ในตารางที่ 5.1 (4) เป็นการใช้ความเป็นเส้นตรงกำหนดขนาดความเผื่อของเส้นตรงใดๆที่ลากในระนาบที่ ขนานกับระนาบภาพของรูปที่มีการให้ขนาดความเผื่อสำหรับ(5)เราใช้กำหนดความเป็นเส้นตรงเส้นที่ใช้ใน การหมุนรอบแกนของเพลาเพื่อสร้างพื้นผิวของทรงกระบอก(6)กำหนดแกนของทรงกระบอกในกรณีนี้เรา ต้องการให้แกนเพลานั้นอยู่ในทรงกระบอกที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางเท่ากบัค่าเผื่อที่กำหนด
ความตั้งฉาก(perpendicularity)
ความตั้งฉากสามารถใช้ในการกำหนด
1. ความตั้งฉากของเส้นกับเส้นอ้างอิง
2. ความตั้งฉากของแกนเทียบกับระนาบอ้างอิง
3. ความตั้งฉากของระนาบพื้นผิวเทียบกับแกนอ้างอิง
4. ความตั้งฉากของระนาบพื้นผิวเทียบกับระนาบอ้างอิง
ในตารางที่ 5.2 (7) ค่าเผื่อของแกนรูเกลียวจะต้องอยู่ระหว่างระนาบสองระนาบที่ตั้งฉากกับรูอ้างอิงและห่าง กันเท่ากับค่าเผื่อในกรณีที่สองเราใช้ค่าเผื่อในการกำหนดให้แกนเพลาอยูในระนาบที่ตั้งฉากกบัระนาบอ้างอิง โดยในที่นี้เราใช้ระนาบสองชุดเพราะเรากำหนดค่าเผื่อสองชุด5.2(8)ในตารางที่ 5.2 (9) กำหนดคลายๆกัน กับใน(8)แต่สังเกตว่ามีสัญลักษณ์เส้นผ่านศูนย์กลางด้วยในกรณีนี้เราต้องการให้แกนเพลาอยู่ภายในรูปทรง กระบอกที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางเท่ากับค่าความเผื่อที่ให้ไว้
ตำแหน่ง(position)
สำหรับการกำหนดค่าเผื่อของตำแหน่งเรามีสองแบบคือสำหรับแกนของรูเพลาและพื้นผิวในตารางที่ 5.3 (12) และ (13) จะเห็นว่า ค่าตำแหน่งของรูเพลานั้นกำหนดไว้ในกรอบ โดยค่าตำแหน่งน้ีสามารถผิดพลาดได้ตาม กำหนดไว้ในค่าเผื่อคือเป็นวงกลมเส้นผ่านศูนย์กลาง0.05mmรอบตำแหน่งกำหนดโดยจะเหน็ว่าการกำหนด แบบนี้จะได้ตำแหน่งจริงที่ผิดพลาดไปจากตำแหน่งที่ต้องการไม่เกิน0.05/2mmในทุกทศิทางแบบนี้เราเรียก ว่าแบบtruepositionคือค่าความผิดพลาดนั้นวัดจากตำแหน่งจรงิในทุกทิศทางพิจารณาเทียบกับในรูปที่ 5.8 สำหรับค่าความเผื่ออีกแบบในอีกแบบนี้เราจะเห็นว่าค่าตำแหน่งที่ยอมรับได้นั้นเราพิจารณาทีละแนวทำให้เกิด พื้นที่ของตำแหน่งที่ยอมรับได้เป็นสี่เหลี่ยมเทียบกับพื้นที่แบบวงกลมสำหรับการให้ความเผื่อแบบtrueposition เราสามารถให้ค่าเผื่อสำหรับพื้นผิวได้ดังแสดงในตารางท่ี 5.3 ซึ่งเป็นแบบ true position เช่นกัน น้ันคือค่า ความผิดพลาดนั้นให้วัดจากตำแหน่งที่ต้องการไม่เกินครึ่งหนึ่งของค่าความเผื่อ