1. สิว (Acne) ช่วงวัยรุ่นมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศ ทำให้ร่างกายหลายระบบมีการเจริญเติบโต ซึ่งรวมถึงต่อมไขมันที่ทำงานมากเกินไป ทำให้เกิดการอุดตันบริเวณรูเปิดของรูขุมขน จนก่อให้เกิดสิวอุดตัน ถ้าปล่อยทิ้งไว้นานเข้า แบคทีเรียในรูขุมขน (P.acne) จะเจริญเติบโตขึ้น และย่อยสลายสิวอุดตัน เกิดเป็นกรดไขมันที่ระคายเคืองต่อผิวหนัง กลายเป็นสิวอักเสบ ในวัยรุ่นชายฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนเป็นสาเหตุให้เกิดการสร้างไขมันวัยรุ่นหญิงช่วงระหว่างรอบเดือนหลังการตกไข่ ฮอร์โมน (Luteinizing hormone) พุ่งสูงขึ้นทำให้เกิดการกระตุ้นต่อมไขมันให้ทำงานมากจึงเกิดสิวระหว่างรอบเดือนได
2. หน้ามัน (Seborrhea)
ปัญหาของคนหน้ามัน เช่น หลังล้างหน้าไม่เกิน 2-3 ชม. หน้าก็มัน แต่งหน้าแล้วรองพื้นติดเป็นคราบ ทาครีมกันแดดก็ยิ่งมันทั้งเวลาดูรูปถ่ายในกล้อง คนหน้ามันจะดูหมองกว่าเพื่อน่ที่มีผิวหน้าธรรมดาและยังทำให้คนหน้ามันง่ายขาดความมั่นใจในการเข้าสังคม
หน้ามันมักพบบริเวณ T-Zone คือ หน้าผาก จมูก คาง เหตุที่หน้าเป็นบริเวณที่มีความมันมากกว่าที่บริเวณอื่นเช่น แขน ขานั้นเนื่องจากจำนวนต่อมไขมันบริเวณใบหน้ามีจำนวนมากว่า (ประมาณ 400-900 ต่อมต่อพื้นที่ผิว 1 ตารางเซนติเมตร ในขณะที่บริเวณอื่นมีประมาณ 100 ต่อมต่อพื้นที่ผิว 1 ตารางเซนติเมตร) จริงๆ แล้วการที่ผิวหน้าคนเราต้องมีการสร้างน้ำมัน (Sebum secretion) ก็เพื่อเป็นเกราะป้องกันไม่ให้น้ำในผิวหนังระเหยมากไปจนผิวแห้งและน้ำมันยังมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อบนผิวหนังได้ แต่ถ้าน้ำมันถูกสร้างออกมามากไป เช่นในช่วงวัยทีนที่ต่อมไขมันขยันทำงานมากไป หรือในโรงทางระบบประสาทบางอย่าง เช่น Parkinson หรือในเพศชายที่มักพบภาวะผิวมันได้มากกว่าเพศหญิง หรือความเครียดก็สามารถกระตุ้นให้หน้ามันได้ ที่สำคัญบางส่วนของคนที่มีปัญหาสิวมีสาเหตุจากหน้ามัน
การล้างหน้าด้วยสบู่บ่อยๆ เกินวันละ 2 ครั้งไม่ใช่ทางออกที่ดีเพราะความรู้สึกหลังล้างว่าหน้าแห้งตึงนั้น หมายถึงสบู่ล้างหน้านั้นทำลายสมดุลของความชุ่มชื้นของผิวหน้า ยิ่งอาจส่งผลเสียเสียตามมา เช่น หน้ายิ่งมันกว่าเดิมเพราะต่อมไขมันยิ่งพยายามสร้างน้ำมันมาเคลือบผิวหน้าใหม่หรือก่อให้เกิดความระคายเคืองกับผิวจนกลายเป็นผื่น