As the science of Linguistics ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ ๑๘ เมื่อยุโรปมุ่งแสวงหาอาณานิคมและอินเดียได้ตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ การค้นพบงานของปานินีเกี่ยวกับการวิเคราะห์ภาษาสันสกฤต ซึ่งล้ำยุคกว่างานศึกษาด้านภาษาในสมัยกรีกและโรมัน ถึงแม้ว่าจะได้เขียนขึ้นในช่วงเวลาที่ไม่ห่างไกลกันมากนัก คือช่วง ๖๐๐ – ๕๐๐ ปีก่อนคริสต์ศักราช แนวคิดของปานินีเกี่ยวกับการวิเคราะห์ภาษานี้เองทำให้ผ้ที่ศึกษาภาษาในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ ๑๘ ได้เริ่ม “พิจารณา” การศึกษาภาษาเสียใหม่ โดยเห็นว่าการวิเคราะห์ภาษาไม่ควรมีข้อจำกัดอยู่กับไวยากรณ์เท่านั้น แต่การวิเคราะห์ภาษาควรคำนึงถึง “เสียง” และ “คำพูด” ด้วย นอกจากนี้ยังมีความคิดว่าการบรรยายภาษาควรมีความกระจ่างครอบคลุมเนื้อหา อธิบายได้อย่างมีระบบและมีความประหยัดในการบรรยาย ตลอดจนมีความสม่ำเสมอสอดคล้องกับความเป็นจริง ซึ่งเป็นแนวที่ผู้ศึกษาภาษาในยุคนี้ได้มีความเห็นสอดคล้องกันว่า เป็นการศึกษาภาษาตามแนว “วิทยาศาสตร์” และเป็นแนวคิดที่รับอิทธิพลจากการศึกษาของปานินิที่ได้ค้นพบ So, in this era, there was a group of people interested in the study of language, language education by trying to look like "Science" itself, which is called "Linguistics", or "Linguistics", with an emphasis on how the study of Linguistics should aim to have a principle along the growing science as pin tip Thuy (2544 (2001): 5-10) have been extended to the following: 1. to describe the language should be clear and covers topics that need narration. Voice narration of a specific language is required to convey their voice with the phonetic alphabet. Do not use cursive or cursive letters spell because of spell or the use of it. It is sometimes written with the same letters but different pronunciation, and when it comes to data transfer, audio which shows clarity in pronunciation, it is necessary to describe the information found, or otherwise, it is necessary to determine what portion of the information briefings. We can see that the voice of the people in a particular language, there are still missing out, such as voice range in northern regions may be different from the voice of the people of the South, so the speaker needs to hit the frame, the sound of yourself, people, groups, and specific briefings, speaking in a Cadence. However, the data looks different from the scientific information because of language and the human need to exist in society and therefore does not collect information for laboratories. Need to be collected in a natural state. Thus, language is an exception, where the many different styles of language studies need to consider carefully the appropriate find briefings, for example, one group might be linguists consider just adult psychology takes into account, but linguists, language of the children. Therefore, the storage characteristics and limitations may require different agreements during this 2 groups, linguist. จากลักษณะความเป็นวิทยาศาสตร์ในส่วนที่เกี่ยวกับความกระจ่างและครอบคลุมหัวข้อที่ต้องการศึกษา นักภาษาศาสตร์ที่อ้างว่าทฤษฎีของตนมีความกระแจ่มกระจ่างจำเป็นต้องแสดงให้เห็นจริง มิฉะนั้นนักภาษาศาสตร์รุ่นต่อมาสามารถวิจารณ์ได้ว่าขัดกับหลักวิทยาศาสตร์ ๒. การบรรยายภาษาควรมีระบบและใช้หลักประหยัด คำว่ามี “ระบบ” นี้มีความหมายครอบคลุมในหลายลักษณะได้แก่ การมีระเบียบวิธี (Methodology) ในการบรรยายภาษาที่สอดคล้องตามมาตรฐาน มีการวางแผนในการบรรยาย มีการตั้งสมมุติฐานและทดสอบสมมุติฐานได้ การบรรยายภาษาที่มีระเบียบวิธีก็คือการมีหลักการหรือทฤษฎีพื้นฐานที่จะนำไปบรรยายในหัวข้อเฉพาะที่ต้องการจะศึกษา และในการจะศึกษาสิ่งหนึ่งสิ่งใดนั้นจำเป็นต้องวางแผนให้มีระบบ นั่นก็คือต้องรู้ด้วยว่าสิ่งที่เราจะศึกษานั้นสัมพันธ์กับลักษณะอื่นๆอย่างไร และจะมีผลกระทบอย่างไรบ้าง สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้หรือไม่ เช่น ถ้าเราต้องการจะขายชำแหละ เราต้องวางแผนอย่างมีระบบือประการแรกรู้ลักษณะของเนื้อไก่ เช่น ไก่ส่วนอก ต่างกับไก่ส่วนน่อง หรือต่างกับไก่ส่วนปีกอย่างไร แล้วจึงพิจาณาต่อไปว่า ระหว่างไก่เนื้อขาว คือส่วนนก กับไก่เนื้อคล้ำคือส่วนน่องนั้น มีผู้บริโภคต่างกันอย่างไร ใครเป็นผู้บริโภคส่วนใดมากกว่ากัน พร้อมทั้งคำนึงถึงรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆจึงจะวางแผนการตลาดได้ ในด้านภาษาก็เช่นกัน หากผู้บรรยายภาษามความประสงค์จะบรรยายนามวลี (Noun Phrase) ในภาษา ผู้บรรยายภาษษคนนั้นจะรู้จักเฉพาะนามวลีในภาษานั้นๆไม่ได้ จำเป็นต้องรู้ให้กว้างออกไปว่า นามวลีจะต้องเกิดร่วมกับกริยาวลี (Verb Phrase) ในลักษณะต่างๆกัน และในส่วนของนามวลีนั้นจะยังมีลักษณะอื่นๆทางภาษาเกิดขึ้นร่วมด้วยหรือไม่ นอกจากนี้ยังต้องรู้จักเปรียบเทียบว่าหลักการที่ใช้บรรยายนามวลีนั้นอาจใช้กับกริยาวลีได้หรือไม่ได้อย่างไร และสามารถจะบรรยายอย่างแจ่มกระจ่างได้อย่างไร นั่นก็แสดงว่าผู้บรรยายต้องเป็นผู้รอบรู้เกี่ยวกับเนื้อหาของภาษาที่จะบรรยาย และเมื่อวางแผนได้อย่างมีระบบแล้วจำเป็นต้องตั้งสมมุติฐานและทดสอบสมมุติฐานให้เห็นว่าเป็นจริงได้เพียงใด ตัวอย่างของการบรรยายภาษาที่ต้องอาศัยการตั้งสมมุติฐานเห็นได้อย่างกว้างขวางในงานด้านภาษาศาสตร์จิตวิทยา เช่น เมื่อต้องการจะศึกษาพัฒนาภาษาแม่ของมนุษย์ จำเป็นต้องวางแผนอย่างมีระบบว่าจะต้องบรรยายในเรื่องใดบ้าง อาทิ มีองค์ประกอบใดบ้างที่ทำให้มนุษย์รู้ภาษา และการรู้ภาษาหมายรวมถึงคนที่พูดไม่ได้ด้วยหรือไม่ เช่น คนหูหนวกตั้งแต่เกิดหรือหูหนวกมาก มีการสูญเสียการได้ยินขั้นรุนแรงและถ้าเป็นเช่นนั้นสัตว์ซึ่งพูดไม่ได้จะมีการเรียนรู้ภาษาด้วยหรือไม่ และเมื่อตั้งสมมุติฐานว่ามนุษย์เท่านั้นที่สามารถรู้ภาษาได้ สัตว์อื่นๆไม่สามารถกล่าวได้ว่า รู้ภาษา สมมุติฐานดังกล่าวจำเป็นต้องมีการทดสอบ จึงมีการทดสอบกับลิงชิมแปนซีในหลายๆลักษณะ จนได้ลมายืนยันว่าสอดคล้องกับสมมุติฐานที่ได้วางไว้ จึงจะกล่าวได้ว่าเป็นวิธีการศึกษาตามแนววิทยาศาสตร์
๓. การบรรยายภาษาต้องมีความสม่ำเสมอสอดคล้องกับความเป็นจริง
คือควรขจัดลักษณะ “อัตวิสัย” ออกจ
การแปล กรุณารอสักครู่..