ชื่อเรื่อง การเสริมสร้างความแข็งแรง

ชื่อเรื่อง การเสริมสร้างความแข็งแรงร่างกายส่วนล่างด้วยน้ำหนัก
ผู้วิจัย นายพลวัฒน์ แสนดี
อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์สราวุธ ทัศนาวิวัฒน์
หน่วยงาน -
ปีการศึกษา 2557
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการฝึกความแข็งแรงของร่างกายส่วนล่างด้วยน้ำหนัก ที่มีการฝึก 3 วันต่อสัปดาห์รวม 8 สัปดาห์ คือ จันทร์ พุธ ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 15.30 -17.00 น . โดยมีท่าฝึกทั้งหมด 4 ท่า ได้แก่ Barbell Squats, Dumbbell Lunges, Dumbbell Sumo Squats, Barbell Side Lunges โดยฝึกที่ระดับความหนัก 70,80,90% ของ( 1RM) 8-12 ครั้ง/ท่า ท่าละ 3 เซต ฝึก 3 วัน/สัปดาห์ จำนวน 8 สัปดาห์ และทำการทดสอบโดยหาค่า ( 1RM) ของท่า Squats , Lunges จากเครื่อง (Smit Machine) โดยการสร้างโปรแกรมการฝึกแล้วนำไปตรวจสอบค่าความตรงโดยการหาค่าดัชนีความตรงเชิงสอดคล้อง (IOC) จากผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่าน แล้วนำโปรแกรมการฝึกไปใช้กับกลุ่มตัวอย่างที่เป็นนักศึกษา (เพศชาย) สาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ อายุระหว่าง 20 - 21 ปี จำนวน 4 คน ได้มาจากการสุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง นำกลุ่มตัวอย่างไปทดสอบและฝึกตามโปรแกรม แล้วผู้วิจัยนำข้อมูลในกลุ่มมาวิเคราะห์ค่าทางสถิติ จากโปรแกรมการวิเคราะห์ทางสถิติ SPSS
พบว่ามีค่าเฉลี่ยของการทดสอบวัดความแข็งแรงในท่า Squats ก่อนการทดลอง ( =75.00) ระหว่างการทดลอง ( =77.75) และหลังการทดลอง ( = 81.00) เมื่อเปรียบเทียบก่อนการทดลองกับระหว่างการทดลอง มีความก้าวหน้าคิดเป็นร้อยละ 3.66 ซึ่งไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงหรือไม่พัฒนา และเปรียบเทียบก่อนการทดลอง กับหลังการทดลอง มีความก้าวหน้าคิดเป็นร้อยละ 8.00 และเปรียบเทียบระหว่างการทดลองกับ หลังการทดลอง มีความก้าวหน้าคิดเป็นร้อยละ 4.18 ซึ่งมีความแตกต่างมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.5 ค่าเฉลี่ยของการทดสอบวัดความแข็งแรงในท่า Lunges ก่อนการทดลอง ( =63.75) ระหว่างการทดลอง ( =65.75) และหลังการทดลอง ( = 68.50) เมื่อเปรียบเทียบก่อนการทดลองกับระหว่างการทดลอง มีความก้าวหน้าคิดเป็นร้อยละ 3.13 และระหว่างการทดลองกับหลังการทดลองมีความก้าวหน้าคิดเป็นร้อยละ 4.18 ซึ่งไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงหรือไม่พัฒนา แต่เปรียบเทียบก่อนการทดลองกับหลังการทดลอง มีความก้าวหน้าคิดเป็นร้อยละ 7.45 ซึ่งมีความแตกต่างมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.5
จากการวิจัยพบว่าการทดสอบความแข็งแรงของร่างกายส่วนล่างของกลุ่มตัวอย่างมีการเปลี่ยนแปลงและค่าเฉลี่ยดังนี้ ทดสอบวัดความแข็งแรงท่า Squats คิดเป็นร้อยละ 8.00 ทดสอบวัดความแข็งแรงท่า Lunges คิดเป็นร้อยละ 7.47

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

Title To strengthen the lower body strength with weightsVice President for research General tantayaporn Extremely well.Faculty Advisor sara sarawut to watch evolutionAgencies-Academic year 2557 (2014)Abstract การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการฝึกความแข็งแรงของร่างกายส่วนล่างด้วยน้ำหนัก ที่มีการฝึก 3 วันต่อสัปดาห์รวม 8 สัปดาห์ คือ จันทร์ พุธ ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 15.30 -17.00 น . โดยมีท่าฝึกทั้งหมด 4 ท่า ได้แก่ Barbell Squats, Dumbbell Lunges, Dumbbell Sumo Squats, Barbell Side Lunges โดยฝึกที่ระดับความหนัก 70,80,90% ของ( 1RM) 8-12 ครั้ง/ท่า ท่าละ 3 เซต ฝึก 3 วัน/สัปดาห์ จำนวน 8 สัปดาห์ และทำการทดสอบโดยหาค่า ( 1RM) ของท่า Squats , Lunges จากเครื่อง (Smit Machine) โดยการสร้างโปรแกรมการฝึกแล้วนำไปตรวจสอบค่าความตรงโดยการหาค่าดัชนีความตรงเชิงสอดคล้อง (IOC) จากผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่าน แล้วนำโปรแกรมการฝึกไปใช้กับกลุ่มตัวอย่างที่เป็นนักศึกษา (เพศชาย) สาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ อายุระหว่าง 20 - 21 ปี จำนวน 4 คน ได้มาจากการสุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง นำกลุ่มตัวอย่างไปทดสอบและฝึกตามโปรแกรม แล้วผู้วิจัยนำข้อมูลในกลุ่มมาวิเคราะห์ค่าทางสถิติ จากโปรแกรมการวิเคราะห์ทางสถิติ SPSS พบว่ามีค่าเฉลี่ยของการทดสอบวัดความแข็งแรงในท่า Squats ก่อนการทดลอง ( =75.00) ระหว่างการทดลอง ( =77.75) และหลังการทดลอง ( = 81.00) เมื่อเปรียบเทียบก่อนการทดลองกับระหว่างการทดลอง มีความก้าวหน้าคิดเป็นร้อยละ 3.66 ซึ่งไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงหรือไม่พัฒนา และเปรียบเทียบก่อนการทดลอง กับหลังการทดลอง มีความก้าวหน้าคิดเป็นร้อยละ 8.00 และเปรียบเทียบระหว่างการทดลองกับ หลังการทดลอง มีความก้าวหน้าคิดเป็นร้อยละ 4.18 ซึ่งมีความแตกต่างมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.5 ค่าเฉลี่ยของการทดสอบวัดความแข็งแรงในท่า Lunges ก่อนการทดลอง ( =63.75) ระหว่างการทดลอง ( =65.75) และหลังการทดลอง ( = 68.50) เมื่อเปรียบเทียบก่อนการทดลองกับระหว่างการทดลอง มีความก้าวหน้าคิดเป็นร้อยละ 3.13 และระหว่างการทดลองกับหลังการทดลองมีความก้าวหน้าคิดเป็นร้อยละ 4.18 ซึ่งไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงหรือไม่พัฒนา แต่เปรียบเทียบก่อนการทดลองกับหลังการทดลอง มีความก้าวหน้าคิดเป็นร้อยละ 7.45 ซึ่งมีความแตกต่างมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.5 จากการวิจัยพบว่าการทดสอบความแข็งแรงของร่างกายส่วนล่างของกลุ่มตัวอย่างมีการเปลี่ยนแปลงและค่าเฉลี่ยดังนี้ ทดสอบวัดความแข็งแรงท่า Squats คิดเป็นร้อยละ 8.00 ทดสอบวัดความแข็งแรงท่า Lunges คิดเป็นร้อยละ 7.47

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

Subject to strengthen the lower body weight
, the researchers said PHONLAWAT good
advisors. I Sarawut Storehouses evolved
agencies -
Year 2557
Abstract
This research aims to study the effect of lower body strength training with weight training 3 days per week for 8 weeks is Monday, Wednesday and Friday from 15:30 to 17:00 hrs. The exercise all 4 Tha include Barbell Squats, Dumbbell Lunges, Dumbbell Sumo Squats, Barbell Side Lunges by training with an intensity of 70,80,90% (1RM) 8-12 times / TATA 3 sets of 3-day training. / week for 8 weeks and were tested by means of (1RM) of the port Squats, Lunges from (Smit Machine) by establishing a training program and then checking for a match by finding the index of validity, consistency (IOC. ) from qualified third, then the training program to a sample of students (male) School of Electrical Engineering. Faculty of Industrial Technology © copyrights aged between 20 - 21 years 4 people came from specific sampling. The sample to the test and training programs. Then the researchers used data from the statistical analyzes. From the statistical analysis SPSS
found that the average number of tests of strength in a pre-trial Squats (= 75.00) during the experiment (= 77.75) and after treatment (= 81.00) compared to the pre-trial during the trial. With the advancement of 3.66 percent, which is not going to change or not developed. And the pre-trial After the experiment with Progressively representing 8.00 and a comparison between the experiments with the experimental progressive representing 4.18 which differs more significantly, statistically, 0.5 average to test strength. Lunges position before the experiment (= 63.75) during the experiment (= 65.75) and after treatment (= 68.50) compared to the pre-trial during the trial. Progressively percent to 3.13 and during the trial after trial has progressed 4.18 percent, which is not going to change or not developed. But comparing pretest to posttest. Complete with 7.45 percent, which is more difference statistically significant level. 0.5
The results of that testing the strength of the lower body of the sample is changed, and the average follow. Test of strength, posture Squats 8.00 percent test of strength, posture Lunges 7.47 percent.

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

Title, to enhance the strength, lower body weight
the general, M.D., extremely good
advisor teacher sarawut See evolution
-

abstract academic units 2557
.The purpose of this study was to investigate the effects of strength training of the lower body weight with 3 training days per week? 8 week. Is Monday, Wednesday, Friday, from time to time 15.30 - 17.00.The landing practice all 4 posture, including Squats Barbell, Lunges Dumbbell, Sumo, Dumbbell Squats Barbell Side Lunges by practice that the intensity 70 80 90% (,,, 1RM) 8-12 times / tha tha it 3 set practice 3 days / weeks of 8 week and tested by the () of Squats posture, 1RMLunges from machine (Smit Machine) by creating a training program and was checked validity by using index of validity of consistent (IOC). A panel of experts 3 you. The training program to sample a student (male).Faculty of industrial technology, Buri ram province between the ages of 20 - 21 years of 4 people, obtained from sampling specific. The samples to test and practice according to the program.From the application of statistical analysis SPSS
.The average annual test strength in the Squats before the experiment (= 75.00) between experiment (= 77.75) and after the experiment. (= 81.00) when comparing the pretest and during the experiment. Progress was 3.66 which does not change or development. And compare before the experiment and after the experiment. There is progress were 8.00 comparative experiment and seams during and after the experiment. Progress was 4.