10. วายังกุลิต หรือวายังปูร์วา เป็น

10. วายังกุลิต หรือวายังปูร์วา เป็นวายังชนิดที่งดงามและวิจิตรกว่าชนิดอื่นทั้งหมด การแสดงนี้รวมศิลปะทั้งหมดในด้านการเขียน การดนตรี วรรณคดี นาฏกรรม ศิลปกรรม การร่ายรำ รวมทั้งประวัติศาสตร์ การศึกษา ศาสนา นโยบาย สังคมศาสตร์ ความลึกลับ และสัญลักษณ์ หลักปรัชญายังเป็นส่วนประกอบสำคัญอีกส่วนหนึ่งของวายังกุลิต

ตามประเพณีโบราณและเท่าที่ยังเป็นอยู่ตราบทุกวันนี้ การแสดงวายังกุลิตจะแสดงตลอดคืน และถ้าจำเป็นอาจจะเป็นตลอดอาทิตย์ แสดงต่อกันทุกคืน เช่น เวลาแสดงเรื่องเต็มของภารตยุทธ

ประเทศเวียดนาม



แจ่ว (Chèo) ประวัติความเป็นมา เป็นรูปแบบของละครเพลงเสียดสีสังคม โดยทั่วไปการเต้นรำแจ่วนี้ยังคงอนุรักษ์รูปแบบดั้งเดิมไว้ จากการระบำของชาวบ้านในภาคเหนือของเวียดนามที่สืบทอดมาอย่างยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 16
การแสดง มักแสดงกลางแจ้ง หรือลานอเนกประสงค์ของหมู่บ้าน ในอดีตไม่มีฉาก ไม่มีการตกแต่งเสื้อผ้าหรือแต่งหน้าใดๆ วงดนตรีเป้นวงดนตรีแบบดั้งเดิมที่ประกอบไปด้วย ซอ ขลุ่ย และกลอง ปัจจุบันนิยมจัดแสดงในร่มมากขึ้น และแสดงโดยนักแสดงมืออาชีพ

ประเทศบรูไน


OLYMPUS DIGITAL CAMERA


อาลุส ญูวา ดินดัง (Alus Jua Dendang) คือการแสดงฟ้อนรำของชาวบรูไน เป็นประเพณีที่สืบต่อกันมาจากสมัยโบราณ มักมีแสดงในงานแต่งาน มีนักเต้นทั้งผู้ชายและผู้หญิง ทำการฟ้อนรำและร้องเพลงประกอบ


ประเทศฟิลิปปินส์



ตินิคลิ่ง (Tinikling) เป็นหนึ่งในการเต้นรำดั้งเดิมของฟิลิปปินส์ที่เป็นที่นิยมและรู้จักมากที่สุด ใช้ลำไม้ไผ่ในการแสดง การเต้นประกอบด้วยจังหวะการเต้นแบบก้าวกระโดด 5 จังหวะ ในช่วง 4 จังหวะแรกคู่เต้นรำจะยืนตรงข้ามกัน ในช่วงจังหวะสุดท้ายทั้งคู่จะเริ่มเต้นรำอยู่ข้างเดียวกันระหว่างลำไม้ไผ่ 2 ลำ ซึ่งลำไม้ไผ่นี้ใช้เป็นเครื่องเคาะจังหวะด้วย โดยผู้จับไม้เคาะลำไม้กระทบกับพื้น และเคาะลำไม้กระทบกัน ในอัตราจังหวะที่เร็วขึ้น

ประเทศไทย

kh002

โขนเป็นนาฏศิลป์ชั้นสูงที่เก่าแก่ของไทย มีมาตั้งแต่ สมัยกรุงศรีอยุธยา ตามหลักฐานจากจดหมายเหตุของ ลาลูแบร์ ราชทูตฝรั่งเศสสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้กล่าวถึงการเล่นโขนว่า เป็นการเต้นออกท่าทางเข้ากับ เสียงซอและเครื่องดนตรีอื่นๆ ผู้เต้นสวมหน้ากากและ ถืออาวุธ
โขนพัฒนามาจากศิลปะการแสดงหลายแขนงด้วยกัน คือ นำวิธีเล่นและวิธีแต่งตัวบางอย่างมาจากการเล่นชักนาค ดึกดำบรรพ์ นำท่าต่อสู้โลดโผน ท่ารำท่าเต้นมาจาก กระบี่กระบอง และนำศิลปะการพากย์ การเจรจา เพลงและ เครื่องดนตรีที่ใช้ประกอบกิริยาอาการของผู้แสดงที่เรียกว่า เพลงหน้าพาทย์มาจากการแสดงหนังใหญ่ ลักษณะสำคัญ ของโขนอยู่ที่ผู้แสดงต้องสวมหัวโขนหมดทุกตัว ยกเว้น ตัวพระ ตัวนาง และตัวเทวดา มีต้นเสียงและลูกคู่ร้องบท ให้ มีคนพากย์และเจรจา แสดงเรื่องรามเกียรติ์แต่เพียง เรื่องเดียว
การแสดงโขนมีพัฒนาการมาเป็นลำดับ จำแนกประเภท
ได้ดังนี้
๑. โขนกลางแปลง เป็นการแสดงโขนบนพื้นกลางสนาม ไม่ต้องสร้างโรง ใช้ภูมิประเทศ ธรรมชาติเป็นฉากในการแสดง ผู้แสดงเป็นชายล้วน ตัวละครทุกตัวต้องสวมหัวโขน นิยมแสดงตอนยกทัพรบกันเป็นพื้น จึงแบ่งผู้แสดงออกเป็น ๒ ฝ่ายผลัดกันออกมาแสดงดำเนินเรื่องดังนั้นจึงต้องใช้วงปี่พาทย์ประกอบการแสดงพร้อมกัน ๒ วง ไม่มีบทร้อง มีแต่บทพากย์และเจรจาบ้าง
๒. โขนโรงนอกหรือโขนนั่งราว เป็นการแสดงโขนบนโรง ไม่มีเตียงสำหรับตัวนายโรงนั่ง มีราวพาดตามส่วนยาวของโรง ตรงหน้าฉากออกมามีช่องทางให้ผู้แสดงเดินได้รอบราว ตัวโรงมักมีหลังคา เมื่อตัวโขนแสดงบทของตนแล้วก็จะไปนั่งบนราว สมมติเป็นเตียงหรือที่นั่งประจำตำแหน่ง ส่วนผู้แสดงเป็นเสนาหรือวานรยังคงนั่งพื้นแสดงปกติ การแสดงโขนประเภทนี้ไม่มีการขับร้อง มีแต่การพากย์ และเจรจา ดนตรีมีวงปี่พาทย์ ๒ วง บรรเลงเพลงหน้าพาทย์
๓. โขนหน้าจอ เป็นโขนที่แสดงตรงหน้าจอหนังใหญ่โดยเจาะผ้าดิบทั้ง ๒ ข้างของจอ ทำเป็นช่องประตูเข้าออก แล้วทำเป็นซุ้มประตู ด้านหนึ่งเป็นปราสาทราชวัง สมมติ เป็นกรุงลงกา อีกด้านหนึ่งเป็นค่ายพลับพลาพระราม แล้วโขนก็ขึ้นไปแสดงบนโรง มีการพากย์และเจรจา มีดนตรี ปี่พาทย์ประกอบการแสดงเพียงวงเดียว
๔. โขนโรงใน เป็นศิลปะการผสมผสานระหว่าง โขนหน้าจอกับละครใน คือเริ่มมีผู้แสดงหญิงเข้ามาปะปน มีการ ออกท่ารำ เต้น ผู้แสดงเป็นตัวพระเริ่มไม่ต้องสวมหัวโขน มีการพากย์และเจรจาตามแบบโขน นำเพลงขับร้องและ เพลงดนตรีแบบละครในและระบำรำฟ้อนเข้าผสมด้วย โขนที่ กรมศิลปากรนำออกแสดงในปัจจุบันนี้ ใช้ศิลปะการแสดง แบบโขนโรงใน ไม่ว่าจะแสดงกลางแจ้งหรือแสดงหน้าจอ ก็ตาม
๕. โขนฉาก หรือโขนโรง สันนิษฐานว่าเกิดขึ้นราว รัชกาลที่ ๕ โดยมีผู้คิดสร้างฉากมาประกอบการแสดง โขนบนเวทีในโรง (วิก) คล้ายกับการแสดงละครดึกดำบรรพ์ การแสดงแบ่งเป็นฉากเป็นตอนและมีการประดิษฐ์ฉากขึ้น ประกอบตามท้องเรื่อง วิธีแสดงดำเนินเช่นเดียวกับโขนโรงใน มีการขับร้อง รำ เต้น และมีเพลงหน้าพาทย์
ลักษณะที่สำคัญอีกประการหนึ่งของโขน คือ เครื่อง แต่งกาย แบ่งออกเป็น ๓ ฝ่าย คือ ฝ่ายมนุษย์-เทวดา (พระ นาง) ฝ่ายยักษ์ และฝ่ายลิง โดยแบ่งลักษณะ เครื่องแต่งกายได้ ๓ ประเภท คือ เครื่องประดับศีรษะ เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม และเครื่องประดับกายต่างๆ
การพากย์โขนก็เป็นศิลปะสำคัญควบคู่กับการแสดงโขน เพื่อใช้ในการบรรยายและแสดงอารมณ์ประกอบตัวแสดง
บทพากย์ ใช้สำหรับเดินเรื่องการแสดงโขน แต่งด้วย คำประพันธ์ชนิดกาพย์ฉบัง ๑๖ หรือกาพย์ยานี ๑๑ บทพากย์มีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไป บทเจรจาเป็น บทร่ายยาว ส่งและรับสัมผัสกันไปเรื่อยๆ ใช้ได้ทุกโอกาส คนพากย์และเจรจานี้ใช้ผู้ชายไม่น้อยกว่า ๒ คน เพื่อจะได้ โต้ตอบกันทันท่วงที เมื่อพากย์หรือเจรจาจบกระบวนความ แล้วต้องการให้ปี่พาทย์ทำเพลงอะไรก็ร้องบอกไป เรียกว่า “บอกหน้าพาทย์” ส่วนวงดนตรีประกอบการแสดงโขน ใช้ “วงปี่พาทย์” อาจเป็นวงปี่พาทย์เครื่องห้า เครื่องคู่ หรือเครื่องใหญ่ก็ได้ตามความเหมาะสม

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

10. วายังกุลิต หรือวายังปูร์วา เป็นวายังชนิดที่งดงามและวิจิตรกว่าชนิดอื่นทั้งหมด การแสดงนี้รวมศิลปะทั้งหมดในด้านการเขียน การดนตรี วรรณคดี นาฏกรรม ศิลปกรรม การร่ายรำ รวมทั้งประวัติศาสตร์ การศึกษา ศาสนา นโยบาย สังคมศาสตร์ ความลึกลับ และสัญลักษณ์ หลักปรัชญายังเป็นส่วนประกอบสำคัญอีกส่วนหนึ่งของวายังกุลิต ตามประเพณีโบราณและเท่าที่ยังเป็นอยู่ตราบทุกวันนี้ การแสดงวายังกุลิตจะแสดงตลอดคืน และถ้าจำเป็นอาจจะเป็นตลอดอาทิตย์ แสดงต่อกันทุกคืน เช่น เวลาแสดงเรื่องเต็มของภารตยุทธประเทศเวียดนามSee (Chèo) history as a form of musical theatre satire society. In General, see this dance continue to conserve the traditional format. From the dance of the people in the North of Viet Nam long inherited from the 16th century. The shows are usually on or function of a village yard. In the past, there are no scenes. With no clothes or make-up any traditional music band consisting of backpack nuang. Flute and drum software The current popularity of indoor exhibits and displays by professional actors.BruneiOLYMPUS DIGITAL CAMERAอาลุส ญูวา ดินดัง (Alus Jua Dendang) คือการแสดงฟ้อนรำของชาวบรูไน เป็นประเพณีที่สืบต่อกันมาจากสมัยโบราณ มักมีแสดงในงานแต่งาน มีนักเต้นทั้งผู้ชายและผู้หญิง ทำการฟ้อนรำและร้องเพลงประกอบประเทศฟิลิปปินส์ตินิคลิ่ง (Tinikling) เป็นหนึ่งในการเต้นรำดั้งเดิมของฟิลิปปินส์ที่เป็นที่นิยมและรู้จักมากที่สุด ใช้ลำไม้ไผ่ในการแสดง การเต้นประกอบด้วยจังหวะการเต้นแบบก้าวกระโดด 5 จังหวะ ในช่วง 4 จังหวะแรกคู่เต้นรำจะยืนตรงข้ามกัน ในช่วงจังหวะสุดท้ายทั้งคู่จะเริ่มเต้นรำอยู่ข้างเดียวกันระหว่างลำไม้ไผ่ 2 ลำ ซึ่งลำไม้ไผ่นี้ใช้เป็นเครื่องเคาะจังหวะด้วย โดยผู้จับไม้เคาะลำไม้กระทบกับพื้น และเคาะลำไม้กระทบกัน ในอัตราจังหวะที่เร็วขึ้นประเทศไทยkh002โขนเป็นนาฏศิลป์ชั้นสูงที่เก่าแก่ของไทย มีมาตั้งแต่ สมัยกรุงศรีอยุธยา ตามหลักฐานจากจดหมายเหตุของ ลาลูแบร์ ราชทูตฝรั่งเศสสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้กล่าวถึงการเล่นโขนว่า เป็นการเต้นออกท่าทางเข้ากับ เสียงซอและเครื่องดนตรีอื่นๆ ผู้เต้นสวมหน้ากากและ ถืออาวุธโขนพัฒนามาจากศิลปะการแสดงหลายแขนงด้วยกัน คือ นำวิธีเล่นและวิธีแต่งตัวบางอย่างมาจากการเล่นชักนาค ดึกดำบรรพ์ นำท่าต่อสู้โลดโผน ท่ารำท่าเต้นมาจาก กระบี่กระบอง และนำศิลปะการพากย์ การเจรจา เพลงและ เครื่องดนตรีที่ใช้ประกอบกิริยาอาการของผู้แสดงที่เรียกว่า เพลงหน้าพาทย์มาจากการแสดงหนังใหญ่ ลักษณะสำคัญ ของโขนอยู่ที่ผู้แสดงต้องสวมหัวโขนหมดทุกตัว ยกเว้น ตัวพระ ตัวนาง และตัวเทวดา มีต้นเสียงและลูกคู่ร้องบท ให้ มีคนพากย์และเจรจา แสดงเรื่องรามเกียรติ์แต่เพียง เรื่องเดียวการแสดงโขนมีพัฒนาการมาเป็นลำดับ จำแนกประเภท
ได้ดังนี้
๑. โขนกลางแปลง เป็นการแสดงโขนบนพื้นกลางสนาม ไม่ต้องสร้างโรง ใช้ภูมิประเทศ ธรรมชาติเป็นฉากในการแสดง ผู้แสดงเป็นชายล้วน ตัวละครทุกตัวต้องสวมหัวโขน นิยมแสดงตอนยกทัพรบกันเป็นพื้น จึงแบ่งผู้แสดงออกเป็น ๒ ฝ่ายผลัดกันออกมาแสดงดำเนินเรื่องดังนั้นจึงต้องใช้วงปี่พาทย์ประกอบการแสดงพร้อมกัน ๒ วง ไม่มีบทร้อง มีแต่บทพากย์และเจรจาบ้าง
๒. โขนโรงนอกหรือโขนนั่งราว เป็นการแสดงโขนบนโรง ไม่มีเตียงสำหรับตัวนายโรงนั่ง มีราวพาดตามส่วนยาวของโรง ตรงหน้าฉากออกมามีช่องทางให้ผู้แสดงเดินได้รอบราว ตัวโรงมักมีหลังคา เมื่อตัวโขนแสดงบทของตนแล้วก็จะไปนั่งบนราว สมมติเป็นเตียงหรือที่นั่งประจำตำแหน่ง ส่วนผู้แสดงเป็นเสนาหรือวานรยังคงนั่งพื้นแสดงปกติ การแสดงโขนประเภทนี้ไม่มีการขับร้อง มีแต่การพากย์ และเจรจา ดนตรีมีวงปี่พาทย์ ๒ วง บรรเลงเพลงหน้าพาทย์
๓. โขนหน้าจอ เป็นโขนที่แสดงตรงหน้าจอหนังใหญ่โดยเจาะผ้าดิบทั้ง ๒ ข้างของจอ ทำเป็นช่องประตูเข้าออก แล้วทำเป็นซุ้มประตู ด้านหนึ่งเป็นปราสาทราชวัง สมมติ เป็นกรุงลงกา อีกด้านหนึ่งเป็นค่ายพลับพลาพระราม แล้วโขนก็ขึ้นไปแสดงบนโรง มีการพากย์และเจรจา มีดนตรี ปี่พาทย์ประกอบการแสดงเพียงวงเดียว
๔. โขนโรงใน เป็นศิลปะการผสมผสานระหว่าง โขนหน้าจอกับละครใน คือเริ่มมีผู้แสดงหญิงเข้ามาปะปน มีการ ออกท่ารำ เต้น ผู้แสดงเป็นตัวพระเริ่มไม่ต้องสวมหัวโขน มีการพากย์และเจรจาตามแบบโขน นำเพลงขับร้องและ เพลงดนตรีแบบละครในและระบำรำฟ้อนเข้าผสมด้วย โขนที่ กรมศิลปากรนำออกแสดงในปัจจุบันนี้ ใช้ศิลปะการแสดง แบบโขนโรงใน ไม่ว่าจะแสดงกลางแจ้งหรือแสดงหน้าจอ ก็ตาม
๕. โขนฉาก หรือโขนโรง สันนิษฐานว่าเกิดขึ้นราว รัชกาลที่ ๕ โดยมีผู้คิดสร้างฉากมาประกอบการแสดง โขนบนเวทีในโรง (วิก) คล้ายกับการแสดงละครดึกดำบรรพ์ การแสดงแบ่งเป็นฉากเป็นตอนและมีการประดิษฐ์ฉากขึ้น ประกอบตามท้องเรื่อง วิธีแสดงดำเนินเช่นเดียวกับโขนโรงใน มีการขับร้อง รำ เต้น และมีเพลงหน้าพาทย์
ลักษณะที่สำคัญอีกประการหนึ่งของโขน คือ เครื่อง แต่งกาย แบ่งออกเป็น ๓ ฝ่าย คือ ฝ่ายมนุษย์-เทวดา (พระ นาง) ฝ่ายยักษ์ และฝ่ายลิง โดยแบ่งลักษณะ เครื่องแต่งกายได้ ๓ ประเภท คือ เครื่องประดับศีรษะ เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม และเครื่องประดับกายต่างๆ
การพากย์โขนก็เป็นศิลปะสำคัญควบคู่กับการแสดงโขน เพื่อใช้ในการบรรยายและแสดงอารมณ์ประกอบตัวแสดง
บทพากย์ ใช้สำหรับเดินเรื่องการแสดงโขน แต่งด้วย คำประพันธ์ชนิดกาพย์ฉบัง ๑๖ หรือกาพย์ยานี ๑๑ บทพากย์มีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไป บทเจรจาเป็น บทร่ายยาว ส่งและรับสัมผัสกันไปเรื่อยๆ ใช้ได้ทุกโอกาส คนพากย์และเจรจานี้ใช้ผู้ชายไม่น้อยกว่า ๒ คน เพื่อจะได้ โต้ตอบกันทันท่วงที เมื่อพากย์หรือเจรจาจบกระบวนความ แล้วต้องการให้ปี่พาทย์ทำเพลงอะไรก็ร้องบอกไป เรียกว่า “บอกหน้าพาทย์” ส่วนวงดนตรีประกอบการแสดงโขน ใช้ “วงปี่พาทย์” อาจเป็นวงปี่พาทย์เครื่องห้า เครื่องคู่ หรือเครื่องใหญ่ก็ได้ตามความเหมาะสม

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

10 meters to Little Tokyo, saying that the crab. Is that the kind of gorgeous and splendid than all other species. This show combines all the arts of writing, music, literature, drama, fine arts, dance and history, religious education policy, social science, mystery, and the philosophy is the integral part of the house to cook Little tradition and ancient times. As long as there is today Little Tokyo is also showing that night's show. And, if necessary, may be all week. Show on every night as a show full story of an Indian battle in Vietnam Hon (Chèo) History. Musical theater is a form of social satire. Generally, this dance HoN still preserve the original format. The dance of villagers in northern Vietnam, inherited from the 16th century, long after the show is outdoors. Or plaza of the village In the past, no scene No decorations, clothing or any makeup. The band bordered traditional band comprising fiddle, flute and drums, the more popular indoor exhibits. And performances by professional actors Brunei OLYMPUS DIGITAL CAMERA The group's adoration of the soil (Alus Jua Dendang) is the dance of Brunei. A tradition passed on from ancient times. But often perform at work. There are dancers, both men and women. To dance and sing Philippines Makati Nick Stallings (Tinikling) is one of the traditional dances of the Philippines' most popular and recognizable. Using bamboo poles to show The dance consists of rhythm jump five strokes in the four stroke first dance partner will stand opposite each other. During the last stroke, the couple began to dance on the same side between two bamboo poles bamboo trunk, which is used as a percussion beat. The knock on wood trunk compromising on the ground. And knock wood body percussion At a rate faster tempo Thailand kh002 Dance is a dance floor at a historic high of Thailand since the Ayutthaya period. According to evidence from the archives of La Loubere French envoy reign of King Narai. Mentioned that playing pantomime. The action moves to the beat Twang and other instruments The masked dance Armed, masked developed from various performing arts disciplines together is to play and the play drew up some primeval serpent Namtha sensational fight. Dance choreography of the sword and the art of negotiation dub music and instruments used include behavior of the so-called. Eplghngapatis from the big key aspect of dance is that the show must Swmhawokn all except the protagonist herself and the Angels, a cantor sang verses and choruses with the dub and negotiations. Ramayana show only One story has developed a series of pantomime. Classification as follows: 1. The outdoor pantomime pantomime on the middle of the field. Do not build Use the terrain Nature is a scene in the show The show is an all-male Every character must Swmhawokn Top show at a ground combat troops. The show is divided into two sides take turns acting out the story, so it requires a gamelan orchestra accompanying the show together two bands, no lyrics, but some dialogue Btpakis and 2. Outside the theater, pantomime or dance Naegraw On a pantomime theater No room for the theater seat. A rail runs along the length of the plant. This page scene out a way to get around, walking around the show. The plant usually has a roof When the pantomime show their role was to sit on the rail. Assuming a bed or seat position. The show is still sitting Sena or ape normal ground. The pantomime has no chorus. But negotiations with the dub and gamelan music with a band, the band played two Eplghngapatis 3. Dance Dance screen is displayed on the screen by big calico drill the second side of a screen door out. Then as Arch On one side is the city of palaces suppose to check the other side of the tent camp of Rama. Dance show, then went up on the plant. Gamelan music with dub and negotiations with the purpose of rendering a single band 4. Dance is an art theater in the mix. Pantomime theater screen with Is the actress began to mingle with the dancers dance, the show is not the start Swmhawokn. The voice and talks by pantomime. Music and singing Music, dance, theater and dance into the mix with the Department of Arts, presented today. A performing arts theater in a pantomime, whether expressed or outdoor display or 5. pantomime or dance theater scene speculated that occurred at 5 Rama Rao has attributed the idea to create the show. Dance on stage at the theater (Vic), similar to the theatrical origins. Shows a scene is now set up with the invention. Includes the story How it operates like a pantomime theater in the chorus, dances and Eplghngapatis important characteristics Another of the pantomime is a dress is divided into three departments, namely men - Angel (the woman), the Giants and the monkeys were divided. look Clothing has three types of headdress. Clothing Various jewelry and art, it is important to dub dance with pantomime performances. In order to describe and express operators indicator Btpakis. Strolling about the pantomime dress with a kind of verse epic poem Yani Chabang 16 or 11 different Btpakis called out Btehrha is a poem sent and exposure to passive. Available every occasion Dub this dialogue and use a minimum of two people to interact with each other in time. Dub or finalize negotiations on a procedure. What do you want to gamelan called to called "Tell Hngapatis" the band of the pantomime "gamelan band" may be gamelan orchestra and five pairs or larger was appropriate.

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

10.