การร้องเพลงคริสต์มาสเพลงคริสต์มาส เ

การร้องเพลงคริสต์มาส
เพลงคริสต์มาส เริ่มมีขึ้นในศตวรรษที่ 5 ซึ่งในสมัยนั้น มีทั้งพระสงฆ์และฆราวาสเป็นผู้แต่ง ร้องเป็นภาษาลาติน ลักษณะของเพลงเป็นแบบสง่า เน้นถึงความหมายของการเสด็จมา ของพระเยซูเจ้า แต่ในศตวรรษที่ 12 ได้มีวิวัฒนาการใหม่ในด้านเพลงนี้ เริ่มในประเทศอิตาลี โดยนักบุญฟรังซิส อัสซีซี และนักบวชคณะฟรังซิสกัน เป็นผู้มีส่วนในการสนับสนุน ให้มีเพลงคริสต์มาสแบบใหม่ ซึ่งชาวบ้านชอบ คือมีท่วงทำนองที่ร่าเริงกว่า และเน้นถึงความชื่นชมยินดี ในโอกาสคริสต์มาสนี้ เพลงเหล่านี้เป็นภาษาลาติน และภาษาพื้นเมือง เพลงหนึ่งที่แต่งในสมัยนั้น (แต่งคำร้องในปี ค.ศ.1274) และยังใช้อยู่จนถึงปัจจุบัน คือ
เพลง Oh Come, All Ye Faithful หรือ Adeste Fideles
ในภาษาลาติน เพลงคริสต์มาส ที่เรานิยมร้องมากที่สุดในปัจจุบันได้แต่งขึ้นในศตวรรษที่ 19 จากประเทศเยอรมัน และประเทศอังกฤษเป็นส่วนใหญ่ เพลงที่มีชื่อเสียงมากได้แก่

เพลง Silent Night, Holy Night
ความเป็นมาของเพลงนี้คือ วันก่อนวันฉลองคริสต์มาส ของปี ค.ศ.1818 คุณพ่อโจเซฟ โมห์ เจ้าอาวาสวัดที่โอเบิร์นดอฟ ประเทศออสเตรีย ได้ข่าวว่าออร์แกนในวันเสีย ทำให้วงขับร้อง ไม่สามารถร้องเพลงตามที่ซ้อมไว้ได้ คุณพ่อเองตั้งใจ จะแต่งเพลงคริสต์มาสใหม่ หลังจากแต่งเสร็จ ก็เอาไปให้เพื่อนคนหนึ่งชื่อ ฟรานซ์ กรูเบอร์ ที่อยู่หมู่บ้านใกล้เคียงใส่ทำนอง ในคืนวันที่ 24 นั้นเอง สัตบุรุษวัดนี้ ก็ได้ฟังเพลง Silent Night เป็นครั้งแรก โดยการเล่นกีตาร์ประกอบการขับร้อง ซึ่งกลายเป็นเพลงที่นิยมมากที่สุดทั่วโลก
ในสมัยโบราณ “ต้นคริสต์มาส” หมายถึง ต้นไม้ในสวนสวรรค์ ซึ่งอาดัมและเอวาไปหยิบผลไม้มากิน และทำบาป ไม่เชื่อฟังพระเจ้า (ปฐก.3 :1-6) ตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ชาวคริสต์แสดงละครที่หน้าวัด ถึงความหมายของคริสต์มาส และเอาต้นไม้ต้นหนึ่งไว้ตรงกลาง เพื่อประดับฉาก แสดงถึงบาปกำเนิดของอาดัมและเอวา ต้นไม้ที่ใช้เป็นต้นสน เนื่องจากเป็นต้นไม้ ที่หาง่ายที่สุดในประเทศเหล่านั้น การแสดงละครคริสต์มาสแบบนี้ มีมาเป็นเวลาช้านานหลายร้อยปี จนถึงศตวรรษที่ 15 พระสังฆราชหลายแห่งได้ห้ามแสดง เนื่องจากการแสดงนั้น กลายเป็นการเล่นเหมือนลิเก ล้อชาวบ้าน ผู้ปกครองบ้านเมือง และศาสนา ซึ่งไม่ตรงกับบรรยากาศของการฉลอง ชาวบ้านรู้สึกเสียดาย ที่ไม่มีโอกาสดูละครสนุกๆ แบบนั้นอีก จึงไปสนุกกันที่บ้านของตน โดยเอาต้นไม้มาไว้ที่บ้าน หลังจากนั้น ก็เริ่มมีการแขวนลูกแอปเปิ้ล ขนมและของขวัญอย่างที่เห็นอยู่ทุกวันนี้
นอกจากนั้น ชาวเยอรมันยังมีประเพณีอีกอย่างหนึ่งคือ มีการจุดเทียนหลายเล่มเป็นรูปปิรามิด ไว้ตลอดคืนคริสต์มาส โดยมีดาวของดาวิดที่ยอดปิรามิด ซึ่งประเพณีที่จะแขวนของขวัญและขนม ก็ได้รวมกับประเพณีของชาวเยอรมันนี้ มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 โดยเอาเทียนมาไว้ที่ต้นไม้เป็นรูปทรงปิรามิด นี่เป็นที่มาของประเพณีปัจจุบัน ที่มีการแขวนของขวัญ และไฟกระพริบไว้ที่ต้นคริสต์มาส และมีดาวของดาวิดไว้ที่สุดยอด ประเพณีนี้ เป็นที่นิยมชมชอบของชาวตะวันตกอยู่มาก
แม้ว่าประเพณีการตั้งต้นคริสต์มาส มีความเป็นมาดังกล่าว ชาวคริสต์ในสมัยนี้ ก็ยังนิยมทำกันอยู่ เพราะเห็นว่า มีความหมายถึงพระเยซูเจ้า ผู้เปรียบเสมือนต้นไม้แห่งชีวิตที่เขียวสดเสมอในทุกฤดูกาล ซึ่งหมายถึง นิรันดรภาพของพระเยซูเจ้า และนอกจากนั้นยังหมายถึง ความสว่างของพระองค์ เสมือนแสงเทียนที่ส่องในความมืด ทั้งยังหมายถึง ความชื่นชมยินดี และความสามัคคี ที่พระเยซูเจ้าประทานให้ เพราะต้นไม้นั้น เป็นจุดรวมของครอบครัวในเทศกาลนั้น

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

The singing Christmas treeChristmas songs. Starting in the 19th century which are both five priests and a layperson is the author. Sing the Latin language. The style of music is a graceful accent to the coming of the Lord Jesus, but in the 20th century, there has been an evolution in the 12th this song. Starting in the country in Italy by Saint frang Xin's. Assisi and the priest Faculty of silicon, as contribution sakan frang in support, there is a new Christmas songs that people like the merry melodies, and they have emphasized to joy. On the occasion of Christmas, this music, these are the Latin language and dialect songs only one marriage (marriage request in 1274) and used until now is.Oh Come, All Ye Faithful music or Adeste Fideles.In the Latin language, music, Xmas We appreciated the most in the current request has been dressed up in the 19th century from Germany and the uk, as the majority of the most famous songs are:Silent Night, Holy Night songThe history of this music is the celebration of Christmas Eve 1951 818. Father Joseph boendof temple at Mohs country Austria Have news that makes the band organ for damage. sing? Unable to sing as a practice. His own plan to a new Christmas song After finishing, decoration, one friend to France the number is likewise in a nearby village, entered the day 24 satburut measured these Silent Night music for the first time by playing a guitar, sing a song, which became a practitioner of the most popular around the world.ในสมัยโบราณ “ต้นคริสต์มาส” หมายถึง ต้นไม้ในสวนสวรรค์ ซึ่งอาดัมและเอวาไปหยิบผลไม้มากิน และทำบาป ไม่เชื่อฟังพระเจ้า (ปฐก.3 :1-6) ตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ชาวคริสต์แสดงละครที่หน้าวัด ถึงความหมายของคริสต์มาส และเอาต้นไม้ต้นหนึ่งไว้ตรงกลาง เพื่อประดับฉาก แสดงถึงบาปกำเนิดของอาดัมและเอวา ต้นไม้ที่ใช้เป็นต้นสน เนื่องจากเป็นต้นไม้ ที่หาง่ายที่สุดในประเทศเหล่านั้น การแสดงละครคริสต์มาสแบบนี้ มีมาเป็นเวลาช้านานหลายร้อยปี จนถึงศตวรรษที่ 15 พระสังฆราชหลายแห่งได้ห้ามแสดง เนื่องจากการแสดงนั้น กลายเป็นการเล่นเหมือนลิเก ล้อชาวบ้าน ผู้ปกครองบ้านเมือง และศาสนา ซึ่งไม่ตรงกับบรรยากาศของการฉลอง ชาวบ้านรู้สึกเสียดาย ที่ไม่มีโอกาสดูละครสนุกๆ แบบนั้นอีก จึงไปสนุกกันที่บ้านของตน โดยเอาต้นไม้มาไว้ที่บ้าน หลังจากนั้น ก็เริ่มมีการแขวนลูกแอปเปิ้ล ขนมและของขวัญอย่างที่เห็นอยู่ทุกวันนี้In addition, the Germans also have another tradition is to have multiple candles as a pyramid with the all night Xmas star of David at the pyramid, where popular tradition to hang a gift and it is combined with the tradition of the German since the 16th century, by removing the wax into the tree as a pyramid shape. This is the source of the current tradition of hanging a gift and a Christmas tree and lights flashing with a star of David at the top. This tradition is popular of the Westerner.Even though the tradition of the Christmas tree area There is such a. Christians in this era were also popular. because there the Lord Jesus. Who discovered the green tree of life always fresh in every season, which means the eternal image of the Lord Jesus, and it also refers to the brightness of thy light candles shine in virtual darkness also means joy and unity the Lord Jesus evangelism, because the tree as a family Festival.

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

Singing Christmas
carols Started in the 5th century, which in those days. Both clergy and laity is the author. Sung in Latin An elegant lyricism Focus on the meaning of the coming. Jesus' But in the 12th century was a new evolution in music. Started in Italy By St. Francis of Assisi and the Franciscan priest together. As part of the support. A new Christmas song The locals love Is there more cheerful melodies And emphasize the joy On the occasion of this Christmas These songs are in Latin. And native language One of the songs composed in those days. (Author petition in April 1274) and is also used to present the
song Oh Come, All Ye Faithful Adeste Fideles or
in Latin. Christmas music Today's most popular singers we have dressed up in 19th century Germany. And England are the most Many famous songs, including the song Silent Night, Holy Night of the song is. The day before Christmas of 1818, Father Joseph Mohs Byrne's abbot at Rudolf. Austria Organ heard that in the old days. The band, chorus The practice can not sing them. Father himself accidentally A new Christmas song After you finish I brought it to a friend named Franz Gruber, the village put something on the night of 24 faithful that this measure was listening Silent Night was first sung by guitarist operators. The song became the most popular around the world in ancient times. "Christmas tree" refers to a tree in the garden. The Adam and Eve to pick fruit to eat and sin to disobey God (Genesis. 3: 1-6) since the 11th century Christians theater page to measure. The meaning of Christmas And remove trees in the middle. To decorate the scene Show the original sin of Adam and Eve. So the pine trees Because the trees Easiest to find in those countries. Staging this Christmas Has been a long hundred years. Until the 15th century, many of the patriarch was not shown. Because the show Become a player like silicate wheel villagers parents and religious, which does not match the atmosphere of celebration. People deplored No more play opportunities for fun and that is to enjoy it at home. The tree took it home and then start the ball hanging apples. Sweets and gifts, as seen in today moreover. German is also another tradition. There are many books candles pyramid. All night Christmas The Star of David at the top of the pyramid. This tradition will hang gifts and sweets. Time as the tradition of the Germans. Since the 16th century by some candles on a tree-shaped pyramids. This is the origin of the tradition today. Hanging with gifts And flashing lights on the Christmas tree. The Star of David is a great tradition that is very popular with Westerners , even starting Christmas traditions. There is such Christians today Popular also do well because that is meaningful to you, Jesus. Who is like the tree of life is always green in every season, which means eternal image of Jesus. And also means His brightness Virtual candles shining in the darkness. Also means Eulogy And harmony Jesus gave Because the trees The focus of the festival is family.

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

Singing Christmas
.Christmas music. Begins in the 5, which in those days. Both monks and secular is the author's style of music is a Latin pride. Focusing on the meaning of the coming of Christ, but in the 12.Began in Italy by นักบุญฟรังซิส Assisi and priests of Franciscans, all in support. A new Christmas songs, which were like the cheerful melody. And highlights the joy.These songs are in Latin, and native language, one song written in those days (composed lyrics in C.Professor 1274) and are still used today is Oh Come All
song, Ye Faithful or Adeste Fideles
.In Latin, Christmas music. We most popular singer is currently made up in the 19 from Germany. And England. Most famous song

Silent include music, Night Holy Night
.