บทคัดย่อการวิจัยครั้งนี้มุ่งศึกษาเป

บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มุ่งศึกษาเปรียบเทียบพฤติกรรมการออมของพนักงานเอกชนและข้าราชการในเขตเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา กลุ่มตัวอย่าง 200 คน เป็นพนักงานเอกชนในเขตเมืองนครราชสีมา จำนวน 100 คน และข้าราชการในเขตเมืองนครราชสีมา จำนวน 100 คน สุ่มตัวอย่างโดยวิธีการทาโร่ ยามาเน่(Taro Yamana) เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 เกี่ยวกับตัวผู้ตอบแบบสอบถาม ส่วนที่ 2 เกี่ยวกับพฤติกรรมการออม และส่วนที่ 3 แรงจูงใจให้เกิดการออม ใช้สถิติอนุมาน Regression Analysis , t-test และการทดสอบสมมติฐานเกี่ยวกับค่าสัดส่วน 2 ประชากร ผลการวิจัยพบว่า พนักงานเอกชนและข้าราชการ ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุระหว่าง 20 - 29 ปี สำเร็จการศึกษา ปริญญาตรี สถานภาพโสด มีวัตถุประสงค์ในการออมเงินเพื่อไว้ใช้จ่ายยามฉุกเฉิน ประเภทการออมที่ออมผ่านธนาคารมากที่สุด คือ เงินฝากออมทรัพย์ พนักงานเอกชนออมเงินเฉลี่ยต่อเดือน เท่ากับ 3,105.20 บาท ข้าราชการออมเงินเฉลี่ยต่อเดือน เท่ากับ 4,230 บาท รูปแบบการออมที่มีความพึงพอใจมากที่สุด คือ การออมกับธนาคารพาณิชย์ ซึงแรงจูงใจที่ทำให้เกิดการออมมากที่สุด ก็คือ ปริมาณรายได้ เมื่อเปรียบเทียบพฤติกรรมการออมของพนักงานเอกชนและข้าราชการ พบว่าอัตราดอกเบี้ยส่งผลต่อรูปแบบการออม พนักงานเอกชนมีการออมเงินไม่สูงกว่าข้าราชการและสัดส่วนการออมเงินแบบฝากออมทรัพย์ของพนักงานเอกชนและข้าราชการไม่แตกต่างกัน
คำสำคัญ : เปรียบเทียบพฤติกรรมการออมของพนักงานเอกชนและข้าราชการ

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

Abstractการวิจัยครั้งนี้มุ่งศึกษาเปรียบเทียบพฤติกรรมการออมของพนักงานเอกชนและข้าราชการในเขตเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา กลุ่มตัวอย่าง 200 คน เป็นพนักงานเอกชนในเขตเมืองนครราชสีมา จำนวน 100 คน และข้าราชการในเขตเมืองนครราชสีมา จำนวน 100 คน สุ่มตัวอย่างโดยวิธีการทาโร่ ยามาเน่(Taro Yamana) เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 เกี่ยวกับตัวผู้ตอบแบบสอบถาม ส่วนที่ 2 เกี่ยวกับพฤติกรรมการออม และส่วนที่ 3 แรงจูงใจให้เกิดการออม ใช้สถิติอนุมาน Regression Analysis , t-test และการทดสอบสมมติฐานเกี่ยวกับค่าสัดส่วน 2 ประชากร ผลการวิจัยพบว่า พนักงานเอกชนและข้าราชการ ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุระหว่าง 20 - 29 ปี สำเร็จการศึกษา ปริญญาตรี สถานภาพโสด มีวัตถุประสงค์ในการออมเงินเพื่อไว้ใช้จ่ายยามฉุกเฉิน ประเภทการออมที่ออมผ่านธนาคารมากที่สุด คือ เงินฝากออมทรัพย์ พนักงานเอกชนออมเงินเฉลี่ยต่อเดือน เท่ากับ 3,105.20 บาท ข้าราชการออมเงินเฉลี่ยต่อเดือน เท่ากับ 4,230 บาท รูปแบบการออมที่มีความพึงพอใจมากที่สุด คือ การออมกับธนาคารพาณิชย์ ซึงแรงจูงใจที่ทำให้เกิดการออมมากที่สุด ก็คือ ปริมาณรายได้ เมื่อเปรียบเทียบพฤติกรรมการออมของพนักงานเอกชนและข้าราชการ พบว่าอัตราดอกเบี้ยส่งผลต่อรูปแบบการออม พนักงานเอกชนมีการออมเงินไม่สูงกว่าข้าราชการและสัดส่วนการออมเงินแบบฝากออมทรัพย์ของพนักงานเอกชนและข้าราชการไม่แตกต่างกันKeywords: compare an employee's behavior in private and government savings.

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

Abstract
This research aims to study the behavior of private savings and government officials in the city of Nakhon Ratchasima. Nakhon Ratchasima The sample of 200 people a private operator in the city of Nakhon Ratchasima, 100 people and officials in the city of Nakhon Ratchasima 100 people sampling method Taro Yamane (Taro Yamana) tool was a questionnaire divided into three parts: Part 1. About the male respondents, the second on savings behavior and the three incentive to savings. Statistical inference Regression Analysis, t-test and test hypotheses about the population ratio of 2 results found. Private employees and civil servants Most are female Aged between 20-29 years, graduated with a Bachelor of single purpose of saving money for the cost of emergency. Saving the savings bank sector was the most savings. Private employees, average monthly savings of 3105.20 baht official average monthly savings of 4,230 baht savings patterns are most satisfied with the savings banks. Motivation in the cause of saving the most is the amount of revenue compared to the savings behavior of private employees and civil servants. Interest rates affect the savings pattern. Employees of private savings ratio no higher than the official savings and a savings of private employees and civil servants is no different
word: compare savings behavior of private employees and civil servants.

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

Abstract
.This study aimed to compare the saving behavior of private employees and officials in the county town, Nakhon Ratchasima province. The 200 people. As a private in the urban area of 100 Nakhon Ratchasima.The 100 were sampling by means of taro Yamane (Taro Yamana) tools used were divided into 3 including parts of the 1 about the answer queries. The 2 about saving behavior, and the 3.Group อนุมาน Regression Analysis,T-test and testing hypotheses about the ratio of 2 population study found that private employees and officers were female, aged between 20 - 29 years. Graduate, bachelor degree were single.The type of saving savings bank most is private savings, employees average savings per month, as 3105.20 baht, government savings, as 4 average per month.230 baht savings pattern with the most satisfaction is saving and commercial banks, Seung motivation that caused the most savings is, the amount of income. When comparing the saving behavior of employees in private and government officials.Employees are not higher than the official private savings and money savings, savings ratio of private employees and officials of different
.Key words: comparison of the saving behavior of private employees and officers
.