สตรีมุสลิมสมรสกับคนต่างศาสนิกได้กระ

สตรีมุสลิมสมรสกับคนต่างศาสนิกได้กระนั้นหรือ ?

อิสลามห้ามไม่ให้สตรีมุสลิมสมรสกับคนต่างศาสนิก และการกระทำดังกล่าวเป็นการกีดกันทางศาสนาจริงหรือ...

เป็นเรื่องจริงที่อิสลามอนุญาตให้ผู้ชายมุสลิสามารถแต่งงานกับสตรีที่มิใช่มุสลิมได้ (เช่น คริสต์ ยิว) ในขณะเดียวกันก็ห้ามมิให้สตรีมุสลิมแต่งงานกับคนต่างศาสนา ซึ่งเรื่องดังกล่าวดูเหมือนจะขัดต่อหลักแห่งความเสมอภาค แต่ทว่าหากมีการทำความเข้าใจต่อทัศนะอิสลามอย่างถูกต้องแล้ว จะเห็นได้ว่าบทบัญญัติอิสลามได้คำนึงถึงสวัสดิการ และผลประโยชน์ต่อผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย

การสมรสในอิสลามเป็นเรื่องที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานแห่งความรัก ความเอื้ออาทร และการเข้าใจซึ่งกันและกัน ตลอดจนการเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทางด้านความรู้สึกและจิตใจ อิสลามมุ่งมั่นที่จะให้การสมรสต้องอยู่บนพื้นฐานแห่งความมั่นคง ที่มีความต่อเนื่องและประสบความสำเร็จ ซึ่งถือได้ว่าเป็นหลักประกันชีวิตสมรส ยิ่งกว่านั้นอิสลามเป็นศาสนาที่เคารพและให้เกียรติต่อศาสนาที่นับถือพระผู้เป็นเจ้า และยังมีบทบัญญัติให้มุสลิทุกคนต้องศรัทธาต่อบรรดาศาสดาท่านก่อนๆที่พระองค์ทรงส่งมาให้เผยแพร่หลักสัจธรรมนี้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของหลักการศรัทธาในอิสลามอีกด้วย เมื่อชายมุสลิมสมรสกับสตรีชาวคริสต์หรือชาวยิว ชายผู้นั้นต้องให้ความเคารพต่อหลักการศรัทธาและความเชื่อของนางด้วย จะห้ามมิให้นางไปโบสถ์ไม่ได้ ถือได้ว่าอิสลามปกป้องและให้เกรียติหลักการศรัทธา การประกอบศาสนกิจ ทั้งนี้เป็นการประกันและคุ้มครองชีวิตสมรสไม่ให้ล่มสลายอีกด้วย

ในกรณีสตรีมุสลิมแต่งงานกับชายต่างศาสนานั้น การให้ความเคารพต่อหลักการศรัทธาของภรรยาจะหายไป ทั้งๆที่มุสลิมศรัทธาต่อศาสนาก่อนหน้า และยังศรัทธาต่อบรรดาศาสดาของพระองค์อัลลอฮ์ อีกทั้งยังให้เกียรติแก่พวกเขาเหล่านั้นด้วย แต่ทว่าในขณะเดียวกันผู้ที่มิใช่มุสลิมกลับไม่เชื่อในศาสนาอิสลามและไม่เชื่อในศาสดามุฮัมมัด ซึ่งต่างศาสนิกนั้นมีความเชื่อว่าเรื่องที่เกี่ยวกับอิสลาม และศาสดามุฮัมมัด เป็นเรื่องเท็จ แต่กลับเชื่อถือเรื่องเล่าลือทั้งหลายที่ต่อต้านศาสนาอิสลามและศาสนฑูตมุฮัมมัด ว่าเป็นจริง

อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่าสามีต่างศาสนายอมรับเรื่องนี้ต่อหน้าภรรยาของเขา แต่ทว่าภรรยาจะมีความรู้สึกเสมอว่าสามีของเธอดูถูกศาสนาของตน และมีความรู้สึกเช่นกันว่าเขาไม่เคารพต่อการยึดมั่นของเธอ การเคารพซึ่งกันและกันระหว่างสามีภรรยานั้นเป็นพื้นฐานของความสัมพันธ์ในชีวิตคู่ และหากขาดพื้นฐานดังกล่าวแล้วก็จะเป็นผลให้เกิดการหย่าร้าง หรือการใช้ชีวิตคู่ที่ไร้ซึ่งความสุข

อิสลามห้ามมิให้ชายมุสลิมแต่งงานกับสตรีต่างศาสนาที่ไม่ใช่คริสต์ หรือยิว ทั้งนี้ด้วยกับเหตุผลเดียวกัน กับที่ห้ามไม่ใช้หญิงมุสลิมแต่งงานกับชายต่างศาสนา

มุสลิมจะไม่ศรัทธาต่อศาสนาอื่น นอกจากศาสนาที่ศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้าเท่านั้น เพราะศาสนาอิสลามถือเป็นศาสนาแห่งมนุย์ชาติ หากหญิงมุสลิมแต่งงานกับชายต่างศาสนาแล้ว การให้ความเคารพต่อหลักการยึดมั่นของหล่อนก็จะหมดไป และถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดีต่อความสัมพันธ์ในชีวิตคู่ ความรัก ความเอื้ออาทรซึ่งกันและกันจะไม่บังเกิดขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งในความสัมพันธ์ของชีวิต

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

Muslim women married to foreign men, were nonetheless satnik? Islam prohibits women married to Muslim people, and doing so is satnik to discourage religious truth or ... It's true that men ne la lamonuyat, who can marry women that slip or non-Muslims (such as Christian Jews). At the same time prohibiting Muslim women married to foreign men, religion, which it seems to be contrary to the principle of equal. But if you take the Islamic understanding per. You will see that the Islamic way is what benefits and benefits to all concerned parties. การสมรสในอิสลามเป็นเรื่องที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานแห่งความรัก ความเอื้ออาทร และการเข้าใจซึ่งกันและกัน ตลอดจนการเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทางด้านความรู้สึกและจิตใจ อิสลามมุ่งมั่นที่จะให้การสมรสต้องอยู่บนพื้นฐานแห่งความมั่นคง ที่มีความต่อเนื่องและประสบความสำเร็จ ซึ่งถือได้ว่าเป็นหลักประกันชีวิตสมรส ยิ่งกว่านั้นอิสลามเป็นศาสนาที่เคารพและให้เกียรติต่อศาสนาที่นับถือพระผู้เป็นเจ้า และยังมีบทบัญญัติให้มุสลิทุกคนต้องศรัทธาต่อบรรดาศาสดาท่านก่อนๆที่พระองค์ทรงส่งมาให้เผยแพร่หลักสัจธรรมนี้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของหลักการศรัทธาในอิสลามอีกด้วย เมื่อชายมุสลิมสมรสกับสตรีชาวคริสต์หรือชาวยิว ชายผู้นั้นต้องให้ความเคารพต่อหลักการศรัทธาและความเชื่อของนางด้วย จะห้ามมิให้นางไปโบสถ์ไม่ได้ ถือได้ว่าอิสลามปกป้องและให้เกรียติหลักการศรัทธา การประกอบศาสนกิจ ทั้งนี้เป็นการประกันและคุ้มครองชีวิตสมรสไม่ให้ล่มสลายอีกด้วย ในกรณีสตรีมุสลิมแต่งงานกับชายต่างศาสนานั้น การให้ความเคารพต่อหลักการศรัทธาของภรรยาจะหายไป ทั้งๆที่มุสลิมศรัทธาต่อศาสนาก่อนหน้า และยังศรัทธาต่อบรรดาศาสดาของพระองค์อัลลอฮ์ อีกทั้งยังให้เกียรติแก่พวกเขาเหล่านั้นด้วย แต่ทว่าในขณะเดียวกันผู้ที่มิใช่มุสลิมกลับไม่เชื่อในศาสนาอิสลามและไม่เชื่อในศาสดามุฮัมมัด ซึ่งต่างศาสนิกนั้นมีความเชื่อว่าเรื่องที่เกี่ยวกับอิสลาม และศาสดามุฮัมมัด เป็นเรื่องเท็จ แต่กลับเชื่อถือเรื่องเล่าลือทั้งหลายที่ต่อต้านศาสนาอิสลามและศาสนฑูตมุฮัมมัด ว่าเป็นจริง อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่าสามีต่างศาสนายอมรับเรื่องนี้ต่อหน้าภรรยาของเขา แต่ทว่าภรรยาจะมีความรู้สึกเสมอว่าสามีของเธอดูถูกศาสนาของตน และมีความรู้สึกเช่นกันว่าเขาไม่เคารพต่อการยึดมั่นของเธอ การเคารพซึ่งกันและกันระหว่างสามีภรรยานั้นเป็นพื้นฐานของความสัมพันธ์ในชีวิตคู่ และหากขาดพื้นฐานดังกล่าวแล้วก็จะเป็นผลให้เกิดการหย่าร้าง หรือการใช้ชีวิตคู่ที่ไร้ซึ่งความสุข อิสลามห้ามมิให้ชายมุสลิมแต่งงานกับสตรีต่างศาสนาที่ไม่ใช่คริสต์ หรือยิว ทั้งนี้ด้วยกับเหตุผลเดียวกัน กับที่ห้ามไม่ใช้หญิงมุสลิมแต่งงานกับชายต่างศาสนา มุสลิมจะไม่ศรัทธาต่อศาสนาอื่น นอกจากศาสนาที่ศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้าเท่านั้น เพราะศาสนาอิสลามถือเป็นศาสนาแห่งมนุย์ชาติ หากหญิงมุสลิมแต่งงานกับชายต่างศาสนาแล้ว การให้ความเคารพต่อหลักการยึดมั่นของหล่อนก็จะหมดไป และถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดีต่อความสัมพันธ์ในชีวิตคู่ ความรัก ความเอื้ออาทรซึ่งกันและกันจะไม่บังเกิดขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งในความสัมพันธ์ของชีวิต

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

Muslim women who marry Muslims or not yet. ? Islam prohibits Muslim women married to Muslims. And actions such as discrimination or religion ... It is true that Islam allows Muslim men to marry non-Muslim women living (such as Christianity, Judaism), while prohibiting Muslim women to marry. Religious This issue appears to be contrary to the principle of equality. But if they are to understand Islam correctly. It can be seen that Islam recognizes the welfare provisions. And benefits for all parties to the marriage in Islam is based on love. Generosity And mutual understanding As well as the unity of the senses and the mind. Islam strives to be on the basis of marital stability. The continuation and success. This can be considered as collateral marriage. Moreover, Islam is a religion of respect and honor to God. And also includes a provision to lift every Muslim must believe in all the prophets before him, that he would publish the truth to this. This can be considered as part of the Islamic faith in them. When a Muslim man marrying a Christian or Jewish women. The man must respect the principles of her faith and belief. Will not let her go to church not. Islam holds that protect and Greer left the faith. The religious establishment Ensuring the protection of marriage and not to fall too in the case of Muslim women married to men of religion. To respect the principles of his faith are missing. In spite of the Muslim religious earlier. And also believe in His prophets Allah. It also provides them with honor. But at the same time non-Muslims do not believe in Islam and does not believe in Prophet Muhammad. The Muslims believe that it is about Islam. And Prophet Muhammad False But reliable rumor about who oppose Islam and the Messenger Muhammad. That fact , however, Although pagans husband admitted this in front of his wife. But my wife has always felt that her husband had insulted their religion. And there is a sense, too, that he does not respect her adherence. Mutual respect between husband and wife is the basis of relationships in life. If you lack such basics as it will result in divorce. Or living with a partner without which happiness Islam prohibits a Muslim man to marry a non-Christian or Jewish women of different religions with the same reason. The ban on Muslim girls to marry men of other religions , Muslims do not believe in other religions. The only religion that believes in God. Because Islam is a religion of man's existence. If a Muslim woman marries a man of religion. Adhering to the principle of respect for her will go away. It is considered a bad thing in a relationship of love and caring for each other will not happen. These are considered to be the most important relationship in life.

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

White face.White face.White face.White face.White face.White face.White face.White face.White face.White face.White face.White face.White face.White face.White face.White face.White face.White face.