ประวัติความเป็นมาของวันอีสเตอร์ (Hi

ประวัติความเป็นมาของวันอีสเตอร์ (History of the Holidays: Easter)

อีสเตอร์ วันที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในปฏิทินของชาวคริสต์ เป็นการเฉลิมฉลองการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซู แล้วปาฏิหาริย์นี้เกี่ยวข้องอะไรกับกระต่ายและไข่หลากสีด้วย คำตอบซ่อนอยู่ในพิธีกรรมและประเพณีที่สืบต่อกันมาเป็นหลายร้อยชั่วอายุคน

ตามบันทึกในพระคัมภีร์ใหม่ พระเยซูและพระอัครธรรมฑูต (The Apostle) เดินทางไปที่เมืองเยรูซาเลม (Jerusalem) เพื่อประกอบพิธี Passover ซึ่งเป็นเทศกาลศักดิ์สิทธิ์ของชาวยิวเพื่อรำลึกถึงการที่ชาวฮิบรูได้รับการปลดปล่อยจากความเป็นทาส หลังอาหารค่ำในพิธี Passover พระเยซูทรงถูกจับกุม และในวันที่เรียกกันในปัจจุบันว่า วันศุกร์ประเสริฐ (Good Friday) พระเยซูก็ทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน แต่เพียงสองวันนับจากนั้น ท่านก็ทรงฟื้นคืนพระชนม์

ชนชาติยิวเป็นคนกลุ่มแรกที่เริ่มเฉลิมฉลองการฟื้นคืนพระชนม์นี้ โดยคาดกันว่าอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาล Passover ที่จริงแล้ว การเฉลิมฉลองเทศกาลอีสเตอร์เดิมเรียกว่า Pascha ซึ่งมาจากคำว่า Pasach คำในภาษายิวที่แปลว่า Passover

เดิมที เทศกาลอีสเตอร์เฉลิมฉลองกันในวันที่สองถัดจากวัน Passover ดังนั้นมันอาจจะเป็นวันไหนก็ได้ในหนึ่งอาทิตย์ แต่วันอีสเตอร์ที่ตรงกับวันพุธ ออกจะรู้สึกแปลกๆอยู่

ในปี ค.ศ. 325 จักรพรรดิคอนสแตนติน (Constantine) ของอาณาจักรโรมัน และที่ประชุมแห่งไนเซีย (The Council of Nicaea) ตัดสินว่าเทศกาลอีสเตอร์ควรต้องตรงกับวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันที่พระเยซูคริสต์ทรงฟื้นคืนพระชนม์ขึ้นมา วันอีสเตอร์ซึ่งตรงกับวันอาทิตย์นั้น จะเป็นวันอาทิตย์แรก หลังพระจันทร์เต็มดวงในวัน Spring Equinox ซึ่งอาจจะเป็นวันไหนก็ได้ระหว่างวันที่ 22 มีนาคม-25 เมษายน

ในช่วงเดียวกันนี้ ชาวคริสต์ได้เริ่มธรรมเนียมเฉลิมฉลองเทศกาลอีกสเตอร์ขึ้นเป็นอย่างแรก นั่นคือธรรมเนียมการการจุดเทียนปัสกา (Paschal Candle) ซึ่งเปลวเทียนนั้นเป็นสิ่งระลึกถึงการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซู เป็นเหมือนแสงที่ส่องสว่างออกมาท่ามกลางความมืดมิด

ขณะที่ศาสนาคริสต์ได้แผ่ขยายออกไปทั่วทวีปยุโรป มีธรรมเนียมเดิมตามความเชื่อของเพเกนบางอย่างที่ผสมผสานเข้ากับความเชื่อของศาสนาคริสต์ด้วย ที่จริงแล้ว คาดว่าคำว่า อีสเตอร์ (Easter) อาจจะมาจากชื่อของ เทพีเอสตรา (Eastra) เทพีแห่งฤดูใบไม้ผลิและความอุดมสมบูรณ์ นี่นำเรามาสู่ไข่อีสเตอร์ (Easter Egg)

ไข่เป็นสัญลักษณ์แห่งการเกิดตามความเชื่อในตำนานมาเป็นพันๆปี คาดว่าชาวคริสต์รับเอาไข่มาเป็นส่วนหนึ่งในธรรมเนียมเทศกาลอีสเตอร์ในช่วงศตวรรษที่ 13 ไข่แดงในเปลือกเป็นสัญลักษณ์แทนการปรากฏตัวของพระคริสต์จากหลุมฝั่งพระศพ และย้อมเปลือกไข่เป็นสีแดงเพื่อแทนพระโลหิตที่พระคริสต์ต้องสูญเสียไปบนไม้กางเขน

ไม่นาน ไข่อีสเตอร์หลากสีก็ได้มีประเพณีเป็นของมันเอง และประเพณีที่เป็นที่ชื่นชอบมากคือประเพณีการกลิ้งไข่อีอีสเตอร์ (Egg Rolling) ในปี ค.ศ. 1876 สภาคองเกรสออกกฎห้ามเด็กๆเล่นการละเล่นนี้ในพื้นที่ของสภา ดังนั้น ประธานาธิบดี รัทเธอร์ฟอร์ด บี. เฮส จึงเปิดสนามหญ้าของทำเนียบขาวให้เด็กๆได้เข้ามาเล่นกัน หลังจากนั้นประเพณีกลิ้งไข่อีสเตอร์ประจำทำเนียบขาว (The White House Easter Egg Roll) ก็กลายเป็นประเพณีประจำที่เกิดขึ้นทุกปี

แล้วกระต่ายอีสเตอร์กระโดดมาเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลได้อย่างไร กระต่ายวัยเจริญพันธุ์เป็นสัญลักษณ์ของชีวิตที่เกิดใหม่ตามความเชื่อของเพเกนมาเป็นเวลานาน ในช่วงศตวรรษที่ 16 พ่อแม่เริ่มบอกลูกตัวเองว่า ถ้าเด็กๆเป็นเด็กดี กระต่ายอีสเตอร์ก็จะมาวางไข่หลากสีไว้ที่บ้าน เด็กๆก็จะทำรังไว้ในบ้าน เพื่อล่อให้กระต่ายเข้ามา นี่เองเป็นที่มาของประเพณีการล่าไข่อีสเตอร์ (Ester Egg Hunt) และตะกร้าไข่อีสเตอร์ (Easter Basket)

เพื่อช่วยให้เด็กๆ เติมตะกร้าอีสเตอร์ให้เต็มได้ง่ายขึ้น ช่างทำช๊อคโกแล็ตในยุโรป ในช่วงยุคศตวรรษที่ 19 ได้เริ่มผลิตช๊อคโกแล็ตรูปไข่ออกมา ขนมแบบนี้ได้รับความนิยมไปทั่วโลก และคนในปัจจุบันใช้เงินเป็นพันๆล้านดอลลาร์ทุกปี เพื่อซื้อขนมในเทศกาลอีสเตอร์

เทศกาลอีสเตอร์เป็นวันแห่งความปีติที่ชาวคริสต์เฉลิมฉลองการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซู แค่สองพันปีที่ผ่านมานี้มีธรรมเนียมประเพณีใหม่ๆ ถูกผนวกเข้าไว้มากมาย บ้างเป็นประเพณีทางศาสนา และบ้างก็เป็นประเพณีเพื่อความสนุกสนาน แต่อีสเตอร์ยังเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนในครอบครัวมารวมตัวกันเพื่อเฉลิมฉลองการมาถึงของฤดูใบไม้ผลิด้วย ฤดูกาลที่ชีวิตใหม่เกิดขึ้นหลังความหนาวเย็นของฤดูหนาว

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

ประวัติความเป็นมาของวันอีสเตอร์ (ประวัติของวันหยุด: อีสเตอร์) วันศักดิ์สิทธิ์ของวันอีสเตอร์ในปฏิทินคริสเตียนมีการเฉลิมฉลองการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูปาฏิหาริย์นี้มีความเกี่ยวข้องกับกระต่ายที่มีสีสันและไข่. คำตอบที่ซ่อนอยู่ในพิธีกรรมและประเพณีที่สืบทอด มาเป็นหลายร้อยคนชั่วอายุ. ที่บันทึกไว้ในพันธสัญญาใหม่พระเยซูและเอกอัครราชทูตสถานทูต (อัครสาวก) จะเดินทางไปยังกรุงเยรูซาเล็ม-ปัสกา (เยรูซาเล็ม) พิธีซึ่งเป็นเทศกาลที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวยิวที่ระลึกคนภาษาฮิบรูได้รับการปลดปล่อย จากการเป็นทาส. หลังจากอาหารค่ำในพิธีปัสกาพระเยซูถูกจับและเรียกวันที่ปัจจุบันถ้าศุกร์ (วันศุกร์) วิธีการที่พระเยซูบนไม้กางเขน แต่เพียงสองวันจากถังการฟื้นคืนพระชนม์. กลุ่มแรกของชาวยิว เป็นคนเริ่มที่จะเฉลิมฉลองการฟื้นคืนพระชนม์นี้. คาดหวังอาจเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลปัสกา. ฉลองอีสเตอร์เป็นที่รู้จักกัน Pascha ซึ่งมาจากคำว่า "Pasach ซึ่งหมายความว่าปัสกาของชาวยิว.แต่เดิมมีการเฉลิมฉลองเทศกาลอีสเตอร์ในวันที่สองในวันถัดไป ปัสกาดังนั้นมันอาจจะเป็นวันหนึ่งสัปดาห์ แต่ทุกที่ในการแข่งขันวันพุธที่อีสเตอร์จะรู้สึกแปลกคือ. ใน 325 จักรพรรดิคอนสแตนติ (คอนสแตนติ) ของจักรวรรดิโรมันและไนซีอา (สภาไนซีอา) ตัดสินใจว่าอีสเตอร์ควร มักจะตรงกับวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันที่พระเยซูคริสต์ทรงฟื้นคืนพระชนม์. อีสเตอร์ซึ่งสอดคล้องกับวันอาทิตย์ที่มันจะเป็นวันอาทิตย์แรก. พระจันทร์เต็มดวงหลังฤดูใบไม้ผลิวัน Equinox ซึ่งอาจจะเป็นที่ใดก็ได้ระหว่างเดือนมีนาคม 22 เมษายน 25 ในช่วงเดียวกันนี้ . คริสเตียนเริ่มที่จะเฉลิมฉลองเทศกาลค่าใช้จ่ายอื่นที่ลงทะเบียนครั้งแรก. มีค่าใช้จ่ายในการเทียน Pasqual คือ (ปาสคาลเทียน), เปลวไฟเทียนเพื่อรำลึกถึงการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูเป็นแสงส่องแสงออกมาในที่มืด. ในขณะที่ศาสนาคริสต์ได้แพร่กระจายออกไปทั่ว ยุโรป. ค่าใช้จ่ายเดิมจะขึ้นอยู่กับความเชื่อของบางส่วนที่ Kenting ผสมกับความเชื่อของคริสเตียน. จริงคาดหวังคำอีสเตอร์ (Easter) อาจมาจากชื่อของเทศกาลการเกษตร ettra นี้ (Eastra) ที่ออกแบบมาสำหรับการเกษตรเทศกาลฤดูใบไม้ผลิและ ความอุดมสมบูรณ์. นี้จะทำให้เราไข่อีสเตอร์ (Easter Egg) ไข่เป็นสัญลักษณ์ของการเกิดอยู่บนพื้นฐานของความเชื่อในตำนานเป็นพัน ๆ ปี. คริสตชนที่คาดว่าจะได้รับไข่เป็นส่วนหนึ่งของประเพณีอีสเตอร์ในช่วงศตวรรษที่ 13 ไข่แดงในเปลือกเป็นสัญลักษณ์ของการปรากฏตัวของพระคริสต์จากด้านข้างของหลุมที่งานศพและไข่ย้อมสีแดงเชลล์จะเข้ามาแทนที่เลือดว่าพระเยซูคริสต์บนไม้กางเขนจะต้องสูญเสียไม่ได้เป็นเวลานาน. ไข่อีสเตอร์ที่มีสีสันมีประเพณีของตัวเองและเป็นประเพณีที่ชื่นชอบเป็นประเพณีของม้วนไข่อีสเตอร์, E (ไข่โรลลิ่ง) ในปี 1876 สภาคองเกรสออกกฎห้ามไม่ให้เด็กที่มาจากการเล่นเกม ในพื้นที่ของสภานี้เพื่อให้หัวของประธานาธิบดีก็เช้า thoefod หนูหันสนามหญ้าของทำเนียบขาวที่เด็กได้เข้ามาเล่น. หลังจากนั้นปีทำเนียบขาวไข่อีสเตอร์ประเพณีม้วน (The White House ม้วนไข่อีสเตอร์) กลายเป็นประเพณีปกติที่เกิดขึ้นทุกปี. อีสเตอร์ laeokratai กระโดดมาเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาล? กระต่ายเป็นสัญลักษณ์ของชีวิตไม่ทราบว่าเกิดใหม่บนพื้นฐานความเชื่อของหน้าเชิงเป็นเวลานาน. ในช่วง 16 ศตวรรษที่เริ่มที่จะบอกพ่อแม่ว่าถ้าเด็กของพวกเขาเองเด็ก ๆ เป็นเด็กดี. กระต่ายอีสเตอร์จะวางไข่ที่บ้านเด็ก, สีสัน, พวกเขาจะทำรังอยู่ในบ้านเพื่อล่อกระต่ายเข้าไป. นี้เป็นที่มาของประเพณีของ ล่าไข่อีสเตอร์ (Ester ล่าไข่) และตะกร้าของไข่อีสเตอร์ (Easter Basket)To help children make a shock to find the artist in Europe during the era of 19th century laet, 19, has started production of shock to find out a candy egg shaped laet. around the world. Appended into a vast religious tradition? .

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

ประวัติความเป็นมาของวันอีสเตอร์ (ประวัติของวันหยุด: อีสเตอร์). อีสเตอร์.วันที่บริสุทธิ์ที่สุดในปฏิทินคริสเตียน. ฉลองการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซู.(อัครสาวก) ไปยังเมืองเยรูซาเล็ม (Jerusalem) (วันศุกร์)เขาฟื้นคืนชีพชาวยิวที่อยู่ในกลุ่มเป็นครั้งแรกที่จะเฉลิมฉลองการฟื้นคืนชีพของนี้. มันเป็นที่คาดว่ามันอาจเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลปัสกาฉลองความจริงที่ว่าวันอีสเตอร์ที่ถูกเรียกว่า Pascha ซึ่งมาจากคำว่ายิดดิชคำ Pasachค.ศ. 325 จักรพรรดิคอนสแตนติตัดสินใจ 22 มีนาคม -25เมษายนในเดียวกันระยะเวลา. คริสเตียนมีประเพณีเฉลิมฉลองมอนสเตอร์อีกครั้งแรก. นั่นคือประเพณีเทียนปัสกา (ปาสคาลเทียน) เป็นเปลวไฟที่เป็นที่ระลึกของการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซู.(อีสเตอร์) อาจจะมาจากชื่อของเทพเจ้าดา (Eastra) (ไข่อีสเตอร์)ๆ 13 เป็น(ไข่โรลลิ่ง) ในปี 1876 .. (ทำเนียบขาว 16 ผู้ปกครองเริ่มบอกตัวเองว่าๆ จะทำรังใน (เอสเตอร์ล่าไข่) และตะกร้าของไข่อีสเตอร์ (Easter Basket)เพื่อช่วยให้เด็ก. เติมเต็มตะกร้าอีสเตอร์ได้ง่ายขึ้น. ช็อคโกแลตเด็ก แรงกระแทกยุโรปในในช่วงคุณต้นศตวรรษที่19 ที่จะเริ่มต้นในการผลิตไข่ช็อคโกแลตช็อตออกมา. ขนมนี้เป็นที่นิยมทั่วทุกมุมโลก. และคนในวันนี้มีการใช้จ่ายพันล้านดอลลาร์ในแต่ละปี.หากต้องการซื้อขนมอีสเตอร์อีสเตอร์เป็นวันแห่งความสุขที่คริสเตียนเฉลิมฉลองการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซู. เพียงสองปีที่ผ่านมาประเพณีใหม่.หลายคนจะถูกผนวกบางคนมีประเพณีทางศาสนาและเป็นประเพณีเพื่อความสนุกสนานบาง. แต่อีสเตอร์ยังเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนในครอบครัวรวมตัวกันเพื่อเฉลิมฉลองการมาถึงของฤดูใบไม้ผลิ. ฤดูกาลใหม่ของชีวิต เกิดขึ้นหลังจากที่ความหนาวเย็นของฤดูหนาว

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

ประวัติความเป็นมาของวันอีสเตอร์ (ประวัติของวันหยุด: อีสเตอร์)

วันอีสเตอร์บริสุทธิ์ที่สุดในปฏิทินของคริสเตียนฉลองการคืนพระชนม์ของพระเยซู
และความมหัศจรรย์นี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระต่ายและไข่สี.ตาม เว็บไซต์ซึ่งเป็นพระคัมภีร์ใหม่ EOS พระเยซูวัสดุดิบอัครธรรม (อัครสาวกกลุ่มนี้ที่กับเยรูซาเลม (Jerusalem นี้ทางเดียวพิธี EOS ปัสกา EOS หลังอาหารค่ำในเทศกาลปัสกาพระเยซูถูกจับและในวันที่เรียกว่า วันศุกร์ที่พระวรสาร (ศุกร์) พระเยซูสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน.

แต่เพียงสองวันต่อมาเขาก็ฟื้นคืนชีวิต.. ชาวยิวเป็นคนแรกเริ่มที่จะเฉลิมฉลองการฟื้นคืนพระชนม์. เป็นที่คาดว่าอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลปัสกาเทศกาลฉลองจริง อีสเตอร์เดิมเรียกว่า Pascha ซึ่งมาจากคำว่า. Pasach ให้อาหารภาษายิวที่แปล?