ประวัติของพฤติกรรมนักท่องเที่ยวในทว

ประวัติของพฤติกรรมนักท่องเที่ยวในทวีปยุโรป
ddddddยุโรปเป็นภูมิภาคที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในฐานะที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวของโลก ในระยะเริ่มต้น ย้อนไปยุคกรีกโบราณผู้คนมักเดินทางไปเยี่ยมชมกิจกรรมหรือเทศกาลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับศาสนา การเดินทางไปเยี่ยมชมมหกรรมกีฬา Olympic Games ซึ่งมีครั้งแรกในปี 776 ก่อนคริสตกาล และได้มีนักปรัชญาเมธีชาวกรีกชื่อ Herodotus ได้เดินทางโดยทะเลจากประเทศกรีกไปยังดินแดนต่างๆ จึงได้จุดประกายการเดินทางให้แก่นักเดินทางรุ่นหลังๆ

dddddชาวโรมันเป็นพวกแรกที่ให้กำเนิดการเดินทางเพื่อความสำราญ ชาวโรมันได้สร้างรีสอร์ทหรือสถานที่ตากอากาศ และยังรวมเอากิจกรรมเพิ่มความสำราญเพิ่มเข้าไป นอกจากนี้ยังเป็นผู้พัฒนาการท่องเที่ยวเพื่อชมทิวทัศน์อีกด้วย ในยุคนั้นถือเป็นกิจกรรมเฉพาะชนชั้นสูง เนื่องจากการเดินทางค่อนข้างจะไม่สะดวก พัฒนาการของการท่องเที่ยวในยุโรปได้หยุดชะงักลงในยุคมืด ซึ่งเป็นยุคที่มีการปกครองโดยพระนิกายโรมันคาทอลิก

dddddผู้เดินทางสมัยก่อนเรียกว่า “นักเดินทาง” ในราวศตวรรษที่ 19 เรียกว่า “นักท่องเที่ยว” การเดินทางได้กลับมาในยุค Renaissance (ศตวรรษที่ 14 – 16) ซึ่งมีนักวิชาการ นักศึกษา และศิลปินได้เดินทางไปยังเมืองต่างๆ ของยุโรป เพื่อศึกษาหาความรู้ในศิลปะวิทยาการต่างๆ ต่อมาช่วงศตวรรษที่ 17 – 18 ได้เกิดการเดินทางเพื่อแสวงหาความรู้ที่เรียกว่า The Grand Tour ซึ่งเป็นการเดินทางโดยกุลบุตรกุลธิดาจากชนชั้นสูงในอังกฤษ ในระยะเริ่มแรกจะใช้เวลาราว 4 ปี เพื่อศึกษาในสาขาวิชาต่างๆ จนกว่าจะจบหลักสูตร แต่ต่อมาได้ลดระยะเวลาลง

dddddเมื่อประเทศต่างๆ ได้มีการติดต่อระหว่างกันมากขึ้น จึงเริ่มมีการเดินทางของนักการฑูตและเหล่าผู้เผยแพร่ศาสนาไปประเทศต่างๆ เกิดขึ้น มีการเดินทางเพื่อสุขภาพ และการเดินทางจึงเป็นกิจกรรมของครอบครัวในระยะเวลาต่อมา

dddddในช่วงศตวรรษที่ 19 การเดินทางได้เปลี่ยนไปจากเดิม คือ มีหมู่ชนชั้นกลางเดินทางมากขึ้นและได้มีการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีหลายประการ ซึ่งมีผลต่อการเดินทางและการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการสร้างทางรถไฟและการเดินทางโดยรถไฟ ซึ่งถือเป็นจุดกำเนิดสำคัญของการท่องเที่ยวโดยคนจำนวนมาก ประมาณปี 1841 โทมัส คุก ได้จัดทัศนาจรทางรถไฟขึ้นเป็นครั้งแรก ถือเป็นการจัดทัศนาจรแบบเฉพาะกลุ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การท่องเที่ยว ต่อมาโทมัส คุก ได้กลายเป็นนักธุรกิจที่เป็นผู้จัดทัศนาจรเป็นบุคคลแรก และต่อมาธุรกิจของเขาได้พัฒนาสู่การเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางอันเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก

dddddในศตวรรษที่ 20 ได้เปลี่ยนแปลงไปอีกโดยใช้เรือกลไฟมาเป็นเรือโดยสาร ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เครื่องบินได้ถูกนำมาใช้เพื่อการเดินทางในเชิงพาณิชย์มากขึ้น ในปี 1958 ได้มีการใช้บริการเครื่องบินพาณิชย์เดินทางข้ามทะเลแอตแลนติกเป็นครั้งแรก และในช่วงทศวรรษที่ 1970 ได้มีการปฏิวัติการขนส่งทางอากาศทำให้การเดินทางมีราคาถูกลง

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

ประวัติของพฤติกรรมนักท่องเที่ยวในทวีปยุโรปddddddยุโรปเป็นภูมิภาคที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในฐานะที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวของโลก ในระยะเริ่มต้นย้อนไปยุคกรีกโบราณผู้คนมักเดินทางไปเยี่ยมชมกิจกรรมหรือเทศกาลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับศาสนาการเดินทางไปเยี่ยมชมมหกรรมกีฬาโอลิมปิกซึ่งมีครั้งแรกในปี 776 ก่อนคริสตกาลและได้มีนักปรัชญาเมธีชาวกรีกชื่อจึงได้จุดประกายการเดินทางให้แก่นักเดินทางรุ่นหลัง ๆ ได้เดินทางโดยทะเลจากประเทศกรีกไปยังดินแดนต่าง ๆ เฮอรอโดทัสdddddชาวโรมันเป็นพวกแรกที่ให้กำเนิดการเดินทางเพื่อความสำราญ ชาวโรมันได้สร้างรีสอร์ทหรือสถานที่ตากอากาศและยังรวมเอากิจกรรมเพิ่มความสำราญเพิ่มเข้าไปนอกจากนี้ยังเป็นผู้พัฒนาการท่องเที่ยวเพื่อชมทิวทัศน์อีกด้วยในยุคนั้นถือเป็นกิจกรรมเฉพาะชนชั้นสูงเนื่องจากการเดินทางค่อนข้างจะไม่สะดวกพัฒนาการของการท่องเที่ยวในยุโรปได้หยุดชะงักลงในยุคมืดซึ่งเป็นยุคที่มีการปกครองโดยพระนิกายโรมันคาทอลิกdddddผู้เดินทางสมัยก่อนเรียกว่า "นักเดินทาง" ในราวศตวรรษที่ 19 เรียกว่า "นักท่องเที่ยว" การเดินทางได้กลับมาในยุคเรอเนสซองซ์ (ศตวรรษที่ 14 – 16) ซึ่งมีนักวิชาการนักศึกษาและศิลปินได้เดินทางไปยังเมืองต่าง ๆ ของยุโรปเพื่อศึกษาหาความรู้ในศิลปะวิทยาการต่าง ๆ ต่อมาช่วงศตวรรษที่ 17 – 18 ได้เกิดการเดินทางเพื่อแสวงหาความรู้ที่เรียกว่าเดอะแกรนด์ทัวร์ซึ่งเป็นการเดินทางโดยกุลบุตรกุลธิดาจากชนชั้นสูงในอังกฤษในระยะเริ่มแรกจะใช้เวลาราว 4 ปีเพื่อศึกษาในสาขาวิชาต่าง ๆ จนกว่าจะจบหลักสูตรแต่ต่อมาได้ลดระยะเวลาลงdddddเมื่อประเทศต่าง ๆ ได้มีการติดต่อระหว่างกันมากขึ้นจึงเริ่มมีการเดินทางของนักการฑูตและเหล่าผู้เผยแพร่ศาสนาไปประเทศต่าง ๆ เกิดขึ้นมีการเดินทางเพื่อสุขภาพและการเดินทางจึงเป็นกิจกรรมของครอบครัวในระยะเวลาต่อมาdddddในช่วงศตวรรษที่ 19 การเดินทางได้เปลี่ยนไปจากเดิมคือมีหมู่ชนชั้นกลางเดินทางมากขึ้นและได้มีการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีหลายประการซึ่งมีผลต่อการเดินทางและการท่องเที่ยวโดยเฉพาะการสร้างทางรถไฟและการเดินทางโดยรถไฟซึ่งถือเป็นจุดกำเนิดสำคัญของการท่องเที่ยวโดยคนจำนวนมากประมาณปี 1841 โทมัสคุกได้จัดทัศนาจรทางรถไฟขึ้นเป็นครั้งแรกถือเป็นการจัดทัศนาจรแบบเฉพาะกลุ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การท่องเที่ยวต่อมาโทมัสคุกได้กลายเป็นนักธุรกิจที่เป็นผู้จัดทัศนาจรเป็นบุคคลแรกและต่อมาธุรกิจของเขาได้พัฒนาสู่การเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางอันเป็นที่รู้จักกันทั่วโลกdddddในศตวรรษที่ 20 ได้เปลี่ยนแปลงไปอีกโดยใช้เรือกลไฟมาเป็นเรือโดยสารภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เครื่องบินได้ถูกนำมาใช้เพื่อการเดินทางในเชิงพาณิชย์มากขึ้นในปี 1958 ได้มีการใช้บริการเครื่องบินพาณิชย์เดินทางข้ามทะเลแอตแลนติกเป็นครั้งแรกและในช่วงทศวรรษที่ 1970 ได้มีการปฏิวัติการขนส่งทางอากาศทำให้การเดินทางมีราคาถูกลง

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

ในระยะเริ่มต้น ที่เกี่ยวข้องกับศาสนาการเดินทางไปเยี่ยมชมมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ซึ่งมีครั้งแรกในปี 776 ก่อนคริสตกาลและได้มีนักปรัชญาเมธีชาวกรีกชื่อตุส "นักเดินทาง" ในราวศตวรรษที่ 19 เรียกว่า "นักท่องเที่ยว" การเดินทางได้กลับมาในยุคเรเนซองส์ (ศตวรรษที่ 14 - 16) ซึ่งมีนักวิชาการนักศึกษา ของยุโรป ต่อมาช่วงศตวรรษที่ 17-18 แกรนด์ทัวร์ ในระยะเริ่มแรกจะใช้เวลาราว 4 ปีเพื่อศึกษาในสาขาวิชาต่างๆจนกว่าจะจบหลักสูตร ได้มีการติดต่อระหว่างกันมากขึ้น เกิดขึ้นมีการเดินทางเพื่อสุขภาพ 19 การเดินทางได้เปลี่ยนไปจากเดิมคือ ประมาณปี 1841 โทมัสคุก ต่อมาโทมัสคุก 20 ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี 1958 และในช่วงทศวรรษที่ 1970

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

The history of the behavior of tourists in Europe
.Dddddd Europe is the region's most popular tourist attractions of the world, as in the beginning. Back to ancient Greece, people often visit events or festivals related to religion.Olympic Games which has for the first time in 776 BC. A Greek scholar and philosopher named Herodotus travel by sea from Greece to the territories. The journey to other travelers spark generation
.
.The Romans were the first ddddd gave birth to travel for pleasure. The Romans built a resort or resort. And also took the activity increase pleasure to add to it.In that era, a specific activities nobles. Because travel is quite inconvenient. The development of tourism in Europe has a halt in the dark ages. This is an era dominated by the Roman Catholic Church
.