AbstractIllness such as crisis (Crisis) in the children's lives, regardless of whether the illness, symptoms, such as fever, cough, slight or severe symptoms, such as accident and received the results in stress, both patient and family members, especially children, teens, and children, before being wairian the development. Golden Ghost (2554) Monday said the teens before learning (pre-school age) age 3-6 years age children have the initiative I'd like to do it manually from your own imagination, both based on thoughts and words to yourself as the Center. Wairian (school age) age 6-12 years old to understand the relationship of more than two or more. Learn what was wrong. Understanding vision (concept). e.g. results in ill health. The death, so as a result, children have more stress because they were able to do what was not done. There are no relationships with friends and family in the community from sleeping in the hospital. Social learning decrease, or may have been mocked, separate. Best family, Jay, and alsoบลัส (Jay &Youngblut, 1991)กล่าวว่า ครอบครัวจะเกิดความวิตกกังวล เครียดจากการเจ็บป่วยและเข้านอนในโรงพยาบาลของเด็ก และส่งผลกระทบทำให้เกิดความเครียด ไม่แน่ใจ เกี่ยวกับการเจ็บป่วยของเด็ก เด็กจะหายจากความเจ็บป่วยหรือไม่ เนื่องจากไม่มีความรู้เรื่องโรคและการปฏิบัติตัว ปัญหาดั้งที่กล่าวมาข้างต้นถือว่าเป็นปัญหาสำคัญที่ต้องได้รับการแก้ไข การศึกษาเชิงปฏิบัติการครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อผลิตนวัตกรรมหนังสือนิทานป๊อบอัพมหัศจรรย์เพื่อให้ผู้ป่วยเด็กมีและผู้ปกครองมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องโรคและการปฏิบัติตัวและผู้ปกครองและสามารถนำความรู้ไปใช้ในการดูแลผู้ป่วย เด็กได้ผู้ป่วยเด็กมีสัมพันธภาพกับเพื่อนและผู้ปกครอง มีกิจกรรมระหว่างนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อให้ผู้ป่วยเด็กได้คลายเครียดจากการได้ทำกิจกรรมที่ตนเองสนใจร่วมกับเพื่อนและผู้ปกครองกลุ่มตัวอย่างในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ ผู้ป่วยเด็กในช่วงอายุ 3-10 ปี วัยก่อนเรียนและวัยเรียนตอนต้นจำนวน 5คน และผู้ปกครอง 5 คน บนหอผู้ป่วยเด็ก 5 โดยใช้แบบประเมินความพึงพอใจและแบบประเมินความรู้แบบ pretest posttest สำหรับผู้ใช้นวัตกรรมหนังสือนิทานป๊อบอัพมหัศจรรย์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษาพบว่า ขั้นตอนการทำนวัตกรรมหนังสือนิทานป๊อบอัพมหัศจรรย์ ขั้นตอนที่ 1 การออกแบบนวัตกรรม, ขั้นตอนที่ 2 การปรับปรุงการออกแบบนวัตกรรม, ขั้นตอนที่ 3 การออกแบบโมเดลของนวัตกรรม, ขั้นตอนที่ 4 การปรับปรุงการออกแบบนวัตกรรม, ขั้นตอนที่ 5 การจัดทำนวัตกรรม, ขั้นตอนที่ 6 การปรับปรุงแก้ไขนวัตกรรมเพื่อสะดวกต่อการใช้งาน, ขั้นตอนที่ 7 การนำนวัตกรรมให้ผู้เชี่ยวชาญประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลของนวัตกรรม และ ขั้นตอนที่ 8 การนำนวัตกรรมไปทดลองใช้ ผลการใช้นวัตกรรมหนังสือนิทานปีอบอัพมหัศจรรย์พบว่า แบบประเมินความรู้ในเด็กและผู้ปกครอง รวมจำนวน10 คน โรค ALL คิดเป็นค่าเฉลี่ย pretest:posttest คือ 6 : 9.25 โรค ALL คิดเป็นค่า S.D pretest:posttest คือ 0.82 : 0.5 โรค hemophilia คิดเป็นค่าเฉลี่ย pretest:posttest คือ 6.33 : 9.67 โรค hemophilia คิดเป็นค่า S.D pretest:posttest คือ 0.58 : 1.53โรค thalussemia คิดเป็นค่าเฉลี่ย pretest:posttest คือ 4.33 : 8.33 โรค hemophilia คิดเป็นค่า S.D pretest:posttest คือ 0.58 : 1.53 สรุปคิดรวมความรู้ผู้ปกครองทั้งหมด 3โรค ค่าเฉลี่ย pretest:posttest คือ 5.6 : 9.1 คิดค่า S.D ได้1.43 : 0.74 และแบบประเมินความพึงพอใจในการใช้นวัฒกรรมในเด็กและผู้ปกครอง จำนวน10 คน พี่พยาบาลจำนวน 5 คน ทั้งหมดรวม 15 คน คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ ความพึงพอใจมากที่สุด 93% ความพึงพอใจปานกลาง 7 % ดังนั้นการใช้หนังสือนิทานปีอบอัพมหัศจรรย์ในผู้ป่วยเด็กที่ต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นเวลานานและผู้ปกครองสามารถช่วยให้ผู้ป่วยเด็กและผู้ปกครองมีความรู้คลายเรียดและมีกิจกรรมทำร่วมกันและสนุกนานกับการอ่านและดูหนังสือนิทานป๊อบอัพมหัศจรรย์ เนื่องจากหนังสือนิทานปีอบอัพมหัศจรรย์เป็นหนังสือสามมิติ Pop-up book เป็นหนังสือประเภทหนึ่งที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่เด็ก รูปเล่มนอกจากจะมีภาพ มีตัวหนังสือแล้ว ยังมีสิ่งอื่นที่แปลกไปจากหนังสือธรรมดา คือภาพประกอบในหนังสือเล่มนี้ จะโผล่ออกมาจากพื้นของกระดาษได้ เมื่อหนังสือถูกเปิดขึ้นและภาพจะถูกพับเก็บลงไป เมื่อปิดหนังสือลง ลักษณะเด่นของหนังสือประเภทนี้อยู่ที่ความน่าตื่นเต้น การมีกลไกที่ซับซ้อนสามารถดึงดูดความสนใจของเด็กได้ โดยมีความพิเศษกว่าหนังสือนิทานสามมิติทั่วไป คือ คณะผู้วิจัยได้แต่งเนื้อหานิทานเกี่ยวกับความรู้เกี่ยวกับโรคและการปฏิบัติตัวเบื้องต้นสำหรับผู้ป่วยเด็กที่เป็นโรคธาลัสซีเมีย โรคฮีโมฟีเลีย โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว และผู้ปกครอง จะมีราคาต่ำกว่าหนังสือสามมิติตามท้องตลาดทั่วไป โดยหนังสือนิทานป๊อบอัพมหัศจรรย์ มีทั้งหมด 3 เรื่อง คือ มีดีหลีกหนีโรค ข้าวตูสู้โรค และ พระราชาผู้พิทักษ์ โดยมีวิธีการใช้หนังสือเล่มนี้ คือ เปิดหนังสือนิทานป๊อบอัพมหัศจรรย์แล้วอ่านเนื้อหานิทานให้ผู้ป่วยเด็กฟัง ถ้าผู้ป่วยเด็กอ่านได้ก็ให้อ่านเอง แต่ในกรณีที่ผู้ป่วยเด็กอ่านไม่ได้ก็ให้ผู้ปกครองช่วยอ่านและเล่าให้ฟัง ซึ่งเครื่องมือตัวนี้มีชื่อว่า หนังสือนิทานป๊อบอัพมหัศจรรย์ การศึกษาครั้งนี้มีข้อเสนอแนะ คือ รูปเล่มนิทานน่าสนใจ สีสันสวยสดใสดึงดูดความสนใจเด็กได้ดี แต่เนื้อหาของนิทานยังใช้ภาษาที่เข้าใจยาก เด็กไม่สามรถที่จะเข้าใจได้ ควรมีการปรับเนื้อหาและใช้ภาษาที่ใจเข้าง่าย และตัวการ์ตูนควรมีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับเนื้อหา อย่างเช่น ตัวการ์ตูนที่เป็นตัวเด่นควรตัวใหญ่กว่าตัวร้าย เป็นต้น และรูปเล่มต้องให้มีความแข็งแรง
การแปล กรุณารอสักครู่..