ชื่อเดิมของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต

ชื่อเดิมของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
เสด็จพระราชสมภพ เมื่อ วันศุกร์ ที่ ๑๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๕ ณ บ้านของพลเอกเจ้าพระยาวงศานุประพันธ์ (ม.ร.ว.สท้าน สนิทวงศ์) และท้าววนิดาพิจาริณี บิดาและมารดาของหม่อมหลวงบัว กิติยากร ตั้งอยู่ที่ ๑๘๐๘ ถนนพระรามที่ ๖ อำเภอปทุมวัน จ.พระนคร ได้รับพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวว่า "สิริกิติ์" มีความหมายว่า "ผู้เป็นศรีแห่งกิติยากร" สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระภาดา (พี่ชาย) ๒ องค์ และพระขนิษฐภคินี (น้องสาว) ๑ องค์ ดังนี้
๑.หม่อมราชวงศ์ กัลยาณกิติ์ กิติยากร
๒.หม่อมราชวงศ์ อดุลยกิติ์ กิติยากร
๓.หม่อมราชวงศ์หญิง บุษบา กิติยากร
ในระหว่างยังทรงพระเยาว์ สถานการณ์บ้านเมืองไม่สู้สงบนัก เนื่องจากเพิ่งพ้นจากช่วงการเปลี่ยนแปลงการปกครองไม่นาน เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๖ ขณะที่หม่อมราชวงศ์หญิงสิริกิติ์ มีอายุเพียง ๑ ขวบ ก็ต้องอยู่ไกลจากพระบิดามารดาโดยได้ตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ไปประทับอยู่ที่จังหวัดสงขลา เมื่อหม่อมเจ้านักขัตรมงคลทรงลาออกจากราชการและกลับมาจากวอชิงตัน ดี.ซี.ในปี พ.ศ. ๒๔๗๗ หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ ซึ่งขณะนั้นอายุได้ ๒ ปี ๖ เดือน จึงได้กลับมาอยู่รวมพร้อมหน้ากันทั้งครอบครัว
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงปฏิบัติพระราชภารกิจมากมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งภารกิจในการส่งเสริมคุณภาพชีวิต อาชีพ และความเป็นอยู่ของบุคคลผู้ยากไร้ และประชาชนในชนบทห่างไกล ได้โดยเสด็จพระราชดำเนิน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปทั่วทุกหนแห่งในแผ่นดินไทยนี้
โครงการที่มีสาขาขยายกว้างขวางไปทั่วประเทศโครงการหนึ่งก็คือ โครงการส่งเสริมศิลปาชีพ ซึ่งในภายหลังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ก่อตั้ง เป็นรูปมูลนิธิ พระราชทานนามว่า "มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพพิเศษในพระบรมราชินูปถัมภ์" เมื่อวันที่ ๒๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๑๙ และเมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๘ ได้เปลี่ยนชื่อ เป็น มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ อันเป็นการส่งเสริมอาชีพและขณะเดียวกันยังอนุรักษ์และส่งเสริมงานศิลปะพื้นบ้านที่มีความงดงามหลายสาขา เช่น การปั้น การทอ การจัสาน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ทรงสายสะพายนพรัตน์ราช วราภรณ์เมื่อวันที่๒๘ เมษายน พ.ศ. ๒๔๙๓ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้จัดการ พระราชพิธีราชาภิเษกสมรสขึ้น ณ วังสระปทุม และโปรดเกล้าฯ สถาปนาหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ขึ้นเป็น สมเด็จพระราชินีสิริกิติ์
หลังจากครองราชย์สมบัติอย่างกะทันหัน พระบาทสมเด็จพระหัวอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้โปรดเกล้าฯ ให้มีพระราชพิธี บรมราชาภิเษกขึ้นในวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๔๙๓ และโปรดฯ ให้เฉลิมพระนามาภิไธย สมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ เป็น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี หลังจากนั้นทั้งสองพระองค์ได้เสด็จฯ กลับไปยังสวิตเซอร์แลนด์เพื่อทรงรักษาพระองค์ และทรงศึกษาต่อ แล้วเสด็จฯ กลับมาอีกครั้งในปี พ.ศ. ๒๔๙๕
พ.ศ. ๒๔๗๙ เมื่อหม่อมราชวงศ์หญิงสิริกิติ์มีอายุได้ ๔ ขวบ ก็ได้เข้ารับการศึกษาครั้งแรกในชั้นอนุบาลที่โรงเรียนราชินี ทว่าในขณะนั้น แม้เหตุการณ์ด้านการเมืองภายในประเทศไทย จะสงบลง แต่สถานการณ์ระหว่างประเทศก็ไม่สงบ กล่าวคือสงครามมหาเอเชียบูรพาเริ่มแผ่ขยายมาถึงประเทศไทย กรุงเทพมหานครถูกโจมตีทางอากาศหลายครั้งจนการคมนาคม ไม่สะดวก พระบิดาจึงให้หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ย้ายไปเรียนที่โรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์ เพราะอยู่ใกล้วังพระบิดา ได้เรียนที่นั่นตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ จนจบชั้น มัธยมศึกษา หม่อมราชวงศ์หญิงสิริกิติ์ได้เรียนเปียโน ซึ่งเรียนได้ดี และเร็วเป็นพิเศษ นอกจากนี้ยังได้ศึกษาภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศสด้วย
พ.ศ. ๒๔๘๙ ครั้นเมื่อสงครามโลกครั้งที่สองสงบลงหม่อมเจ้านักขัตรมงคลต้องเสด็จไปดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำ สำนักเซนต์ เยมส์ ประเทศอังกฤษ ทั้งนี้โดยได้ทรงพาครอบครัว ทั้งหมดไปอยู่ด้วย ในเวลานั้น หม่อมราชวงศ์หญิงสิริกิติ์ มีอายุได้ ๑๓ ปีเศษ และเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ แล้ว
ในประเทศอังกฤษหม่อมราชวงศ์หญิงสิริกิติ์ได้ศึกษาต่อทั้งวิชาภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส และวิชาเปียโนกับครูพิเศษหลังจากนั้นไม่นานพระบิดาย้ายไปดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำประเทศเดนมาร์กและประเทศ ฝรั่งเศส ตามลำดับ หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ก็ยังคงเรียนเปียโน และตั้งใจจะศึกษาต่อในวิทยาลัย การดนตรีที่มีชื่อเสียงของกรุงปารีส
ในประเทศฝรั่งเศสหม่อมราชวงศ์หญิงสิริกิติ์ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช (ขณะนั้นทรงศึกษาต่อที่สวิตเซอร์แลนด์หลังจากเสด็จขึ้นครองราชย์) ซึ่งพระองค์เสด็จประพาสกรุงปารีส โดยทางรถยนต์จากสวิตเซอร์แลนด์ เพราะประสงค์จะเลือกซื้อรถยนต์พระที่นั่งแทนคันเดิม และยังได้รับชมการแสดงดนตรีของคณะที่มีชื่อเสียงด้วย ในระหว่างที่เสด็จพระราชดำเนินมายังกรุงปารีสก็ได้ประทับที่สถานทูตไทยประจำประเทศฝรั่งเศสเช่นเดียวกันกับนักเรียนไทยคน อื่นในสมัยนั้น ทั้งนี้เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงโปรดการดนตรีเป็นพิเศษขณะที่หม่อม ราชวงศ์หญิงสิริกิติ์ก็สนใจศิลปะเช่นกัน ทำให้เกิดความความสัมพันธ์ขึ้น

ชื่อเดิมของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
 เสด็จพระราชสมภพ เมื่อ วันศุกร์ ที่ ๑๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๕ ณ บ้านของพลเอกเจ้าพระยาวงศานุประพันธ์ (ม.ร.ว.สท้าน สนิทวงศ์) และท้าววนิดาพิจาริณี บิดาและมารดาของหม่อมหลวงบัว กิติยากร ตั้งอยู่ที่ ๑๘๐๘ ถนนพระรามที่ ๖ อำเภอปทุมวัน จ.พระนคร ได้รับพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวว่า "สิริกิติ์" มีความหมายว่า "ผู้เป็นศรีแห่งกิติยากร" สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระภาดา (พี่ชาย) ๒ องค์ และพระขนิษฐภคินี (น้องสาว) ๑ องค์ ดังนี้
๑.หม่อมราชวงศ์ กัลยาณกิติ์ กิติยากร 
๒.หม่อมราชวงศ์ อดุลยกิติ์ กิติยากร 
๓.หม่อมราชวงศ์หญิง บุษบา กิติยากร 
 ในระหว่างยังทรงพระเยาว์ สถานการณ์บ้านเมืองไม่สู้สงบนัก เนื่องจากเพิ่งพ้นจากช่วงการเปลี่ยนแปลงการปกครองไม่นาน เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๖ ขณะที่หม่อมราชวงศ์หญิงสิริกิติ์ มีอายุเพียง ๑ ขวบ ก็ต้องอยู่ไกลจากพระบิดามารดาโดยได้ตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ไปประทับอยู่ที่จังหวัดสงขลา เมื่อหม่อมเจ้านักขัตรมงคลทรงลาออกจากราชการและกลับมาจากวอชิงตัน ดี.ซี.ในปี พ.ศ. ๒๔๗๗ หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ ซึ่งขณะนั้นอายุได้ ๒ ปี ๖ เดือน จึงได้กลับมาอยู่รวมพร้อมหน้ากันทั้งครอบครัว
 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงปฏิบัติพระราชภารกิจมากมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งภารกิจในการส่งเสริมคุณภาพชีวิต อาชีพ และความเป็นอยู่ของบุคคลผู้ยากไร้ และประชาชนในชนบทห่างไกล ได้โดยเสด็จพระราชดำเนิน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปทั่วทุกหนแห่งในแผ่นดินไทยนี้
 โครงการที่มีสาขาขยายกว้างขวางไปทั่วประเทศโครงการหนึ่งก็คือ โครงการส่งเสริมศิลปาชีพ ซึ่งในภายหลังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ก่อตั้ง เป็นรูปมูลนิธิ พระราชทานนามว่า "มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพพิเศษในพระบรมราชินูปถัมภ์" เมื่อวันที่ ๒๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๑๙ และเมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๘ ได้เปลี่ยนชื่อ เป็น มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ อันเป็นการส่งเสริมอาชีพและขณะเดียวกันยังอนุรักษ์และส่งเสริมงานศิลปะพื้นบ้านที่มีความงดงามหลายสาขา เช่น การปั้น การทอ การจัสาน 
 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ทรงสายสะพายนพรัตน์ราช วราภรณ์เมื่อวันที่๒๘ เมษายน พ.ศ. ๒๔๙๓ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้จัดการ พระราชพิธีราชาภิเษกสมรสขึ้น ณ วังสระปทุม และโปรดเกล้าฯ สถาปนาหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ขึ้นเป็น สมเด็จพระราชินีสิริกิติ์
 หลังจากครองราชย์สมบัติอย่างกะทันหัน พระบาทสมเด็จพระหัวอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้โปรดเกล้าฯ ให้มีพระราชพิธี บรมราชาภิเษกขึ้นในวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๔๙๓ และโปรดฯ ให้เฉลิมพระนามาภิไธย สมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ เป็น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี หลังจากนั้นทั้งสองพระองค์ได้เสด็จฯ กลับไปยังสวิตเซอร์แลนด์เพื่อทรงรักษาพระองค์ และทรงศึกษาต่อ แล้วเสด็จฯ กลับมาอีกครั้งในปี พ.ศ. ๒๔๙๕
พ.ศ. ๒๔๗๙ เมื่อหม่อมราชวงศ์หญิงสิริกิติ์มีอายุได้ ๔ ขวบ ก็ได้เข้ารับการศึกษาครั้งแรกในชั้นอนุบาลที่โรงเรียนราชินี ทว่าในขณะนั้น แม้เหตุการณ์ด้านการเมืองภายในประเทศไทย จะสงบลง แต่สถานการณ์ระหว่างประเทศก็ไม่สงบ กล่าวคือสงครามมหาเอเชียบูรพาเริ่มแผ่ขยายมาถึงประเทศไทย กรุงเทพมหานครถูกโจมตีทางอากาศหลายครั้งจนการคมนาคม ไม่สะดวก พระบิดาจึงให้หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ย้ายไปเรียนที่โรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์ เพราะอยู่ใกล้วังพระบิดา ได้เรียนที่นั่นตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ จนจบชั้น มัธยมศึกษา หม่อมราชวงศ์หญิงสิริกิติ์ได้เรียนเปียโน ซึ่งเรียนได้ดี และเร็วเป็นพิเศษ นอกจากนี้ยังได้ศึกษาภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศสด้วย
 พ.ศ. ๒๔๘๙ ครั้นเมื่อสงครามโลกครั้งที่สองสงบลงหม่อมเจ้านักขัตรมงคลต้องเสด็จไปดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำ สำนักเซนต์ เยมส์ ประเทศอังกฤษ ทั้งนี้โดยได้ทรงพาครอบครัว ทั้งหมดไปอยู่ด้วย ในเวลานั้น หม่อมราชวงศ์หญิงสิริกิติ์ มีอายุได้ ๑๓ ปีเศษ และเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ แล้ว
 ในประเทศอังกฤษหม่อมราชวงศ์หญิงสิริกิติ์ได้ศึกษาต่อทั้งวิชาภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส และวิชาเปียโนกับครูพิเศษหลังจากนั้นไม่นานพระบิดาย้ายไปดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำประเทศเดนมาร์กและประเทศ ฝรั่งเศส ตามลำดับ หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ก็ยังคงเรียนเปียโน และตั้งใจจะศึกษาต่อในวิทยาลัย การดนตรีที่มีชื่อเสียงของกรุงปารีส
 ในประเทศฝรั่งเศสหม่อมราชวงศ์หญิงสิริกิติ์ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช (ขณะนั้นทรงศึกษาต่อที่สวิตเซอร์แลนด์หลังจากเสด็จขึ้นครองราชย์) ซึ่งพระองค์เสด็จประพาสกรุงปารีส โดยทางรถยนต์จากสวิตเซอร์แลนด์ เพราะประสงค์จะเลือกซื้อรถยนต์พระที่นั่งแทนคันเดิม และยังได้รับชมการแสดงดนตรีของคณะที่มีชื่อเสียงด้วย ในระหว่างที่เสด็จพระราชดำเนินมายังกรุงปารีสก็ได้ประทับที่สถานทูตไทยประจำประเทศฝรั่งเศสเช่นเดียวกันกับนักเรียนไทยคน อื่นในสมัยนั้น ทั้งนี้เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงโปรดการดนตรีเป็นพิเศษขณะที่หม่อม ราชวงศ์หญิงสิริกิติ์ก็สนใจศิลปะเช่นกัน ทำให้เกิดความความสัมพันธ์ขึ้น

0/5000

จาก: -

เป็น: -

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]

คัดลอก!

Original name of H.R.H. Queen Sirikit Phra Borommarachininat His King on Friday at the home of August 12 at 2475 (1932) General Chao Phraya wongsa centered around songwriter (M.R.W. Sathan Sanitwong) and Thao JavaScript event service and lovely Wanida mothers of Okinawa TE m.l.nathchanya BUA-located at 1808 Rama 6 Road, patumwan district. Phra Nakhon province have been granted extension from his Majesty King Prajadhipok Rama "means" Queen Sirikit "is designed for Okinawa-te," Sri. H.R.H. Princess Sirikit Phra Borommarachininat God phada (brother), 2 elements and 1 sister (sister) khanisot element, as follows:1. King kodchawan ติ์, Japan, Okinawa-Te. 2. Kawasaki ติ์, Kawasaki, King Martin-อดุลย. 3. Okinawa-Te King girls bussaba During the young Lord Situation in the country is not fighting for peace, because just out of range to change the rule. When the woman, while the King Queen Sirikit 2476 (1933) age only 1 years old, is far from the mother by the father according to his Majesty King Prajadhipok Rama to Songkhla province stamp. When public officials of Yai mom he resigned from public service and returned from Washington, d.c., in which the King Queen Sirikit 2477 (1934) age 2 years, 6 months, it's been back and in front of family. Sirikit Phra Borommarachininat H.R.H. King he perform many of the tasks, especially in promoting the quality of life. And well-being of people in rural areas and the people who broke away from his Royal. His Majesty to anywhere in Thailand, this land. The project has an extensive nationwide expansion project is a project promoting crafts which later deign Church was established as a Royal Foundation "Foundation promoting crafts in Chiba was the Raja of Thailand nup." When July 21 and renamed 2519 (1976) 2528 (1985) as the Foundation for promoting crafts in Sirikit Phra Borommarachininat H.R.H. King to promote the professional and at the same time, the preservation and promotion of folk art that has several branches, such as the beautiful sculpture tree, paulownia. The จัสาน His Majesty King Bhumibol Adulyadej and the Queen he straps Nopparat warapra 2493 (1950) April 28, when the Kingdom of his Majesty Church management. Royal coronation and marriage up at Wang SA pathum and establish a church of a King to Queen Sirikit her Majesty the Queen Sirikit. After the throne unexpectedly properties. King head of the Church is, there were phumiplodunyadet ceremony. Royal rachaphisek in May 5, chalerm Phra namaphithai 2493 and prot. Queen Sirikit is the Queen Sirikit H.R.H. Phrabonmarachini after he had returned to Switzerland to sadet heals him, and study, and then came back again in the sadet 2495 (1952)2479 (1936) when King girls 4 years of age., Queen Sirikit has been studied for the first time in kindergarten at the school thanks to the Queen at that time even if a domestic political event, Thailand to the international situation, peace, but not peace, that is, the war in the Orient Asia started to expand University came to the country in Thailand. Bangkok was attacked many times, until the air transport. Not convenient The father of a King, Queen Sirikit moved to study at the St. Xavier convent frang c near the palace his father teaches there since grade 2 until the end of high school. Queen Sirikit is learning piano King girls learn better and faster is special. It also has an English-language education, France. 2489 (1946) but when the second world war died of Yai mom Chao public position must be to Ambassador. The Office St yem, uk This is all the family shape by going to. In that time. King girls 13 years old Queen Sirikit has graduated high school and a year at 3. In England, King Queen Sirikit has all women studying English. France and major piano with the teacher nanphra his father and no special then moved to Ambassador positions in Denmark and the country. France, respectively. Queen Sirikit, the piano lessons and the King intended to study at the College of music of Paris. In France a King country Queen Sirikit have women into his Majesty phumiplodunyadet (at that time he appeared for Switzerland after study the Throne), his history Paris by car from Switzerland because dash song.Hotels are buying car seats instead of God and country, and also watch the concert of the famous. During his Royal to Paris, the Embassy of Thailand. in France, as well as students in Thailand people. In this passage, both because of his Majesty the King and the music is special as mom. Queen Sirikit was interested in art house, "a woman as well, relationships.

การแปล กรุณารอสักครู่..

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:[สำเนา]

คัดลอก!

The original name of Her Majesty Queen Sirikit. The Queen's
royal birthday on Friday, August 12, 2475, at the home of General Chao folk poet Muhammed (m. The. The. The cryptographic Wong) and Dame Wanida Pinter's authoress. Mother and father ML Bua Kitiyakara located at 1808 Rama 6 Pathumwan district. Capital has been given the name of King Prajadhipok's "Queen" means. "The Sri Kitiyakara of" Her Majesty Queen Sirikit. Queen Majesty Pada (brother) and the second episode Kniษฐpcini (sister), 1 the following
: 1. R. Kalayanapong initiative Kitiyakara
2. R. Adulyadej Queen Kitiyakara
3. R. female flower Kitiyavadee difficult. The
in between he was young. Situation calm a fight Because just out of range of a rule change in 2476 as MR Sirikit last only 1 year old woman was living away from his parents, by his Majesty King Prajadhipok. Sat in Songkhla He starred on the annual holiday grandson resign from the government and returning from Washington. DC. In 2477, R. Sirikit. At the age of 2 years 6 months to get back together, the whole family, including
Queen Sirikit. Queen He performed many diplomatic missions, especially the mission of promoting quality of life and well-being of a person in need. And people in remote areas By His Majesty King everywhere in the land of Thailand, this
project has an extensive nationwide branch expansion project is. Project Outsourcing Later, he graciously gave founded. A Foundation King called "Foundation for the Promotion of Supplementary Occupations in Royal Patronage" on July 21, 2519 and 2528, when it changed its name to Foundation Foundation of Her Majesty Queen Sirikit. Queen Encouraging professional and at the same time preserve and promote folk art has a magnificent variety of fields such as weaving, spinning, weaving, Justin
King. And the Queen The royal sash Nopparat Waraporn on April 28, 2493, the King ordered the management of the Royal Wedding at Sra Pathum Palace and ordered. MR Sirikit was established. Queen Sirikit
after reigning sudden wealth. His Majesty King Bhumibol Adulyadej the head. Ordered A rite Coronation took place on May 5, 2493, and please let's celebrate the title. Queen Sirikit as Queen Sirikit Queen after both his king. Back to the Switzerland to heal him. His Majesty and his studies and then returned again in 2495,
2479 when R. woman Sirikit was 4 years old when she first attended kindergarten at film school. But at that time, Despite the political events in Thailand to calm down, but the international situation was calm. Namely the Pacific War began to spread to Thailand. Bangkok was attacked several times by air traffic inconvenience to Father MR Sirikit moved to St. Francois Xavier Convent Sea. It is close to the Father Wang Learned that since the second grade until the end of Grade R. woman Sirikit has studied piano. Which of course be great And a special fast He also has studied English and French with
BE World War II in 2489, when the annual holiday calm grandson went to the sacred position of ambassador to the UK's Office of St. Swayambhu brought by the family. All went well at the time, R. woman Sirikit age of 13 year, and finished ninth grade three, then
in England, R. woman Sirikit has studied both English and French study piano with teacher after. Before long, Father moved to the position of ambassador to Denmark and France, respectively, MR Sirikit was still learning the piano. And intend to study in college. The famous music of Paris
in France MR Sirikit women have the opportunity to appear before the King. Nath (While there, he studied at Switzerland after the throne), which he visited Paris. By car from Switzerland. I would like to buy motor yacht the original vehicles. And also get to watch the concert of the famous. During proceed to Paris was sitting at the Embassy of France, Thailand Thailand were the same students. In those days, Due to His Majesty the King His favorite music is as serene. Royal Princess Sirikit was interested in art as well. Make the relationship more

การแปล กรุณารอสักครู่..

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:[สำเนา]

คัดลอก!

The original name of Queen Sirikit
her birthday on Friday, 12th August 24. 5 at home wongsanupat general Chao Phraya compositions. (Mr.In last สนิทวงศ์.) and ท้าววนิดาพิจาริณี, father and mother of หม่อมหลวงบัว kitiyakara located at 18 ministry Rama. 6 อำเภอปทุมวัน. .City, received the name of King Rama VII "Queen" means "the Si of kitiyakara". Queen Sirikit. He has the Pada (brother) 2, Prince, and his younger sister, sisterOne Prince:
.1. The present กัลยาณกิติ์. Kitiyakara
2. R. vadhana Sirikit kitiyakara
3 busba kitiyakara. Immature bone.
.While he was young Nation is not peace. Because just from the rule changes soon when BC.๒๔๗๖ while immature bone queen Sirikit was only one year old, you need to stay far from the father มารดาโด has accompanied King Rama VII. To sit in the Songkhla province.Good.C. the pyre. 7 R. queen, which at that time was two years 6 months, it has come back to combine together the whole family!Queen Sirikit. He treated many diplomatic missions, especially a mission to promote quality of life, career, and personal well-being of the poor, and people in rural areas.The king went everywhere in the Thai
.Projects with extensive branch extended throughout the country one is the Arts & crafts. The later graciously pleased to established a foundation called the RoyalOn 21 July, B.Since 1976. And when.๒๕๒๘ has changed the name as the foundation for the promotion of Arts and crafts in the queen Sirikit. The career promotion, and simultaneously also conserve and promote local art with spectacular many branches such as molding.The jus a
.The king and queen. He sash gems Royal varawoot whenever the 28th of AprilIn 1952 3 King graciously to manage the royal wedding ceremony held at srapathum palace and royal establishment R. queen up. Queen Sirikit
.After the crowning suddenly. King Bhumibol Adulyadej graciously head head. Please provide the coronation ceremony. Up on day 5 may 1952. 3. And please, to celebrate the title. Queen Sirikit.Queen Sirikit throne after both his majesty Return to Switzerland for his promises, and shall study and she was back again in B.Professor in 1952 5
BCGood 7 9 when immature bone queen was 4 years old, attend school for the first time in grade kindergarten at the Queen's school, but at the moment. Even the politics of domestic have calmed down.The Greater East Asia war began to spread to the country. Bangkok air attack many times until the transportation is inconvenient, the father gave mom Royal Queen transferred to Saint Francis Xavier's Convent SchoolSchool from grade 2 to finish I, secondary, immature bone Sirikit studied piano, which was well. On special. Also to study English and French with
.BC๒๔๘๙, when World War II down to หม่อมเจ้านักขัตรมงคล went as ambassador of the St. เยมส์, England. The brought the family all along. At that time.The age of 13 years remnants and graduate grade 3.
.In Britain the queen Sirikit immature bone study both English, French, and piano studies with coach shortly after the father moved to become ambassador to Denmark and the country. France.

การแปล กรุณารอสักครู่..

ภาษาอื่น ๆ

การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.