Visudhi Punya
ATTENTION:
นักเรียนของเราทุกคนและผู้มาเยือนห้องเรียน ป.วิสุทธิปัญญา
(((o)))นี่เป็นห้องเรียนอันศักดิ์สิทธิ์ของเราและขององค์จิตจักรวาล เป็นห้องเรียนที่มีเกียรติสำหรับผู้มีจิตอ่อนโยน มิใช่อ่อนไหว มีปัญญาสว่างไสวมิใช่มืดบอด เพราะขาดมหาสติ แต่ต้องเป็นปัญญาทีใช้เพื่อการสำรวจตนเอง มองตนเอง มิใช่สบถผู้อื่น! เป็นปัญญาที่มีไว้เพื่อสอนตนเอง มิใช่มีไว้ท่องจำถ้อยคำของคนอื่นแล้วเที่ยวป่าวร้องไปทั่วเพียงเพื่อหาความชื่นใจให้ตัวเอง ขณะพื้นที่ข้างในนั้นว่างเปล่าหรือมืดบอด
(((o)))นี่เป็นห้องเรียนที่ยินดีต้อนรับผู้แสวงหาโมกขธรรมจากทุกศาสนา มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน แต่ไม่ขอต้อนรับลัทธิ...ตัวแทนลัทธิ...ผู้มากมีอวิชชาที่หลงทางกลับบ้านมานานภพแต่ยังมิลดความอหังการ์
(((o))) นี่เป็นห้องเรียนสำหรับผู้มีจิตอ่อนโยน ปัญญาสว่างไกล จริตกริยาสุภาพมิหยาบช้า มีสัมมาคารวะ รู้กาละเทศะ เพราะผู้ใดเข้าห้องเรียนนี้ ผู้นั้นกำลังอยู่เบื้องพระพักตร์แห่งองค์จิตจักรวาลซึ่งสถิตย์อยู่เบื้องบน อันสมควรสำรวมกายใจเป็นทียิ่ง ห้องเรียนนี้เหมาะสำหรับผู้มีปณิธานแห่งนิพพานแท้จริง เหมาะสำหรับผู้ต้องการสร้างสติทางวิญญาณ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างจิตสำนึกใหม่ให้แก่ตนเอง เหมาะสำหรับผู้ต้องการข้ามพ้นความงมงาย เหมาะกับผู้ที่พร้อมจะได้รับการซ่อมและอยู่ในวิสัยที่ยังซ่อมได้เท่านั้น
เตือนสติพวกเธอทุกคนทั้งนักเรียนและผู้มาเยือนได้โปรดสำรวม
จงใช้ห้องเรียนของพวกเราให้เกิดประโยชน์
และจงรักษาความศักดิ์สิทธิ์เบื้องพระพักตร์แห่งพระบิดาเบื้องบนไว้
อย่าให้ใครล้อเล่น เหลวไหล หรือทำให้เสื่อม
ป.วิสุทธิปัญญา
02-02-2012
……………………………………..
ATTENTION PLS.:
(((+)))ใครชอบเส้นทางสายอื่น โดยไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง และไม่พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลง........และถ้า.....
(((+)))ใครไม่เลือกเดินบนเส้นทางสายนี้หรือปฏิเสธเส้นทางขององค์จิตจักรวาล ก็กรุณาก้าวออกไปจากเส้นทางสายนี้เถิด จักประเสริฐกว่าการทำตนเป็นคนนำพาเอาอวิชชาขยะในรูปแบบต่างๆ ทั้งที่รู้สติและไม่รู้สติ เข้ามาทิ้งวางให้รกเท้ารกทางนักเรียนของเราที่ใช้ย่างเดินอย่างไม่สร้างสรรค์อันใดที่ในนี้เลย
(((+)))ถ้าจะนำความรู้ใดเข้ามาถามเพื่อการใฝ่รู้ที่ในนี้เรายินดีเสมอ ความรู้ที่ดีที่ถูกต้องเราพร้อมส่งเสริมเติมเต็ม และถ้าความรู้ใดเป็นขยะเราจะได้ช่วย Recycle ให้ แต่จะใช้ห้องสนทนา-ห้องเรียนของเรา มาเผยแพร่ลัทธิของตน ประกาศความเชื่อความงมงายส่วนบุคคลหรือพวกตน หรือหมายมาล่าสาวกที่ในนี้ไม่ได้
นี่เป็นคำพิพากษาแห่งองค์จิตจักรวาล ก่อนกาลสิ้นยุค
หนึ่งในแผนปฏิบัติการคัดแยกคนดีออกจากเปือกตม
ป.วิสุทธิปัญญา
02-02-2012
ATTN: คุณ ธัญญา ศรีชาลี และ คุณ Mrsa Holmes
1.ก่อนอื่นเราขอขอบใจในการที่ท่านทั้งสอง
ได้แสดงความศรัทธาต่อองค์จิตจักรวาล
ด้วยปัญญาอันใสพิสุทธิ์
และด้วยจิตใจอันงดงามของท่าน
ต่อกรณีที่คุณCecilia Chaodee แสดงความข้องใจ
ต่อคำกล่าวสื่อสอนของเรา
ซึ่งหมิ่นเหม่ต่อการก้าวล่วง God ของเขาเองเป็นที่ยิ่ง
2.เราขอบอกท่านทั้งสองว่า
สาเหตุที่คนๆนี้แสดงคำกล่าวออกมา
ต่อนักเรียนของเราทุกคน
ในห้องเรียนของเรา อย่างไม่เกรงใจและไม่สำรวมนั้น
เพราะเธอคนนี้....
2.1 เป็นผู้นับถือพระเจ้าแต่ไม่รู้จักพระเจ้า
นับถือองค์เยซูแต่ไม่รู้จักองค์เยซู
และแน่นอนว่า
รู้จัก ป.วิสุทธิปัญญา แต่กลับไม่รู้จักเราอีกเช่นกัน
2.2 คนๆนี้เป็นหนึ่งในคนอีกไม่น้อยบนโลกนี้
ที่ยึดติดในอัตตาของพระศาสดา
ตามระดับความงมงายที่ตนมี
ยึดติดในคำสอนพระศาสดา
ตามตัวอักษรที่มีผู้บันทึกไว้
แต่ขาดการใช้สติปัญญาแม้เบื้องต้น
ที่จะพิจารณาพฤติกรรมของตนเองว่า....
การเที่ยวไปก้าวล่วงผู้อื่นด้วยวาจาและจิตใจ
ด้วยคุณสมบัติที่บกพร่องในสองประการนั้น
ทั้งๆที่ตนเองยังไม่รู้จักเขาคนนั้นเลย
อย่างเช่นที่กระทำจาบจ้วงต่อองค์พระบิดา
ผู้ทรงกล่าวพระโอวาทสื่อสอนผ่านมาทางเรานั้น
ก็ยังไม่มีสติมากพอที่จะพิจารณาว่า
การกระทำของตนนั้นมันผิดบาปหรือเปล่า....
มันน่าอับอายวิญญูชนคนอื่นรึเปล่า....
ทั้งๆที่เราเคยกล่าวไว้
ในพระคัมภีร์ที่จุมพิตกันอยู่ทุกวี่วันนั่น
ด้วยถ้อยความที่ออกจะชัดเจนว่า...
"เจ้าจงอย่าพิพากษาผู้อื่น
นอกจากตัวเจ้าเองเท่านั้น"
2.3 เป็นผู้ที่ยึดติดในพระคำขององค์เยซู
ที่พระองค์จะทรงกล่าวต่อศิษย์ของพระองค์
เมื่อทรงสื่อถ่ายทอดพระโอวาทจากพระเจ้า
ด้วยคำกล่าวที่ว่า....
"เราขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า...."
คนๆนี้จะรู้สึกรับไม่ได้ เมื่อได้ยิน ได้เห็น ได้พบ
ใครที่กล่าวตามประโยคที่ยกตัวอย่างมานี้ในทันที
เพราะเธอคิดสั้นไป คิดไวไป
จึงคิดไม่สุดทางที่ควรจะคิด
คนๆนี้คิดว่าคำกล่าวประโยคนี้
เป็นประโยคศักดิ์สิทธิ์
ที่ผู้ใดจะกล่าวได้
ต้องเป็นพระศาสดาพระองค์นั้นของเธอเท่านั้น
นี่คือคิดสั้นไป
คิดไวไป และคิดไม่สุดทาง
ถ้าคนๆนี้มีสติปัญญาแท้จริง...
ก็น่าจะคิดต่อให้สุดทางแทนการสงสัยว่า
"ใช้ประโยคนี้ได้ไง...ทำไมไม่ใช้ประโยคอื่น"
โดยควรจะคิดว่า......
"คนที่กล่าวประโยคนี้...เป็นใคร?"
แล้วตามศึกษาหาคำตอบให้ได้ว่า
ใยเขาจึงกล้ากล่าวประโยคดังว่านี้
ด้วยการปราศจากโมหคติและมิจฉาทิฐิอย่างสิ้นเชิง
และเธอควรจะฉุกคิดด้วยซ้ำไปว่า...
อันผู้เป็น"เอกบุรุษแห่งจักรวาล"แท้จริงนั้น
มิมีผู้ใดเลียนแบบหรือเรียนแบบได้หรอก
และผู้เป็นเอกบุรุษแห่งจักรวาลนั้น
ก็มิมีแม้เพียงจะคิดที่จะลอกเลียนแบบผู้ใดเช่นกัน
การที่เธอหวงแหนประโยคศักดิ์สิทธิ์
ที่พระศาสดาซึ่งเธอรับถือศรัทธา
จนออกนอกหน้าเยี่ยงนี้
ทั้งๆที่เธอมิได้เป็นเจ้าของคำกล่าวนี้สักหน่อยนั้น
เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่า
เธอผู้นี้หวงแหนในฐานะอะไร
เป็นตัวแทน เป็นญาติผู้รับมรดก
ของพระศาสดาเช่นนั้นรึ
การทำตนรุ่มร่ามเยี่ยงนี้
กลับจะยิ่งนำพาความละอาย
ให้ระคายเคืองต่อพระผู้สูงส่งเสียมากกว่า
3.นักเรียนห่้องเรียน ป.วิสุทธิปัญญา ทั้งสองท่าน
เธอจงถือกรณีนี้เป็นบททดสอบภูมิปัญญา
และภูมิธรรมของเธอเอง
เป็นบททดสอบความรักความศรัทธา
ที่เธอมีต่อพระบิดาและเรา
เป็นบททดสอบว่า...
เธอจะรักคนที่ไม่น่ารักเยี่ยงนี้ได้มั้ย?
การที่เธอช่วยให้สติทางวิญญาณแก่เขา
มิให้ก้าวล่วงจ้วงจาบพระบิดาและเรา
ด้วยสำนึกว่าเขาไม่รู้...นี่ประเสริฐยิ่ง
เขาคงจะต้องเรียนรู้
เพื่อให้รู้จักพระเจ้า พระเยซู และเรา
รวมทั้งรู