Explain what the hydrangeas, but before the news of Japan is the flower that is named JI Ah Sai and the following is a legend of flower ^^ ... Ah Jin Sai in.The relationship between SI bon event and start at the lash line and Miyazaki ryokan Deji. In the District of Nagasaki, over 400 years back. Modern Japan is not a country remains closed to international trade, but open a few ports to foreign trade with Japan at Nagasaki City is the area where relocating foreign exchange trade with Japan. Dr. Dr. Dr. filip von SI bon. is a German travelling with East India commercial fleet. When it comes to the port city of Nagasaki Dr. Dr. von bon. Has served as a medical treatment to the citizens of Nagasaki? SI bon medicine new knowledge comes to Japan He conveys knowledge about Japan to surgery. He started medical school in Nagasaki. In the district, Nagasaki kipokti will not allow people into Japan, but there are some people who have been granted access to a few people, but one of them is a lash giou-Taman-o girl Japan. She took care of the House and there is no reason, then, o SI bon to takimotokan. O SI bon takimotokan Palace take the city in Nagasaki and then it gradually formed the love between two people. One leading German sotroboeri bon, SI o ... o see eat kilong lash takimotokan never eat sotroboeri before. In the past, Japan has no favorite in Okinawa Osaka Takayama sotroboeri taste the deliciousness of the sotroboeri eat. After dating each other .... Finally it marry takimotokan o SI bon have one daughter together, named electronics Akane. ซีโบลด์นอกเหนือจากเป็นนายแพทย์แล้ว ตัวเขาชื่นชมในพฤกษศาสตร์ เขาวาดภาพต้นไม้ ดอกไม้ต่างๆที่เขาเจอในญี่ปุ่น เขาทำการทดลองเพาะพันธุ์ไม้ต่างๆ ซีโบลด์สนใจในภูมิประเทศญี่ปุ่น เขาจ้างวานให้คนเขียนแผนที่ประเทศญี่ปุ่นให้....แต่แล้วเคราะห์กรรมก็มาเยือน เมื่อเรือที่เขาเดินทางเกิดล่ม สิ่งของที่บรรทุกมาลอยไปเกยชายหาด หีบใบหนึ่งของซีโบลด์ถูกเปิดฝาออกและพบภาพแผนที่ญี่ปุ่นที่ซีโบลด์ได้จ้างนายช่างวาดเอาไว้ เรื่องรู้ไปถึงสำนักพระราชวัง การที่ซีโบลด์วาดภาพแผนที่ญี่ปุ่นถือว่าซีโบลด์กระทำความผิดร้ายแรงตามกฎหมายของญี่ปุ่น ซีโบลด์โดนตั้งข้อหาว่าเป็นสายลับที่มาค้นหาความลับของญี่ปุ่นให้ข้าศึกภายนอก ดังนั้นญี่ปุ่นจึงมีคำสั่งให้เนรเทศซีโบลด์ออกจากประเทศญี่ปุ่น ซีโบลด์เก็บข้าวของและจำใจต้องพลัดพรากจากภรรยาและลูกสาว ซีโบลด์นำกระถางต้นไม้ที่บรรจุต้นอาจิไซไปด้วย ทุกครั้งที่มองดอกอาจิไซ....ซีโบลด์ก็ระลึกถึง "โอทากิ" ภรรยาของตนที่ไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศญี่ปุ่น ตลอดทางที่เรือเดินสมุทรที่ออกเดินทางจากญี่ปุ่นไปยุโรป...ซีโบลด์ได้เขียนจดหมายพรรณนาถึงความโศกเศร้าที่ต้องพลัดพรากกับภรรยาและลูกน้อย ซีโบลด์ได้เพาะพันธุ์ดอกอาจิไซสายพันธุ์ใหม่แล้วตั้งชื่อว่า "โอทักขุสะ" ในภาษาฮอลแลนด์ซึ่งถ้าแปลเป็นภาษาญี่ปุ่นก็คือ "โอทากิ" ชื่อของภรรยาที่ซีโบลด์สุดแสนรัก โอทากิมองว่า....ในชีวิตนี้เธอคงไม่มีโอกาสที่จะได้เจอซีโบลด์อีกแล้ว เธอจึงเขียนจดหมายถึงซีโบลด์ ให้ซีโบลด์ลืมเรื่องของเธอเถิดแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ในยุโรป เมื่อซีโบลด์ได้อ่านจดหมายฉบับนี้ถึงกับตกใจและเสียใจที่โอทากิได้ขอเลิก... เหตุการณ์ผ่านไปอีกหลายปี....ทั้งซีโบลด์และโอทากิต่างก็แต่งงานมีครอบครัวใหม่ ซีโบลด์มีบุตรหลายคนกับแคทเธอรีน ในขณะที่โอทากิไม่มีบุตรกับสามีใหม่ แล้วกระแสแห่งการเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้นเมื่อญี่ปุ่นยอมเปิดประเทศภายหลังจากที่เปอรี่ได้นำกองทัพเรือมาปิดอ่าวเอโดะและเรียกร้องให้ญี่ปุ่นเปิดประเทศ ๓๖ ปีที่ซีโบลด์จากญี่ปุ่นไป....ถึงเวลาที่ซีโบลด์มีโอกาสได้เดินทางกลับมาเยือนญี่ปุ่นอีกครั้ง ซีโบลด์เดินทางมาญี่ปุ่นพร้อมอเล็กซานเดอร์บุตรชาย ซีโบลด์มีโอกาสได้เจอโอทากิและอิเนะลูกสาวซึ่งตั้งใจจะเป็นแพทย์ตามอย่างพ่อ ซึ่งอิเนะไปศึกษาโรงเรียนแพทย์สมัยใหม่ในนางาซากิและสุดท้ายเป็นแพทย์หญิงสำหรับวิชาแพทย์แผนใหม่คนแรกในประเทศญี่ปุ่น แม้ว่าซีโบลด์จะได้กลับมาพบกับโอทากิใหม่....ความรู้สึกดีๆระหว่างกันยังคงมีอยู่.....แต่ด้วยพันธะของครอบครัวที่ตอนนี้ต่างคนต่างมี คนทั้งสองจึงไม่สามารถจะกลับมาครองรักกันได้อีก ซีโบลด์เดินทางกลับไปประเทศเนเธอร์แลนด์และในช่วงชุดท้ายของชีวิต...ซีโบลด์เขียนข้อความเอาไว้ว่า ภายหลังจากฉันเสียชีวิตลงแล้ว..อยากโบยบินไปยังดินแดนที่สงบและสวยงามที่ฉันเคยใช้ชีวิตอยู่..... อีกมุมนึงของโลก...ก่อนที่โอทากิจะเสียชีวิตลง ..ความอร่อยของสตรอว์เบอร์รี่นับตั้งแต่เธอเคยสัมผัสเป็นครั้งแรกเมื่อซีโบลด์ให้เธอลองทาน เธอไม่เคยลืม....เธอจึงขอทานสตรอว์เบอร์รี่เป็นครั้งสุดท้ายก่อนอำลาโลก... ถึงแม้วันนี้ดอกอาจิไซจะได้รับการเผยแพร่พันธุ์ไปทั่วโลกในชื่อภาษาอังกฤษว่า Hydrangea แต่ต้นกำเนิดจริงๆมาจากญี่ปุ่น
การแปล กรุณารอสักครู่..