นักเรียนห้องเรียน ป.วิสุทธิปัญญา
และพี่ๆน้องๆชาวจิตจักรวาลทั้งหลาย
เราขอกล่าวตามความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
แม้ท่านจะเวียนว่ายตายแล้วเกิดมีภพชาติใหม่
มากมายยาวนานสักปานใด
แม้ว่าท่านจะถือบวชมาเนิ่นนาน
ผ่านพรรษามาแล้วมากมายแค่ไหน
ท่านก็จะมิอาจนำพาแก่นแท้
คือจิตวิญญาณของท่านคืนกลับบ้าน
ยังแดนสุญญตาในสภาวะนิพพานหรือหลุดพ้นได้
ถ้าจิตหยาบคือตัวท่าน เป็นเหตุให้
จิตวิญญาณที่เร้นอยู่ข้างในเกิดอาการ "หลงมิติ"
จนสูญเสียความสมดุลไป
และเป็นเหตุให้คุณสมบัติเดิมแท้
ทางจิตวิญญาณนั้นต้องแปรเปลี่ยน
ท่านจักต้องระลึกเสมอว่า
จิตวิญญาณของท่านซึ่งเป็นรูปธรรมทางพลังงาน
เมื่อมาเกิดเป็นคน เพื่อ"คน"ตนเองให้เป็นมนุษย์แล้ว
ในยามจะกลับบ้านเพื่อการหลุดพ้นนั้น
จิตวิญญาณของท่านก็จักต้องดำรงคุณสมบัติเดิม
เหมือนภพชาติแรกที่ได้รับโอกาส
ให้มาเกิดเป็นมนุษย์ทั้งสิ้นทุกประการ
คุณสมบัติในข้อที่บกพร่องกัน 100%
จนยังผลให้พวกท่านทุกคนตกค้างอ้างแรม
อยู่กันอย่างแออัดยัดเยียดบนโลกในกาลสิ้นยุคนี้
ก็เพราะว่าจิตวิญญาณของพวกท่าน
เกิดอาการ "หลงมิติ"
เกิดการเสื่อมในคุณสมบัติเดิมแท้นั่นเอง
ตัวอย่างของ "การหลงมิติ" มีดังนี้......
1.ท่านหลงในมายาเพราะคิดว่าเป็นแก่นแท้
....การหลงใหลใน รูป รส กลิ่น เสียง
....การหลงใหลใน โชค ลาภ วาสนา เกียรติ ชื่อเสียง
ทั้งๆที่สิ่งที่หลงใหลได้ปลื้มเหล่านี้
ไม่มีอะไรเที่ยงแท้
ไม่มีอะไรแน่นอนสักอย่างเดียว
อันนำไปสู่ความอยาก ไม่อยาก
ไปจนถึงความโลภ เห็นแก่ตัว
ความอิจฉาริษยา เป็นต้น
2.ท่านเกิดการหลงใหลในอัตตาแล้วยึดติด
....การหลงตัวเอง อวดเบ่ง ขี้คุย ขี้โม้
....การมุ่งเอาแพ้เอาชนะผู้อื่น
....การเกะกะระรานผู้อื่น
....การมีมิจฉาทิฐิ ดื้อรั้น
....การมีแต่ความงมงายไม่ใช้สติปัญญา
3.ท่านเกิดการหลงลืมตนเองว่า
ตัวท่านนั้นมีจิตวิญญาณแก่นแท้อยู่ข้างใน
ท่านจึงบันทึกรหัสเอาไว้ในสัญญาของขันธ์ 5
จนตลอดอายุขัยเมื่อก่อนตายว่า
.....ท่านมีรูปร่างหน้าตาหล่อสวยแบบไหน
.....ท่านสวมอาภรณ์เครื่องแต่งกายแบบใด
.....ท่านมักดื่มกินในยามที่มิได้หิวกระหายเป็นประจำมั้ย
.....ท่านมีจริตแบบใด
.....ท่านมีโรคภัยประจำตัวอะไรบ้าง
.....ท่านมีความเชื่อในสิ่งใด อย่างไร เช่น
เชื่อในนรก สวรรค์มายา เชื่อว่าตายแล้วจบสิ้น เป็นต้น
นักเรียนที่รักทั้งหลาย
เราจึงขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
การหลงมิติของท่านใน 2 ข้อแรกนั้น
จะยังผลให้จิตวิญญาณของท่าน
ลดทอนพลังอำนาจลงไปมาก เพราะว่า
จิตวิญญาณจะสั่นสะเทือนอยู่แต่
ในย่านความถี่ต่ำหรือหยาบเท่านั้น
จนกลายเป็นคุณสมบัติใหม่ในทางเสื่อมในที่สุด
นี่ก็เป็นสาเหตุให้นิพพานไม่สำเร็จสาเหตุหนึ่งล่ะ
ส่วนการหลงมิติในข้อ 3 นั้นก็เช่นกัน
เพราะพวกท่านไม่รู้ว่าจิตวิญญาณของท่าน
โดยท่านเมอร์คขะบาห์
ซึ่งเป็นเครื่องมือของจิตวิญญาณ
เขาจะสั่นสะเทือนตนเองแล้วกำหนดสร้าง"มายา"
ตามที่จิตหยาบใส่รหัสให้ไว้เสมอ
ถ้าเชื่อว่าตนเองรูปลักษณ์หน้าตาเป็นเช่นไร
ทั้งๆที่ตายไปจนเหลือแต่รูปธรรมทางพลังงานแล้ว
เมอร์คขะบาห์ก็จะสร้างรูปแบบทางพลังงานของตน
ไปเป็นรูปธรรมที่มีตัวตนรูปลักษณ์ในแบบที่เชื่อทันที
เขาจะสามารถสร้างได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน
จนแม้เสื้อผ้าอาภรณ์สวมใส่เมื่อก่อนตาย
ก็สร้างมายานั้นขึ้นได้โดยไม่มีการผิดพลาด
ถ้าเชื่อว่าสวรรค์มายา
แห่งทวยเทพทั้งปวงหน้าตาเป็นยังไง
และท่านใฝ่ที่จะไปตรงนั้นจริงๆ
เมอร์คขะบาห์ก็จะสร้างมายาขึ้นมาให้
แล้วก็นำพาไปยัง ณ ที่ปรารถนานั้นในทันที
ถ้าหากมีพลังอำนาจมากพอ
ท่านทั้งหลาย....
เราได้กล่าวไปตามความจริงต่อท่านทั้งหลายแล้ว
หากจิตวิญญาณของท่านเกิดการหลงมิติ
ไปตาม 3 ข้อที่กล่าวไว้นี้อยู่แล้ว
จิตวิญญาณของท่านนั้นก็จะหลุดพ้นไม่ได้
เพราะไร้พลังอำนาจและขาดความใสบริสุทธิ์
แต่ถ้าจิตวิญญาณของท่าน
ไม่เกิดอาการหลงมิติใดๆ
ท่านก็ไม่ต้องบวชนาน
ไม่ต้องมาเกิดนาน
ท่านจะสามารถนิพพานหรือหลุดพ้นได้เสมอ
เอเมน....สาธุ....
ป.วิสุทธิปัญญา
31-10-2014