ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากชีวประวัติของสตรีผู้นำชาวพม่า อองซาน ซูจี และ การแปล - ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากชีวประวัติของสตรีผู้นำชาวพม่า อองซาน ซูจี และ อังกฤษ วิธีการพูด

ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากชีวประวัติ

ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากชีวประวัติของสตรีผู้นำชาวพม่า อองซาน ซูจี และเธอเป็นเสมือนตัวแทนผู้นำแห่งจิตวิญญาณของเสรีชนเพื่อเรียกร้องสิทธิและเสรีภาพ  ซึ่งเธอถูกกดดันจากอำนาจจากฝ่ายรัฐบาล  แต่ด้วยความมุ่งมั่นของเธอ  เธอจึงลุกขึ้นพร้อมด้วยเสียงสนับสนุนจากฐานของประชาชน  และชนกลุ่มน้อยที่มีความเชื่อมั่นและยึดมั่นในตัวของเธอ  ในส่วนของกระบวนการการต่อสู่นั้นทางหนึ่งเธอได้รวบรวมพลังเสียงจากประชาชนโดยการปลุกระดมให้ผู้คนเกิดความเชื่อและกล้าที่จะต่อสู่  ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นการช่วยเหลือทางอ้อมโดยผู้ที่เป็นสามีของเธอที่นำผลงาน  หรือชีวประวัติของเธอไปสู่การได้รับรางวัลโนเบลจึงเป็นหลักในการประกันความมั่นคงของเธออีกทางหนึ่ง  ในที่สุดความมุ่งมั่นของเธอทำให้รัฐบาลผ่อนกำลังลงและเธอก็ได้รับอิสรภาพ  ซึ่งทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความสมจริงในด้านข้อมูล  ผู้ที่ติดตามรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้คงจะติดตรึงอยู่ในใจของทุกคนทั้งในเรื่องของบทบาทของสตรี  ที่สามารถเกิดขึ้นได้พร้อมๆกัน  ไม่ว่าจะเป็นความเป็นภรรยา  เป็นแม่  เป็นผู้ถูกกักขัง  และวีรสตรี  เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่ครบรสอีกเรื่องหนึ่งของวงการภาพยนตร์
อองซานซูจี ไปเรียนเมืองนอก แต่งงานกับฝรั่งอังกฤษมีลูกชายสองคน บังเอิญกลับมาพม่าเพราะแม่ป่วยหนัก เส้นโลหิตในสมองแตก พอกลับมาบ้านเกิด ประเทศก็เกิดเหตุจลาจลวุ่นวายไม่สงบ รัฐบาลเผด็จการทหารพม่าสังหารคนไปเยอะ ปัญญาชนเข้ามาปรึกษาอองซานซูจี เพราะเห็นว่า เป็นบุตรีของวีรบุรุษแห่งชาติ นายพลอองซาน สุดท้ายเลยได้ตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา จับพลัดจับผลูเป็นผู้นำพรรค โดนพวกเผด็จการสัตว์ทหารพม่า จับขังในบ้านตัวเองทั้งๆที่ไม่มีความผิด ( ผิดตรงที่พยายามแย่งอำนาจในมือพวกมัน ) การเลือกตั้งครั้งใหญ่ในประเทศ พรรคของซูจี ชนะถล่มทลาย แต่พวกทหารพม่าบอกว่า ไม่ให้อองซานซูจีเป็นนายก ไม่คืนอำนาจ แล้วก็ขังอองซานซูจีไว้ในบ้านต่อ จะเลือกออกจากประเทศก็ได้ แต่ไม่มีสิทธิกลับมาเหยียบพม่าอีกเลย ถ้าเป็นคนอื่นก็คงหนีไปมีชีวิตสุขสบายต่างประเทศ ไปใช้ชีวิตอยู่กับลูกและสามี แต่อองซานซูจีเธอต่อสู้อยู่กับเพื่อนร่วมชาติ ยอมถูกขังกักบริเวณในบ้านตัวเองเป็นเวลานับสิบกว่าปี
อองซานซูจี ได้เรี่ยวแรงกำลังใจจากสามีของเธอเป็นอย่างมากในการต่อสู้กับรัฐบาลทหาร ในระหว่างที่เธอต่อสู้อยู่ในประเทศพม่า ดร.ไมเคิล แอริส สามีของเธอสู้เพื่อเธอโดยเรียกร้องรางวัลโนเบลอยู่ที่ประเทศอังกฤษ โดยหวังว่าหากซูจีได้รางวัล จะเป็นเกราะป้องกันกระสุนให้เธอได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ดร.ไมเคิล แอริส ยังวิ่งเต้นต่อสหรัฐอเมริกาเพื่อคว่ำบาตรพม่า และเรียกร้องให้องค์กรสหประชาชาติสนใจพม่ามากขึ้น ทั้งสองได้เจอกันน้อยมาก จนหลัง ๆ ทั้งสองถูกรัฐบาลเผด็จการทหารกีดกันไม่ให้พบกัน สุดท้าย ดร.ไมเคิล อริส เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง เขาและเธอก็ไม่มีสิทธิพบกัน นี่คือความรักแบบครอบครัวที่มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยมในเรื่อง

สรุปคือภาพยนต์เรื่องนี้เชื่อมโยงในวิชาที่เรียน คืออองซานซูจีเกิดที่พม่า แต่ไปแต่งงานกับคนต่างชาติไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศ เชื่อมโยงเข้าสู่เรื่องวัฒนธรรม ,ภาษา และตัวบุคคล และเชื่อมโยงเข้าในเรื่องวัฒนธรรม การปกครองของแต่ละประเทศ
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากชีวประวัติของสตรีผู้นำชาวพม่า อองซาน ซูจี และเธอเป็นเสมือนตัวแทนผู้นำแห่งจิตวิญญาณของเสรีชนเพื่อเรียกร้องสิทธิและเสรีภาพ ซึ่งเธอถูกกดดันจากอำนาจจากฝ่ายรัฐบาล แต่ด้วยความมุ่งมั่นของเธอ เธอจึงลุกขึ้นพร้อมด้วยเสียงสนับสนุนจากฐานของประชาชน และชนกลุ่มน้อยที่มีความเชื่อมั่นและยึดมั่นในตัวของเธอ ในส่วนของกระบวนการการต่อสู่นั้นทางหนึ่งเธอได้รวบรวมพลังเสียงจากประชาชนโดยการปลุกระดมให้ผู้คนเกิดความเชื่อและกล้าที่จะต่อสู่ ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นการช่วยเหลือทางอ้อมโดยผู้ที่เป็นสามีของเธอที่นำผลงาน หรือชีวประวัติของเธอไปสู่การได้รับรางวัลโนเบลจึงเป็นหลักในการประกันความมั่นคงของเธออีกทางหนึ่ง ในที่สุดความมุ่งมั่นของเธอทำให้รัฐบาลผ่อนกำลังลงและเธอก็ได้รับอิสรภาพ ซึ่งทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความสมจริงในด้านข้อมูล ผู้ที่ติดตามรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้คงจะติดตรึงอยู่ในใจของทุกคนทั้งในเรื่องของบทบาทของสตรี ที่สามารถเกิดขึ้นได้พร้อมๆกัน ไม่ว่าจะเป็นความเป็นภรรยา เป็นแม่ เป็นผู้ถูกกักขัง และวีรสตรี เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่ครบรสอีกเรื่องหนึ่งของวงการภาพยนตร์อองซานซูจี ไปเรียนเมืองนอก แต่งงานกับฝรั่งอังกฤษมีลูกชายสองคน บังเอิญกลับมาพม่าเพราะแม่ป่วยหนัก เส้นโลหิตในสมองแตก พอกลับมาบ้านเกิด ประเทศก็เกิดเหตุจลาจลวุ่นวายไม่สงบ รัฐบาลเผด็จการทหารพม่าสังหารคนไปเยอะ ปัญญาชนเข้ามาปรึกษาอองซานซูจี เพราะเห็นว่า เป็นบุตรีของวีรบุรุษแห่งชาติ นายพลอองซาน สุดท้ายเลยได้ตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา จับพลัดจับผลูเป็นผู้นำพรรค โดนพวกเผด็จการสัตว์ทหารพม่า จับขังในบ้านตัวเองทั้งๆที่ไม่มีความผิด ( ผิดตรงที่พยายามแย่งอำนาจในมือพวกมัน ) การเลือกตั้งครั้งใหญ่ในประเทศ พรรคของซูจี ชนะถล่มทลาย แต่พวกทหารพม่าบอกว่า ไม่ให้อองซานซูจีเป็นนายก ไม่คืนอำนาจ แล้วก็ขังอองซานซูจีไว้ในบ้านต่อ จะเลือกออกจากประเทศก็ได้ แต่ไม่มีสิทธิกลับมาเหยียบพม่าอีกเลย ถ้าเป็นคนอื่นก็คงหนีไปมีชีวิตสุขสบายต่างประเทศ ไปใช้ชีวิตอยู่กับลูกและสามี แต่อองซานซูจีเธอต่อสู้อยู่กับเพื่อนร่วมชาติ ยอมถูกขังกักบริเวณในบ้านตัวเองเป็นเวลานับสิบกว่าปี อองซานซูจี ได้เรี่ยวแรงกำลังใจจากสามีของเธอเป็นอย่างมากในการต่อสู้กับรัฐบาลทหาร ในระหว่างที่เธอต่อสู้อยู่ในประเทศพม่า ดร.ไมเคิล แอริส สามีของเธอสู้เพื่อเธอโดยเรียกร้องรางวัลโนเบลอยู่ที่ประเทศอังกฤษ โดยหวังว่าหากซูจีได้รางวัล จะเป็นเกราะป้องกันกระสุนให้เธอได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ดร.ไมเคิล แอริส ยังวิ่งเต้นต่อสหรัฐอเมริกาเพื่อคว่ำบาตรพม่า และเรียกร้องให้องค์กรสหประชาชาติสนใจพม่ามากขึ้น ทั้งสองได้เจอกันน้อยมาก จนหลัง ๆ ทั้งสองถูกรัฐบาลเผด็จการทหารกีดกันไม่ให้พบกัน สุดท้าย ดร.ไมเคิล อริส เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง เขาและเธอก็ไม่มีสิทธิพบกัน นี่คือความรักแบบครอบครัวที่มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยมในเรื่อง

สรุปคือภาพยนต์เรื่องนี้เชื่อมโยงในวิชาที่เรียน คืออองซานซูจีเกิดที่พม่า แต่ไปแต่งงานกับคนต่างชาติไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศ เชื่อมโยงเข้าสู่เรื่องวัฒนธรรม ,ภาษา และตัวบุคคล และเชื่อมโยงเข้าในเรื่องวัฒนธรรม การปกครองของแต่ละประเทศ
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
The film is based on a biography of feminist leader Aung San Suu Kyi of Burma, and she is a symbol of the spirit of free people to claim their rights and freedoms. Which she was pressured by the power of the government. But with her ​​determination. She arose, and with support from the public database. And minorities who have the confidence and commitment to her. In the process, the sound, the one she had collected from the people by rallying people to the faith and the courage to continue. On the other hand, indirectly, by the help of her husband, who led the work. Or her biography to receive a Nobel Prize in ensuring the stability of her hand. Ultimately, the aim of her government's interest, and she was freed. This makes the film more realistic in terms of information. The track to watch the film would be deep in the hearts of everyone in terms of the role of women. That can occur simultaneously. Whether it is a wife, a mother is imprisoned and heroine of this story, it is a taste of the film
Aung San Suu Kyi. To study abroad Married with two sons, western England. Incidentally, back to Burma because she was very sick. Artery in the brain I returned home The country was the scene of riots, chaos, unrest. Myanmar's military junta killing me. Intellectuals to consult Aung San Suu Kyi because that is the daughter of national hero General Aung San Finally I have set up a political party. Unintentionally party leadership By military dictators animals Captured and imprisoned in their own homes, in spite of not guilty (guilty that they tried to take power in the hands) elections, Suu Kyi's party won a majority in a landslide, but the military said. Not to Aung San Suu Kyi is not a prime power back then imprisoned Aung San Suu Kyi in the house. To opt out of the country, I have no right to come back again Burma. If someone else would run a comfortable life abroad. To live with her ​​children and husband. Aung San Suu Kyi, but she struggles with his fellow countrymen. I was put under house arrest himself for ten years,
Aung San Suu Kyi. I was beaten by her husband very much in opposition to the military regime. During her struggle in Burma Dr. Michael Aeris her fight for her by calling Nobel blur subjected to England. The hope is that if Suu Kyi was awarded. As a protector of ammunition for her as well. In addition, Michael Aeris also lobbying the United States to boycott Burma. UN urges Myanmar and more attention. The two have met very few people until after they had been excluded from the military junta finally met Dr. Michael Aris died of cancer. He and she had no right to meet. This is the love of family is fully in the movie, is linked in the academic subjects. Aung San Suu Kyi was born in Burma. But to marry foreigners to live abroad. Linked into the culture, language and identity and the link to the story. The governing body of each

การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
This film is based on the biography of women leaders, Burmese Aung San Suu Kyi, and she is the leader of the เสมือนตัวแทน spirit of freedom for rights and freedom. She was pressured by the power of the government.She arose, with support from the base of the people. Minorities and with conviction and commitment to her.On the other hand is helped indirectly by who is her husband who lead the works. Or the autobiography to won the Nobel Prize is primarily in her security program อีกทา one.Which makes this film are realistic in the information field. The following movies this would impress everyone's mind in terms of the role ของสตรี. That can happen at the same time. Whether it's a wife.A detainee. And heroines. So this is another one of the travel movies
.Aung San Suu Kyi to study abroad to marry western England had two sons. Happen to come because my mother is very ill. Myanmar stroke. When he returned home country's chaotic events riots unrest.Intellectuals in consult Aung San Suu Kyi because that is the daughter of national hero, general Aung San, the last set of political parties. Just maybe a party leader A fascist military animal(guilty of trying to seize power in their hands) to major elections in the country, the Party of the European Group wins ถล่ pattern, but the military said not to Aung San Suu Kyi is prime. Don't give power and imprisoned in the house, Aung San Suu KyiBut don't have the right to step foot in Burma. If people would run good life abroad. To live with my husband and But yesterday she engaged my countrymen.
.Aung San Suu Kyi, strong encouragement from her husband very much in the fight against the military government. During her fight in Myanmar. Dr.Michael Aris, her husband fight for you by calling the Nobel Prize in England. The hope if Suu Kyi award. A shielded bullet for her as well. In addition, Dr.Michael Aris also lobbying to the United States to boycott of Myanmar. And demanded that the United Nations organization interested in Myanmar more, both met very little until after the other, both are the military junta blocking met. Finally, Dr.Michael Alice died of cancer. He has no right to meet. This is a family full of love existing in

.The conclusion is that this movie is linked in the subject is Aung San Suu Kyi was born in Myanmar. But to marry foreigners to live overseas. Link to culture,The language and the individual and link them in culture, government of each country.
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: