กฎหมายอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ ตอน : การกำหนดฐานความผิดและบทกำหนดโทษ กา การแปล - กฎหมายอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ ตอน : การกำหนดฐานความผิดและบทกำหนดโทษ กา อังกฤษ วิธีการพูด

กฎหมายอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ ตอน :

กฎหมายอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
ตอน : การกำหนดฐานความผิดและบทกำหนดโทษ


การพัฒนากฎหมายอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ในเบื้องต้นนั้น พัฒนาขึ้นโดยคำนึงถึงลักษณะการกระทำความผิดต่อระบบคอมพิวเตอร์ ระบบข้อมูล และระบบเครือข่าย ซึ่งอาจสรุปความผิดสำคัญได้ 3 ฐานความผิด คือ

- การเข้าถึงโดยไม่มีอำนาจ (Unauthorised Access)
- การใช้คอมพิวเตอร์โดยไม่ชอบ (Computer Misuse)
- ความผิดเกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ (Computer Related Crime)

ทั้งนี้ ความผิดแต่ละฐานที่กำหนดขึ้นดังที่สรุปไว้ข้างต้น มีวัตถุประสงค์ในการให้ความ
คุ้มครองที่แตกต่างกัน ดังนี้

1. ความผิดฐานเข้าถึงโดยไม่มีอำนาจหรือโดยฝ่าฝืนกฎหมาย และการใช้คอมพิวเตอร์ในทางมิชอบ

การกระทำความผิดด้วยการเข้าถึงโดยไม่มีอำนาจหรือโดยฝ่าฝืนกฎหมาย และการใช้คอมพิวเตอร์ในทางมิชอบ ถือเป็นการกระทำที่คุกคามหรือเป็นภัยต่อความปลอดภัย (Security) ของระบบคอมพิวเตอร์และระบบข้อมูล
เมื่อระบบไม่มีความปลอดภัยก็จะส่งผลกระทบต่อความครบถ้วน (Integrity) การรักษาความลับ (Confidential) และเสถียรภาพในการใช้งาน (Availability) ของระบบข้อมูลและระบบคอมพิวเตอร์




(1) การเข้าถึงโดยไม่มีอำนาจ
การฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายนี้ อาจเกิดได้หลายวิธี เช่น การเจาะระบบ (Hacking or Cracking) หรือการบุกรุกทางคอมพิวเตอร์ (Computer Trespass) เพื่อทำลายระบบคอมพิวเตอร์หรือเพื่อเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูล หรือเพื่อเข้าถึงข้อมูลที่เก็บรักษาไว้เป็นความลับ เช่น รหัสลับ (Passwords) หรือความลับทางการค้า (Secret Trade) เป็นต้น

ทั้งนี้ ยังอาจเป็นที่มาของการกระทำผิดฐานอื่นๆต่อไป เช่น การใช้คอมพิวเตอร์เพื่อฉ้อโกงหรือปลอมแปลงเอกสาร ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อเนื่องเป็นมูลค่ามหาศาลได้

คำว่า "การเข้าถึง (Access)" ในที่นี้ หมายความถึง การเข้าถึงทั้งในระดับกายภาพ เช่น ผู้กระทำความผิดกระทำโดยวิธีใดวิธีหนึ่งโดยนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์นั้นเอง และหมายความรวมถึง การเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งแม้บุคคลที่เข้าถึงจะอยู่ห่างโดยระยะทางกับเครื่องคอมพิวเตอร์ แต่สามารถเจาะเข้าไปในระบบที่ตนต้องการได้

"การเข้าถึง" ในที่นี้จะหมายถึง การเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมดหรือแต่บางส่วนก็ได้ ดังนั้น จึงอาจหมายถึง การเข้าถึงฮาร์ดแวร์ หรือส่วนประกอบต่างๆของคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลที่ถูกบันทึกเก็บไว้ในระบบเพื่อใช้ในการส่งหรือโอนถึงอีกบุคคลหนึ่ง เช่น ข้อมูลจราจร เป็นต้น

นอกจากนี้ "การเข้าถึง" ยังหมายถึงการเข้าถึงโดยผ่านทางเครือข่ายสาธารณะ เช่น อินเทอร์เนต อันเป็นการเชื่อมโยงระหว่างเครือข่ายหลายๆเครือข่ายเข้าด้วยกัน และยังหมายถึง การเข้าถึงโดยผ่านระบบเครือข่ายเดียวกันด้วยก็ได้ เช่น ระบบ LAN (Local Area Network) อันเป็นเครือข่ายที่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้ๆกันเข้าด้วยกัน

สำหรับมาตราดังกล่าวนี้ กำหนดให้การเข้าถึงโดยมิชอบเป็นความผิด แม้ว่าผู้กระทำจะมิได้มีมูลเหตุจูงใจเพื่อก่อให้เกิดความเสียหายก็ตาม ทั้งนี้ เพราะเห็นว่าการกระทำดังกล่าวนั้นสามารถก่อให้เกิดการกระทำผิดฐานอื่นหรือฐานที่ใกล้เคียงค่อนข้างง่ายและอาจก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรง อีกทั้งการพิสูจน์มูลเหตุจูงใจกระทำได้ค่อนข้างยาก

(2) การลักลอบดักข้อมูล

มาตรานี้บัญญัติฐานความผิดเกี่ยวกับการลักลอบดักข้อมูลโดยฝ่าฝืนกฎหมาย (Illegal Interception) เนื่องจากมีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองสิทธิความเป็นส่วนตัวในการติดต่อสื่อสาร (The Right of Privacy of Data Communication) ในทำนองเดียวกับการติดต่อสื่อสารรูปแบบเดิมที่ห้ามดักฟังโทรศัพท์หรือแอบบันทึกเทปลับ เป็นต้น

"การลักลอบดักข้อมูล" หมายถึง การลักลอบดักข้อมูลโดยวิธีการทางเทคนิค (Technical Means) เพื่อลักลอบดักฟัง ตรวจสอบหรือติดตามเนื้อหาสาระของข่าวสารที่สื่อสารถึงกันระหว่างบุคคล หรือกรณีเป็นการกระทำอันเป็นการล่อลวงหรือจัดหาข้อมูลดังกล่าวให้กับบุคคลอื่น รวมทั้งการแอบบันทึกข้อมูลที่สื่อสารถึงกันด้วย

ทั้งนี้ วิธีการทางเทคนิคยังหมายถึง อุปกรณ์ที่มีสายเชื่อมต่อกับระบบเครือข่าย และหมายรวมถึงอุปกรณ์ประเภทไร้สาย เช่น การติดต่อผ่านทางโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น

อย่างไรก็ดี การกระทำที่เป็นความผิดฐานลักลอบดักข้อมูลนั้น ข้อมูลที่ส่งต้องมิใช่ข้อมูลที่ส่งและเปิดเผยให้สาธารณชนรับรู้ได้ (Non-Public Transmissions)
การกระทำความผิดฐานนี้จึงจำกัดเฉพาะแต่เพียงวิธีการส่งที่ผู้ส่งข้อมูลประสงค์จะส่งข้อมูลนั้นให้แก่บุคคลหนึ่งบุคคลใดโดยเฉพาะเจาะจงเท่านั้น ดังนั้น มาตรานี้จึงมิได้มีประเด็นที่ต้องพิจารณาถึงเนื้อหาสาระของข้อมูลที่ส่งด้วยแต่อย่างใด

(3) ความผิดฐานรบกวนระบบ

ความผิดดังกล่าวนี้คือ การรบกวนทั้งระบบข้อมูลและระบบคอมพิวเตอร์ (Data and System Interference) โดยมุ่งลงโทษผู้กระทำความผิดที่จงใจก่อให้เกิดความเสียหายต่อข้อมูลและระบบคอมพิวเตอร์ โดยมุ่งคุ้มครอง ความครบถ้วนของข้อมูล และเสถียรภาพในการใช้งานหรือการใช้ข้อมูลหรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่บันทึกไว้บนสื่อคอมพิวเตอร์ได้เป็นปกติ

ตัวอย่างของการกระทำความผิดฐานดังกล่าวนี้ ได้แก่ การป้อนข้อมูลที่มีไวรัสทำลายข้อมูลหรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือการป้อนโปรแกรม Trojan Horse เข้าไปในระบบเพื่อขโมยรหัสผ่านของผู้ใช้คอมพิวเตอร์ สำหรับเพื่อใช้ลบ เปลี่ยนแปลง แก้ไขข้อมูลหรือกระทำการใดๆอันเป็นการรบกวนข้อมูลและระบบ หรือการป้อนโปรแกรมที่ทำให้ระบบปฏิเสธการทำงาน (Daniel of Service) ซึ่งเป็นที่นิยมกันมาก หรือการทำให้ระบบทำงานช้าลง เป็นต้น

(4) การใช้อุปกรณืในทางมิชอบ

มาตรานี้จะแตกต่างจากมาตราก่อนๆ เนื่องจากเป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับการผลิต แจก
จ่าย จำหน่าย หรือครอบครองอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการกระทำความผิด เช่น อุปกรณ์สำหรับเจาะระบบ (Hacker Tools) รวมถึงรหัสผ่านคอมพิวเตอร์ รหัสการเข้าถึง หรือข้อมูลอื่นในลักษณะคล้ายคลึงกันด้วย

แต่ทั้งนี้ ไม่รวมถึง อุปกรณ์ที่สร้างขึ้นเพื่อปกป้องระบบหรือทดสอบระบบ แต่การจะนำอุปกรณ์เหล่านี้มาใช้ได้ก็ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขว่าต้องมีอำนาจหรือได้รับอนุญาตให้กระทำได้เท่านั้น

สำหรับการแจกจ่ายนั้น ให้รวมถึงการส่งข้อมูลที่ได้รับเพื่อให้ผู้อื่นอีกทอดหนึ่ง (Forward) หรือการเชื่อมโยงฐานข้อมูลเข้าด้วยกัน (Hyperlinks) ด้วย

สำหรับเรื่องอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ของประเทศไทย เราก็คงจะว่ากันอย่างคร่าวๆเพียงเท่านี้ เพื่อให้มีพื้นที่ว่างสำหรับเรื่องอื่นๆที่น่าสนใจด้วย เพราะว
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
Computer crime law. Episode: assigning guilt and penalty provisions. Development of computer crime law that initially developed in consideration of the nature of offense per computer system. Information system and network system, which may conclude an important mistake is base 3.-Access without authority (Unauthorised Access)-Use the computer without the likes (Computer Misuse)-Anomalies are related to computers (Computer Related Crime)This is. An individual basis determined as summarized above. It is intended to provide.Different protection. As follows:1. an Access database without power or by violating the law and the use of computers in.Offense with access without authority, or by violating the law and the use of the computer misuse Act is regarded as a threat or hazard to the Security (Security) of computer systems and information systems. When the system is not secure, it will affect the completeness (Integrity), confidentiality (Confidential) and idle stability (Availability) of computer systems and information systems.(1) access without power.Violation of this legal provision may occur in several ways, such as hacking (Cracking or Hacking), or a computer intrusion (Computer Trespass) to destroy the computer system or to alter the information or to gain access to the information kept confidential, such as secret codes (Passwords), or trade secrets (Trade Secret), etc.This may also be the source of the offending other bases, such as using computers to fraud or counterfeiting a document which could cause continuous damage is huge.The term "access (Access)" in this case means access to all physical levels, such as those of the comments made by one of the methods by sitting in front the computer itself and includes access to a computer system in which even a person that has access to it is by a distance with the computer. But breaking into the system that they want."Access" in this case, it means access to all or part of a computer system, but it has. It may refer to access hardware or parts of a computer or the data stored in the system is to be used to send or transfer to another person, such as traffic information, etc.In addition, "access to" the means of access through a public network like the Internet as a link between a network of multiple networks together, and also means of access through the same network, such as a LAN (Local Area Network) is a network that connects computers located in together Street area.For this scale. Given access to without love is wrong, even if those actions are torture has no incentive to cause this damage, because doing so can cause an action to another base, or nearby bases relatively easily and may cause serious damage. Moreover, the incentive to commit torture proved quite difficult.(2) the stealth interceptor data.This article is about an act of hacking a trap by violating the law (Illegal Interception) because it is intended to protect the right to privacy in communications (The Right of Privacy of Data Communication) in the same way to communicate original format at dakfang or calling prohibiting secret tape recording secretly, etc."Stealth interceptor data" means that data is intercepted by a stealth method of technical (Technical Means) to hacking dakfang. Monitor or track the subject matter of the message to the communication between an individual or case is an action as well as to deceive or to supply such information to other persons, including the information note seeks to communicate to each other.This is. The technical method also refers to a device that is connected to the network, and includes the device type, such as wireless communication via mobile phone, etc.However, Acts as an interceptor stealth base data. The information that is sent must not send information and disclosure to the public perception. (Non-Public Transmissions) This foments the limitation, but just how to send data to the sender wishes to transmit the information to a designated person, one person only, specifically? Therefore, This article does not have an issue that must consider the subject matter of the information submitted by the.(3) a base system interferenceThese mistakes is to interfere with the system-wide information and computer systems (Data and System Interference) penalty committed by criminals who deliberately cause damage to computer systems and data. Focusing on the protection of Completeness of the information, and the stability in the implementation or use of the information or computer programs recorded on computer media as normal.ตัวอย่างของการกระทำความผิดฐานดังกล่าวนี้ ได้แก่ การป้อนข้อมูลที่มีไวรัสทำลายข้อมูลหรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือการป้อนโปรแกรม Trojan Horse เข้าไปในระบบเพื่อขโมยรหัสผ่านของผู้ใช้คอมพิวเตอร์ สำหรับเพื่อใช้ลบ เปลี่ยนแปลง แก้ไขข้อมูลหรือกระทำการใดๆอันเป็นการรบกวนข้อมูลและระบบ หรือการป้อนโปรแกรมที่ทำให้ระบบปฏิเสธการทำงาน (Daniel of Service) ซึ่งเป็นที่นิยมกันมาก หรือการทำให้ระบบทำงานช้าลง เป็นต้น(4) การใช้อุปกรณืในทางมิชอบมาตรานี้จะแตกต่างจากมาตราก่อนๆ เนื่องจากเป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับการผลิต แจกจ่าย จำหน่าย หรือครอบครองอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการกระทำความผิด เช่น อุปกรณ์สำหรับเจาะระบบ (Hacker Tools) รวมถึงรหัสผ่านคอมพิวเตอร์ รหัสการเข้าถึง หรือข้อมูลอื่นในลักษณะคล้ายคลึงกันด้วยแต่ทั้งนี้ ไม่รวมถึง อุปกรณ์ที่สร้างขึ้นเพื่อปกป้องระบบหรือทดสอบระบบ แต่การจะนำอุปกรณ์เหล่านี้มาใช้ได้ก็ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขว่าต้องมีอำนาจหรือได้รับอนุญาตให้กระทำได้เท่านั้นสำหรับการแจกจ่ายนั้น ให้รวมถึงการส่งข้อมูลที่ได้รับเพื่อให้ผู้อื่นอีกทอดหนึ่ง (Forward) หรือการเชื่อมโยงฐานข้อมูลเข้าด้วยกัน (Hyperlinks) ด้วยสำหรับเรื่องอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ของประเทศไทย เราก็คงจะว่ากันอย่างคร่าวๆเพียงเท่านี้ เพื่อให้มีพื้นที่ว่างสำหรับเรื่องอื่นๆที่น่าสนใจด้วย เพราะว
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
กฎหมายอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
ตอน : การกำหนดฐานความผิดและบทกำหนดโทษ


การพัฒนากฎหมายอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ในเบื้องต้นนั้น พัฒนาขึ้นโดยคำนึงถึงลักษณะการกระทำความผิดต่อระบบคอมพิวเตอร์ ระบบข้อมูล และระบบเครือข่าย ซึ่งอาจสรุปความผิดสำคัญได้ 3 ฐานความผิด คือ

- การเข้าถึงโดยไม่มีอำนาจ (Unauthorised Access)
- การใช้คอมพิวเตอร์โดยไม่ชอบ (Computer Misuse)
- ความผิดเกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ (Computer Related Crime)

ทั้งนี้ ความผิดแต่ละฐานที่กำหนดขึ้นดังที่สรุปไว้ข้างต้น มีวัตถุประสงค์ในการให้ความ
คุ้มครองที่แตกต่างกัน ดังนี้

1. ความผิดฐานเข้าถึงโดยไม่มีอำนาจหรือโดยฝ่าฝืนกฎหมาย และการใช้คอมพิวเตอร์ในทางมิชอบ

การกระทำความผิดด้วยการเข้าถึงโดยไม่มีอำนาจหรือโดยฝ่าฝืนกฎหมาย และการใช้คอมพิวเตอร์ในทางมิชอบ ถือเป็นการกระทำที่คุกคามหรือเป็นภัยต่อความปลอดภัย (Security) ของระบบคอมพิวเตอร์และระบบข้อมูล
เมื่อระบบไม่มีความปลอดภัยก็จะส่งผลกระทบต่อความครบถ้วน (Integrity) การรักษาความลับ (Confidential) และเสถียรภาพในการใช้งาน (Availability) ของระบบข้อมูลและระบบคอมพิวเตอร์




(1) การเข้าถึงโดยไม่มีอำนาจ
การฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายนี้ อาจเกิดได้หลายวิธี เช่น การเจาะระบบ (Hacking or Cracking) หรือการบุกรุกทางคอมพิวเตอร์ (Computer Trespass) เพื่อทำลายระบบคอมพิวเตอร์หรือเพื่อเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูล หรือเพื่อเข้าถึงข้อมูลที่เก็บรักษาไว้เป็นความลับ เช่น รหัสลับ (Passwords) หรือความลับทางการค้า (Secret Trade) เป็นต้น

ทั้งนี้ ยังอาจเป็นที่มาของการกระทำผิดฐานอื่นๆต่อไป เช่น การใช้คอมพิวเตอร์เพื่อฉ้อโกงหรือปลอมแปลงเอกสาร ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อเนื่องเป็นมูลค่ามหาศาลได้

คำว่า "การเข้าถึง (Access)" ในที่นี้ หมายความถึง การเข้าถึงทั้งในระดับกายภาพ เช่น ผู้กระทำความผิดกระทำโดยวิธีใดวิธีหนึ่งโดยนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์นั้นเอง และหมายความรวมถึง การเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งแม้บุคคลที่เข้าถึงจะอยู่ห่างโดยระยะทางกับเครื่องคอมพิวเตอร์ แต่สามารถเจาะเข้าไปในระบบที่ตนต้องการได้

"การเข้าถึง" ในที่นี้จะหมายถึง การเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมดหรือแต่บางส่วนก็ได้ ดังนั้น จึงอาจหมายถึง การเข้าถึงฮาร์ดแวร์ หรือส่วนประกอบต่างๆของคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลที่ถูกบันทึกเก็บไว้ในระบบเพื่อใช้ในการส่งหรือโอนถึงอีกบุคคลหนึ่ง เช่น ข้อมูลจราจร เป็นต้น

นอกจากนี้ "การเข้าถึง" ยังหมายถึงการเข้าถึงโดยผ่านทางเครือข่ายสาธารณะ เช่น อินเทอร์เนต อันเป็นการเชื่อมโยงระหว่างเครือข่ายหลายๆเครือข่ายเข้าด้วยกัน และยังหมายถึง การเข้าถึงโดยผ่านระบบเครือข่ายเดียวกันด้วยก็ได้ เช่น ระบบ LAN (Local Area Network) อันเป็นเครือข่ายที่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้ๆกันเข้าด้วยกัน

สำหรับมาตราดังกล่าวนี้ กำหนดให้การเข้าถึงโดยมิชอบเป็นความผิด แม้ว่าผู้กระทำจะมิได้มีมูลเหตุจูงใจเพื่อก่อให้เกิดความเสียหายก็ตาม ทั้งนี้ เพราะเห็นว่าการกระทำดังกล่าวนั้นสามารถก่อให้เกิดการกระทำผิดฐานอื่นหรือฐานที่ใกล้เคียงค่อนข้างง่ายและอาจก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรง อีกทั้งการพิสูจน์มูลเหตุจูงใจกระทำได้ค่อนข้างยาก

(2) การลักลอบดักข้อมูล

มาตรานี้บัญญัติฐานความผิดเกี่ยวกับการลักลอบดักข้อมูลโดยฝ่าฝืนกฎหมาย (Illegal Interception) เนื่องจากมีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองสิทธิความเป็นส่วนตัวในการติดต่อสื่อสาร (The Right of Privacy of Data Communication) ในทำนองเดียวกับการติดต่อสื่อสารรูปแบบเดิมที่ห้ามดักฟังโทรศัพท์หรือแอบบันทึกเทปลับ เป็นต้น

"การลักลอบดักข้อมูล" หมายถึง การลักลอบดักข้อมูลโดยวิธีการทางเทคนิค (Technical Means) เพื่อลักลอบดักฟัง ตรวจสอบหรือติดตามเนื้อหาสาระของข่าวสารที่สื่อสารถึงกันระหว่างบุคคล หรือกรณีเป็นการกระทำอันเป็นการล่อลวงหรือจัดหาข้อมูลดังกล่าวให้กับบุคคลอื่น รวมทั้งการแอบบันทึกข้อมูลที่สื่อสารถึงกันด้วย

ทั้งนี้ วิธีการทางเทคนิคยังหมายถึง อุปกรณ์ที่มีสายเชื่อมต่อกับระบบเครือข่าย และหมายรวมถึงอุปกรณ์ประเภทไร้สาย เช่น การติดต่อผ่านทางโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น

อย่างไรก็ดี การกระทำที่เป็นความผิดฐานลักลอบดักข้อมูลนั้น ข้อมูลที่ส่งต้องมิใช่ข้อมูลที่ส่งและเปิดเผยให้สาธารณชนรับรู้ได้ (Non-Public Transmissions)
การกระทำความผิดฐานนี้จึงจำกัดเฉพาะแต่เพียงวิธีการส่งที่ผู้ส่งข้อมูลประสงค์จะส่งข้อมูลนั้นให้แก่บุคคลหนึ่งบุคคลใดโดยเฉพาะเจาะจงเท่านั้น ดังนั้น มาตรานี้จึงมิได้มีประเด็นที่ต้องพิจารณาถึงเนื้อหาสาระของข้อมูลที่ส่งด้วยแต่อย่างใด

(3) ความผิดฐานรบกวนระบบ

ความผิดดังกล่าวนี้คือ การรบกวนทั้งระบบข้อมูลและระบบคอมพิวเตอร์ (Data and System Interference) โดยมุ่งลงโทษผู้กระทำความผิดที่จงใจก่อให้เกิดความเสียหายต่อข้อมูลและระบบคอมพิวเตอร์ โดยมุ่งคุ้มครอง ความครบถ้วนของข้อมูล และเสถียรภาพในการใช้งานหรือการใช้ข้อมูลหรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่บันทึกไว้บนสื่อคอมพิวเตอร์ได้เป็นปกติ

ตัวอย่างของการกระทำความผิดฐานดังกล่าวนี้ ได้แก่ การป้อนข้อมูลที่มีไวรัสทำลายข้อมูลหรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือการป้อนโปรแกรม Trojan Horse เข้าไปในระบบเพื่อขโมยรหัสผ่านของผู้ใช้คอมพิวเตอร์ สำหรับเพื่อใช้ลบ เปลี่ยนแปลง แก้ไขข้อมูลหรือกระทำการใดๆอันเป็นการรบกวนข้อมูลและระบบ หรือการป้อนโปรแกรมที่ทำให้ระบบปฏิเสธการทำงาน (Daniel of Service) ซึ่งเป็นที่นิยมกันมาก หรือการทำให้ระบบทำงานช้าลง เป็นต้น

(4) การใช้อุปกรณืในทางมิชอบ

มาตรานี้จะแตกต่างจากมาตราก่อนๆ เนื่องจากเป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับการผลิต แจก
จ่าย จำหน่าย หรือครอบครองอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการกระทำความผิด เช่น อุปกรณ์สำหรับเจาะระบบ (Hacker Tools) รวมถึงรหัสผ่านคอมพิวเตอร์ รหัสการเข้าถึง หรือข้อมูลอื่นในลักษณะคล้ายคลึงกันด้วย

แต่ทั้งนี้ ไม่รวมถึง อุปกรณ์ที่สร้างขึ้นเพื่อปกป้องระบบหรือทดสอบระบบ แต่การจะนำอุปกรณ์เหล่านี้มาใช้ได้ก็ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขว่าต้องมีอำนาจหรือได้รับอนุญาตให้กระทำได้เท่านั้น

สำหรับการแจกจ่ายนั้น ให้รวมถึงการส่งข้อมูลที่ได้รับเพื่อให้ผู้อื่นอีกทอดหนึ่ง (Forward) หรือการเชื่อมโยงฐานข้อมูลเข้าด้วยกัน (Hyperlinks) ด้วย

สำหรับเรื่องอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ของประเทศไทย เราก็คงจะว่ากันอย่างคร่าวๆเพียงเท่านี้ เพื่อให้มีพื้นที่ว่างสำหรับเรื่องอื่นๆที่น่าสนใจด้วย เพราะว
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
Computer crime law
when: the base and fault บทกำหนดโทษ


.The development of computer crime laws in the introduction. Developed by considering the offences against the computer system, information system and network system, which can summarize the wrong key 3 base fault. Is

.- access without power (Unauthorised Access)
- the use of the computer without love (Computer Misuse)
- guilt associated กับคอมพิวเตอร์. (Computer Related Crime)

the Each offense standard set up as outlined above. The purpose of the
.Different protection:

1. Fault base access without power or against the law. And the use of computers in abuse

.The offence with access without power or against the law. And the use of computers in the attacks. Is the action that threatened or threaten the safety Security) of computer systems and information systems
.When the system is safe, it will affect the completeness (Integrity), confidentiality (Confidential) and stability in use. (Availability) of information systems and computer systems




(1) access without power
.Violation of the provisions of the law on this may occur in several ways, such as drilling system (Hacking or Cracking) or invasion by computer. (Computer Trespass) to destroy the computer system or to modify data.
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: