During the past decade 1820 Dubai mentioned in the name of Al Marti Basel according to British historian. However, there are some who refer to the country's history, culture or the name of a State in the U.A.E. who locals say so the same motto as that of the word Dubai are also argued to come from Persian, but some believe it comes from the Arabic root ศัพท.The word according to FE colleges and haenhan research the history and culture of the U.A.E. Dubai (Dubai), "probably comes from the word Daba (da BA) (derived from the word Yadub), which means to creep crawl, which may come from the flow of water in the Canal in Dubai (Dubai Creek) in the Earth.History [solved] Media district in Dubai in the past decade 1960In the year 1833, tribal medicine men's 800 Bani led by families, often young, which is also the parent State is currently the main area migrated laengboriwen inlet where it is abundant, it's port. Make baiklai centred view of marine trade, as well as fishing and pearl farming. Then, in the 20th century, Dubai became a major port city as a center of trade and a major exporter, with a shove (call sign of the Middle Eastern market area). The largest is located in an area called media (Deira).Trading in the view baiprasop is much success. Able to attract, by Iran And India came to the settlers in order to trade in the State, but as a more prosperous trading. As an alternative to the ruling family of Dubai, it is still just a protectorate of the British colonies. In one area on the northern coast of the Arabian peninsula. Therefore, after the uk withdraw from the Government. In the year 1971 with many States see baiphrom Jointly founded the country in U.A.E.And next to it during the 1980-1990 era, Dubai has invested to create buildings on many attractions. To Dubai as a qualitative tourist cities by the year 2000, the number of tourists arriving in Dubai with a total of 3 hundred thousand people [4].Geography [fix]เมืองดูไบตั้งอยู่บนชาวฝั่งอ่าวเปอร์เซีย ทางตอนเหนือของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และมีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 16 เมตร รัฐดูไบติดต่อกับรัฐอาบูดาบีทางทิศใต้ ติดกับรัฐชาร์จาห์ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และประเทศโอมานทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ และยังมีแผ่นดินส่วนแยกติดกับเมืองฮัตตา ซึ่งมีประเทศโอมานและรัฐอื่นๆ ได้แก่ รัฐอัจมาน (ทิศตะวันตก) รัฐราสอัลไคมาห์ (ทิศเหนือ) และอ่าวเปอร์เซียทางทิศตะวันตก ดูไบตั้งอยู่ที่ 25°16′11″N 55°18′34″E25.2697°N 55.3095°E และมีพื้นที่ครอบคลุม 4,114 ตารางกิโลเมตร (1,588 ตารางไมล์) ดูไบตั้งอยู่ภายในทะเลทรายอาหรับ อย่างไรก็ตาม ลักษณะทางภูมิศาสตร์ของดูไบก็แตกต่างจากส่วนอื่นๆ ทางใต้ของประเทศ เนื่องจากมีภูมิทัศน์เป็นทะเลทรายสวยงามมีลวดลาย ในขณะที่ทางตอนใต้ของประเทศเป็นทะเลทรายกรวด[5] ทรายประกอบด้วยเศษเปลือกหอย และเศษปะการัง สีขาวเรียบเนียน ทางตะวันออกของเมืองมีพื้นที่ราบเกลือ ซึ่งรู้จักกันในชื่อ ซับกาห์ (sabkha) ทอดจากทางเหนือไปใต้ตามสันทราย ไกลออกไปอีกทางตะวันออกมีสันทรายที่ใหญ่ขึ้นและมีสีแดงประกอบด้วยสารเหล็กออกไซด์[6] ทะเลทรายก็ยังแผ่ออกไปยังภูเขาฮาจาร์ตะวันตก ซึ่งมีความยาวไปตามอาณาเขตของดูไบ โอมานและเมืองฮัตตา แนวเขาฮาจาร์ตะวันตกจะมีอากาศแห้ง พื้นผิวขรุขระ ซึ่งภูเขาบางลูกมีความสูงประมาณ 1,300 เมตร ดูไบไม่มีแม่น้ำหรือโอเอซิสตามธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม ดูไบก็ยังมีคลองดูไบ ขุดลอกโดยเรือ ซึ่งลึกพอที่เรือขนาดใหญ่จะสามารถแล่นผ่านได้ตลอดเส้นทาง ดูไบมีหุบเขาและบ่อน้ำ ซึ่งตั้งอยู่ประปรายแถวภูเขาฮาจาร์ตะวันตก ส่วนทะเลทรายกว้างใหญ่ปกคลุมทางตอนใต้ของดูไบ และใต้ลงไปอีกก็จะเป็นทะเลทรายขนาดใหญ่เรียกว่า ดิเอ็มทีควาร์เตอร์ (The Empty Quarter) ส่วนด้านวิทยาแผ่นดินไหว ดูไบตั้งอยู่ในแผ่นดินที่มีความมั่นคง มีรอยเลื่อนที่ใกล้ที่สุดชื่อ รอยเลื่อนซาร์กอส (Zargos Fault) ตั้งอยู่ห่าง 120 กิโลเมตรจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และการเกิดแผ่นดินไหวในดูไบแทบจะเป็นไปไม่ได้[7] แต่ผู้เชี่ยวชาญได้คาดการณ์ว่าเป็นไปได้ที่จะเกิดคลื่นสึนามิในพื้นที่ แต่มีโอกาสน้อยมาก เพราะอ่าวเปอร์เซียมีความลึกไม่มากพอที่จะทำให้เกิดคลื่นขึ้นได้[7] Dubai city mapทะเลทรายที่ล้อมรอบดูไบมีหญ้าป่าและมีต้นอินทผลัมซาอุ (date palm) ขึ้นอยู่บ้าง มีต้นไฮยาซินธ์มากในบริเวณที่ราบซับกาห์ทางตะวันออกของเมือง มีต้นอาเคเชียและต้นกาห์ฟ (ghaf) ขึ้นในบริเวณภูเขาฮาจาร์ตะวันตก ส่วนพืชพื้นเมืองอื่นๆ เช่น อินทผลัมซาอุ และสะเดา ส่วนสัตว์พื้นเมืองของดูไบมักอาศัยอยู่ในทะเลทราย เช่น นกบัสตาร์ด ไฮยีนา คาราคัล สุนัขจิ้งจอกทะเลทราย เหยี่ยว และ โอริกซ์อาระเบีย ดูไบยังเป็นสถานที่แห่งหนึ่งของสัตว์อพยพจากทางยุโรป เอเชีย และแอฟริกาเมื่อถึงฤดูหนาว ซึ่งในจำนวนนี้มีนกมากกว่า 320 สายพันธุ์ และดูไบยังมีแหล่งน้ำที่มีปลาอาศัยอยู่กว่า 300 สายพันธุ์ เช่น ปลาตุ๊กแก (hammour) The Canal in the heart of Dubai's media hotel.คลองดูไบ ทอดตัวผ่านเมืองจากทางตะวันออกเฉียงเหนือสู่ตะวันตกเฉียงใต้ ส่วนตะวันออกของเมืองพัฒนามาจากเดียร่า มีรัฐชาร์จาห์ติดต่อทางตะวันออกและเมืองอัลอเวียร์ติดทางทิศใต้ ดูไบมีท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ ซึ่งตั้งอยู่ทางใต้ของเดียร่า ในขณะที่มีปาล์มเดียร่าตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเดียร่าในอ่าวเปอร์เซีย อสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่จำนวนมากก่อสร้างขึ้นรวมเป็นกลุ่มทางตะวันตกของคลองดูไบบนแถบชายหาดจูเมร่าห์ ซึ่งท่าเรือราชิด ท่าเรือเจเบลอาลี บูร์จอัลอาหรับ เกาะปาล์มจูเมร่าห์ และสถานที่อื่นๆ เช่นบิสสิเนสเบย์ ก็ตั้งอยู่ที่นี่เช่นเดียวกัน มีถนนหลัก 5 สายที่ผ่านดูไบ ได้แก่ ถนน E 11 (ถนนชิค ซาเยด), E 311 (ถนนเอมิเรตส์), E 44 (ทางหลวงดูไบ-ฮัตตา), E 77 (ถนนดูไบ-อัลฮาบับ) และ E 66 (ถนนอัดเมตา) เชื่อมโยงเมืองดูไบกับเมืองอื่นๆ และเอมิเรตส์ นอกจากนี้ยังมีเส้นทางสำคัญเชื่อมโยงสถานที่ต่างๆ ภายในเมือง เช่น D 89 (ถนนอัลมักทัม), D 85 (ถนนบานิยาส), D 75 (ถนนชิค ราชิด), D 73 (ถนนอัลดียาฟา), D 94 (ถนนจูเมราห์) และ D 92 (ถนนคาลีจ) ส่วนทางตะวันออกและตะวันตกของเมืองเชื่อมโดยสะพานอัลมักทัม สะพานอัลการ์ฮัด อุโมงค์อัลชินดากาห์ ทางตัดบิสสิเนสเบย์ และ สะพานโฟลททิงClimate [fix]Dubai is a city.
การแปล กรุณารอสักครู่..
