Also note that, at least, he will have the task of printing the brochures he had an encounter with a group of friends, both in school and in the neighborhood until seniors and their relatives who are thinking of doing the same, so it has incorporated the collaboration team hand made books called "complains Comic", which in the end. When the story reaches the ears to parents, which made books and publishers already. Make a homemade comic book complaining about why it's upgraded printer in a thin little book, magazine release, a limited number of.ซึ่งหลังจากที่เล่มแรกได้วางขายไปแล้วนั้นมีผลตอบรับที่ดีเกินคาด (ซึ่งภายหลังรู้มาว่าคนที่ซื้อไปส่วนใหญ่ ซื้อไปเพราะเห็นมันพิลึกและถูกดี..) จึงได้มีการตีพิมพ์ฉบับต่อๆไปออกมาอีกในระยะเวลาประมาณปีละเล่มซึ่งหลังจากตีพิมพ์เล่มที่ 3 ออกมาได้แล้วนั้นทางทีมงานก็ได้กระจัดกระจายไป เนื่องจาก เริ่มเข้าเรียนในชั้นอุดมศึกษากันแล้ว ซึ่ง นายธัญลักษณ์ นั้นก็ได้สอบติดเข้าไปเรียน ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ในคณะออกแบบนิเทศศิลป์ ซึ่งค่อนข้างตรงกับสายงานการทำหนังสือ ของทางบ้านนั่นเองและแล้วนาย ธัญลักษณ์ ก็ได้ไปพบกับเพื่อนๆทีมใหม่ที่อยากจะทำหนังสืออีกครั้ง โดยมีทั้งที่สมัครใจ โดนบังคับ และมาแบบงงๆ แต่ท้ายสุดแล้วหนังสือซีรีย์ บ่น comic ก็กลับมาตีพิมพ์อีกครั้งเป็นฉบับที่ 4 จนได้ซึ่งในฉบับที่ 4 นี่เองก็เป็นฉบับสุดท้ายของหนังสือ บ่น Comic สืบเนื่องมาจากทางทีมงานได้มีความคิด ที่จะปรับเปลี่ยนรูปเล่ม และไหนๆก็เป็นทีมงานชุดใหม่ เกือบจะทั้งหมดแล้วในที่สุดจึงได้ทำการรีแบรนดิ้งซะเลย โดยผลจากการประชุมทำให้เราได้ชื่อหนังสือเล่มใหม่ว่า เล็ด Gang พร้อมกับปรับเปลี่ยนรูปเล่ม ขนาดใหญ่ขึ้น ดูมีความเป็นนิตยสารมากขึ้นนั่นเอง (แต่เรื่องระยะเวลาการออกก็ยังเป็นประมาณปีละเล่มเช่นเคย..)หลังจากที่ออก เล็ด Gang ฉบับแรกมาเรียบร้อยแล้วเสียงตอบรับก็เหมือนจะดีเกินคาดอีกครั้ง (น่าจะเนื่องด้วยเหตุผลคล้ายๆตอน บ่น Comic เล่มแรก..) นอกจากจะทำหนังสือ เล็ด gang ฉบับต่อๆไปออกมาอีก 2 ฉบับแล้ว ทีม เล็ด gang ของเราก็ยังได้รับเกียรติจากพี่โหน่ง วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ ผู้ก่อตั้งนิตยสาร a day ให้ทำหนังสือ a day story ฉบับการ์ตูน ซึ่งใช้เวลาในการทำทั้งสิ้นราวๆ 2-3 ปีทีเดียว...
การแปล กรุณารอสักครู่..
