art I ถึงแม้ว่าหลายๆ คนจะอ้างว่าโท

art I

ถึงแม้ว่าหลายๆ คนจะอ้างว่าโทรศัพท์สามารถ ใช้ติดต่อกับผู้อื่นได้สะดวกและรวดเร็วเวลาฉุกเฉิน แต่ในบางครั้งการใช้โทรศัพท์ก็ต้องรู้เวลา และสถานที่ เช่น การไปดูหนัง ทุกครั้งที่ชมภาพยนตร์ ก็จะต้องมีการโฆษณาบอกกล่าวว่าควรปิดเสียงโทรศัพท์มือถือขณะชมภาพยนตร์ เพื่อไม่เป็นการรบกวนคนอื่นๆ อีกทั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การนำโทรศัพท์มาใช้ในโรงเรียนอาจก่อให้เกิดพฤติกรรม ที่ไม่เหมาะสมคือ ไม่รู้กาลเทสะ คุยโทรศัพท์ ในห้องเรียน กรณีของคลิปสะท้อนให้เห็นถึงความมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ของการใช้โทรศัพท์มือถือในห้องเรียน ทั้งนี้ไม่ว่าจะ กินขนม หรือหลับในห้อง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการไม่เคารพต่อครูผู้สอน ไม่เคารพต่อเวลาและสถานที หากยังมองว่าโทรศัพท์มือถือเป็นทรัพย์สินส่วนบุคคล สามารถพกพาเอาไปไหนด้วยก็ได้ แต่ไม่คำนึงถึงการใช้โทรศัพท์ให้เหมาะสมกับกาลเทสะ การใช้โทรศัพท์มือถืออาจมีแนวทางความเป็นไปได้ว่าเป็นอีกปัญหาหนึ่งของระบบทางการศึกษา

Part II

เป็นที่น่ากังวลใจอย่างยิ่งสำหรับโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก สามารถ เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต WIFI 3G ได้ทันที สามารถใช้หาข้อมูลได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว แต่การนำโทรศัพท์มาใช้ในห้องเรียนไม่ว่าจะเพื่อใช้หาข้อมูล หรือเอาไว้ติดต่อเวลาฉุกเฉิน ก็อาจจะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรม โดยมีการสำรวจพบว่า “วัยรุ่นไทยใช้โทรศัพท์มือถือคุยเล่นประมาณ วันละ 102 นาที ในขณะที่ค่าเฉลี่ยของทั้งประเทศอยู่ที่ 49 นาที” ทุกวันนี้พวกเขายังไม่สามารถขาดอุปกรณ์เหล่านี้ไปได้เลยนั้นเป็นเพราะโทรศัพท์มือถือกลายมาเป็น “Item must have” ในขณะที่การใช้งานส่วนใหญ่เน้นไปที่การคุยเล่นมากกว่าการติดต่อธุระ อย่างไรก็ตามอาจมีผลกระทบต่อผลการเรียน หากผู้เรียนสนใจอยู่กับเทคโนโลยี ไม่สนใจการเรียนการสอนจากครูผู้สอน

Part III

แม้ว่านักเรียนใช้โทรศัพท์มือถือโดยไม่คำนึงถึงด้านสุขภาพ โดยดูจากผลงานวิจัย ร่วมไปถึงสถาบันเพื่อการวิจัยมะเร็งนานาชาติขององค์การอนามัยโลก ออกมาเปิดเผยว่า อุปกรณ์โทรศัพท์มือถืออาจก่อให้เกิดมะเร็งได้จริง บางแห่งมีรายงานถึงหลังจากการใช้โทรศัพท์แล้วมีอาการปวดศีรษะ ซึ่งรายงานเหล่านี้ยากต่อการประเมินหาความแน่นอน เนื่องจากยังไม่มีรายงาน ข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์อย่างเป็นทางการ ไม่มีงานวิจัยทางด้านวิยาศาสตร์ที่ชัดเจนเกี่ยวกับผลเสียต่อสุขภาพ ด้วยข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบัน ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ถึงผลเสียด้านสุขภาพของการใช้โทรศัพท์มือถือ ในอีกแง่มุมหนึ่งปัญหาสุขภาพของนักเรียนวัยรุ่นเกิดจากการใช้โทรศัพท์มือถือเป็นเวลานานๆ จะส่งผลเสียต่อสุขภาพ โดย กล่าวว่ามีผลกระทบทางด้านอารมณ์ อันตรายจากการโดนชิงทรัพย์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสุขภาพสายตา ทำให้เกิดการปวดเมื่อยบริเวณกล้ามเนื้อตา ภาวะเห็นภาพซ้อน รวมทั้งเกิดอาการตาแห้งและอาจทำให้สายตาสั้นได้ อย่างไรก็ตามเราควรแบ่งเวลาให้ถูกต้องเหมาะสม บางครั้งมันอาจช่วยให้เราเพลิดเพลินอยู่กับสังคมบนหน้าจอเล็กๆ แต่อาจทำให้เราลืมคิดถึงภัยที่ตามมาทำร้ายเรา และผลเสียต่อสุขภาพโดยที่เราไม่รู้ตัว

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

art I Although many people would claim that phone can use to communicate with each other quickly and emergency time but sometimes use the phone, need to know time and location, for example, to see a movie every time you watch the movie, it must be advertise notice that should mute the handset while watching a movie to not disturb other people as well, especially to apply phone use in schools may cause inappropriate behaviour is not reflecting and season. Phone talk In the classroom. The case of the pasathon have inappropriate behaviour of using cell phones in the classroom, whether they eat sweets or sleeping in the room. These things are no respect for teachers. No respect for time and place one at a time. If a mobile phone is considered personal property can take to him. But regardless of the use of phones to suit the season instead of pouring. Using a mobile phone, there may be a possibility that way is another one of the problems of the educational system.Part IIเป็นที่น่ากังวลใจอย่างยิ่งสำหรับโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก สามารถ เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต WIFI 3G ได้ทันที สามารถใช้หาข้อมูลได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว แต่การนำโทรศัพท์มาใช้ในห้องเรียนไม่ว่าจะเพื่อใช้หาข้อมูล หรือเอาไว้ติดต่อเวลาฉุกเฉิน ก็อาจจะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรม โดยมีการสำรวจพบว่า “วัยรุ่นไทยใช้โทรศัพท์มือถือคุยเล่นประมาณ วันละ 102 นาที ในขณะที่ค่าเฉลี่ยของทั้งประเทศอยู่ที่ 49 นาที” ทุกวันนี้พวกเขายังไม่สามารถขาดอุปกรณ์เหล่านี้ไปได้เลยนั้นเป็นเพราะโทรศัพท์มือถือกลายมาเป็น “Item must have” ในขณะที่การใช้งานส่วนใหญ่เน้นไปที่การคุยเล่นมากกว่าการติดต่อธุระ อย่างไรก็ตามอาจมีผลกระทบต่อผลการเรียน หากผู้เรียนสนใจอยู่กับเทคโนโลยี ไม่สนใจการเรียนการสอนจากครูผู้สอน Part III แม้ว่านักเรียนใช้โทรศัพท์มือถือโดยไม่คำนึงถึงด้านสุขภาพ โดยดูจากผลงานวิจัย ร่วมไปถึงสถาบันเพื่อการวิจัยมะเร็งนานาชาติขององค์การอนามัยโลก ออกมาเปิดเผยว่า อุปกรณ์โทรศัพท์มือถืออาจก่อให้เกิดมะเร็งได้จริง บางแห่งมีรายงานถึงหลังจากการใช้โทรศัพท์แล้วมีอาการปวดศีรษะ ซึ่งรายงานเหล่านี้ยากต่อการประเมินหาความแน่นอน เนื่องจากยังไม่มีรายงาน ข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์อย่างเป็นทางการ ไม่มีงานวิจัยทางด้านวิยาศาสตร์ที่ชัดเจนเกี่ยวกับผลเสียต่อสุขภาพ ด้วยข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบัน ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ถึงผลเสียด้านสุขภาพของการใช้โทรศัพท์มือถือ ในอีกแง่มุมหนึ่งปัญหาสุขภาพของนักเรียนวัยรุ่นเกิดจากการใช้โทรศัพท์มือถือเป็นเวลานานๆ จะส่งผลเสียต่อสุขภาพ โดย กล่าวว่ามีผลกระทบทางด้านอารมณ์ อันตรายจากการโดนชิงทรัพย์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสุขภาพสายตา ทำให้เกิดการปวดเมื่อยบริเวณกล้ามเนื้อตา ภาวะเห็นภาพซ้อน รวมทั้งเกิดอาการตาแห้งและอาจทำให้สายตาสั้นได้ อย่างไรก็ตามเราควรแบ่งเวลาให้ถูกต้องเหมาะสม บางครั้งมันอาจช่วยให้เราเพลิดเพลินอยู่กับสังคมบนหน้าจอเล็กๆ แต่อาจทำให้เราลืมคิดถึงภัยที่ตามมาทำร้ายเรา และผลเสียต่อสุขภาพโดยที่เราไม่รู้ตัว

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

Art I


.Although many people claim that, the phone can. Communicate with others, convenient and quick time of emergency. But sometimes the use of the phone's need to know the time and place, for example, go to the movies every time watching.So as not to disturb the others, and especially. The telephone used in school may cause inappropriate behavior is not the Tess. Talking in class.The use of mobile phones in class. However whether it, eat, or sleep in the room. These are all disrespect for teachers with respect to time and location. If still sees mobile phone is private property.But regardless of using the telephone for the test. The use of mobile phones may be guided the possibility that the problem is one of the educational systems
.Part II


.Be concerned for mobile phones. The technology progress greatly, can connect to the Internet WIFI 3G immediately, can be used to find information easily and quickly.Keep in touch or emergencies. It can cause changes in behavior, the survey found. "Thai adolescents use mobile phones to play for about a day 102 minutes, while the average value of ประเทศอยู่ that 49 minutes.""Item must have" while use mainly focus on talking play more business transactions. However, may have an impact on learning. If students are interested in technology. Ignore instruction from teachers
.Part III


.Although the students use mobile phones, regardless of health, based on research. To the Institute for International Cancer Research of the World Health Organization out of that Mobile phone accessories may cause cancer.That these reports are difficult to assessment of course, since no scientific proof official report. There is no research in the field of science that clear about the adverse effects on health.