ปกติบัฟเฟตต์ตื่นประมาณ 6.45 น. แล้ว

ปกติบัฟเฟตต์ตื่นประมาณ 6.45 น. แล้วก็อ่านหนังสือพิมพ์หลายฉบับ บางครั้งก็เข้าไปอ่านในอินเตอร์เน็ตบ้างเพื่อดูว่ามีอะไรเกิดขึ้น เขาไปถึงที่ทำงานประมาณ 9.00 น. หรือบางทีก็ 8.00 น. ขึ้นอยู่กับว่าจะมีอะไรต้องทำ เขาไม่มีตารางเวลาตายตัว บัฟเฟตต์บอกว่าเขาไม่ต้องการให้ชีวิตตนเองถูกบังคับให้ทำอะไรโดยไม่มีทางเลือก ในที่ทำงาน เวลาประมาณ 75-80% ของเขาหมดไปกับการอ่าน วัน ๆ หนึ่งเขาอ่านหนังสือพิมพ์ 5 ฉบับ รายงานประจำปีของบริษัทจดทะเบียน รายงานรายไตรมาศ แมกกาซีน และอื่น ๆ สารพัด เวลาที่เหลือนั้นเขาใช้ไปกับการพูดคุยโทรศัพท์ สั่งซื้อขายหุ้นหรือเงินตราต่างประเทศ แต่พวกนี้ไม่ได้ใช้เวลามาก หลังจากนั้น เขาก็กลับบ้านซึ่งก็อาจจะประมาณห้าโมงครึ่งหรือหกโมงเย็นไม่ค่อยแน่นอน ในตอนค่ำเขาก็มักจะอ่านหนังสือต่อ หรือไม่บางวันก็เล่นบริดจ์ทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งคู่เล่นรวมถึงบิลเกตและน้องสาวของเขาที่อยู่ต่างเมือง และนี่คือความบันเทิงหลักของบัฟเฟตต์
โฮวาร์ด ลูกของบัฟเฟตต์เล่าว่า บัฟเฟตต์นั้น แม้แต่เครื่องตัดหญ้าก็ใช้ไม่เป็น นอกจากนั้น เขาไม่เคยเห็นบัฟเฟตต์ล้างรถ หรือทำงานบ้านอะไรเลย ในตอนเด็กเขารู้สึกแย่แต่เมื่อโตขึ้นและรู้จักคุณค่าของเวลาแล้ว เขาถึงได้ตระหนักว่าทำไมบัฟเฟตต์จึงทำอย่างนั้น นั่นก็คือ เวลาสำหรับบัฟเฟตต์นั้นมีค่ามาก เขาไม่ยอมเสียเวลากับสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์
บัฟเฟตต์บอกว่า การที่เป็นคนดังนั้นไม่ใช่เรื่องดี เพราะมันทำให้เขาได้รับจดหมายและคำถามมากมายเกี่ยวกับการลงทุน แต่ออฟฟิสของเขาซึ่งมีขนาดเล็กมากนั้นไม่สามารถจัดการกับเรื่องเหล่านี้ได้ ดังนั้น เขาจึงไม่ตอบหรือไม่จัดการกับจดหมายเหล่านั้น เพราะถ้าทำเขาก็คงไม่มีเวลาที่จะทำงานได้เลย
แม้ว่าบัฟเฟตต์จะเป็น CEO ของบริษัทใหญ่ระดับโลกอย่างเบิร์กไชร์ แต่เขามีชีวิตการทำงานแตกต่างกับ CEO คนอื่นมาก ครั้งหนึ่ง บิล เกรแฮม ลูกชายของ เค เกรแฮม เจ้าของบริษัทวอชิงตันโพสต์ซึ่งบัฟเฟตต์เข้าไปถือหุ้นและเป็นเพื่อนสนิท ต้องการแวะมาเยี่ยม บัฟเฟตต์ตอบว่า “มาได้เลยทุกเวลา ผมไม่มีตารางนัด” ห้องทำงานของบัฟเฟตต์นั้นเงียบมาก ในห้องไม่มีคอมพิวเตอร์ ไม่มีจอดูหุ้น ไม่มีแม้แต่เครื่องคิดเลข บัฟเฟตต์เคยบอกว่า “ผมก็คือคอมพิวเตอร์” ในช่วงหนึ่ง บิล สก็อต ซึ่งเป็นเทรดเดอร์ซื้อขายหุ้นของเบิร์กไชร์โผล่หน้ามาแล้วก็ถามว่า “สิบล้านดอลลาร์ที่ 125.125 เอาไหม?” โทรศัพท์ในห้องไม่ค่อยดังบ่อยนัก บัฟเฟตต์มีเวลาเหลือมากมายเมื่อเทียบกับ CEO ของบริษัทอื่น ๆ ตารางเวลาในวันหนึ่ง ๆ ของเขานั้น ไม่มีกำหนดการที่เป็นแบบแผนและมีเวลาว่างมากมายสำหรับการดื่มโค๊ก เขามักจะนั่งอ่านหนังสือเป็นชั่วโมง ๆ และติดต่อกับโลกภายนอกด้วยโทรศัพท์ซึ่งเขารับสายเอง นอกจากนั้นเขายังมีโทรศัพท์สายตรงอีกสามสายกับบริษัทหลักทรัพย์ในการซื้อขายหุ้น
ชีวิตประจำวันของบัฟเฟตต์นั้นเรียบง่ายมากจนไม่น่าเชื่อเมื่อเทียบกับตำแหน่งหน้าที่ในฐานะที่เป็น CEO ของบริษัทใหญ่และมีชื่อเสียงมากอย่างเบิร์กไชร์ และในฐานะที่เป็นคนรวยและดังระดับต้น ๆ ของโลกธุรกิจ บัฟเฟตต์นั้นไม่สนใจออกงานที่จะได้หน้าตาหรืออยู่ในแวดวงคนชั้นสูง ครั้งหนึ่งถ้าจำไม่ผิด ทำเนียบขาวเคยเชิญบัฟเฟตต์ให้ไปรับประทานอาหารค่ำกับประธานาธิบดีคลินตันแต่บัฟเฟตต์ปฏิเสธ เขาคงดูว่าไม่รู้จะเสียเวลาบินไปทำไม เขาไม่มีอะไรจะคุยในเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับเขา ตรงกันข้าม บัฟเฟตต์ให้เวลาไปพูดกับนักศึกษาตามมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ทั่วประเทศค่อนข้างมากเช่นเดียวกับการต้อนรับนักศึกษาที่สนใจในเรื่องการลงทุน เขาดูว่านี่เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ และการพูดคุยกับคนอายุ 20-25 ปี นั้น “มันอาจช่วยเปลี่ยนชีวิตของพวกเขาบางคนได้”
มองอย่างผิวเผิน บัฟเฟตต์อาจจะไม่ค่อยได้ทำงานอะไรหนักหนา แต่ความเป็นจริงคือ งานการลงทุนนั้น แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับการบริหารธุรกิจ การลงทุนนั้นเป็นเรื่องของความคิดล้วน ๆ คุณภาพของการตัดสินใจเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่สุด บางที ปีหนึ่งตัดสินใจครั้งเดียวคุณก็ประสบความสำเร็จมหาศาลได้แล้ว ในขณะที่การบริหารธุรกิจนั้น คุณต้องตัดสินใจอาจจะเป็นสิบ ๆ ครั้งต่อวัน แต่ผลการตัดสินใจส่วนใหญ่นั้นอาจจะไม่มีผลอะไรต่อความสำเร็จมากนัก ดังนั้น คุณมักจะต้องวุ่นวายทั้งวันไม่ว่าคุณจะประสบความสำเร็จหรือไม่ แต่การลงทุนนั้นไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ต้องทำงาน เพียงแต่งานนั้นก็คือการเพิ่มคุณภาพของการตัดสินใจขึ้นไปเรื่อย และวิธีการเพิ่มคุณภาพก็คือการอ่าน อ่าน และอ่าน หนังสือและข้อมูลสารพัดอย่างที่ บัฟเฟตต์และมังเกอร์ทำ

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

Normal is about 6.45 p.m. Buffalo, fet woke up to read newspapers, several. Sometimes they read on the Internet, to see what happens. He went to work for about 9.00 a.m. or 8.00 pm maybe it depends on whether or not to have anything to do. He does not have a fixed schedule. He says Buffalo fet did not want to give their own lives, were forced to do without a choice. In that work, approximately 75-80% of all wan to read him the one he read newspapers 5 annual report of the listed company. The magazine reports, and other goodies that they use the time remaining to the talking phone. Trading stocks or foreign currencies, but they didn't take much time. After that, he went back home, where it may be about five o'clock, six o'clock in half, or less, of course, In the evening he will read a book, play, or does some Internet bridge. Your play, including Bill Gate and his sister outside town. And here is the main entertainment of Buffalo fet.โฮวาร์ด ลูกของบัฟเฟตต์เล่าว่า บัฟเฟตต์นั้น แม้แต่เครื่องตัดหญ้าก็ใช้ไม่เป็น นอกจากนั้น เขาไม่เคยเห็นบัฟเฟตต์ล้างรถ หรือทำงานบ้านอะไรเลย ในตอนเด็กเขารู้สึกแย่แต่เมื่อโตขึ้นและรู้จักคุณค่าของเวลาแล้ว เขาถึงได้ตระหนักว่าทำไมบัฟเฟตต์จึงทำอย่างนั้น นั่นก็คือ เวลาสำหรับบัฟเฟตต์นั้นมีค่ามาก เขาไม่ยอมเสียเวลากับสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์บัฟเฟตต์บอกว่า การที่เป็นคนดังนั้นไม่ใช่เรื่องดี เพราะมันทำให้เขาได้รับจดหมายและคำถามมากมายเกี่ยวกับการลงทุน แต่ออฟฟิสของเขาซึ่งมีขนาดเล็กมากนั้นไม่สามารถจัดการกับเรื่องเหล่านี้ได้ ดังนั้น เขาจึงไม่ตอบหรือไม่จัดการกับจดหมายเหล่านั้น เพราะถ้าทำเขาก็คงไม่มีเวลาที่จะทำงานได้เลยแม้ว่าบัฟเฟตต์จะเป็น CEO ของบริษัทใหญ่ระดับโลกอย่างเบิร์กไชร์ แต่เขามีชีวิตการทำงานแตกต่างกับ CEO คนอื่นมาก ครั้งหนึ่ง บิล เกรแฮม ลูกชายของ เค เกรแฮม เจ้าของบริษัทวอชิงตันโพสต์ซึ่งบัฟเฟตต์เข้าไปถือหุ้นและเป็นเพื่อนสนิท ต้องการแวะมาเยี่ยม บัฟเฟตต์ตอบว่า “มาได้เลยทุกเวลา ผมไม่มีตารางนัด” ห้องทำงานของบัฟเฟตต์นั้นเงียบมาก ในห้องไม่มีคอมพิวเตอร์ ไม่มีจอดูหุ้น ไม่มีแม้แต่เครื่องคิดเลข บัฟเฟตต์เคยบอกว่า “ผมก็คือคอมพิวเตอร์” ในช่วงหนึ่ง บิล สก็อต ซึ่งเป็นเทรดเดอร์ซื้อขายหุ้นของเบิร์กไชร์โผล่หน้ามาแล้วก็ถามว่า “สิบล้านดอลลาร์ที่ 125.125 เอาไหม?” โทรศัพท์ในห้องไม่ค่อยดังบ่อยนัก บัฟเฟตต์มีเวลาเหลือมากมายเมื่อเทียบกับ CEO ของบริษัทอื่น ๆ ตารางเวลาในวันหนึ่ง ๆ ของเขานั้น ไม่มีกำหนดการที่เป็นแบบแผนและมีเวลาว่างมากมายสำหรับการดื่มโค๊ก เขามักจะนั่งอ่านหนังสือเป็นชั่วโมง ๆ และติดต่อกับโลกภายนอกด้วยโทรศัพท์ซึ่งเขารับสายเอง นอกจากนั้นเขายังมีโทรศัพท์สายตรงอีกสามสายกับบริษัทหลักทรัพย์ในการซื้อขายหุ้น
ชีวิตประจำวันของบัฟเฟตต์นั้นเรียบง่ายมากจนไม่น่าเชื่อเมื่อเทียบกับตำแหน่งหน้าที่ในฐานะที่เป็น CEO ของบริษัทใหญ่และมีชื่อเสียงมากอย่างเบิร์กไชร์ และในฐานะที่เป็นคนรวยและดังระดับต้น ๆ ของโลกธุรกิจ บัฟเฟตต์นั้นไม่สนใจออกงานที่จะได้หน้าตาหรืออยู่ในแวดวงคนชั้นสูง ครั้งหนึ่งถ้าจำไม่ผิด ทำเนียบขาวเคยเชิญบัฟเฟตต์ให้ไปรับประทานอาหารค่ำกับประธานาธิบดีคลินตันแต่บัฟเฟตต์ปฏิเสธ เขาคงดูว่าไม่รู้จะเสียเวลาบินไปทำไม เขาไม่มีอะไรจะคุยในเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับเขา ตรงกันข้าม บัฟเฟตต์ให้เวลาไปพูดกับนักศึกษาตามมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ทั่วประเทศค่อนข้างมากเช่นเดียวกับการต้อนรับนักศึกษาที่สนใจในเรื่องการลงทุน เขาดูว่านี่เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ และการพูดคุยกับคนอายุ 20-25 ปี นั้น “มันอาจช่วยเปลี่ยนชีวิตของพวกเขาบางคนได้”
มองอย่างผิวเผิน บัฟเฟตต์อาจจะไม่ค่อยได้ทำงานอะไรหนักหนา แต่ความเป็นจริงคือ งานการลงทุนนั้น แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับการบริหารธุรกิจ การลงทุนนั้นเป็นเรื่องของความคิดล้วน ๆ คุณภาพของการตัดสินใจเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่สุด บางที ปีหนึ่งตัดสินใจครั้งเดียวคุณก็ประสบความสำเร็จมหาศาลได้แล้ว ในขณะที่การบริหารธุรกิจนั้น คุณต้องตัดสินใจอาจจะเป็นสิบ ๆ ครั้งต่อวัน แต่ผลการตัดสินใจส่วนใหญ่นั้นอาจจะไม่มีผลอะไรต่อความสำเร็จมากนัก ดังนั้น คุณมักจะต้องวุ่นวายทั้งวันไม่ว่าคุณจะประสบความสำเร็จหรือไม่ แต่การลงทุนนั้นไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ต้องทำงาน เพียงแต่งานนั้นก็คือการเพิ่มคุณภาพของการตัดสินใจขึ้นไปเรื่อย และวิธีการเพิ่มคุณภาพก็คือการอ่าน อ่าน และอ่าน หนังสือและข้อมูลสารพัดอย่างที่ บัฟเฟตต์และมังเกอร์ทำ

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

Normal Warren Buffett wake up about 6.45 PM. I read the newspaper for several issues. Sometimes to read on the Internet about to see what's going on, he went to work about 9.00. Or maybe it 8.00.Depending on what to do, he has no fixed schedule Warren Buffett said he didn't want to own life, was forced to do without a choice in working at about 75-80% over his reading Days.5 version of annual report of listed companies report quarterly magazine and other goodies that he spent the rest of the talking on the telephone. Sales order stock or foreign currency. But this did not take much after that.In the evening, he is always reading. Or sometimes play bridge via the Internet. The partner includes bill gates and his sister are out of state. And this is the main entertainment of Warren Buffett
.Howard child of Warren Buffett said Warren Buffett. Even lawn mowers are not used. In addition, he never saw Warren Buffett car wash, or do anything. As a kid he upset but when I grow up and know the value of time.It is time for Warren Buffett valuable. He won't waste time on anything that isn't useful
.Warren Buffett says that a celebrity is not good. Because of that he received the letter, and many questions about the investment. But his office, which is very small, it cannot deal with these matters.Because if I did, he would have no time to do it!Although Warren Buffett is CEO of big companies across Berkshire But he lives and work with different CEO others. Once, Bill Graham, the son of Kay Graham.Want to visit. Buffett answered, "it all the time. I have no schedule." the office of the buffer Fett that quiet. The room with no computer. No screen viewing shares, not even the calculator, Warren Buffett said. "I is the computer."The bill, which is a Scottish trader trading in shares of Berkshire show up. I asked, "tens of millions of dollars that 125.125?"Telephone in not so often. Warren Buffett has plenty of time left versus CEO of other companies schedule in one day, he is no schedule a pattern and have lots of free time for drinking coke.Any and all contact with the outside world by telephone, which he calls. In addition, he also has a direct dial telephone lines with more securities in stock trading
.The daily life of Warren Buffett was simple so unbelievable compared to the position as the CEO of big companies and famous as Berkshire And as a rich and famous at top of the business world.Once the recall. The White House was invited to dinner with Warren Buffett President Clinton but Buffett rejected. He can see that I don't know why waste bin He has nothing to talk about with him. Just the opposite.Around quite a lot, as well as to welcome the students who are interested in investment. He looked that it is useful, and talking to people over the age of 20-25 years. "It may help เปลี่ยนชีวิต of some of them."
.Look at the surface, Warren Buffett may not do so, but the fact is, investment work, totally different from the administration. The investment is the idea of all.Maybe a year decided once you tremendous success. While the business administration. You have to make a decision may be ten times per day, but the majority decision there may be no ผลอะ how to much success.You must always busy all day whether you will succeed or not. But the investment that doesn't mean you don't have to work. Only work is to enhance the quality of the decision and continue toRead and read books and information platform, Warren Buffett and mang locker.