ประเพณีบุญบั้งไฟ ประเพณีบุญบั้งไฟ เป็นประเพณีหนึ่งของภาคอีสานหรือเรียก การแปล - ประเพณีบุญบั้งไฟ ประเพณีบุญบั้งไฟ เป็นประเพณีหนึ่งของภาคอีสานหรือเรียก อังกฤษ วิธีการพูด

ประเพณีบุญบั้งไฟ ประเพณีบุญบั้งไฟ เ

ประเพณีบุญบั้งไฟ




ประเพณีบุญบั้งไฟ เป็นประเพณีหนึ่งของภาคอีสานหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "บุญเดือนหก” เป็นหนึ่งในฮีตสิบสองเดือนของชาวอีสาน
เป็นช่วงฤดูฝนเข้าสู่การทำนา ตกกล้า หว่าน ไถ เพื่อเป็นการบูชาแถนขอฝนให้ตกต้องตามฤดูกาล เหมือนกับการแห่นางแมวของคนภาคกลาง
โดยมีตำนานมาจากนิทานพื้นบ้านของภาคอีสาน เรื่องผาแดงนางไอ่ ซึ่งในนิทางพื้นบ้านดังกล่าวได้กล่าวถึง การที่ชาวบ้านได้จัดงานบุญบั้งไฟ
ขึ้นเพื่อเป็นการบูชา พระยาแถน หรือเทพวัสสกาลเทพบุตร ซึ่งชาวบ้านมีความเชื่อว่า พระยาแถนมีหน้าที่คอยดูแลให้ฝนตกถูกต้องตามฤดูกาล
และมีความชื่นชอบไฟเป็นอย่างมาก หากหมู่บ้านใดไม่จัดทำการจัดงานบุญบั้งไฟบูชา ฝนก็จะไม่ตกถูกต้องตามฤดูกาล อาจก่อให้เกิดภัยพิบัติ
กับหมู่บ้านได้ ซึ่งจะจัดขึ้นทุก ๆ เดือนหกหรือพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายนของทุกปี ด้วยความเชื่อตามเรื่องเล่านี้จึงทำให้ชาวอีสานทำบั้งไฟ
ทุกปีเพื่อเตือนพญาแถน
ประเพณีบุญบั้งไฟ ได้ยึดถือปฏิบัติสืบทอดกันมาเป็นเวลาหลายชั่วอายุคน บุญบั้งไฟเป็นบุญประเพณีที่มีความสำคัญมายาวนาน นอกจาก
นั้นยังเป็นเครื่องหมายของความสามัคคีและมิตรภาพ และถูกจัดขึ้นเพื่อเป็นการขอฝนและต่อสู้กับความแห้งแล้ง ถึงแม้ว่าความเชื่อถือด้าน
เทวดาผู้ซึ่งเป็นเจ้าแห่งฝนในปัจจุบันได้ลดน้อยกว่าในสมัยก่อน แต่ชาวลาวยังคงยึดถือจารีตประเพณี ดั้งเดิมนี้ ด้วยการสืบทอดจากการเตรียม
บุญบั้งไฟขึ้นในทุกๆปีก่อนฤดูเก็บเกี่ยว ควบคู่กับการจัดเตรียมบั้งไฟต่างๆของบุญนี้ ประเพณีต่างๆทางศาสนาพุทธ เช่น การสูตรรดน้ำมนต์
โดยเจ้าอาวาสวัดยังได้ถูกจัดขึ้นพร้อมๆกัน บุญบั้งไฟเป็นบุญประเพณีที่มีความหมายว่า ชาวไร่ชาวนาได้ทำการบูชาขอฝนจากพระยาแถน นอก
จากนี้แล้วบุญบั้งไฟยังเป็นวิธีเดียวที่มนุษย์ใช้สื่อสารกับเทวดาเพื่อเป็นการขอฝน


ภาพถ่ายจากสถานที่จริง
งานบุญบั้งไฟตะไลล้าน ตำบลกุดหว้า อ. กุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์

คนอีสานทำบุญบั้งไฟโดยมีจุดประสงค์หลายอย่าง เช่น ขอน้ำฝน เชื่อมความภักดี แสดงการละเล่น และการบูชาพญาแถนบูชาคุณพระ
พุทธเจ้า ชาวอีสานส่วนมากนับถือพระพุทธศาสนา เมื่อถึงเทศกาลเดือนหกซึ่งเป็นวันประสูติ วันตรัสรู้ และวันปรินิพพานของพระพุทธเจ้าชาว
อีสานจะพากันบูชาคุณของพระพุทธเจ้า โดยการจัดดอกไม้ ธูปเทียนมาบูชาพระพุทธรูป การทำบุญบั้งไฟของชาวอีสานก็ถือว่าเป็นการบูชา
พระพุทธเจ้าด้วยอามิสบูชาอย่างหนึ่งการทำบุญบั้งไฟจะมีการบวชพระเณร เพื่อสืบต่ออายุพระพุทธศาสนาพระและเณรเป็นคนใกล้ชิดและ
ติดต่อกับพระพุทธเจ้าและพระธรรม พระยาขอมทำบุญบั้งไฟครั้งนั้นก็มีบวชเณรด้วย การบวชพระบวชเณรและสรงน้ำหอมพระเณร ก็รวมอยู่
กันในประเพณีนี้ ดังนั้นการทำบุญบั้งไฟชาวอีสานจึงถือว่าเป็นการต่ออายุพระพุทธศาสนายืนยาวต่อไปการขอน้ำฝน การทำนาของชาวอีสาน
ต้องอาศัยน้ำฝน น้ำฝนที่ชาวอีสานอาศัยนั้นชาว อีสานก็สร้างเองไม่ได้ ต้องขอจากเทพบุตร เทพยดา ตามตำนานเล่าไว้ว่า มีเทพบุตรองค์หนึ่ง
ชื่อ วัสกาลเทพบุตรมีหน้าที่แต่งน้ำฟ้าน้ำฝนให้ตกลงมาชาวอีสานเชื่อตามตำนานนี้จึงทำบุญบั้งไฟเพื่อขอน้ำจากเทพบุตรองค์นั้นความสามัคคี
คนในบ้านหนึ่งเมืองหนึ่ง ต่างพ่อต่างแม่ ต่างเชื้อชาติ ต่างศาสนาต่างจารีตประเพณีนั้นเมื่อมาอยู่รวมบ้านรวมเมืองเดียวกัน ต่างคนต่างอยู่
ไม่ได้ ร่วมกันทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองนั้นก็หาความสุขความเจริญไม่ได้ ถ้าคนในบ้านในเมืองถือกันเหมือนพี่เหมือนน้องมี
อะไรช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เวลาเจ็บไข้ได้ป่วยก็ช่วยกันรักษาพยาบาล การทำบุญบั้งไฟของชาวอีสานก็เพื่อเชื่อมความสามัคคีให้เกิดขึ้นใน
บ้านเมืองการแสดงการละเล่น การทำบุญบั้งไฟเป็นการปิดโอกาสให้ทุกคนมาแสดงการละเล่น คนเราเมื่อได้เล่นได้กินร่วมกัน จะเกิดความ
รักใคร่ใยดีต่อกัน การเล่นบางอย่างจะสุภาพเรียบร้อย บางอย่างหยาบโลน แต่ก็ไม่ถือสาหาความถือเป็นการเล่นเท่านั้น

ประเภทของบั้งไฟ
ประเภทของบั้งไฟ บั้งไฟมี 2 ประเภท
ประเภทที่ 1 ได้แก่ บั้งไฟที่ไม่มีหาง เช่นบั้งไฟพุ บั้งไฟพะเนียง บั้งไฟตะไล บั้งไฟดอกไม้ บั้งไฟโครงขาว บั้งไฟม้า
ประเภทที่ 2 ได้แก่ บั้งไฟที่มีหาง ซึ่งแบ่งเป็น 4หมวดหมู่ ดังนี้
1. บั้งไฟน้อย เป็นบั้งไฟที่มีขนาดเล็กบั้งไฟชนิดนี้ถูกนำมาใช้เพื่อเสี่ยงทายดูว่าฝนจะตกต้องตาม
ฤดูกาลหรือไม่ ถ้าหากว่าบั้งไฟถูกยิงขึ้นไปสูงสุดหมายถึงฝนจะดี
2. บั้งไฟร้อย เป็นบั้งไฟที่บรรจุดินปืนน้อยกว่า 12 กิโลกรัม ซึ่งได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อการแข่งขัน
3. บั้งไฟหมื่น เป็นบั้งไฟที่บรรจุดินปืนระหว่าง 12 – 119 กิโลกรัม
4. บั้งไฟแสน เป็นบั้งไฟที่มีขนาดใหญ่ที่สุดซึ่งบรรจุดินปืน 120 กิโลกรัมการแห่บั้งไฟ

การทำบั้งไฟ
ในสมัยก่อนการทำบั้งไฟจะใช้ไม้ไผ่ลำขนาดใหญ่ที่สุด ทะลวงปล้องให้ถึงกัน ภายนอกจะใช้ตอกไม้ไผ่ถักเป็นเชือกมัดรอบลำไผ่ให้แน่น
เพื่อไม่ให้ลำไผ่แตก ส่วนหัวปล้องสุดท้ายจะถูกอุดด้วยแผ่นไม้หนาพอควร แล้วทำการอัดบรรจุหมื่อ (ดินปืน) ให้แน่นด้วยการตำ หรือใช้คานดีด
คานงัด (ในปัจจุบันใช้แม่แรงยกล้อรถบรรทุกแทนสะดวกกว่ากันดังภาพซ้ายมือ) ยุคสมัยเปลี่ยนไปจากลำไผ่กลายมาเป็นท่อเหล็กหรือท่อประปา
(ซึ่งอันตรายมากเมื่อมีการระเบิดใส่ผู้คนอย่างที่เป็นข่าว) ตอนหลังหันมาใช้ท่อพีวีซีแทนซึ่งก็ยังเป็นอันตรายอยู่ดี จากการบูชาแถนมาเป็นการ
พนันขันต่อเพื่อการเดิมพัน จำนวนบั้งไฟที่จุดในแต่ละที่จึงมีจำนวนมาก และสร้างความเสียหายต่อชุมชนในทิศที่บั้งไฟถูกจุดออกไป (เพราะ
สามารถไปไกลได้หลายสิบกิโลเมตร)




การจัดประเพณีบุญบั้งไฟ
ก่อนจะถึงวันงานหรือวันเอาบุญ ชาวบ้านก็จะช่วยกันเตรียมงานกันอย่างสามัคคี ชาวบ้านที่ได้รับมอบหมายจะสร้างปะรำ หรือ "ผาม"
หรือ "ตูบบุญ” ฝ่ายแม่ครัวก็เตรียมข้าวปลาอาหารไว้เลี้ยงแขกเลี้ยงคน ฝ่ายช่างฟ้อนก็เตรียมขบวนรำไว้สำหรับแห่บั้งไฟ ฝ่ายผู้ชายที่เป็นช่าง
ฝีมือก็ช่วยกันทำบั้งไฟและตกแต่งให้สวยงาม งานบุญบั้งไฟส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีพิธ
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
Mid-May Mid-May is a tradition of northeastern region also known as the "six-month merit" is one of the twelve-month visit heater.As the rainy season into the fall, sow, dare County farming in order to worship the Elves get the rain, falls like a seasonal parade of Mrs. Maew Central.The myth comes from the folklore of the Northeast. Re: new Ai, in which Mrs. PHA daeng to such folk have mentioned. The villagers have held bun bang fai.Up to worship The Prince, the Elves gods material sky lathepbut where villagers believe that the Prince, the elves have a duty of care, the rain is correct according to the season.And love is very light. If a village is not prepared to provide merit fireballs worship. The rain will not fall properly according to the season could cause disaster.The village, which will be held every six months, or from May to June every year. By faith according to this story, so people make fireballs.Every year, in order to warn the King of the Elves. Mid-May practices inherited from the evil age for many people. Bun bang fai as bun tradition has long been important. In addition to theIt is also a sign of unity and friendship, and was held to get a fight against the drought and although reliability aspects.Angel, who is the owner of the current rainy season has decreased less than in the past, but Laos is still based on the traditional customary inheritance from the preparation.Bun bang fai meant every year before the harvest, coupled with the staging of the bun bang fai. Various Buddhist traditions, such as person formula.The temple has also been held at the same time. Bun bang fai as annual merit means farmers have to worship Phraya rain from the sky. In addition toFrom now on, the bun bang fai, also is the only way that humans use to communicate with angels to ask for rain. Photos from the actual location.Bun bang fai work with their millions, Kut WA. A. kuchinarai of kalasin ISAN people do bun bang fai with a variety of purposes, such as for rain water loyalty. Show Games and worship the Serpent God's sacrifice of the Elves.Most people revere the Buddha Buddhism When the six-month event, which is the date he was born the day of Buddha's enlightenment and Parinirvana day nationals.Northeast takes you to worship the Lord Buddha's share by flowers, candles, incense and worship Buddha images. Merit fireballs of people it considered worship.Buddha altar with one amit merit fireballs to be ordained as a monk to investigate the ayupra Buddhist monks and a novice monk and close ones.Contact with the Buddha and his Dhamma Phraya Khom merit fireballs has undertaken by Seminary. Undertaken by Seminary and ordination to bathe his perfume, monk was included.In this tradition, so merit fireballs people it considered to ayupra of Buddhism to continue a long-standing request for rain water. Farming of NortheasternRely on rain water rain water that people rely on the people, they create themselves. Must request from hot shot there, according to legend, the thaphoeida hot shot one element.The name dusty blue hot shot water makeup is responsible for the passage of rain water, fall into this myth, so people do bun bang fai to ask the hot shot water from the harmony.People in one house in the city. Different foreign said she opposed racial difference as opposed to the customary religion when it comes to the same home city as well. Different people are different.Do not share an activity that is beneficial to the country, finding happiness is not. If someone in the House in the city, there seems to be just like his brother.What helped to lend a hand. Time to fall ill, medical help. Merit fireballs, visit to harmony, resulting inThe land shown on weekends. Merit fireballs as closing the opportunity to everyone to show games. When we have played together, ate the.I love good fiber. Some play, some neat, polite, but their lone rough did not find an excuse to play only.Types of fireballs Types of fireballs There are 2 types of fireballs. Category 1: fireballs without the tail, such as fireballs output fireballs with their fireballs phaniang fireballs flowers white horse bang fai storyline fireballs. Category 2: fireballs with the tail, which is divided into 4 categories. As follows: 1. little fireballs are smaller fireballs fireballs of this type have been used to predict the risk to see whether it rains, based on.Season or not. If the fireballs were fired up to a maximum mean rain would be nice. 2. the fireballs a hundred as fireballs that contains gunpowder less than 12 kilograms, that have been created for the competition. 3. bang fai Muen as fireballs that contains gunpowder between 12 – 119 kg. 4. bang fai Saen bang fai is the largest, which contains 120 kilograms of gunpowder for bang fai. To make fireballs. In the past to make fireballs, bamboo is used, along with the largest. To break through, to articulate External uses of bamboo pegs, knit tightly tied ropes around the bamboo trunks.The bamboo trunks to prevent cracking the last header block will be articulate with a thick wooden plate should be enough. And then cram packed mue (gunpowder) tightly by friendship or by using beam bouncing.Rock beam (currently using a Jack lift truck wheels instead of the more convenient the left-hand image.) The ages vary from the bamboo trunks become steel pipes or plumbing.(This is very dangerous when people are put on a burst of news) After using PVC pipe, instead of which it still is dangerous anyway. From the altar to the ElvesGame to play The number of fireballs at each point, so there is a lot of and damage to the community in the direction that the fireballs were point out (because of the.Remote access to dozens of kilometers) Held mid-May Before going to work or removing boon. The villagers will help prepare business unity. People who have been assigned to create a marquee, or "pass out"Or "the dog's name of" party Cook, preparing food, raising its fed people. Party dance artist, preparing for the dance procession of fireballs. The men's Department is a photographer.Skill, help make fireballs, and beautiful. Bun bang fai work most of them rarely have phit.
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
ประเพณีบุญบั้งไฟ




ประเพณีบุญบั้งไฟ เป็นประเพณีหนึ่งของภาคอีสานหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "บุญเดือนหก” เป็นหนึ่งในฮีตสิบสองเดือนของชาวอีสาน
เป็นช่วงฤดูฝนเข้าสู่การทำนา ตกกล้า หว่าน ไถ เพื่อเป็นการบูชาแถนขอฝนให้ตกต้องตามฤดูกาล เหมือนกับการแห่นางแมวของคนภาคกลาง
โดยมีตำนานมาจากนิทานพื้นบ้านของภาคอีสาน เรื่องผาแดงนางไอ่ ซึ่งในนิทางพื้นบ้านดังกล่าวได้กล่าวถึง การที่ชาวบ้านได้จัดงานบุญบั้งไฟ
ขึ้นเพื่อเป็นการบูชา พระยาแถน หรือเทพวัสสกาลเทพบุตร ซึ่งชาวบ้านมีความเชื่อว่า พระยาแถนมีหน้าที่คอยดูแลให้ฝนตกถูกต้องตามฤดูกาล
และมีความชื่นชอบไฟเป็นอย่างมาก หากหมู่บ้านใดไม่จัดทำการจัดงานบุญบั้งไฟบูชา ฝนก็จะไม่ตกถูกต้องตามฤดูกาล อาจก่อให้เกิดภัยพิบัติ
กับหมู่บ้านได้ ซึ่งจะจัดขึ้นทุก ๆ เดือนหกหรือพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายนของทุกปี ด้วยความเชื่อตามเรื่องเล่านี้จึงทำให้ชาวอีสานทำบั้งไฟ
ทุกปีเพื่อเตือนพญาแถน
ประเพณีบุญบั้งไฟ ได้ยึดถือปฏิบัติสืบทอดกันมาเป็นเวลาหลายชั่วอายุคน บุญบั้งไฟเป็นบุญประเพณีที่มีความสำคัญมายาวนาน นอกจาก
นั้นยังเป็นเครื่องหมายของความสามัคคีและมิตรภาพ และถูกจัดขึ้นเพื่อเป็นการขอฝนและต่อสู้กับความแห้งแล้ง ถึงแม้ว่าความเชื่อถือด้าน
เทวดาผู้ซึ่งเป็นเจ้าแห่งฝนในปัจจุบันได้ลดน้อยกว่าในสมัยก่อน แต่ชาวลาวยังคงยึดถือจารีตประเพณี ดั้งเดิมนี้ ด้วยการสืบทอดจากการเตรียม
บุญบั้งไฟขึ้นในทุกๆปีก่อนฤดูเก็บเกี่ยว ควบคู่กับการจัดเตรียมบั้งไฟต่างๆของบุญนี้ ประเพณีต่างๆทางศาสนาพุทธ เช่น การสูตรรดน้ำมนต์
โดยเจ้าอาวาสวัดยังได้ถูกจัดขึ้นพร้อมๆกัน บุญบั้งไฟเป็นบุญประเพณีที่มีความหมายว่า ชาวไร่ชาวนาได้ทำการบูชาขอฝนจากพระยาแถน นอก
จากนี้แล้วบุญบั้งไฟยังเป็นวิธีเดียวที่มนุษย์ใช้สื่อสารกับเทวดาเพื่อเป็นการขอฝน


ภาพถ่ายจากสถานที่จริง
งานบุญบั้งไฟตะไลล้าน ตำบลกุดหว้า อ. กุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์

คนอีสานทำบุญบั้งไฟโดยมีจุดประสงค์หลายอย่าง เช่น ขอน้ำฝน เชื่อมความภักดี แสดงการละเล่น และการบูชาพญาแถนบูชาคุณพระ
พุทธเจ้า ชาวอีสานส่วนมากนับถือพระพุทธศาสนา เมื่อถึงเทศกาลเดือนหกซึ่งเป็นวันประสูติ วันตรัสรู้ และวันปรินิพพานของพระพุทธเจ้าชาว
อีสานจะพากันบูชาคุณของพระพุทธเจ้า โดยการจัดดอกไม้ ธูปเทียนมาบูชาพระพุทธรูป การทำบุญบั้งไฟของชาวอีสานก็ถือว่าเป็นการบูชา
พระพุทธเจ้าด้วยอามิสบูชาอย่างหนึ่งการทำบุญบั้งไฟจะมีการบวชพระเณร เพื่อสืบต่ออายุพระพุทธศาสนาพระและเณรเป็นคนใกล้ชิดและ
ติดต่อกับพระพุทธเจ้าและพระธรรม พระยาขอมทำบุญบั้งไฟครั้งนั้นก็มีบวชเณรด้วย การบวชพระบวชเณรและสรงน้ำหอมพระเณร ก็รวมอยู่
กันในประเพณีนี้ ดังนั้นการทำบุญบั้งไฟชาวอีสานจึงถือว่าเป็นการต่ออายุพระพุทธศาสนายืนยาวต่อไปการขอน้ำฝน การทำนาของชาวอีสาน
ต้องอาศัยน้ำฝน น้ำฝนที่ชาวอีสานอาศัยนั้นชาว อีสานก็สร้างเองไม่ได้ ต้องขอจากเทพบุตร เทพยดา ตามตำนานเล่าไว้ว่า มีเทพบุตรองค์หนึ่ง
ชื่อ วัสกาลเทพบุตรมีหน้าที่แต่งน้ำฟ้าน้ำฝนให้ตกลงมาชาวอีสานเชื่อตามตำนานนี้จึงทำบุญบั้งไฟเพื่อขอน้ำจากเทพบุตรองค์นั้นความสามัคคี
คนในบ้านหนึ่งเมืองหนึ่ง ต่างพ่อต่างแม่ ต่างเชื้อชาติ ต่างศาสนาต่างจารีตประเพณีนั้นเมื่อมาอยู่รวมบ้านรวมเมืองเดียวกัน ต่างคนต่างอยู่
ไม่ได้ ร่วมกันทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองนั้นก็หาความสุขความเจริญไม่ได้ ถ้าคนในบ้านในเมืองถือกันเหมือนพี่เหมือนน้องมี
อะไรช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เวลาเจ็บไข้ได้ป่วยก็ช่วยกันรักษาพยาบาล การทำบุญบั้งไฟของชาวอีสานก็เพื่อเชื่อมความสามัคคีให้เกิดขึ้นใน
บ้านเมืองการแสดงการละเล่น การทำบุญบั้งไฟเป็นการปิดโอกาสให้ทุกคนมาแสดงการละเล่น คนเราเมื่อได้เล่นได้กินร่วมกัน จะเกิดความ
รักใคร่ใยดีต่อกัน การเล่นบางอย่างจะสุภาพเรียบร้อย บางอย่างหยาบโลน แต่ก็ไม่ถือสาหาความถือเป็นการเล่นเท่านั้น

ประเภทของบั้งไฟ
ประเภทของบั้งไฟ บั้งไฟมี 2 ประเภท
ประเภทที่ 1 ได้แก่ บั้งไฟที่ไม่มีหาง เช่นบั้งไฟพุ บั้งไฟพะเนียง บั้งไฟตะไล บั้งไฟดอกไม้ บั้งไฟโครงขาว บั้งไฟม้า
ประเภทที่ 2 ได้แก่ บั้งไฟที่มีหาง ซึ่งแบ่งเป็น 4หมวดหมู่ ดังนี้
1. บั้งไฟน้อย เป็นบั้งไฟที่มีขนาดเล็กบั้งไฟชนิดนี้ถูกนำมาใช้เพื่อเสี่ยงทายดูว่าฝนจะตกต้องตาม
ฤดูกาลหรือไม่ ถ้าหากว่าบั้งไฟถูกยิงขึ้นไปสูงสุดหมายถึงฝนจะดี
2. บั้งไฟร้อย เป็นบั้งไฟที่บรรจุดินปืนน้อยกว่า 12 กิโลกรัม ซึ่งได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อการแข่งขัน
3. บั้งไฟหมื่น เป็นบั้งไฟที่บรรจุดินปืนระหว่าง 12 – 119 กิโลกรัม
4. บั้งไฟแสน เป็นบั้งไฟที่มีขนาดใหญ่ที่สุดซึ่งบรรจุดินปืน 120 กิโลกรัมการแห่บั้งไฟ

การทำบั้งไฟ
ในสมัยก่อนการทำบั้งไฟจะใช้ไม้ไผ่ลำขนาดใหญ่ที่สุด ทะลวงปล้องให้ถึงกัน ภายนอกจะใช้ตอกไม้ไผ่ถักเป็นเชือกมัดรอบลำไผ่ให้แน่น
เพื่อไม่ให้ลำไผ่แตก ส่วนหัวปล้องสุดท้ายจะถูกอุดด้วยแผ่นไม้หนาพอควร แล้วทำการอัดบรรจุหมื่อ (ดินปืน) ให้แน่นด้วยการตำ หรือใช้คานดีด
คานงัด (ในปัจจุบันใช้แม่แรงยกล้อรถบรรทุกแทนสะดวกกว่ากันดังภาพซ้ายมือ) ยุคสมัยเปลี่ยนไปจากลำไผ่กลายมาเป็นท่อเหล็กหรือท่อประปา
(ซึ่งอันตรายมากเมื่อมีการระเบิดใส่ผู้คนอย่างที่เป็นข่าว) ตอนหลังหันมาใช้ท่อพีวีซีแทนซึ่งก็ยังเป็นอันตรายอยู่ดี จากการบูชาแถนมาเป็นการ
พนันขันต่อเพื่อการเดิมพัน จำนวนบั้งไฟที่จุดในแต่ละที่จึงมีจำนวนมาก และสร้างความเสียหายต่อชุมชนในทิศที่บั้งไฟถูกจุดออกไป (เพราะ
สามารถไปไกลได้หลายสิบกิโลเมตร)




การจัดประเพณีบุญบั้งไฟ
ก่อนจะถึงวันงานหรือวันเอาบุญ ชาวบ้านก็จะช่วยกันเตรียมงานกันอย่างสามัคคี ชาวบ้านที่ได้รับมอบหมายจะสร้างปะรำ หรือ "ผาม"
หรือ "ตูบบุญ” ฝ่ายแม่ครัวก็เตรียมข้าวปลาอาหารไว้เลี้ยงแขกเลี้ยงคน ฝ่ายช่างฟ้อนก็เตรียมขบวนรำไว้สำหรับแห่บั้งไฟ ฝ่ายผู้ชายที่เป็นช่าง
ฝีมือก็ช่วยกันทำบั้งไฟและตกแต่งให้สวยงาม งานบุญบั้งไฟส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีพิธ
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
Xinjiang




, Xinjiang Is the traditional one of the east or also called "merit six months" is one of the twelve months of heat in the Northeast
.During the rainy season to farming. Fall to sow the plow to worship the elves for rain to fall after the season. Like Mrs. parade of the central
.The legend from the folk tales of the East on the Red Cliff those in which neetaa Dong folk mentioned mentioned. The villagers had a rocket!As a sacrifice of the elves, or the material, skan angel, which people have faith. Prince of the elves have to take care of rain right seasonal
.Have a passion for fire and greatly. If not conducted any village event rocket offerings. The rain will not fall right in season may cause disasters
.With the village, which is held every six months or may to June every year. With this story in the Northeast do the Rockets
every year to warn the angel
.Xinjiang. Be abide tradition for many generations. The rocket is the merit, the long tradition. Besides
.It is also a sign of unity and friendship. And was held as a การขอฝน and fight against drought. Although the trust the
.An angel who is you of in the present lower in the past. But the Laotian still hold traditional customary, inherited from preparing
.
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: