำทะเล ทำให้เมื่อเราไปอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ร่างกายจะต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมให้ได้ ซึ่งโดยปกติแล้วร่างกายเรามีความสามารถในการปรับตัวให้ทนต่อภาวะออกซิเจนน้อยได้ดีระดับหนึ่งอยู่แล้ว แต่ถ้าไปในที่สูงมากๆหรือออกซิเจนน้อยมากๆอาจจะเกิดปัญหาได้

2. ตัวอย่างที่ดีที่แสดงว่าร่างกายเราสามารถปรับตัวได้ดีคือ เมื่อเรานั่งเครื่องบิน ซึ่งเครื่องบินโดยสารส่วนใหญ่บินที่ระดับความสูง 30,000-40,000 ฟุต หรือกว่า 10,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ที่ระดับความสูงขนาดนั้น ออกซิเจนไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต แต่ในห้องโดยสารของพวกเราจะมีการปรับความดันอากาศให้เหมาะสม โดยจะปรับความดันอากาศมาอยู่ที่ประมาณ 2,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล จะเห็นว่าไม่ได้ปรับมาที่ระดับน้ำทะเลเสียทีเดียว แต่ที่ 2,000 เมตรนั้น แม้ว่าจะมีออกซิเจนประมาณ 77% ของปกติ ร่างกายพวกเราปกติสามารถปรับตัวได้ ทำให้พวกเราเวลานั่งเครื่องบินสามารถหายใจได้ตามปกติ ไม่ต้องใช้ oxygen

3. ภาวะ altitude sickness มักจะเกิดขึ้นในพื้นที่ที่มีความสูงมากกว่า 2,000-2,500 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลปานกลางเป็นต้นไป ซึ่งยิ่งขึ้นไปที่สูงมากจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะดังกล่าวมากขึ้น เช่น ถ้าสถานที่นั้นสูงกว่า 3,000 เมตร จะมีความดันออกซิเจนเพียงประมาณ 70 % เมื่อเทียบกับในระดับน้ำทะเล ลองดูตัวอย่างสถานที่ท่องเที่ยวที่จัดว่าอยู่ในพื้นที่สูง ตามตารางข้างล่างครับ

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

Altitude sickness is a condition or disease that is found in travelers visiting areas with height above sea level very much like visiting Tibet tours in Peru. Bolivia, or go hiking in Nepal, the disease, which is caused by the body not able to adapt to low oxygen in. Cause symptoms such as headache, insomnia Tired easily, and that the symptoms may be more severe until the may deaths. In particular, the list is still to buck traveled high and have not been diagnosed and treated properly. Therefore, all travelers to the region should recognize this condition and protected to tourism, we will have safe and happy.However, to understand the disease or condition, it may be difficult because the Thai people of us bit is not familiar. So I'd start with some basic information before it.1. in the high terrain above sea level air pressure is great and there are some lighter oxygen. Compared to sea level. Cause when we go to live in the area. The body will have to adapt to the environment, which is normally the body, we have the ability to withstand low oxygen conditions already have one level. But if it goes on very high or very low oxygen may also be a problem.2. ตัวอย่างที่ดีที่แสดงว่าร่างกายเราสามารถปรับตัวได้ดีคือ เมื่อเรานั่งเครื่องบิน ซึ่งเครื่องบินโดยสารส่วนใหญ่บินที่ระดับความสูง 30,000-40,000 ฟุต หรือกว่า 10,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ที่ระดับความสูงขนาดนั้น ออกซิเจนไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต แต่ในห้องโดยสารของพวกเราจะมีการปรับความดันอากาศให้เหมาะสม โดยจะปรับความดันอากาศมาอยู่ที่ประมาณ 2,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล จะเห็นว่าไม่ได้ปรับมาที่ระดับน้ำทะเลเสียทีเดียว แต่ที่ 2,000 เมตรนั้น แม้ว่าจะมีออกซิเจนประมาณ 77% ของปกติ ร่างกายพวกเราปกติสามารถปรับตัวได้ ทำให้พวกเราเวลานั่งเครื่องบินสามารถหายใจได้ตามปกติ ไม่ต้องใช้ oxygen3. ภาวะ altitude sickness มักจะเกิดขึ้นในพื้นที่ที่มีความสูงมากกว่า 2,000-2,500 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลปานกลางเป็นต้นไป ซึ่งยิ่งขึ้นไปที่สูงมากจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะดังกล่าวมากขึ้น เช่น ถ้าสถานที่นั้นสูงกว่า 3,000 เมตร จะมีความดันออกซิเจนเพียงประมาณ 70 % เมื่อเทียบกับในระดับน้ำทะเล ลองดูตัวอย่างสถานที่ท่องเที่ยวที่จัดว่าอยู่ในพื้นที่สูง ตามตารางข้างล่างครับ

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

Altitude sickness is a condition or disease in tourists traveling to an area with a height above sea level, so as to Tibet. Last Peru, Bolivia or go climbing in Nepal, etc. The disease is caused by the body can not adapt to the conditions with little oxygen. Causing symptoms such as headaches, insomnia, fatigue, etc. The symptoms may be more severe. It may be fatal Especially in cases that also forced to move to higher ground. And is not diagnosed and treated properly. So all visitors to the area. You should recognize this condition and some protection for our tourism will be safe and happy , however, to understand the disease or condition, it may be a bit difficult. Thailand because we were not familiar. So let's start with some basic information before me first. The topography is very high above sea level, air pressure and oxygen is sparse. Compared to sea level When we made ​​in those areas. The body must adapt to the environment. Normally, our body is capable of adapting to withstand low oxygen conditions have one already. But if the very high or very low oxygen may become a problem two. A good example that shows how the body can adapt well. When we fly The majority of aircraft flying at high altitude. 30,000-40,000 feet or 10,000 meters above sea level. At the height size Not enough oxygen to sustain life. But in our cabin air pressure is adjusted accordingly. It adjusts air pressure to around 2,000 meters above sea level. Will not adapt to the sea level to 2,000 meters exactly, but even if it has oxygen for about 77% of normal body they usually can adapt. Let us take a plane ride can breathe normally without Oxygen 3. Cy altitude sickness usually occurs in areas with higher than 2,000-2,500 meters above sea level onwards. Which adds up to a very high risk of severe, such as if a place is more than 3,000 meters, the oxygen pressure is only about 70% compared to sea level. Let's see sights that are held in high areas. Table I below