ภาพยนตร์แต่ละเรื่องกว่าจะสร้างเสร็จสมบูรณ์ได้ ต้องอาศัยเทคนิค ความรู้ความสามารถและเงินลงทุนอย่างสูง แม้ภาพยนตร์เรื่องที่ถือว่าสร้างได้ง่ายๆ ก็ต้องลงทุนนับล้านบาทขึ้นไปสาหรับการสร้างภาพยนตร์ในปัจจุบัน แต่หากเป็นเรื่องที่ต้องใช้ฉากและการแสดงที่ยุ่งยาก มีเทคนิคต่างๆ มาประกอบการสร้างภาพยนตร์เรื่องนั้นๆ จะต้องลงทุนเป็นเงินนับร้อยล้านบาท
สิ่งที่เหมือนกันของภาพยนตร์คือความพยายามที่จะถ่ายทอดเรื่องราว เหตุการณ์ ศิลปะ ความสามรถ ความรู้สึกนึกคิดไปสู่สาธารณชน โดยอาศัยภาพยนตร์เป็นสื่อ คุณค่าของภาพยนตร์จึงเป็นเรื่องของความบันเทิงเป็นด้านหลัก ส่วนคุณค่าในด้านอื่นๆ เป็นเพียงคุณค่าแฝงที่ผู้สร้างอาจจงใจสร้างให้มีหรือไม่ก็ตาม การที่ภาพยนตร์มีบทบาทมากด้านการให้ความบันเทิง เป็นผลให้เกิดการสร้างภาพยนตร์เพื่อการบันเทิงที่เกินขอบเขตด้านศีลธรรม จริยธรรมของสังคม ส่งเสริมให้เกิดความคิดและนาไปสู่การแสดงพฤติกรรมที่เป็นภัยต่อสังคม จำเป็นต้องได้รับการควบคุมให้อยู่ในขอบเขตที่เหมาะสม
ส่วนที่ต่างก็คือ
1.ค่านิยมคนดู คือแนวทางการดำเนินเรื่อง บรรยากาศที่หาได้เฉพาะจากหนังฝรั่ง
2.หนังไทยจำกัดแนวบางทีทำแนวแปลกใหม่ คนดูส่วนใหญ่ไม่ชอบ ดูไม่รู้เรื่อง
3. หนังไทย พอจะทำแนวหลากหลายอื่นๆออกมาก็มักจะถูกกระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักก่อนเสมอ โดยออกมาวิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม ขาดอิสระในการทำหนังที่จะสะท้อน "กระแสวัฒนธรรม" ทำให้ท้ายที่สุดแล้วเราจึงไม่มีโอกาสได้ดูหนังไทยที่เนื้อหาดีๆ การแสดงที่สมเหตุผลเข้ากับบริบทประเทศไทยเรา
ในส่วนตัวแล้วดิฉันชอบหนังต่างประเทศ เพราะมีเนื้อหาที่เข้มข้นน่าสนใจ ดูแล้วรู้สึกเหมือนมันมีอยู่จริงๆ เกิดขึ้นจริง แอบแทรกข้อคิดดีๆให้เรา มีความสมจริงและน่าติดตาม