Mr. Likuanyu "Lee Guan Yu" (Lee Kuan Yew) is recorded in the page history if he is to catch hold of the power management of Singapore, Mr. long to 31 years, Singapore people never forget that former leaders of this country are its founding, groundbreaking Singapore. Developing countries that leaps most richest one in the world in the era of Lee Guan Yu, Executive Director. Countries under the Prime Minister's position, although it has never been someone branded him a dictator who is actually in the democracy. Lee Guan Yu Chinese Hakka natives that Hakka ancestors migrated from Fujian province in mainland China. He was born in Singapore on September 16 in the era of 2466 (1923) Singapore as one of England's colonies and countries participated in the study, "Raffles College" which is the most famous College in "brilliant" Malaya Singapore's place restaurant. He has been cultivated and are based on the concepts of day boys or more kata kotma. Designed for college students to make Lee Guan Yu as a "model to its Gu Abdul Maan", which had been the country's Prime Minister bruised Malaysia project in the previous era "Dr. Mohan Mahathe Allee punch" is determined by power long in Malaysia. แต่แล้วชีวิตการศึกษาของลีกวนยูในวัย 19 ปีก็หยุดชะงักลงด้วยพิษสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อ ญี่ปุ่นประกาศสงครามกับอังกฤษและเข้ารุกรานเพื่อยึดครองสิงคโปร์ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศอาณานิคมของอังกฤษเวลานั้น การที่ได้เห็นกองทัพญี่ปุ่นแข็งแกร่งและมีชัยชนะเหนืออังกฤษทำให้ลีกวนยู จุดประกายความคิดขึ้นว่า แท้จริงแล้วคนเอเชียก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าฝรั่งผิวขาวตาน้ำข้าวจาก ซีกโลกตะวันตกเลย เขาเปลี่ยนทัศนคติจากเดิมจากที่เคยคิดว่าคนเอเชียด้วยกว่าจนถูกล่าอาณานิคม เป็นว่าเล่น เหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นอีกหนึ่งในจังหวะชีวิตของลีกวนยูเพราะเขาเริ่มหันมาสนใจงานด้าน การเมืองและเริ่มมีแนวคิดที่จะต่อสู้เพื่ออิสรภาพ จนเมื่อสงครามจบลงลีกวนยูจึงได้เดินทางไปศึกษา ด้านกฏหมายที่ “มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์” ในประเทศอังกฤษ และได้พบกับ “กว่าก๊อกชู” ซึ่งเดินทาง มาเรียนกฎหมายที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้เช่นกันก่อนจะแต่งงานกันในเวลาต่อมา Thinking about the fight for freedom of Lee Guan Yu to be pent-up "Malayan people" began to disclose most dissatisfied in country of British colonies. He decided to participate in the Forum to have a role in Malayans to retaliate against England make it to freedom from colonial times. ลีกวนยูกลับมายังสิงคโปร์ในปี พ.ศ. 2493 และตัดสินใจตั้ง “พรรคกิจประชาชน” ในปี พ.ศ. 2497 โดยชนะการเลือกตั้งครั้งแรกในปี พ.ศ. 2498 ก่อนที่จะได้รับเลือกตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีของ สิงคโปร์ในปี พ.ศ. 2502 ขณะนั้นเขามีอายุเพียง 36 ปีเท่านั้น หลังจากมาเลเซียได้อิสรภาพจากการเป็น อาณานิคมของอังกฤษในปี พ.ศ. 2504 ลีกวนยูจึงหันมาเจรจากับเพื่อนเก่าในวัยเรียนอย่าง ตนกู อับตุล รามาน เพื่อต้องการอิสรภาพนี้เช่นเดียวกัน โดยมีแนวความคิดร่วมกันว่าจะรวมสิงคโปร์เข้ากับมาเลเซีย ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพราะเล็งเห็นว่าสิงคโปร์นั้นไม่มีทรัพยากรธรรมชาติที่จะเกื้อหนุนให้เกิด การพัฒนาตนเองไปสู่การเป็นประเทศที่พร้อมสมบูรณ์ในทุก ๆ ด้านได้ แนวความคิดนี้สำเร็จในปี พ.ศ. 2505 แต่แล้ว 2 ปีให้หลังก็ถูกต่อต้านจากชาวมาเลเซียที่ไม่ต้องการให้ชาวสิงคโปร์ซึ่งมีวัฒนธรรมที่ แตกต่างจากมาเลเซียนั้นเข้ามาอยู่ร่วมกับพวกตน ในขณะที่ชาวสิงคโปร์ก็ไม่ได้ชอบใจนักกับ การถูกเหยียดชนชั้นจึงกลายเป็นการจลาจลครั้งใหญ่ ในที่สุดลีกวนยูก็ตัดสินใจนำสิงคโปร์แยก ออกจากมาเลเซีย และตัดสินใจประกาศอิสรภาพไม่ตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษอีกต่อไปตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2508 เป็นต้นมาแม้ในช่วงแรกของการบริหารประเทศภายใต้พรรคกิจประชาชนจะไม่ราบรื่นนักและมีแนวโน้มจะถูกพรรคฝ่ายตรงข้ามโค่นล้มอำนาจ แต่ลีกวนยูก็ยังสามารถพัฒนาและนำพาสิงคโปร์ให้ไต่อันดับ ความน่าเชื่อถือในทุก ๆ ด้านบนเวทีโลกได้สำเร็จ โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจเขาสร้างความมั่งคั่งให้ ชาติและสร้างชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับประชากรชาวสิงคโปร์จนในที่สุดสิงคโปร์ก็ได้เทียบชั้น แตะระดับการเป็นหนึ่งในประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลกได้สำเร็จผลงานทั้งหลายรวมถึงนโยบายการบริหารประเทศของลีกวนยูทำให้เขาได้รับความเชื่อมั่นจากประชาชนให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรียาวนายสืบมา แม้จะมีบางเสียงกล่าวว่าการบริหารของเขา คล้ายระบอบเผด็ดการที่รัฐบาลมักจัดสรรทุกสิ่งทุกอย่างแบบเบ็ดเสร็จ อีกทั้งยังออกกฎหมายที่ เข้มงวดในการปกครองและดูแลประชาชนจนเป็นที่โจษจันไปทั่วโลกถึงความเด็ดขาดของกฎหมายในสิงคโปร์ ตั้งแต่เรื่องที่ดูเหมือนเล็กน้อยอย่างการมักง่ายทิ้งขยะเลอะเทอะก็จะถูกรัฐปรับเป็นจำนวนเงิน ที่สูงมาก ไปจนถึงเรื่องใหญ่อย่างการข้องเกี่ยวกับยาเสพติดที่ระบุโทษแขวนคอโดยไม่ต้องอุทรใด ๆ ทั้งสิ้น เช่นเดียวกับบทลงโทษของผู้ที่คดโกงและคอรัปชั่นเงินแผ่นดินก็จะถูกลากไปแขวนคอเช่นกัน ทุกวันนี้สิงคโปร์ประสบความสำเร็จในการเป็นประเทศเล็ก ๆ ที่สร้างความน่าเชื่อถือให้กับ นานาชาติ กลายเป็นศูนย์กลางธุรกิจ ศูนย์กลางการเงินการธนาคารโลก เมืองท่าและศูนย์การพาณิชย์ ตลาดหุ้น ศูนย์การแห่งการท่องเที่ยวที่ทันสมัยในภาคพื้นเอเชีย ทั้ง ๆ ที่สิงคโปร์ไม่มีทรัพยากร ธรรมชาติใด ๆ ในกำมือเลยจึงถือได้ว่าลีกวนยูมีความเฉียบคมในการบริหารประเทศเขาวางกลยุทธ์การศึกษาให้กับเยาวชน โดยเฉพาะที่เห็นชัดเจนคือด้านภาษา ที่ส่งเสริมทั้งภาษาจีนกลาง ภาษาอังกฤษ และภาษาอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีความเกี่ยวข้องกับสิงคโปร์ในแง่การค้าการลงทุน ที่สำคัญคือเทคโนโลยีล้ำยุคจาก ฟากฝั่งยุโรปและอเมริกาก็ได้รับการเผยแพร่ในสิงคโปร์ จนประชากรมีความเข้าใจและใช้เทคโนโลยีกัน อย่างคุ้นเคย รวมทั้งยังไม่ลืมส่งเสริมความรู้ด้านวัฒนธรรมของรากเหง้าแห่งชนชาติบรรพบุรุษ ทั้งหมดนี้ทำให้สิงคโปร์ที่เดิมเคยเป็นประเทศที่ไม่มีอะไรเลย กลายเป็นมาเป็นหนึ่งในประเทศแถวหน้า ของโลก และแข็งแกร่งเป็นหนึ่งในประเทศกลุ่มเอเชียที่ได้รับการยอมรับของชาวโลกมาจนถึงทุกวันนี้
การแปล กรุณารอสักครู่..
