ญานทัสสนะที่๑ (กิจอันควรรู้และปฏิบัติ ข้อที่๑) : ทุกข์ คือสภาพหรือสภา การแปล -  ญานทัสสนะที่๑ (กิจอันควรรู้และปฏิบัติ ข้อที่๑) : ทุกข์ คือสภาพหรือสภา อังกฤษ วิธีการพูด

 ญานทัสสนะที่๑ (กิจอันควรรู้และปฏิบ

 ญานทัสสนะที่๑ (กิจอันควรรู้และปฏิบัติ ข้อที่๑) : ทุกข์ คือสภาพหรือสภาวะที่เกิดขึ้นแล้วทนอยู่ด้วยได้ยาก,ลำบาก   สภาพทุกข์นั้น เกิดขึ้นมาจากเหล่าทุกขเวทนาอันเป็นสภาวธรรมของชีวิตในการรับรู้จากการผัสสะ  และเกิดขึ้นจากเหล่าทุกขอริยสัจที่เมื่อเกิดขึ้นแล้วย่อมยังให้เกิดทุกขเวทนาขึ้นด้วยนั่นเอง  จึงล้วนเป็นทุกข์ธรรมชาติอย่างหนึ่งที่ต้องเกิด,ต้องมี,ต้องเป็นเป็นธรรมดา   ทุกขอริยสัจจึงเป็นทุกข์ชนิดที่ต้องเกิดขึ้นอย่างจริงแท้เป็นที่สุดเป็นธรรมดาแก่ทุกรูปนาม ไม่ละเว้นอะไรๆแก่ใครๆทั้งสิ้น อันมี "ความเกิด๑  ความแก่๑  ความเจ็บ๑  ความตาย๑  ความปรารถนาสิ่งใดไม่ได้ในสิ่งนั้น๑  การประจวบกับสิ่งอันไม่เป็นที่รัก๑  การพลัดพรากจากสิ่งที่เป็นที่รัก๑  เหล่านี้เป็นทุกข์  โดยย่อ อุปาทานขันธ์ ๕ เป็นทุกข์" เหล่านี้คือทุกขอริยสัจที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้เนืองๆเป็นอเนก    ถ้าโยนิโสมนสิการจะเห็นได้ว่าความทุกข์ทั้ง ๗ นี้ อันมี
        ๑. ความเกิด ทุกข์อันมีมาแต่การเกิดเช่น การเกิดอันเป็นทุกข์ นอนคุดคู้อยู่ในครรภ์ถึง ๙ เดือน, สัญชาตญาณ(ญาณ-ความรู้ความเข้าใจที่มีมาแต่การเกิด)ต่างๆเช่นการรับรู้ในสัมผัส-รับรู้ความหิว, รับรู้ความเจ็บปวด ฯ  ตลอดจนเมื่อมีความเกิดขึ้นมาแล้วจึงยังให้มีทุกข์และโทษที่เกิดแก่สังขารกายโดยธรรมหรือธรรมชาติ(อาทีนวะ)  ทุกข์ที่ต้องดูแลรักษาเกิดตามมาอีกด้วย  ถึงเวลาหิวกระหายก็ต้องขวยขวายหาให้กินให้ดื่ม  ถึงเวลาก็ต้องให้เขาขับถ่าย  ร่างกายก็ต้องดูแลชำระรักษา  ฟันก็ต้องดูแลรักษาไม่ให้เหม็นเน่าผุพัง ฯลฯ. มีทั้งอาชีวทุกข์ที่ตามมา  อีกทั้งทุกขอริยสัจทั้ง ๖ ที่เหลืออยู่ก็พึงต้องเกิดตามมาเป็นธรรมดาโดยธรรม(ธรรมชาติ)  ท่านจึงกล่าวว่า ความเกิดก็เป็นทุกข์แล้ว  อันพึงต้องเกิดขึ้นเป็นธรรมดา
        ๒. ความแก่  ความทุกข์อันเกิดแต่ความแก่ ความเฒ่า ความชรา ความถดถอย ความวิตกกังวลอันเกิดแต่ในความชรา  อันพึงต้องเกิดขึ้นเป็นธรรมดา
        ๓. ความเจ็บ  ความทุกข์อันเกิดแต่ความเจ็บป่วย  เจ็บไข้ ความเจ็บปวดอันเกิดแต่การกระทบผัสสะต่างๆทางโลก ความวิตกกังวลวุ่นวายใจในความเจ็บป่วยไข้ไปต่างๆนาๆ  อันพึงต้องเกิดขึ้นเป็นธรรมดา  เป็นทุกข์และโทษของสังขารกายที่เกิดขึ้นโดยธรรมหรือธรรมชาติ(อาทีนวะ)
        ๔. ความตาย  ความทุกข์อันเกี่ยวกับความตาย ความกังวลในความตาย ความกลัวตาย ความวิตกกังวลในภพภูมิภายหลังความตาย  อันพึงต้องเกิดขึ้นเป็นธรรมดา
        ๕. ความปรารถนาสิ่งใด ไม่ได้ในสิ่งนั้น  ความทุกข์อันเกิดแต่ความไม่สมหวัง ความไม่ได้ตามปรารถนา  แม้จะมีความสมหวังสมปรารถนาบ้างเป็นธรรมดา   แต่ที่สุด ความไม่สมหวัง ความไม่ได้ตามปรารถนา ย่อมต้องเกิดขึ้น  อันพึงต้องเกิดขึ้นเป็นธรรมดา  อันนับได้ว่าเป็นทุกข์ที่พบพานมากเป็นที่สุดทีเดียว
        ๖. การประจวบกับสิ่งอันไม่เป็นที่รัก  ความทุกข์อันเกิดแต่การประสบกับสิ่งที่ไม่ชอบ ไม่ถูกใจ สิ่งที่ไม่พึงปรารถนา อันย่อมเกิดขึ้นในการดำรงชีวิต  แม้จะประสบกับสิ่งที่ชอบถูกใจบ้างเป็นธรรมดา  แต่ที่สุด การประสบกับสิ่งที่ไม่ชอบ ไม่ถูกใจ สิ่งที่ไม่พึงต้องการ ย่อมต้องเกิดขึ้น  อันพึงต้องเกิดขึ้นเป็นธรรมดา
        ๗. การพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก  ความทุกข์อันเกิดจากการพลัดพราก จากการเสื่อม แปรปรวน หรือการดับไป จึงเกิดการสูญเสียสิ่งต่างๆอันเป็นที่รักทั้งในบุคคล ตลอดจนวัตถุสิ่งของ อันเป็นที่รัก,ที่ชอบ,ที่หวงแหน  อันพึงต้องเกิดขึ้นเป็นธรรมดา
        โยนิโสมนสิการโดยแยบคายจะพบว่า ทุกข์ทั้ง ๗ นี้ครอบคลุมสรรพทุกข์ทุกอย่างประดามีในโลกนี้โดยบริบูรณ์ ครบถ้วนไม่บกพร่องแม้แต่น้อยหนึ่ง  แต่ทุกข์ทั้งหลายทั้งปวงคือทั้งทุกขเวทนาและทุกขอริยสัจทั้ง ๗ นี้เป็นเหตุปัจจัยอันเป็นจริงและสำคัญยิ่ง และไม่สามารถหลบหนีได้ก็จริงอยู่ เพราะเป็นทุกข์โดยธรรมหรือธรรมชาติ หรือจะเรียกว่าทุกข์ธรรมชาติก็ได้  จึงเป็นเหตุปัจจัยสำคัญที่ยังคงต้องเกิด ต้องมี ต้องเป็นเช่นนั้นเอง ดังเช่น กายกระทบโผฏฐัพพะอย่างแรงย่อมเกิดทุกขเวทนาเป็นธรรมดาโดยธรรมหรือธรรมชาติแก่ทุกรูปนาม และเช่นกันเมื่ออายตนะคือจิตกระทบกับธรรมารมณ์ชนิดเป็นทุกข์ย่อมก่อให้เกิดทุกขเวทนาเป็นธรรมดา   ส่วนทุกขอริยสัจนั้นทุกชีวิตย่อมต้องประสบพบกับทุกข์ทั้ง ๗ นี้ทุกบุคคล เขา เราเช่นกัน   เมื่อโยนิโสมนสิการโดยแยบคายก็จะพบกับความเป็นจริงดังที่กล่าวมาทุกประการว่าเป็นสภาวธรรมหรือสภาวะทุกข์โดยธรรมหรือธรรมชาติ อันย่อมไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดหลีกหนีพ้น แม้แต่พระบรมศาสดาและพระอริยะทุกท่านทุกพระองค์ก็จริงอยู่   และท้ายสุดพระองค์ท่านได้กล่าวสรุปลงเป็นหนึ่งเดียวเท่านั้นที่ครอบคลุมความทุกข์ทั้งปวงว่า โดยย่อ อุปาทานขันธ์ ๕ เป็นทุกข์  เพราะธรรมชาติเดิมๆแท้ๆของทุกข์ทั้ง ๗ แม้มันจะเป็นทุกข์จริงๆอย่างหนึ่งโดยธรรมชาติเอง แต่ไม่เผาลนเร่าร้อนดังไฟนรกที่เผาอยู่ในหัวจิตหัวใจอย่างยาวนาน   ทุกข์ทั้ง ๗ เหล่านี้ยังต้องมีเหตุปัจจัยอื่นๆมาร่วมด้วยจึงจะยังให้เกิดอุปาทานทุกข์อันแสนเผาลนเร่าร้อนดังกล่าวขึ้นได้  และความทุกข์ที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนให้ดับไปนั้นก็คือ อุปาทานทุกข์ เหล่านี้นั่นเอง  จึงไม่ใช่การปฏิบัติเพื่อดับทุกข์ชนิดทุกขเวทนาอันเป็นทุกข์ธรรมขาติของชีวิตในการรับรู้การกระทบ(ผัสสะ)ในสิ่งต่างๆของชีวิตแต่อย่างใด     ส่วนอุปาทานทุกข์อันแสนเร่าร้อนเผาลนนั้น ก็จำต้องมีเหตุปัจจัยอื่นร่วมอีกด้วย จึงจะเกิดขึ้นได้ อันเป็นไปตามวงจรของการเกิดขึ้นแห่งทุกข์ปฏิจจสมุปบาท อันคือ ตัณหา, อุปาทาน.....นั่นเอง  จึงยังผลให้เกิดอุปาทานขันธ์ ๕ อันเป็นทุกข์ขึ้นได้ กล่าวคือ ความทุกข์ดังกล่าวที่เผาลนต้องประกอบด้วย ตัณหา ---> อุปาทาน จึงจะบังเกิดแก่จิตหรือใจจนเร่าร้อนเผาลน  และอุปาทานขันธ์ ๕ อันเป็นทุกข์เหล่านี้สามารถดับหรือจางคลายลงไปได้ด้วยธรรมอันวิเศษของพระองค์ท่าน,   จึงควรศึกษาพิจารณาขันธ์ ๕ โดยเฉพาะเวทนา  และตัณหา,อุปาทาน ตลอดจนอุปาทานทุกข์อันเกิดขึ้นและเป็นไปในชรา ให้เข้าใจจากกระบวนธรรมในวงจรปฏิจจสมุปบาท   มิฉนั้นจักสับสนระหว่างทุกขเวทนาอันเป็นธรรมขาติ กับเวทนูปาทานขันธ์(เวทนาที่ประกอบด้วยอุปาทาน)อันเป็นอุปาทานทุกข์ในชรา  เมื่อสับสนแล้วทําให้ไม่ก้าวหน้าในธรรม เพราะมัวแต่สาระวนวนเวียนเพียรพยายามดับขันธ์ ๕ บ้าง ดับทุกขเวทนาบ้าง หรือพยายามแม้ดับสังขารความค
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
Yanthat sana at 1 (almost one should know and do. That is 1): suffering is a condition or state that occurs with a hard, durable, and is frustrating. The suffering condition occurs from thukokwetna harmed them as tones of life in recognition of their thukkhoriyasat, sparśa arising from that to happen, then he surely has an thukokwetna with it. It is one of the natural unhappiness plain to occur, there must be, must be a plain. Thukkhoriyasat is the type of suffering must occur, actual experience as simple as possible to all its extension. Do not omit anything to anyone, all of "the birth of 1 to 1, 1 death, 1 hurt. What's not in it 1 The berth with an unwanted love 1 The sharply separated from what is love 1 both of these brief distressed Khan 5 distressed ", these are the thukkhoriyasat therefore, he said, habitually as a manifold. If analytical reflection can be seen that this suffering is 7. 1. the cause of suffering, but the occurrence of such an occurrence is suffering accordingly to drill up to 9 months of pregnancy is in the khu, intuition (well-with knowledge and understanding, but being born), such as recognition, in touch-hunger awareness, perception of pain's, as well as when there is emerging, and then there are also suffering, and I'm going to exercise our natural or by saṅkhāra (r-t-nawa) Anxious to maintain the resulting consequences as well. It's time to feed the hungry, appetite, eating, drinking, looking for khwai khuai arrive, they want him to excrete the body, they must take care of dental care to maintain the payout is not rotten, decayed ruins. Etc. With the subsequent suffering occupational as well as all the remaining 6 thukkhoriyasat at birth, subsequent to a regular fair by (natural) He said it was "distressed and its decay to occur. 2. ageing and distress caused but a very old. An old man A recession anxiety posed but its contents must occur as normal. 3. The resulting distress, pain, illness, pain, fever. Pain resulting from impact with the sparśa world. Anxiety and fever illnesses in a flurry to the dogmatic. Its must occur as normal and the punishment of the distressed body made by Justice saṅkhāra or nature (r-t-nawa) 4. death, suffering and death in worries about death, fear of death. Anxiety in the present world chart after its death must occur as normal. 5. What's not in it, but the resulting distress do not fulfill. Its not jealous despite hopes fulfilled wishes "is the most common. Their hopes fulfilled Its not jealous he surely must occur at regular and recurring. That's the most distressed to have associations with the ultimate sleeper. 6. The berth with what is not love, but the resulting distress faced with what he doesn't like is not. What is not desirable is surely occurring in life? Even if you are faced with something like that is possible, but commonplace? The encounter with what he doesn't like is not. What is happening to share its must occur as normal? 7. The sharply separated from the beloved distress caused by sharply separated from Alzheimer's to fire disturbances or loss of beloved things in person, as well as the object of the beloved, love, its cherished must occur as normal. โยนิโสมนสิการโดยแยบคายจะพบว่า ทุกข์ทั้ง ๗ นี้ครอบคลุมสรรพทุกข์ทุกอย่างประดามีในโลกนี้โดยบริบูรณ์ ครบถ้วนไม่บกพร่องแม้แต่น้อยหนึ่ง แต่ทุกข์ทั้งหลายทั้งปวงคือทั้งทุกขเวทนาและทุกขอริยสัจทั้ง ๗ นี้เป็นเหตุปัจจัยอันเป็นจริงและสำคัญยิ่ง และไม่สามารถหลบหนีได้ก็จริงอยู่ เพราะเป็นทุกข์โดยธรรมหรือธรรมชาติ หรือจะเรียกว่าทุกข์ธรรมชาติก็ได้ จึงเป็นเหตุปัจจัยสำคัญที่ยังคงต้องเกิด ต้องมี ต้องเป็นเช่นนั้นเอง ดังเช่น กายกระทบโผฏฐัพพะอย่างแรงย่อมเกิดทุกขเวทนาเป็นธรรมดาโดยธรรมหรือธรรมชาติแก่ทุกรูปนาม และเช่นกันเมื่ออายตนะคือจิตกระทบกับธรรมารมณ์ชนิดเป็นทุกข์ย่อมก่อให้เกิดทุกขเวทนาเป็นธรรมดา ส่วนทุกขอริยสัจนั้นทุกชีวิตย่อมต้องประสบพบกับทุกข์ทั้ง ๗ นี้ทุกบุคคล เขา เราเช่นกัน เมื่อโยนิโสมนสิการโดยแยบคายก็จะพบกับความเป็นจริงดังที่กล่าวมาทุกประการว่าเป็นสภาวธรรมหรือสภาวะทุกข์โดยธรรมหรือธรรมชาติ อันย่อมไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดหลีกหนีพ้น แม้แต่พระบรมศาสดาและพระอริยะทุกท่านทุกพระองค์ก็จริงอยู่ และท้ายสุดพระองค์ท่านได้กล่าวสรุปลงเป็นหนึ่งเดียวเท่านั้นที่ครอบคลุมความทุกข์ทั้งปวงว่า โดยย่อ อุปาทานขันธ์ ๕ เป็นทุกข์ เพราะธรรมชาติเดิมๆแท้ๆของทุกข์ทั้ง ๗ แม้มันจะเป็นทุกข์จริงๆอย่างหนึ่งโดยธรรมชาติเอง แต่ไม่เผาลนเร่าร้อนดังไฟนรกที่เผาอยู่ในหัวจิตหัวใจอย่างยาวนาน ทุกข์ทั้ง ๗ เหล่านี้ยังต้องมีเหตุปัจจัยอื่นๆมาร่วมด้วยจึงจะยังให้เกิดอุปาทานทุกข์อันแสนเผาลนเร่าร้อนดังกล่าวขึ้นได้ และความทุกข์ที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนให้ดับไปนั้นก็คือ อุปาทานทุกข์ เหล่านี้นั่นเอง จึงไม่ใช่การปฏิบัติเพื่อดับทุกข์ชนิดทุกขเวทนาอันเป็นทุกข์ธรรมขาติของชีวิตในการรับรู้การกระทบ(ผัสสะ)ในสิ่งต่างๆของชีวิตแต่อย่างใด ส่วนอุปาทานทุกข์อันแสนเร่าร้อนเผาลนนั้น ก็จำต้องมีเหตุปัจจัยอื่นร่วมอีกด้วย จึงจะเกิดขึ้นได้ อันเป็นไปตามวงจรของการเกิดขึ้นแห่งทุกข์ปฏิจจสมุปบาท อันคือ ตัณหา, อุปาทาน.....นั่นเอง จึงยังผลให้เกิดอุปาทานขันธ์ ๕ อันเป็นทุกข์ขึ้นได้ กล่าวคือ ความทุกข์ดังกล่าวที่เผาลนต้องประกอบด้วย ตัณหา ---> อุปาทาน จึงจะบังเกิดแก่จิตหรือใจจนเร่าร้อนเผาลน และอุปาทานขันธ์ ๕ อันเป็นทุกข์เหล่านี้สามารถดับหรือจางคลายลงไปได้ด้วยธรรมอันวิเศษของพระองค์ท่าน, จึงควรศึกษาพิจารณาขันธ์ ๕ โดยเฉพาะเวทนา และตัณหา,อุปาทาน ตลอดจนอุปาทานทุกข์อันเกิดขึ้นและเป็นไปในชรา ให้เข้าใจจากกระบวนธรรมในวงจรปฏิจจสมุปบาท มิฉนั้นจักสับสนระหว่างทุกขเวทนาอันเป็นธรรมขาติ กับเวทนูปาทานขันธ์(เวทนาที่ประกอบด้วยอุปาทาน)อันเป็นอุปาทานทุกข์ในชรา เมื่อสับสนแล้วทําให้ไม่ก้าวหน้าในธรรม เพราะมัวแต่สาระวนวนเวียนเพียรพยายามดับขันธ์ ๕ บ้าง ดับทุกขเวทนาบ้าง หรือพยายามแม้ดับสังขารความค
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
 ญานทัสสนะที่๑ (กิจอันควรรู้และปฏิบัติ ข้อที่๑) : ทุกข์ คือสภาพหรือสภาวะที่เกิดขึ้นแล้วทนอยู่ด้วยได้ยาก,ลำบาก   สภาพทุกข์นั้น เกิดขึ้นมาจากเหล่าทุกขเวทนาอันเป็นสภาวธรรมของชีวิตในการรับรู้จากการผัสสะ  และเกิดขึ้นจากเหล่าทุกขอริยสัจที่เมื่อเกิดขึ้นแล้วย่อมยังให้เกิดทุกขเวทนาขึ้นด้วยนั่นเอง  จึงล้วนเป็นทุกข์ธรรมชาติอย่างหนึ่งที่ต้องเกิด,ต้องมี,ต้องเป็นเป็นธรรมดา   ทุกขอริยสัจจึงเป็นทุกข์ชนิดที่ต้องเกิดขึ้นอย่างจริงแท้เป็นที่สุดเป็นธรรมดาแก่ทุกรูปนาม ไม่ละเว้นอะไรๆแก่ใครๆทั้งสิ้น อันมี "ความเกิด๑  ความแก่๑  ความเจ็บ๑  ความตาย๑  ความปรารถนาสิ่งใดไม่ได้ในสิ่งนั้น๑  การประจวบกับสิ่งอันไม่เป็นที่รัก๑  การพลัดพรากจากสิ่งที่เป็นที่รัก๑  เหล่านี้เป็นทุกข์  โดยย่อ อุปาทานขันธ์ ๕ เป็นทุกข์" เหล่านี้คือทุกขอริยสัจที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้เนืองๆเป็นอเนก    ถ้าโยนิโสมนสิการจะเห็นได้ว่าความทุกข์ทั้ง ๗ นี้ อันมี
        ๑. ความเกิด ทุกข์อันมีมาแต่การเกิดเช่น การเกิดอันเป็นทุกข์ นอนคุดคู้อยู่ในครรภ์ถึง ๙ เดือน, สัญชาตญาณ(ญาณ-ความรู้ความเข้าใจที่มีมาแต่การเกิด)ต่างๆเช่นการรับรู้ในสัมผัส-รับรู้ความหิว, รับรู้ความเจ็บปวด ฯ  ตลอดจนเมื่อมีความเกิดขึ้นมาแล้วจึงยังให้มีทุกข์และโทษที่เกิดแก่สังขารกายโดยธรรมหรือธรรมชาติ(อาทีนวะ)  ทุกข์ที่ต้องดูแลรักษาเกิดตามมาอีกด้วย  ถึงเวลาหิวกระหายก็ต้องขวยขวายหาให้กินให้ดื่ม  ถึงเวลาก็ต้องให้เขาขับถ่าย  ร่างกายก็ต้องดูแลชำระรักษา  ฟันก็ต้องดูแลรักษาไม่ให้เหม็นเน่าผุพัง ฯลฯ. มีทั้งอาชีวทุกข์ที่ตามมา  อีกทั้งทุกขอริยสัจทั้ง ๖ ที่เหลืออยู่ก็พึงต้องเกิดตามมาเป็นธรรมดาโดยธรรม(ธรรมชาติ)  ท่านจึงกล่าวว่า ความเกิดก็เป็นทุกข์แล้ว  อันพึงต้องเกิดขึ้นเป็นธรรมดา
        ๒. ความแก่  ความทุกข์อันเกิดแต่ความแก่ ความเฒ่า ความชรา ความถดถอย ความวิตกกังวลอันเกิดแต่ในความชรา  อันพึงต้องเกิดขึ้นเป็นธรรมดา
        ๓. ความเจ็บ  ความทุกข์อันเกิดแต่ความเจ็บป่วย  เจ็บไข้ ความเจ็บปวดอันเกิดแต่การกระทบผัสสะต่างๆทางโลก ความวิตกกังวลวุ่นวายใจในความเจ็บป่วยไข้ไปต่างๆนาๆ  อันพึงต้องเกิดขึ้นเป็นธรรมดา  เป็นทุกข์และโทษของสังขารกายที่เกิดขึ้นโดยธรรมหรือธรรมชาติ(อาทีนวะ)
        ๔. ความตาย  ความทุกข์อันเกี่ยวกับความตาย ความกังวลในความตาย ความกลัวตาย ความวิตกกังวลในภพภูมิภายหลังความตาย  อันพึงต้องเกิดขึ้นเป็นธรรมดา
        ๕. ความปรารถนาสิ่งใด ไม่ได้ในสิ่งนั้น  ความทุกข์อันเกิดแต่ความไม่สมหวัง ความไม่ได้ตามปรารถนา  แม้จะมีความสมหวังสมปรารถนาบ้างเป็นธรรมดา   แต่ที่สุด ความไม่สมหวัง ความไม่ได้ตามปรารถนา ย่อมต้องเกิดขึ้น  อันพึงต้องเกิดขึ้นเป็นธรรมดา  อันนับได้ว่าเป็นทุกข์ที่พบพานมากเป็นที่สุดทีเดียว
        ๖. การประจวบกับสิ่งอันไม่เป็นที่รัก  ความทุกข์อันเกิดแต่การประสบกับสิ่งที่ไม่ชอบ ไม่ถูกใจ สิ่งที่ไม่พึงปรารถนา อันย่อมเกิดขึ้นในการดำรงชีวิต  แม้จะประสบกับสิ่งที่ชอบถูกใจบ้างเป็นธรรมดา  แต่ที่สุด การประสบกับสิ่งที่ไม่ชอบ ไม่ถูกใจ สิ่งที่ไม่พึงต้องการ ย่อมต้องเกิดขึ้น  อันพึงต้องเกิดขึ้นเป็นธรรมดา
        ๗. การพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก  ความทุกข์อันเกิดจากการพลัดพราก จากการเสื่อม แปรปรวน หรือการดับไป จึงเกิดการสูญเสียสิ่งต่างๆอันเป็นที่รักทั้งในบุคคล ตลอดจนวัตถุสิ่งของ อันเป็นที่รัก,ที่ชอบ,ที่หวงแหน  อันพึงต้องเกิดขึ้นเป็นธรรมดา
        โยนิโสมนสิการโดยแยบคายจะพบว่า ทุกข์ทั้ง ๗ นี้ครอบคลุมสรรพทุกข์ทุกอย่างประดามีในโลกนี้โดยบริบูรณ์ ครบถ้วนไม่บกพร่องแม้แต่น้อยหนึ่ง  แต่ทุกข์ทั้งหลายทั้งปวงคือทั้งทุกขเวทนาและทุกขอริยสัจทั้ง ๗ นี้เป็นเหตุปัจจัยอันเป็นจริงและสำคัญยิ่ง และไม่สามารถหลบหนีได้ก็จริงอยู่ เพราะเป็นทุกข์โดยธรรมหรือธรรมชาติ หรือจะเรียกว่าทุกข์ธรรมชาติก็ได้  จึงเป็นเหตุปัจจัยสำคัญที่ยังคงต้องเกิด ต้องมี ต้องเป็นเช่นนั้นเอง ดังเช่น กายกระทบโผฏฐัพพะอย่างแรงย่อมเกิดทุกขเวทนาเป็นธรรมดาโดยธรรมหรือธรรมชาติแก่ทุกรูปนาม และเช่นกันเมื่ออายตนะคือจิตกระทบกับธรรมารมณ์ชนิดเป็นทุกข์ย่อมก่อให้เกิดทุกขเวทนาเป็นธรรมดา   ส่วนทุกขอริยสัจนั้นทุกชีวิตย่อมต้องประสบพบกับทุกข์ทั้ง ๗ นี้ทุกบุคคล เขา เราเช่นกัน   เมื่อโยนิโสมนสิการโดยแยบคายก็จะพบกับความเป็นจริงดังที่กล่าวมาทุกประการว่าเป็นสภาวธรรมหรือสภาวะทุกข์โดยธรรมหรือธรรมชาติ อันย่อมไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดหลีกหนีพ้น แม้แต่พระบรมศาสดาและพระอริยะทุกท่านทุกพระองค์ก็จริงอยู่   และท้ายสุดพระองค์ท่านได้กล่าวสรุปลงเป็นหนึ่งเดียวเท่านั้นที่ครอบคลุมความทุกข์ทั้งปวงว่า โดยย่อ อุปาทานขันธ์ ๕ เป็นทุกข์  เพราะธรรมชาติเดิมๆแท้ๆของทุกข์ทั้ง ๗ แม้มันจะเป็นทุกข์จริงๆอย่างหนึ่งโดยธรรมชาติเอง แต่ไม่เผาลนเร่าร้อนดังไฟนรกที่เผาอยู่ในหัวจิตหัวใจอย่างยาวนาน   ทุกข์ทั้ง ๗ เหล่านี้ยังต้องมีเหตุปัจจัยอื่นๆมาร่วมด้วยจึงจะยังให้เกิดอุปาทานทุกข์อันแสนเผาลนเร่าร้อนดังกล่าวขึ้นได้  และความทุกข์ที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนให้ดับไปนั้นก็คือ อุปาทานทุกข์ เหล่านี้นั่นเอง  จึงไม่ใช่การปฏิบัติเพื่อดับทุกข์ชนิดทุกขเวทนาอันเป็นทุกข์ธรรมขาติของชีวิตในการรับรู้การกระทบ(ผัสสะ)ในสิ่งต่างๆของชีวิตแต่อย่างใด     ส่วนอุปาทานทุกข์อันแสนเร่าร้อนเผาลนนั้น ก็จำต้องมีเหตุปัจจัยอื่นร่วมอีกด้วย จึงจะเกิดขึ้นได้ อันเป็นไปตามวงจรของการเกิดขึ้นแห่งทุกข์ปฏิจจสมุปบาท อันคือ ตัณหา, อุปาทาน.....นั่นเอง  จึงยังผลให้เกิดอุปาทานขันธ์ ๕ อันเป็นทุกข์ขึ้นได้ กล่าวคือ ความทุกข์ดังกล่าวที่เผาลนต้องประกอบด้วย ตัณหา ---> อุปาทาน จึงจะบังเกิดแก่จิตหรือใจจนเร่าร้อนเผาลน  และอุปาทานขันธ์ ๕ อันเป็นทุกข์เหล่านี้สามารถดับหรือจางคลายลงไปได้ด้วยธรรมอันวิเศษของพระองค์ท่าน,   จึงควรศึกษาพิจารณาขันธ์ ๕ โดยเฉพาะเวทนา  และตัณหา,อุปาทาน ตลอดจนอุปาทานทุกข์อันเกิดขึ้นและเป็นไปในชรา ให้เข้าใจจากกระบวนธรรมในวงจรปฏิจจสมุปบาท   มิฉนั้นจักสับสนระหว่างทุกขเวทนาอันเป็นธรรมขาติ กับเวทนูปาทานขันธ์(เวทนาที่ประกอบด้วยอุปาทาน)อันเป็นอุปาทานทุกข์ในชรา  เมื่อสับสนแล้วทําให้ไม่ก้าวหน้าในธรรม เพราะมัวแต่สาระวนวนเวียนเพียรพยายามดับขันธ์ ๕ บ้าง ดับทุกขเวทนาบ้าง หรือพยายามแม้ดับสังขารความค
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
"Yan tus สนะ 1 (กิจอ should know and practice, Part 1): suffering is a state or condition that occurs, and stayed with a hard,Hard, Boeing of suffering. Happen from the suffering the nature of life in the perception of pantheism. "And formed from these all noble when happening will also cause suffering up with it.To haveTo be naturally. Oh every noble mourn type must be truly is the most common to all รูปนาม. Don't ignore anything to anyone else, there. "Born to 1. 1. 1. The death 1."The thing that is not coinciding with the beloved one He separated from what is love 1. These miserable. "Brief อุปาทานขันธ์ 5 is suffering." these are all noble, who says the Buddha often are manifold.7. A
.Oh oh oh 1. The birth, suffering one had but the occurrence such as birth as suffering, Nestle in the ครรภ์ถึง 9 months, intuition, ญาณ- knowledge with but the) such as perceived in touch - perceived hunger,Perception of pain. Boeing, as well as when the company is already happened, so also are suffering and the punishment was born to physical body by Dharma หรือธรรม nation (อาทีนวะ). As the suffering to maintain born."Time to let him pass Boeing body must take care of the purifying treatment. As the teeth to care not rotten moldy, etc.He has both occupational suffering that followed World and all noble the six remaining is to be born as simple by nature (NATURAL) ", he said. The birth is suffering. "One should naturally occurring
oh oh oh 2.Aging. But suffering caused to the old aging, regression, anxiety, which occur in aging Boeing, which should naturally occurring
Oh Oh Oh 3.The pain and suffering caused. But illness. "Sickness" pain arising out of the impact of various thermal world. The anxiety problem in illness patients a lot of things. "One should occur naturally.Oh oh oh. 4. Death distress about death. Anxiety in death as the fear of death. Anxiety worlds landscape after death Oh one should naturally occurring
oh oh oh 5.Desire anything, not in that. "Suffering caused but not fulfilled, not by the desire. "Despite the fulfillment fulfillment some weaponry, Boeing, but most don't have one, not by the desire, there will definitely happen."This and that is that is the most good
.Oh oh oh 6.The thing of not coinciding with the baby. As the suffering caused but faced with something like, not what is not desirable, which inevitably occur in life. "Despite experiencing something like lately." but the most.Not what should not need, must occur. One should naturally occurring
.Oh oh oh 7. Separation from loving thing As the suffering caused by the separation of degeneration, variance, or to go "was born การสูญเสียสิ่ง both in person, as well as various precious objects. Love, like,That one should cherish. Naturally occurring
.Oh oh oh critical reflection by smartly will find that suffering both 7 covers all suffering everything ประดามีในโลก by age. Possesses no defects even less. "But suffering is the suffering of all noble and all the 7.And can not escape is true. Because of being troubled by nature or natural) or is called the natural world is suffering it causes important to still be must have, must be so. As such,And also when the sense is the mental impact with the ธรรมารมณ์ type suffering would cause suffering is commonplace (SOBs) and that all life must be of noble with suffering. 7. This every individual.That no one escape from even the Lord Buddha as the sun and all his true genius of all existence. Boeing, and finally he had concluded into one comprehensive suffering both ปวงว่า brief อุปาทานขันธ์.).Suffering. Because of the nature of suffering the same real 7, even if it is really suffering one naturally. But not burning hot as hell fire that burned in my mind a long suffering both Boeing 7.He and sorrow that the Buddha teach the flame that is preconceived suffering. These itself.Boeing Boeing, and suffering a preconceived hot burning. Must have causes other participants as well. It will happen. Obviousness by circuit of occurrence of suffering ปฏิจจสมุปบาท, is a passion, aImagination...It is also the อุปาทานขันธ์. 5. The suffering up. The suffering such that burning passion to contain --- > "bias. Will was born to the mind or mind until heated and burning. อุปาทานขันธ์ 5.Boeing, should study consider Khan 5 especially distressing, and passion.Attachment, as well as suffering a preconceived happen in old age. To understand the nature of the process circuit, ปฏิจจสมุปบาท (SOBs) otherwise known as Dharma ขาติ confuse suffering."When confused then make no progress on the Dharma. The essence of around trying to die because I was 5. The suffering, or try to แม้ดับ body a.
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: