The temple is located at ban packet packet. Shadow, away from Khun yuam, about 7 km by the market before they reach the market is from 5 to about 108 km road is a surface, with the history of the temple, the temple is the original packet is a new build, whether it is a measure of the LWA, or lawa that are created for a long time. Later, when there were evacuation came to live in this village. Therefore, the packet that has found the old pagoda tree carcasses up the middle in the pagoda. Still, no one dares to come to this area because it is very fierce ghost story. Later, the villagers would have an old temple packet (a Miami Center minors) to measure the restoration by the faith the land? Ban Khun yuam and share created for the packet came up when some Divinity Hall years. 50.2461 Fri.The architecture of the temple is the Divinity Hall, where the packet is building blended the Burmese Shan architecture beauty in Khun yuam district. The building, which faces towards the East, it has been the latter's construction. There are approximately 30 meters in width and is approximately 25 m long roof, which has multiple layers separated by a zinc roof and will receive a beautifully carved patterns. The current state of the Divinity Hall to complete, because the care was received from the Board of the event prom you sit. The temple regularly. วัดต่อแพมีวัตถุโบราณล้ำค่าหลายอย่าง เช่น ผ้าม่านประดับพลอดกว้าง 2 เมตร ยาว 3 เมตร ตู้พระธรรมซึ่งนำมาจากเมืองมะละแหม่ง แกะสลักอย่างสวยงามจำนวน 2 ใบและพระพุทธรูปล้ำค่าอีกหลายองค์ นอกจากนี้ ภายในบริเวณวัดยังมีอาคารที่เก่าแก่อีกหลายหลัง คือ จองซอนหรือศาลาสรงน้ำพระซึ่งใช้เป็นที่สรงน้ำพระในเทศกาลสงกรานต์ของชาวไทใหญ่ ตลอดจนวิหารและเจดีย์เก่าแก่ สร้างขึ้นราวปี พ . ศ . 2463 และถานหรือส้วมพระสงฆ์สมัยโบราณที่สร้างขึ้นอย่างวิจิตรพิสดาร มีหลังคาลดชั้นและลวดลายแกะสลักไม้ปัจจุบันนี้ยังใช้งานได้ดี อนึ่ง วิหารและเจดีย์ของวัดต่อแพซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกัน คือที่บริเวณด้านหน้าของศาลาการเปรียญนั้น องค์เจดีย์จะตั้งอยู่ด้านทิศเหนือและวิหารจะตั้งอยู่ด้านทิศใต้ สำหรับองค์เจดีย์ ซึ่งได้กล่าวถึงแล้วข้างต้นว่ามีมาแต่เดิม ต่อมาจึงได้รับการบุรณะให้มีสภาพสมบูรณ์ขึ้น สิ่งที่แปลกประหลาดเกี่ยวกับเจดีย์นี้ คือต้นไม้ใหญ่ที่ขึ้นอยู่กลางองค์เจดีย์และไม่มีใครกล้าตัดออก หรือแม้แต่จะนำช้างนี้มาเลี้ยงในบริเวณนั้น เพราะเล่ากันว่ามีผีดุ ชาวบ้านบางคนกล่าวว่า เวลานำช้างมาเลี้ยงทีไร ช้างจะแตกตื่นวิ่งหนีไปเสียทุกครั้งต่อมา เมื่อมีศาลาการเปรียญขึ้นมาเป็นอาคารหลังแรกของวัดต่อแพในปี พ . ศ . 2461 ( เจดีย์ยังไม่ได้รับการบูรณะ ) ได้มีปรากฏการณ์บางอย่างเกิดขึ้นคือ ทุกวันขึ้น 14 , 15 ค่ำ จะมีดวงไฟส่องสว่างลอยออกมาจากเจดีย์องค์ดังกล่าว แต่ไม่มีใครสนใจ จนวันหนึ่ง มีเณรไปเล่นที่รอบเจดีย์โดยขุดคุ้ยกองอิฐเก่าที่ฐานเจดีย์นั้น ก็ได้พบผอบเงิน เมื่อแกะดูข้างในมีพระธาตุเม็ดเล็ก ๆ ขนาดข้าวสาร มีแสงระยิบระยับไปหมด เจ้าอาวาสทราบดังนั้น จึงสั่งให้เก็บไว้ที่องค์เจดีย์ตามเดิม ครั้นข่าวการพบพระธาตุได้กระจายไปยังที่ต่าง ๆ ทั้งในหมู่บ้าน ต่างบ้านจนไกลไปถึงเมืองมะละแหม่งและร่างกุ้งในสหภาพพม่า ก็มีผู้คนมาทำบุญกันมากมาย อีกทั้งถวายเงินเข้าวัดเป็นจำนวนมากจึงมีผู้คิดจะสร้างเจดีย์องค์ใหม่เพื่อครอบองค์เก่า แต่ไม่มีใครกล้าตัดต้นไม้ที่ขึ้นกลางเจดีย์ แม้ว่าจะมีหมอผีหลายคนรับอาสาทำพิธีตัดให้ แต่ก็ไม่สำเร็จสักคน ทั้งนี้เนื่องจากเวลาที่ทำพิธีอยู่นั้น เมื่อหมอผีนำขวานไปฟันติดกับต้นไม้แล้วมี การจุดธูปเทียนบอกกล่าวพร้อมกับอธิฐานว่า ถ้าอนุญาตให้ตัดต้นไม้ขอให้ขวานติดอยู่ดังเดิม แต่ครั้นรุ่งเช้า ขวานก็จะกระเด็นไปตกที่อื่นอยู่เช่นนั้นเสมอ จนวันหนึ่งเจ้าอาวาสฝันว่าเจ้าของเจดีย์จะอนุญาตให้ตัดต้นไม้ก็ต่อเมื่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำยวมซึ่งอยู่ติดกับวิหารให้ก่อน เจ้าอาวาสจึงเรียกชาวบ้านมาช่วยกันสร้างสะพานและทำพิธีอีกครั้งหนึ่ง เมื่อทำพิธีเสร็จเจ้าของเจดีย์ก็มาเข้าฝันเจ้าอาวาสอีกว่า บัดนี้พวกผีสิงสถิตอยู่ในเจดีย์ได้ข้ามแม่น้ำยวมไปอยู่ดอยคูเวียงซึ่งเป็นวัดร้างอีกแห่งหนึ่งบนเขาแล้ว ชาวบ้านจึงได้ออกเงินกันทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ จากนั้น การตัดไม้ก็สำเร็จลงและเจดีย์องค์ใหญ่ก็ถูกสร้างขึ้นครอบเจดีย์องค์เก่าดังที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน และภายหลังได้มีการสร้างวิหารขึ้นอีก สำหรับเจดีย์และวิหารของวัดต่อแพซึ่งสร้างขึ้นใหม่นี้สร้างตามแบบศิลปะพม่าผสมกับไทใหญ่ โดยองค์เจดีย์มีฐานกว้างประมาณ 12 x 12 เมตร แต่ละทิศมีซุ้มพระประจำ และมีความสูงประมาณ 20 เมตร แต่ละทิศมีซุ้มพระประจำ และมีสิงห์ทั้ง 4 มุม อนึ่ง ฉัตรทองซึ่งมีระฆังห้อยหลายชั้นนั้นเมื่อลมพัดจะเกิดเสียงดังกังวานไปทั่ว อนึ่งวิหารของวัดมีหลังคาสูงคล้ายวิหารที่วัดลำปางหลวง จังหวัดลำปาง และมีเสากลม ตัวเพดานเขียนลวดลายอย่างสวยงาม ทางเข้าวิหารอยู่ทางทิศใต้ นับว่าสิ่งก่อสร้างทั้ง 2 ซึ่งได้แก่ วิหารและเจดีย์ของวัดต่อแพ ต่างก็เป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านต่อแพ ตลอดจนชาวอำเภอขุนยวมโดยทั่วกัน สำหรับความงดงาม อาจกล่าวได้ว่า วิหารของวัดเป็นวิหารที่สวยงามที่สุดในจังหวัดแม่ฮ่องสอนก็ว่าได้
การแปล กรุณารอสักครู่..