ความขัดแย้งในสังคมไทยในอดีตมีมาตลอด

ความขัดแย้งในสังคมไทยในอดีตมีมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้งระหว่างชนชั้นนำที่ยุติลงด้วยการเปลี่ยนแปลงการปกครองหลังจากนั้นก็เกิดความขัดแย้งเชิงอุดมการณ์ระหว่างรัฐไทยกับพรรคคอมมิวนิสต์ซึ่งสิ้นสุดลงด้วยนโยบายการให้อภัย ต่อมาก็เป็นความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลเผด็จการกับกระแสเรียกร้องประชาธิปไตยของประชาชนก่อให้เกิดเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 และพฤษภาทมิฬ

แต่ความขัดแย้งที่ผ่านมายังไม่มีความรุนแรงเท่าความขัดแย้งทางการเมืองยืดเยื้อ เรื้อรังในขณะนี้ ที่เริ่มต้นเมื่อปลายปี 2548 และพัฒนามาเป็นความขัดแย้งระหว่าง “เสื้อเหลือง” กับ “เสื้อแดง” อยู่จนถึงทุกวันนี้ ความขัดแย้งยาวนานนี้ยังไม่มีใครรู้ว่าจะจบลงอย่างไร แต่ที่แน่ใจได้ก็คือ ผลกระทบของมันมีความรุนแรงมากหลายด้าน ดังนี้

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

ความขัดแย้งในสังคมไทยในอดีตมีมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้งระหว่างชนชั้นนำที่ยุติลงด้วยการเปลี่ยนแปลงการปกครองหลังจากนั้นก็เกิดความขัดแย้งเชิงอุดมการณ์ระหว่างรัฐไทยกับพรรคคอมมิวนิสต์ซึ่งสิ้นสุดลงด้วยนโยบายการให้อภัย ต่อมาก็เป็นความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลเผด็จการกับกระแสเรียกร้องประชาธิปไตยของประชาชนก่อให้เกิดเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 และพฤษภาทมิฬBut the conflicts in the past has not been as violent political conflicts escalate. Now that the epidemic began at the end of the year 2548 (2005) and developed as the conflict between the "yellow shirts", with the "red shirts" are to this day. This long-lasting conflict, no one yet knows how it will end, but that's sure is that its impact is very serious in several aspects. Is as follows:

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

The conflict in the society in the past all the time.It is a clash between the authoritarian government with current claims of democracy caused events and 14 October 2516 may
.
.But the conflict over the past no violence as a political conflict lasting lingering now begins at the end of 2548 and developed is the conflict between "Yellow" and "red shirt" until today.But sure is, its effects are as follows: severity of many.