พระโอวาทสิ่งศักดิ์สิทธิ์
พระโอวาทพระบรรพจารย์เทียนหยาน
ประทานไว้เนื่องในโอกาสประชุมธรรม ๒ วัน ณ ไท่จี๋เฉิง (เฉพาะกิจ) จ.ปราจีนบุรี
วันเสาร์ที่ ๑๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๔
สาธุชนกราบขอประทานพระโอวาทชี้แนะ
ผืนนาใจปลูกต้นโพธิจิต ฤกษ์นิมิตชีวิตใหม่ยิ่งใหญ่
จงน้อมสู่การรู้แจ้งญาณเดิมไซร้ สุขสงบพุทธากลางใจตน
เราคือ
พระบรรพจารย์เทียนหยาน รับบัญชาจาก
พระอนุตตรธรรมมารดา ลงสู่โลกาน้อมกายเคียมคัล
องค์ชคัตตรยาพดง ถามศิษย์รักทุกคนสุขสบายดีไหม
น้อมจิตสงบตั้งใจฟัง
ฮา ฮา
อนุตตรธรรม คือรากต้นศาสนา รู้รากต้นจึงรู้ที่มาจิตญาณแท้ ศึกษาธรรม ศึกษาให้รู้จริง ชัดเจนจริงในรากต้น ต้นมหาโพธิมีประวัติอันยาวนาน ในยุคกาลก่อน
บัดนี้ ผู้มีบุญสัมพันธ์ได้ปรากฏในธรรมกาลยุคขาว คือศิษย์รักนั่นเอง ความมหาโชคดีจงถนอมรักษ์ นำพาก่อเกิดซึ่งหนทางบุญกุศล โดยสู่ทางการบำเพ็ญธรรมในวิถีอนุตตรธรรม
ศึกษารากต้น คือค้นหาคัมภีร์จิต ให้รู้พินิจญาณเดิมแท้ในกายเนื้อ กลางดวงตามีจิตพุทธาสถิตมั่น กายเนื้อหมั่นประพฤติหนทางบุญ อย่ากังขาจนลืมรากเดิมพุทธา
ทุกศาสนา มีพุทธประวัติเป็นมา ในวิถีอนุตตรธรรมมีรากเดิม คือจิตเดิมแท้ในกายเนื้อ เพียงศิษย์สงบจิตค้นหาจริง เจ้าจะพบความวิมุตติสุขแห่งจิตใจ
กาลบัดนี้ ด้วยบุญสัมพันธ์จึงพานพบกับมวลศิษย์ หวังว่าเจ้าจะตื่นจากหลับหลงเสียที โดยอาศัยการประชุมธรรม นั่งฟังธรรม เพื่อฟื้นฟูจิตเดิมแท้คืนสู่ชีวิตอันสว่าง ท่ามกลางโลกวุ่นวาย เมื่อเจ้ามีธรรมวิถีดำเนินตามครรลองอย่างสม่ำเสมอ หมั่นเพียรบำเพ็ญปฏิบัติ พระพุทธะก็อยู่กลางใจบัดดล จดจำไว้ สดับธรรมในสองวันนี้ ด้วยจิตใจที่ศรัทธามั่น เมื่อศรัทธาจริง ก้าวตามหนทางธรรม จะบังเกิดชีวิตผาสุก
การพบผจญอุปสรรคท่ามกลางต่างต่าง…
ดังฝึกฝนบารมีธรรม
ดังฝึกฝนจิตใจให้สุขุม
ให้สงบจิตรู้ทบทวนชีวิตอยู่เสมอ
เกิดเป็นคนมีความหมายพึงตระหนัก รู้คุณค่ารู้สัจธรรมจึงดำเนินชีวิตถูกต้อง มิหลงทางสู่อบายมุข ผู้ใดนั้นติดพนัน ติดหนี้สิน พึงตื่นแจ้งมีธรรมมะเป็นสรณะดำเนินตน หากชีวิตหลงอยู่ท่ามกลางความมืดมน ไร้แสงประทีปธรรมนำส่องทาง เหมือนชีวิตวนเวียนอยู่สามภูมิ จงตื่นได้แล้ว เมื่อเจ้าพบมหาธรรมอันวิเศษยิ่ง อย่านิ่งดูดายดูเบา สงสัยจนลืมศึกษาธรรมหลักเหตุผลแห่งธรรมะกระจ่างจริง
เข้าใจไหม
ด้วยรากบุญจึงมีวันนี้ ได้รับธรรมยังมีบรรพชนคุกเข่าอยู่รอบนอก จงรู้สำนึกในความกตัญญู ความกตัญญูนั้นอยู่ในชีวิตของศิษย์ทุกคน เพียงแต่ลืมย้อนมอง ลืมถามจิตญาณพุทธะเดิมเท่านั้น ปฏิบัติกตัญญูยาก กล่าวออกมานั้นง่าย ดังนั้น ฟ้า เทพ ผี คน ต่างได้มองดูมนุษย์ทั้งหลายปฏิบัติคุณงามความดี คิดย้อนถามซึ่งใจตนเป็นคนดี ทำบุญสุนทานเป็นลูกกตัญญู ยังมีเหตุเภทภัย เคราะห์ภัยเจ็บป่วย ศิษย์จงรู้ไว้ มารวิบากกรรมของผู้ใดที่สร้างไว้ ผู้นั้นพึงรับ
การทำความดี คือบุญกุศล
สร้างบุญมีความกตัญญู
คือหนทางที่หนุนนำให้ชีวิตสู่หนทางอันสว่าง สงบ
มีความผาสุกโดยแท้
ในโลกปัจจุบัน ศิษย์พึงพินิจให้เข้าใจ ในความหมายที่อาจารย์กล่าวให้กระจ่างจริง ดังนั้น การบำเพ็ญธรรมในยุคขาว แน่นอนศิษย์ต้องลงเรี่ยวแรงมุ่งมั่นจริงด้วยตนเอง ยิ่งได้รับธรรม ยิ่งต้องศรัทธาจริง ก้าวออกเดินให้ประจักษ์จริงในธรรมะ มหาธรรมมีพลานุภาพ มีความศักดิ์สิทธิ์ ท่ามกลางจิตศรัทธาของศิษย์เอง หากใส่ร้ายโดยมิได้ศึกษาจริง บำเพ็ญปฏิบัติให้เป็นจริง บาปนี้มหันต์นัก จดจำไว้
เข้าใจไหม
ก่อนจากกัน จากนี้สามถึงหกปี ธรรมะจะค่อยค่อยเจริญเติบโต กว่าจะเจริญเติบโต ศิษย์รักต้องลงแส้ม้า รวมพลทหารฟ้า บุกเบิกถากถางให้มากกว่านี้ อย่าได้ลืมผู้มีความสามารถที่มองเห็น ได้ประจักษ์ปรากฏแล้ว ผู้ที่พร้อมหนุนงานอริยกิจก็ปรากฏแล้วเช่นเดียวกัน
ขอให้เจ้า อย่าเกียจคร้าน อย่าหวั่นกลัวต่อมารผจญ ต่ออุปสรรคทั้งหลาย แม้วันนี้เพิ่งจัดประชุมธรรมครั้งแรก แต่ครั้งแรกมีผู้มีบุญศรัทธาจริง มีรากบุญหยั่งลึกแท้ ค่อยค่อยส่งเสริมให้เข้าสู่ประตูธรรม อย่าให้มารรบกวนใจ อย่าให้ใจศรัทธาจริงแปรเปลี่ยน โชคดี
กราบลา
ฮา ฮา ถอย