Chapter 2The documents and the related projectIn order to make the project a computer. My group has made rueangkriya 3 channel so that younger students like. Verb is a word that refers to the symptoms or events that occur in each time interval. In other words, it is the words that represent actions of a President in a sentence or a word that provides a manner. 7. Manner is a vital role in each sentence. If a particular sentence is missing a word in this manner. Meaning it's not happening and not be aware of events or have a mind that is not complete. A functional character is divided into 3 categories, namely.1. (Transitive Verb), sokrarom verb is a verb which must contain a verb or noun meaning from support to complete, such as The boys kick football in the mean field. Children kick soccer turf is the word "kick" as a verb. Indicates an event that now or now the kids are playing. The section "football" as a verb or a verb, the Act supports the meaningful. Because if you use the word "kick" the only meaning of the word is not complete. Don't know what a kick themselves. 2. อกรรมกิริยา ( Intransitive Verb ) คือ คำกิริยาที่ไม่ต้องมีตัวกรรมหรือคำอื่นมารองรับก็ได้ความหมายสมบูรณ์เช่น The dogs run in the field. ประโยคนี้ไม่ต้องมีตัวกรรมมารองรับ ก็ได้ใจความสมบูรณ์ดี ซึ่งคำว่า “ run “ แปลว่า “ วิ่ง “ คงไม่ต้องถามว่าใช้อะไรวิ่งนะครับ 3. กิริยาช่วย ( Helping Verb หรือ Auxiliary Verb ) คือ กิริยาที่มีหน้าที่ช่วยให้กิริยาด้วยกันมีความหมายดีขึ้น และยังมีหน้าที่ทำให้ตัวของมันเองมีความหมายที่สมบูรณ์ขึ้นได้ดีอีกด้วย เช่น She studies in Lamp – Tech college . Does she study in Lamp – Tech College ? เอกสารที่เกี่ยวข้องก่อนอื่นต้องขอทำความเข้าใจกับนักเรียนก่อน เรื่องการใช้คำกิริยาในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ซึ่งในปัจจุบันนี้นักเรียนจะเห็นว่าภาษาอังกฤษมีความสำคัญอย่างยิ่งในการติดต่อสื่อสาร ระหว่างกัน ยิ่งในยุคที่เรียกว่า “ ยุคการสื่อสารไร้พรมแดน หรือ Globalization “ คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า ภาษาอังกฤษมีความสำคัญมาก ซึ่งอาจารย์ผู้เขียนเอง ได้กล่าวอยู่บ่อยครั้งว่า “ คนยุคใหม่ถ้าไม่รู้เรื่องภาษาอังกฤษเลย ก็ดูเหมือนว่าจะล้าสมัยเสียเหลือเกิน “ เพราะฉะนั้นหากนักเรียนมีความต้องการที่เข้าใย ( ต้องขอใช้คำว่า “ เข้าใจ “ ) นะครับ เพราะถ้าใช้คำว่า “ เก่ง “ ก็คงต้องใช้เวลาศึกษาหลายปีทีเดียว ดูเหมือนว่ามันเป็นอะไรที่ห่างไกลเหลือเกิน .นักเรียนต้องถามตัวเองก่อนว่า เราเองมีความชอบหรือมีทัศนคติอย่างไรกับการเรียนภาษาอังกฤษ ? ทำไม ต้องถามอย่างนั้น ก็เพราะว่า อย่างน้อยเราจะได้รู้ถึงขีดความสามารถของตัวเอง หรือขอบเขตความต้องการของเราก่อนแต่รู้หรือไม่ครับ มันเป็นเรื่องแปลกแต่จริง ที่สถานศึกษาทุกแห่งทั่วประเทศเขาบังคับให้นักเรียนได้เรียนกันหากเราทำความเข้าใจและมีใจชอบหรือมีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนภาษาอังกฤษแล้ว ภาษาอังกฤษก็เป็นเรื่องที่ง่ายมาก เพราะไม่มีอะไรที่ยากเกินความสามารถของผู้ต้องการใช้มันเพื่อวัตถุประสงค์บางอย่างการเรียนภาษาอังกฤษ หากจะเปรียบกับการฝึกจักรยานมันก็เป็นสิ่งที่ยากตอนเริ่มฝึกใหม่ ๆ เท่านั้นเอง อาจจะมีล้มลุกคลุกคลานบ้าง ก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่ หากฝึกได้ บังคับทิศทางได้มันก็ไม่ยากอะไรเลยในการศึกษาภาษาอังกฤษนั้น ในปัจจุบันยิ่งสะดวกสบาย เนื่องจากว่ามีคู่มือมากมายหลายสำนักได้เขียนออกมา ซึ่งเราสามารถนำมาประกอบการเรียนได้อย่างดีเลยที่เดียวอยากเก่งและเข้าใจภาษาอังกฤษเหมือนคนอื่นเขาหรือเปล่า ?ทีนี้อาจารย์ผู้เขียนจะได้แนะเคล็ดที่ไม่ลับให้กับเหล่านักเรียน เมื่อเรียนกับอาจารย์แล้วรับรองว่าจะเข้าใจภาษาอังกฤษและรักมันมากยิ่งขึ้นอีกเยอะเลยทีเดียว ลองติดตามกันดู หลักการง่าย ๆ ที่เราจะเข้าใจภาษาอังกฤษก็มีเพียงแค่ไม่กี่อย่าง ไม่อยากบอกว่ามี 3 อย่างคือ ประธาน + กิริยา + กรรม ( subject + verb + object ) เช่น The students go to school by the bus. มีหลายคนที่ไม่เข้าใจเลย เนื่องจากไม่มีหลักในการจับ เมื่อเห็นข้อความเป็นภาษาอังกฤษก็งง เป็นไก่ตาแตกเลย.จากตัวอย่างข้างต้นที่ได้ยกมานั้น เราจะรู้ว่าประโยคนี้เขากล่าวถึงอะไรและหมายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงไหน เป็นอดีต ปัจจุบัน หรือว่าอนาคต ซึ่งในที่นี้เราจะใช้หลักการสังเกตจากคำกิริยานั่นเอง จากประโยคที่ว่า The students go to school by bus. กิริยาในประโยคคือ go เป็นตัวบ่งบอกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ทั้งนี้เพราะว่า กิริยาเป็นรูปปัจจุบัน
การแปล กรุณารอสักครู่..