1. สบู่กวนเย็น จะใช้น้ำมันหรือไขมัน

1. สบู่กวนเย็น จะใช้น้ำมันหรือไขมันผสมกับน้ำด่าง(โซดาไฟ) กวนให้ข้น เทลงพิมพ์ แล้วทิ้งไว้ 24-48 ชั่วโมง (หรือมากกว่านั้นหากเป็นสบู่สูตรที่ค่อนข้างนิ่ม) แล้วจึงเอาออกจากพิมพ์มาตัดเป็นก้อนเล็กๆ แล้วนำมาตากในที่อากาศถ่ายเท 4-6 สัปดาห์ จึงค่อยนำมาใช้ ซึ่งสบู่ประเภทนี้จะลงทุนค่อนข้างสูงกว่าสบู่ประเภทอื่น เนื่องจากต้องใช้เวลาในการบ่มสบู่ให้ได้ที่ มีความอันตรายในการใช้โซดาไฟ และมีรายละเอียดในการทำค่อนข้างมาก

๐ CPOP (Cold Process Oven Process) ซีพ็อพ หรือคนไทยบางคนก็เรียกว่า ซีพี-อบ ก็คือการทำสบู่ CP เมื่อเทสบู่ลงแม่พิมพ์แล้ว ก็นำไปเข้าเตาอบ เพื่อเป็นการบังคับให้สบู่เจล และบางกรณีก็เป็นการเร่งปฏิกิริยาเพื่อให้ใช้สบู่ได้เร็วขึ้น(ภายใต้เงื่อนไขอื่นๆ ด้วย)

2. สบู่กวนร้อน วิธีจะคล้ายสบู่กวนเย็น แต่จะใช้ความร้อนในการเร่งปฏิกิริยาของสบู่ คือการตุ๋นในหม้อสองชั้น (Double Boiler) หรือหม้อตุ๋น (Slow Cooker) จึงทำให้สามารถใช้สบู่ได้เร็วขึ้นกว่าสบู่กวนเย็น แต่ข้อเสียก็คือเล่นลวดลายได้น้อย และสบู่จะละลายง่ายกว่าสบู่กวนเย็น

3. สบู่หลอมเท จะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด และมีความอันตรายน้อยที่สุด เนื่องจากผู้ทำไม่ต้องยุ่งกับโซดาไฟ การทำสบู่ประเภทนี้ ก็แค่นำเบสสบู่มาละลาย ใส่สารสกัด ใส่สมุนไพร ใส่สี ใส่กลิ่น เทลงพิมพ์ รอให้แข็งตัว แกะออกจากพิมพ์ แล้วก็ห่อด้วยพลาสติกใสเพื่อป้องกันไอน้ำเกาะ

(เบสสบู่ ก็คือสบู่กวนร้อน ที่มีกระบวนการผลิตมากกว่า มีการใส่สารประกอบอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อให้สบู่สามารถหลอมเหลว และกลับมาแข็งเป็นก้อนได้ใหม่ ซึ่งจริงๆ แล้วตัวเบสสบู่ก็สามารถนำมาใช้งานได้เลย โดยไม่ต้องนำมาหลอมใหม่ก็ได้)


แล้วสบู่แฮนเมดต่างจากสบู่อุตสาหกรรมอย่างไร?

สบู่อุตสาหกรรม หรือที่เรียกว่าสบู่โรงงานนั้น จะทำสบู่โดยใช้ความร้อน(HP) เมื่อต้มสบู่กับน้ำด่างจนทำปฏิกิริยาสมบูรณ์แล้ว ก็จะนำไปล้างกับน้ำเกลือ จากนั้นจะพักไว้ให้ไขมันแยกชั้น (และมีการสกัดเอากลีเซอรีนออกไปใช้ในอุตสาหกรรมอื่นด้วย-เรียกได้ว่าสบู่ที่ได้จะเหลือแต่เนื้อสบู่ที่มีแต่ค่าการชำระล้าง) จากนั้นก็จะนำสบู่ที่ได้ไปเป่าให้แห้ง บดย่อยให้เป็นเม็ดสบู่ จึงเติมสีและน้ำหอม(เป็นข้อดีที่ว่าสบู่โรงงานจะมีกลิ่นหอมน่าใช้มากกว่า) นำไปอัดเป็นแท่ง แล้วจึงนำไปปั๊มขึ้นรูปเป็นก้อนสบู่แบบที่เราใช้กัน นอกจากนี้ สบู่โรงงานมักจะทำจากน้ำมันปาล์มและน้ำมันมะพร้าวเพื่อลดต้นทุน

ส่วนสบู่แฮนเมด ผู้ทำสามารถเลือกใช้น้ำมันที่มีค่าการบำรุงสูงๆ ได้ ต้นทุนจึงสูงกว่า ส่วนขั้นตอนการทำก็จะนำน้ำมันและน้ำด่างมาผสมและกวนให้เข้ากัน จากนั้นจึงเทลงแม่พิมพ์ ทิ้งไว้จนเซ็ตตัว นำมาตัดเป็นก้อนๆ หลังจากนั้น นำสบู่มาบ่ม(ตาก)ต่อประมาณ 4-8 สัปดาห์ จึงทำให้สบู่ที่ได้มีค่าการบำรุงสูง ทั้งจากน้ำมันและกลีเซอรีนธรรมชาติ ข้อเสียของสบู่แฮนเมดคือ ราคาแพงกว่า และด้วยความที่สบู่มีความชุ่มชื้นสูง ดังนั้นสบู่แฮนเมดจะละลายน้ำได้ดีและเปื่อยยุ่ยได้ง่ายกว่าสบู่โรงงานมาก (จึงควรวางสบู่แฮนเมดไว้ในที่ไม่มีน้ำขัง) นอกจากนี้ อาจพบว่ากลิ่นของสบู่ไม่ค่อยหอม บางครั้งอาจจะเป็นกลิ่นน้ำมันตุ่ยๆ ก็เนื่องจากกระบวนการบ่มสบู่อาจทำให้น้ำหอมเจือจางลงด้วย

อย่างไรก็ดี สบู่แฮนเมดให้คุณค่าการบำรุงผิว(Conditioning) แต่สบู่ไม่ได้ให้ความชุ่มชื้น (Moisturising) ดังนั้น หลังอาบน้ำแล้วจึงควรทาครีมหรือโลชั่นตามด้วย

ขอบคุณ คุณหน่อย ทิชา และคุณSomporn Panyastianpong

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

1. SOAP is stirred using oil or fat mixed with alkali (caustic soda), stirring, thicken and pour it into the printer, and then leave on for 24-48 hours (or more, if the formula is quite soft as SOAP) and then remove it from the printer cut is small, then bring on the airflow is 4-6 weeks it introduced this type of SOAP is investment rather than other types of SOAP because it takes a while to get the SOAP that are "assessing the danger in using caustic soda and detailed to do quite a lot. ๐ CPOP (Cold Process Oven Process) the phop or CD ones Thailand some people called CP-CP SOAP is baked when pouring the SOAP down the mold then put into an oven to be forcing SOAP, gel, and it is a catalyst to make the SOAP more quickly (under certain conditions) 2. a similar approach soaps SOAP hot stirring stirring is cool but it uses the heat in the catalysis of SOAP is to bunk in a pot of stew (Double Boiler) or a pot of soup (Slow Cooker), so that it can use faster than SOAP, SOAP, stirring the cold, but the disadvantage is playing less and pattern, SOAP will melt easier than stirring cold SOAP. 3. pour the melted SOAP is the simplest and the least dangerous, because people do not have to mess with caustic soda. This type of soap making, just bring the bass coming SOAP dissolves. Enter an extract Put the herbs. Put the colors aromas and pour it into the printer, wait for it to freeze out of the printer, then wrapped with clear plastic to prevent condensation. (Bass is stirring hot SOAP SOAP that has a manufacturing process rather than having to enter the compound, the more so that the SOAP can melt and become lumpy and the bass, which really has a new SOAP, it can be used. Without a new fused.) And then the SOAP from the SOAP industry, datang garden hash? สบู่อุตสาหกรรม หรือที่เรียกว่าสบู่โรงงานนั้น จะทำสบู่โดยใช้ความร้อน(HP) เมื่อต้มสบู่กับน้ำด่างจนทำปฏิกิริยาสมบูรณ์แล้ว ก็จะนำไปล้างกับน้ำเกลือ จากนั้นจะพักไว้ให้ไขมันแยกชั้น (และมีการสกัดเอากลีเซอรีนออกไปใช้ในอุตสาหกรรมอื่นด้วย-เรียกได้ว่าสบู่ที่ได้จะเหลือแต่เนื้อสบู่ที่มีแต่ค่าการชำระล้าง) จากนั้นก็จะนำสบู่ที่ได้ไปเป่าให้แห้ง บดย่อยให้เป็นเม็ดสบู่ จึงเติมสีและน้ำหอม(เป็นข้อดีที่ว่าสบู่โรงงานจะมีกลิ่นหอมน่าใช้มากกว่า) นำไปอัดเป็นแท่ง แล้วจึงนำไปปั๊มขึ้นรูปเป็นก้อนสบู่แบบที่เราใช้กัน นอกจากนี้ สบู่โรงงานมักจะทำจากน้ำมันปาล์มและน้ำมันมะพร้าวเพื่อลดต้นทุน ส่วนสบู่แฮนเมด ผู้ทำสามารถเลือกใช้น้ำมันที่มีค่าการบำรุงสูงๆ ได้ ต้นทุนจึงสูงกว่า ส่วนขั้นตอนการทำก็จะนำน้ำมันและน้ำด่างมาผสมและกวนให้เข้ากัน จากนั้นจึงเทลงแม่พิมพ์ ทิ้งไว้จนเซ็ตตัว นำมาตัดเป็นก้อนๆ หลังจากนั้น นำสบู่มาบ่ม(ตาก)ต่อประมาณ 4-8 สัปดาห์ จึงทำให้สบู่ที่ได้มีค่าการบำรุงสูง ทั้งจากน้ำมันและกลีเซอรีนธรรมชาติ ข้อเสียของสบู่แฮนเมดคือ ราคาแพงกว่า และด้วยความที่สบู่มีความชุ่มชื้นสูง ดังนั้นสบู่แฮนเมดจะละลายน้ำได้ดีและเปื่อยยุ่ยได้ง่ายกว่าสบู่โรงงานมาก (จึงควรวางสบู่แฮนเมดไว้ในที่ไม่มีน้ำขัง) นอกจากนี้ อาจพบว่ากลิ่นของสบู่ไม่ค่อยหอม บางครั้งอาจจะเป็นกลิ่นน้ำมันตุ่ยๆ ก็เนื่องจากกระบวนการบ่มสบู่อาจทำให้น้ำหอมเจือจางลงด้วย However, the hash value provided garden SOAP, skin SOAP, but not the (Conditioning), moisture (Moisturising). After the bath, then it should apply the cream or lotion followed by. Thank you tea and Somporn Panyastianpong in fron of you Thi.

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

1. Soap stir to cool the oil or fat is mixed with lye (sodium hydroxide), stirring to thicken, pour it into print and leave 24-48 hours (or more if soap is relatively soft), then cut out of print. into small cubes Then dried in the air for 4-6 weeks before you adopt. This type of investment which soap rather than other types of soap. Because it takes time for the curing soap. There is no harm in using caustic soda. And details on how to do quite a lot of 0 CPOP (Cold Process Oven Process) Thailand's pop or some called CPI - baking is done, pour the soap into the mold and soap on CP. Leads into the oven In order to force the soap gel. And in some cases it is a catalyst to make the soap more quickly (under the other) 2. Stir the hot soap method is similar to the soap's cool. Instead, it uses heat to accelerate the reaction of the soap. The stew pot Bunk (Double Boiler) or casserole (Slow Cooker) so that it can be faster than using soap soap's cool. The disadvantage is that the pattern has played less. Soap and soap to dissolve more easily stirred cold 3. Pour the melted soap is the easiest way. And with minimal harm Because people do not have to mess with caustic soda. This type of soap making Just bring soap dissolved based on herbal extracts put color on it poured out of the print publication solidifies wait. Then wrapped in plastic to prevent condensation (based soap. Soap is stirred hot The production process is over Has put more compounds to be melted soap. And to coagulate, which was actually built based soap can be used at all. Without recasting was taken) , then soap handmade soap industry is different from what the soap industry. Also known as a soap factory. Soap is made ​​by heating (HP) when boiled with lye soap, until the reaction is complete. It is washed with saline. It will then hold a separate layer of fat. (And extract the glycerin out in other industries as well - is that soap is not only the body but the soap and rinse), then put soap on it to blow it dry. Granulator as soap tablets The color and fragrance (the advantages that the soap factory will smell more pleasant) to cram into bars. Then it was forming a bar of soap that we use this soap factories usually made ​​from palm oil and coconut oil to reduce the cost of soap is handmade. Users can make use of the oil with the high maintenance cost is higher. The process will take oil and lye mixture and stir to combine. Then poured into the mold Left to cure Cut into cubes and then put soap on curing (drying) for approximately 4-8 weeks, the soap has a high cost of maintenance. Both oil and natural glycerin. The downside of handmade soap is more expensive, and with a high moisturizing soap. So Handmade soap is dissolved and disintegrating much more easily than a soap factory. (Should Handmade soap in which no water) may also find that the smell of scented soap rarely. Sometimes it is a foul smell. Because the curing process may make perfume, soap diluted by , however. Handmade soap gives the skin (Conditioning), but not a moisturizing soap. (Moisturising) So after a shower and then apply cream or lotion followed by thank you and your little Tisha Somporn. Panyastianpong

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:

1 soap stir cool. Use oil or fat mixed with lye (sodium hydroxide) Guan to thicken, pour type and left 24-48 hours. (or more if soap is relatively soft). Then removed from print to cut into small. The dry in the air 4-6 week. Then used. The soap, this type of soap investment rather than other types. Because it takes time to soap. There are dangers in the use of caustic soda. And detailed to do quite a lot.Education CPOP (Cold Process Oven Process) C pop or some Thais called CP - drying is to make soap CP when Tess soap into the mold. It led to the oven to make soap gel. And some is catalyzed to use soap faster (under other conditions.).2 soap stirring hot, how will saponaceous stir cool. The heat in the catalysis of soap is stewed in double boilers (Double Boiler) or casserole (Slow Cooker) thus can use soap faster than soap stir cool. But the disadvantage is that play patterns are less. Soap and soap will melt stirring than cold.3 melt Pour Soap is the easiest way and danger is minimal. Because those who do, don"t bother with caustic soda soap making this type of just the soap base dissolved in extracts, put the herbs, color, smell, pour in type. Waiting for curing sheep out of print. And wrapped in clear plastic to prevent steam island.(bass soap is soap with stirring hot process more, put other compounds. Further, to make soap can melt. And back froze solid again, which really is a soap base can be used. Without the new fusion).Handmade soap and soap from industry?The soap industry, also known as the soap factory. To make soap using heat (HP). When boiled with lye soap until the reaction is complete. It will be washed with brine, and then will พักไว้ fat separation layer. (and glycerin extraction took out in other industries - called the soap will only meat sauce but with the soap wash). Then he will take the soap to blow dry granulator.