เปาบุ้นจิ้น ตอน ราชบุตรเขยจอมโหดจากคดีในตอนนี้สะท้อนให้เห็นถึงสังคมในสมัยนั้นในหลายๆด้านความศักดิ์สิทธิ์ของกฏหมาย-ในสมัยนั้นกฏหมายต่างๆเป็นสิ่งที่อยู่ในอำนาจของขุนนางผู้ตัดสินในศาลโดยฮ่องเต้เป็นผู้มอบอำนาจไว้และมีอำนาจเด็ดขาดที่ไม่มีใครสามารถโต้แย้งได้แม้เป็นเชื้อพระวงศ์คือ กระบี่อาญาสิทธิ์ ที่เป็นเสมือนนตัวแทนของพระมหากษัตริย์ได้พระราชทานไว้สามารถประหารผู้ใดก็ได้โดยไม่ต้องรับพระราชานุญาติก่อนแล้วค่อยทำรายงานกราบบังคมทูลที่หลังเป็นที่มาของ “ฆ่าก่อน รายงานที่หลัง 先斬後奏 xiānzhǎnhòuzòu”จากตอนที่เปาบุ้นจิ้นตัดสินใจที่จะประหารราชบุตรเขยและระหว่างขั้นตอนการประหาร ไทเฮาและองค์หญิงได้เข้ามาร้องขอชีวิตราชบุตรเขยและขอให้อภัยโทษแต่เปาบุ้นจิ้นเห็นว่าความยุติธรรมไม่แบ่งแยกชนชั้นและเพื่อความศักดิ์สิทธิ์ของกฏหมายจึงต้องลงโทษตามความผิดจึงได้อัญเชิญกระบี่อาญาสิทธิ์มาเพื่อไม่ให้ผู้ได้แย้งในคำตัดสินได้อีกมีกฏของเปาบุ้นจิ้นได้ประกาศไว้ว่าผู้ใดมาร้องทุกข์ในคดีเดิมเป็นครั้งที่สองจะต้องถูกลงโทษก่อนที่จะรับพิจรณาคดีเพราะถือว่ามีเจตนาลบลู่ศาลไม่เคารพการตัดสินจากตอนที่ฉินเซียงเหลียง(Qin xiangliang)ยอมรับคำตัดสินแรกและตัดสินใจเดินทางกลับบ้านเกิดแต่เฉินซ่อเหม่ย(Chen simei)ได้ส่งคนไปรอบฆ่าไม่สำเร็จ ฉินเซียงเหลียงจึงหนีมาฟ้องศาลอีกครั้งแต่องค์รักษ์จั่นเจาได้ห้ามไว้เพราะรู้ว่าถ้าตีกลองอีกครั้งจะโดนลงโทษก่อนเปาบุ้นจิ้นเคยทูลฮ่องเต้ไว้ว่า เบื้องบนรู้กฎยังทำผิด เบื้องล่างฝ่าฝืนไร้ความเคารพ ในตอนที่องค์หญิงได้เข้าเฝ้าให้อภัยโทษเฉินซื่อเหม่ยและเกลี้ยกล่อมให้เปาบุ้นจิ้นอ่อนข้อให้แต่เปาบุ้นจิ้นบอกว่าเบื้องบนควรจะเป็นแบบอย่างให้ประชาชนละเว้นกฏหมายไม่ได้ Gratitude-Gratitude in the past is more important than the work. Silver, gold and is something that everyone is praising a virtue that featured several times in modern history. The next debt. who will replace you with every possible way. Major historical events, often starting with gratitude Gift shop.เหตุการณ์ที่แสดงถึงความกตัญญูที่โดดเด่นในตอนนี้คือ ฉินเซียงเหลียง เลี้ยงดูพ่อแม่สามีในขณะที่สามีอ่านหนังสือและทำงานแทนทุกอย่างแม้สามีจะเดินทางไปสอบและเป็นใหญ่ที่นอกเมืองเป็นเวลานาน แต่ฉินเซียงเหลียงก็ปรนิบัติพ่อแม่อย่างดี ยอมอดข้าว ยอมเฉือนเนื้อตัวเองเพื่อให้แม่ยายได้กินซุปที่มีเนื้อ ดูแลจนกระทั่งพ่อแม่ตายไปเพราะความหิวเหตุการณ์ต่อมาแสดงถึงหนี้บุญคุณที่แลกกับความถูกต้อง คือ นักฆ่าของเฉินซื่อเหม่ยที่ได้รับคำสั่งให้ไปฆ่าฉินเซียงเหลียงที่กำลังกลับบ้าน ขณะที่กำลังจะลงมือฆ่าฉินเซียงเหลียงได้ร้องขอชีวิตและเล่าความชั่วของเฉินซื่อเหม่ยให้นักฆ่าฟัง นักฆ่าคนนี้เป็นผู้มีคุณธรรมสูงจึงไปฆ่าฉินเซียงเหลียงแต่ก็ไม่สามารถเอาผิดเจ้านายที่มีบุญคุณได้จึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย ในตอนนี้นักฆ่าต้องการตอบแทนบุญคุณแต่ไม่สามารถทำได้จึงยอมตายเหตุการณ์สำคัญที่แสดงถึงความสำคัญของความกตัญญูคือ ตอนที่ไทเฮาขัดขวางการประหารราชบุตรเขยของเปาบุ้นจิ้นอยู่ ไทเฮาหมดหนทางการขัดขวางจึงอ้างว่าเปาบุ้นจิ้นไม่สำนึกในบุญคุณของราชวงศ์ที่ได้มอบตำแหน่งให้ การที่ไทเฮาเอาบุญคุณมาอ้างนั้นแสดงว่าแม้ชนชั้นสูงก็เห็นว่าความกตัญญูหนี้บุญคุณเป็นสิ่งที่สำคัญต้องทดแทน
ตำแหน่ง หน้าที่ ฐานะ
-ตำแหน่งหน้าที่เป็นสิ่งที่สร้างความเเตกต่างของชนชั้นในสมัยก่อนมากและส่วนมากจะถือยศศักดิ์ของตัวเองเป็นใหญ่โดยไม่สนถึงคุณธรรมหรือกาลเทศเเก่กว่า เพราะถือว่าหน้าที่ยศของตนใหญ่กว่าแลกมาด้วยความลำบากหรือเป็นสิ่งที่เป็นหน้าเป็นตาของตัวเอง สมัยนั้นให้ความสำคัญกับการศึกษาเพื่อชิงกันเข้ามาเป็นใหญ่อย่างมากและมีการแก่งแย่งกันแม้ผู้คนที่อยู่ต่างแดน ต่างเมือง ชนบทที่กันดาร ก็เข้าร่วมและเห็นว่าการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ
จากเหตุการณ์นี้ เฉินซื่อเหม่ยได้ศึกษาเป็นเวลายาวนานเพื่อนสอบเข้ามาเป็นจอหงวนและเมื่อได้มาเป็นใหญ่เป็นราชบุตรเขยแล้วนั้นก็ลืมลูกเมียพ่อแม่ที่บ้านเกิดใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เมื่อภรรยามาตามหาก็ใช้อำนาจขับไล่ไปและเมื่อมีขุนนางผู้ใหญ่มาตักเตือนก็ไม่ฟังและยังต่อว่าไม่สนอายุ เมื่อถึงคราวผิดก็กลัวว่าตนจะเสียตำแหน่งไปจึงให้คนไปฆ่าผู้บริสุทธิ์ปิดปาก
ไทเฮาและองค์หญิงได้ใช้อำนาจที่ตนมีจัดการทุกๆอย่างเพราะเห็นว่าตนมาจากเชื้อพระวงศ์สามารถทำได้ทุกอย่าง หลายๆครั้งได้มีคำสั่งให้ละเว้นโทษเพื่อประโยชน์ของตนเอง
การฉ้อโกง อิทธิพล ความรุนแรง
-สมัยก่อนนนั้นอิทธิพลความรุนแรงการฉ้อโกงมีมากจนเป็นปกติเพราะมีการตรวจสอบได้ยากเนื่องจากแต่ล่ะคนก็หยิ่งในหน้าที่ยศศักดิ์ของตนเองทำงานเพื่อผลประโยชน์ส่วนตนและร่วมมือกันฉ้อโกงกันเป็นเครือข่าย เมื่อตนเองมีอิทธิพลอำนาจก็ใช้ไปในทางที่ผิดจนเป็นเรื่องปกติ
เห็นได้จากตอนที่เฉินซื่อเหม่ยได้สั่งนักฆ่าไปฆ่าฉินเซียงเหลียงปิดปาก ได้ใช้อำนาจเพื่อปกปิดความผิดของตัวเองและไม่มีใครการแย้งหรือฟ้องและได้ร่วมมือกับนายอำเภอท้องถิ่นที่จับฉินเซียงเหลียงได้ตัดสินโทษผิดๆเพื่อจะได้หน้าได้ตาจากราชบุตรเขยและยังส่งคนไปดักฆ่าพยานของฉินเซียงเหลียงอีกด้วย
มีวลีกล่าวไว้ว่า รอยยิ้มของเปา เจิ่ง นั้นหาดูยากยิ่งกว่าฮวงโหกลายเป็นสีใสสะอาด(his smile was rarer than clear waters in the Yellow River) เปรียบเทียบถึงความอยุติธรรมที่มีอยู่ในสังคมสมัยนั้นมีมากจนเปาบุ้นจิ้นไม่สามารถหยุดที่จะจัดการได้แสดงว่าสมัยนั้นการฉ้อโกงความรุนแรงต่างๆต้องมีมากจนเป็นเรื่องธรรมดาและถ้าหากไม่มีผู้ผดุงความยุติธรรมอย่างเปาบุ้นจิ้นก็คงไม่มีใครให้ประชาชนทั่วไปเป็นปากเป็นเสียงสู้กับอำนาจอิทธิพลต่งาๆได้
ความคิดเห็น
-เปาบุ้นจิ้นเป็นผู้ที่ไม่เกรงกลัวต่ออำนาจอิทธิพล ไม่กลัวตายและทำทุกวิถีทางเพื่อต่อสู้กับความอยุติธรรมดูได้จาก หลายๆครั้งที่เปาบุ้นจิ้นกล้าที่จะขัดคำสั่งของไทเฮาหรือฮ่องเต้ แต่ที่เปาบุ้นจิ้นสามารถทำได้นั้นก็เพราะมีพระราชาที่รักในความยุติธรรมและทำเพื่อประชาชนด้วยเพราะในสมัยก่อนก็มีขุนนางจำนวนมากที่ขัดแย้งกับฮ่องเต้และถูกประหารหรือลงโทษ เปาบุ้นจิ้นยังมีกำลังที่เก่งกาจทางด้านสติปัญญาและวรยุทธ์อย่าง อำมาตย
การแปล กรุณารอสักครู่..