การที่คนเราจะสามารถสร้างแนวทางแฟชั่นของเราเองขึ้นมา โดยการคิดผสมผสานให้เหมาะสมกับตัวเองนั้น น่าจะทำให้เรากลายเป็นผู้นำแฟชั่นแนวใหม่ ซึ่งจะน่าชื่นชมกว่าการลอกเลียนแบบ "แฟชั่นชั้นสูงเป็นงานศิลปะที่มีความเป็นตัวเองสูง การเปลี่ยนแปลงของแฟชั่นชั้นสูงจะเป็นอิสระจากสภาวะโดยรอบ เช่น ปัญหาเศรษฐกิจหรือสังคม เนื่องจากเป็นเรื่องของคนชั้นสูงซึ่งมีฐานะดีที่จะไม่ได้รับผลกระทบ แฟชั่นชั้นสูงจึงอาจไม่สะท้อนความเป็นจริงของโลกมากนัก แต่สำหรับแฟชั่นระดับกลางหรือระดับล่าง ผู้บริโภคเป็นชนชั้นกลาง หากมีความเปลี่ยนแปลงในทางสังคมหรือเศรษฐกิจ เช่น น้ำมันแพง สินค้าแพง ผู้คนจะปรับพฤติกรรมการบริโภคจับจ่ายสินค้า ทิศทางของแฟชั่นระดับกลางหรือล่างก็จะผันแปรตาม สะท้อนถึงสภาวะที่เกิดขึ้น
"ในการทำงานแฟชั่น ก็ต้องสนใจดูงานของดีไซเนอร์ระดับโลกทุกคน เพราะถือว่าเขาเหล่านั้นเป็นครู ขึ้นอยู่กับว่าในแต่ละช่วงเวลาใครจะมีผลงานโดดเด่นน่าจับตามอง เช่น John Galliano, Alexander McQueen สำหรับแฟชั่นดีไซเนอร์ที่เป็นดาวเด่นในเมืองไทยก็ติดตามผลงานของหลายๆคน สิ่งที่น่าสงสารในบ้านเราคือบางคนมีฝีมือแต่ว่าไม่ประสบความสำเร็จ คือ ทำเสื้อขึ้นมาแล้วขายไม่ได้
"โครงการกรุงเทพเมืองแฟชั่นเป็นโครงการหนึ่งที่สร้างความตื่นตัว และสร้างความคึกคักให้กับวงการแฟชั่นเมืองไทยเป็นอย่างมาก แต่ทั้งนี้ก็ต้องระมัดระวังว่าการดำเนินการเหล่านั้นถูกต้องเหมาะสมหรือไม่ เราสามารถนำเงินที่รัฐบาลลงทุนให้นี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์กับวงการแฟชั่นอย่างเต็มที่เพียงใด ไม่ใช่การตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ