นักปราชญ์ของอาณาจักรจีนนั้นเป็นผู้ที่มีความสำคัญในการพัฒนาศาสตร์ฮวงจุ้ การแปล - นักปราชญ์ของอาณาจักรจีนนั้นเป็นผู้ที่มีความสำคัญในการพัฒนาศาสตร์ฮวงจุ้ อังกฤษ วิธีการพูด

นักปราชญ์ของอาณาจักรจีนนั้นเป็นผู้ท

นักปราชญ์ของอาณาจักรจีนนั้นเป็นผู้ที่มีความสำคัญในการพัฒนาศาสตร์ฮวงจุ้ยซึ่งเมื่อเราเอ่ยถึงคำว่าปราชญ์ของคนจีนนั้นมีความหมายยิ่งใหญ่มากกว่านักวิชาการในปัจจุบันมาก เพราะปราชญ์จีนในสมัยก่อนนั้นมีการศึกษาทั้งทางด้านศาสนาวัฒนธรรม การปกครอง การสงคราม เขียนตำราพิชัยสงคราม การแพทย์ รวมไปจนถึงฮวงจุ้ยด้วย โดยศาสตร์ฮวงจุ้ยได้รับการพัฒนามาตั้งแต่สมัยราชวงศ์เซี่ย (2,100 BC – 1,700 BC) ซึ่งเป็นราชวงศ์แรกของอาณาจักรจีน โดยปราชญ์ของจีนในสมัยนั้นได้ใช้ศาสตร์ด้านฮวงจุ้ยในการหาชัยภูมิที่เหมาะสมในสร้างเมือง เช่น การตรวจดินและพืชพันธุ์ว่ามีความอุดมสมบูรณ์เพียงพอหรือไม่ การตรวจดูกระแสน้ำว่ามีการพาพลังจากธรรมชาติเข้ามาหรือออกไป ตรวจดูสภาพลมฟ้าอากาศ รวมไปถึงสุขภาพของสัตว์ที่อาศัยอยู่ภายในชัยภูมินั้นๆด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าชัยภูมินั้นมีพลังธรรมชาติที่ดีเข้ามาหล่อเลี้ยง ซึ่งจะทำให้ผู้คนที่อยู่ในเมืองนั้นได้รับพลังที่ดีจากธรรมชาติและมีความเจริญรุ่งเรือง

การพัฒนาการของศาสตร์ฮวงจุ้ยทางด้านชัยภูมินั้นมารุ่งเรืองถึงที่สุดในสมัยราชวงศ์ฉิน (220 BC – 200 BC) ซึ่งแนวคิดของศาสตร์นี้ได้ถูกพัฒนามาจากการสร้างเมืองเพื่อป้องกันการรุกรานของอาณาจักรอื่นๆ โดยทิศด้านหลังและด้านข้างของเมืองต้องเป็นภูเขาสูงเพื่อเป็นแนวป้องกันการรุกรานของข้าศึกโดยเฉพาะอาณาจักรมองโกลที่อยู่เหนือขึ้นไป ซึ่งอาณาจักรมองโกลนั้นก็คือราชวงศ์หยวน (1279 AC – 1368 AC) นั่นเอง และยังเป็นการป้องกันสภาพอากาศที่หนาวเย็นเนื่องจากลมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดมาจากทางด้านไซบีเรียหรือรัสเซียในปัจจุบันด้วย และนี่เป็นเหตุผลให้ทางด้านซ้ายของเมืองควรจะมีสภาพภูเขาที่สูงกว่าทางด้านขวาของเมือง ส่วนด้านหน้าของเมืองนั้นจะเป็นแม่น้ำเพื่อใช้ในการทำการเกษตร โดยหากแม่น้ำมีลักษณะโค้งโอบเมืองก็จะทำให้ดินในฝั่งเมืองอุดมสมบูรณ์เนื่องจากมีการพัดพาเอาตะกอนเข้ามาเก็บไว้ ซึ่งผลงานในการสร้างกำแพงเมืองจีนของ "ฉินสื่อหวงตี้” หรือ “จิ๋นซีฮ่องเต้” ที่เรารู้จักกันดี ก็ได้นำมาจากหลักการส่วนหนึ่งของฮวงจุ้ยทางด้านชัยภูมินี้

อย่างไรก็ตามในยุคต่อๆมานักปราชญ์ของจีนได้สังเกตว่าภูเขาที่อยู่ใกล้กันมีความอุดมสมบูรณ์ไม่เท่ากันบ้านที่อยู่ใกล้กันแต่หันทิศทางต่างกันก็มีความเจิญไม่เท่ากัน หรือคนในบ้านเดียวกันเองก็มีความเจริญรุ่งเรืองต่างกัน นักปราชญ์ของจีนจึงได้มีสมมุติฐานว่าต้องมีตัวแปรสำคัญในการกำหนดปราณชี่หรือพลังธรรมชาติที่เข้ามาสร้างความเจริญรุ่งเรืองที่แตกต่างกัน จึงเป็นที่มาของการค้นคว้าหาความรู้ในเรื่อง "องศาทิศทาง” นั่นเอง โดยศาสตร์ในด้านองศาทิศทางนั้นได้เริ่มมีการใช้งานอย่างจริงจังในสมัยปลายราชวงศ์หมิง (1368 AC – 1644 AC) โดยปรมาจารย์ “เจี่ยต้าหง” (Jiang Da Hong) ผู้เป็นเจ้าของวลี "ความลับสวรรค์ มิอาจเปิดเผยได้” (Secret of heaven cannot be disclosed) เนื่องจากในสมัยนั้นฮวงจุ้ยยังเป็นศาสตร์ทางราชสำนักห้ามในการเปิดเผย จะมีการถ่ายทอดต่อไปได้แค่เพียงภายในตระกูลของปรมาจารย์เท่านั้น โดยปรมาจารย์ท่านที่มีส่วนสำคัญในการนำศาสตร์ของฮวงจุ้ยด้านองศาทิศทางมาเปิดเผยสู่สาธารณะชนนั้นได้แก่ ปรมาจารย์ "เสิ่นจูเหยิง” (Shen Ju Reng) ท่าน "จางจงซาน” (Zhang Zhong Shan) และท่าน "ตันหยางวู” (Tan Yang Wu)

ท่านปรมาจารย์เจี่ยต้าหงนั้นถือว่าเป็นซินแสท่านแรกที่ศึกษาในศาสตร์วิชาดาวเหิรหรือเสวียนคงเฟิงสุ่ย (Xuan Kong Feng Shui) จนแตกฉาน โดยท่านถือเป็นซินแสอันดับหนึ่งในสมัยของราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง เป็นที่เล่าขานว่าไม่ว่าท่านเดินผ่านหน้าบ้านไหน บ้านนั้นจะเจอแต่ความเจริญรุ่งรือง และทุกครั้งที่มีคนถามท่านว่าเพราะเหตุใดท่านจึงสามารถทำให้เจริญรุ่งเรืองได้ ก็มักจะได้รับคำตอบว่าเป็น "ความลับสวรรค์ มิอาจเปิดเผยได้” โดยคัมภีร์ที่ท่านเขียนไว้นั้นมิได้เผยแพร่ให้บุคคลภายนอก จะอยู่แค่ภายในตระกูลและภายในราชสำนักเท่านั้น โดยซินแสในรุ่นหลังก็ได้มีความพยายามจะถอดรหัสวิชาของท่านเพื่อนำไปศึกษาต่อไป ดังนั้นท่านปรมาจารย์เจี่ยต้าหงจึงถือว่าเป็นซินแสผู้เป็นบิดาของวิชาทางด้านองศาทิศทางวึ่งถือว่าเป็นศาสตร์ชั้นสูงที่สุดของวิชาฮวงจุ้ย

ส่วนท่านปรมาจารย์จางซงซาง, เสิ่นจูเหยิง และตันหยางวู นั้นถือเป็นปรมาจารย์รุ่นถัดมาที่ได้ถอดรหัสวิชาของเสวียนคงเฟิงสุ่ยมาจากท่านปรมาจารย์เจี่ยต้าหงและได้นำมาเผยแพร่ให้กับสาธารณะชนภายนอก โดยท่านปรมาจารย์เสิ่นจูเหยิงผู้นั้นถือว่าเป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับจากซินแสในรุ่นปัจจุบันมากที่สุด เพราะเป็นผู้ถอดรหัสวิชาของท่านปรมาจารย์เจี่ยต้าหงได้เป็นอย่างดีและนำมาเขียนเป็นคัมภีร์รวมทั้งถ่ายทอดให้แก่ซินแสรุ่นหลังโดยไม่เก็บเนื้อหาวิชาที่สำคัญไว้อย่างซินแสในรุ่นก่อนๆ โดยหลักวิชาเสวียนคงเฟิงสุ่ยหรือระบบดาวเหิรที่ซินแสชั้นนำของมาเลเซีย, สิงคโปร์ และ ฮ่องกง ได้นำมาใช้ก็เป็นเนื้อหาที่ปรมาจารย์เสิ่นจูเหยิงได้ถ่ายทอดไว้ในสมัยปลายราชวงศ์ชิงนั่นเอง
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
The scholars of the Chinese Empire, it is those who are important in the development of science, Feng Shui, when we mention the word Sage of Chinese people, it has a great meaning, rather than the current scholars. Governance The war. Writing textbook treatise on war strategy Medicine, including Feng Shui by science, Feng Shui has been developed since the reign of Xia (2,100 BC – 1,700 BC), which become the first dynasty of the Chinese Empire by Sage of China in the modern use of the Feng Shui in the Chaiyaphum as appropriate to create a soil and crops that are rich enough? Check the weather conditions, as well as the health of the animals that live within the Chaiyaphum. To ensure that the natural power of Chaiyaphum added nourished.
The development of the science of Feng Shui the most glory to Chaiyaphum in the Qin dynasty (220 BC – 200 BC) that the concept of science was developed from the creation of the city in order to prevent the invasion of the Kingdom. Which Kingdom the Mongol Yuan dynasty's (1279 – 1368 AC AC) exerted and is also preventing cold weather due to the northeast wind blowing from the Siberia or Russia at present. Best in front of the town is the river for use in agriculture. As if the river curve surrounded by the city, will make the soil fertile political side because there is a sludge removal took blows into stores. "Media city" or "Xin Huang chin Hong teh CD" we are well known, it has been taken from the main part of the Feng Shui of Chaiyaphum.
.
However, in the subsequent era of the Chinese scholars have noted that there are other nearby mountains abundance is not equally close to home, but facing a different direction, they are not the same choen. The scholars of China, it has sommutithan that there must be an important variable in determining the nature of Qi energy in respiration or build the prosperity that is different. It is the source of knowledge for research "degree direction." ' (1368 – 1644 AC AC) by ponmachan "da Jia Hong" (Jiang Da Hong), who owns the phrase "secret Paradise Hotel may disclose yet" (the Secret of heaven cannot be disclosed) because the only Feng Shui is a science Court and prohibited to disclose. By ponmachan you are an important part in bringing science of Feng Shui in degrees the direction to disclose to the public, including "dirty" ponmachan-soen (Shen Ju Reng) at "Zhongshan" Zhang (Zhang Zhong Shan), and "ton Yang Wu" (Wu Yang Tan)
.
He ponmachan Jia da hung it is considered the first sinsae education in science & foengsui-stars eswiin hoen or tea. (Xuan Kong Feng Shui) until he was proficient with a sinsae in the days of the Ming dynasty and Qing dynasty. The House will meet, but prosperity "or d, and every time someone asks him why he can make prosperity. They usually get the answer to that is ' the secrets of heaven does not disclose. " Is located just within the family and within the Court only. By sinsae in later versions, it is an attempt to crack the code of your subjects to study.
Best you ponmachan anemia songsang, Soen-perfect Tan Yang Wu is the next version of ponmachan that have been decoded from eswiin's foengsui-first person ponmachan Jia Hong da and was brought to the public published externally. It is a Department of the decoder ponmachan Jia da hung as well and is written in the Bible, as well as convey to the latter model sinsae without storing the content of sinsae is important in previous versions. Singapore and Hong Kong have adopted it as a content-ponmachan leave unnamed soen was in vogue at the end of the Qing dynasty exerted
.
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
นักปราชญ์ของอาณาจักรจีนนั้นเป็นผู้ที่มีความสำคัญในการพัฒนาศาสตร์ฮวงจุ้ยซึ่งเมื่อเราเอ่ยถึงคำว่าปราชญ์ของคนจีนนั้นมีความหมายยิ่งใหญ่มากกว่านักวิชาการในปัจจุบันมาก เพราะปราชญ์จีนในสมัยก่อนนั้นมีการศึกษาทั้งทางด้านศาสนาวัฒนธรรม การปกครอง การสงคราม เขียนตำราพิชัยสงคราม การแพทย์ รวมไปจนถึงฮวงจุ้ยด้วย โดยศาสตร์ฮวงจุ้ยได้รับการพัฒนามาตั้งแต่สมัยราชวงศ์เซี่ย (2,100 BC – 1,700 BC) ซึ่งเป็นราชวงศ์แรกของอาณาจักรจีน โดยปราชญ์ของจีนในสมัยนั้นได้ใช้ศาสตร์ด้านฮวงจุ้ยในการหาชัยภูมิที่เหมาะสมในสร้างเมือง เช่น การตรวจดินและพืชพันธุ์ว่ามีความอุดมสมบูรณ์เพียงพอหรือไม่ การตรวจดูกระแสน้ำว่ามีการพาพลังจากธรรมชาติเข้ามาหรือออกไป ตรวจดูสภาพลมฟ้าอากาศ รวมไปถึงสุขภาพของสัตว์ที่อาศัยอยู่ภายในชัยภูมินั้นๆด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าชัยภูมินั้นมีพลังธรรมชาติที่ดีเข้ามาหล่อเลี้ยง ซึ่งจะทำให้ผู้คนที่อยู่ในเมืองนั้นได้รับพลังที่ดีจากธรรมชาติและมีความเจริญรุ่งเรือง

การพัฒนาการของศาสตร์ฮวงจุ้ยทางด้านชัยภูมินั้นมารุ่งเรืองถึงที่สุดในสมัยราชวงศ์ฉิน (220 BC – 200 BC) ซึ่งแนวคิดของศาสตร์นี้ได้ถูกพัฒนามาจากการสร้างเมืองเพื่อป้องกันการรุกรานของอาณาจักรอื่นๆ โดยทิศด้านหลังและด้านข้างของเมืองต้องเป็นภูเขาสูงเพื่อเป็นแนวป้องกันการรุกรานของข้าศึกโดยเฉพาะอาณาจักรมองโกลที่อยู่เหนือขึ้นไป ซึ่งอาณาจักรมองโกลนั้นก็คือราชวงศ์หยวน (1279 AC – 1368 AC) นั่นเอง และยังเป็นการป้องกันสภาพอากาศที่หนาวเย็นเนื่องจากลมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดมาจากทางด้านไซบีเรียหรือรัสเซียในปัจจุบันด้วย และนี่เป็นเหตุผลให้ทางด้านซ้ายของเมืองควรจะมีสภาพภูเขาที่สูงกว่าทางด้านขวาของเมือง ส่วนด้านหน้าของเมืองนั้นจะเป็นแม่น้ำเพื่อใช้ในการทำการเกษตร โดยหากแม่น้ำมีลักษณะโค้งโอบเมืองก็จะทำให้ดินในฝั่งเมืองอุดมสมบูรณ์เนื่องจากมีการพัดพาเอาตะกอนเข้ามาเก็บไว้ ซึ่งผลงานในการสร้างกำแพงเมืองจีนของ "ฉินสื่อหวงตี้” หรือ “จิ๋นซีฮ่องเต้” ที่เรารู้จักกันดี ก็ได้นำมาจากหลักการส่วนหนึ่งของฮวงจุ้ยทางด้านชัยภูมินี้

อย่างไรก็ตามในยุคต่อๆมานักปราชญ์ของจีนได้สังเกตว่าภูเขาที่อยู่ใกล้กันมีความอุดมสมบูรณ์ไม่เท่ากันบ้านที่อยู่ใกล้กันแต่หันทิศทางต่างกันก็มีความเจิญไม่เท่ากัน หรือคนในบ้านเดียวกันเองก็มีความเจริญรุ่งเรืองต่างกัน นักปราชญ์ของจีนจึงได้มีสมมุติฐานว่าต้องมีตัวแปรสำคัญในการกำหนดปราณชี่หรือพลังธรรมชาติที่เข้ามาสร้างความเจริญรุ่งเรืองที่แตกต่างกัน จึงเป็นที่มาของการค้นคว้าหาความรู้ในเรื่อง "องศาทิศทาง” นั่นเอง โดยศาสตร์ในด้านองศาทิศทางนั้นได้เริ่มมีการใช้งานอย่างจริงจังในสมัยปลายราชวงศ์หมิง (1368 AC – 1644 AC) โดยปรมาจารย์ “เจี่ยต้าหง” (Jiang Da Hong) ผู้เป็นเจ้าของวลี "ความลับสวรรค์ มิอาจเปิดเผยได้” (Secret of heaven cannot be disclosed) เนื่องจากในสมัยนั้นฮวงจุ้ยยังเป็นศาสตร์ทางราชสำนักห้ามในการเปิดเผย จะมีการถ่ายทอดต่อไปได้แค่เพียงภายในตระกูลของปรมาจารย์เท่านั้น โดยปรมาจารย์ท่านที่มีส่วนสำคัญในการนำศาสตร์ของฮวงจุ้ยด้านองศาทิศทางมาเปิดเผยสู่สาธารณะชนนั้นได้แก่ ปรมาจารย์ "เสิ่นจูเหยิง” (Shen Ju Reng) ท่าน "จางจงซาน” (Zhang Zhong Shan) และท่าน "ตันหยางวู” (Tan Yang Wu)

ท่านปรมาจารย์เจี่ยต้าหงนั้นถือว่าเป็นซินแสท่านแรกที่ศึกษาในศาสตร์วิชาดาวเหิรหรือเสวียนคงเฟิงสุ่ย (Xuan Kong Feng Shui) จนแตกฉาน โดยท่านถือเป็นซินแสอันดับหนึ่งในสมัยของราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง เป็นที่เล่าขานว่าไม่ว่าท่านเดินผ่านหน้าบ้านไหน บ้านนั้นจะเจอแต่ความเจริญรุ่งรือง และทุกครั้งที่มีคนถามท่านว่าเพราะเหตุใดท่านจึงสามารถทำให้เจริญรุ่งเรืองได้ ก็มักจะได้รับคำตอบว่าเป็น "ความลับสวรรค์ มิอาจเปิดเผยได้” โดยคัมภีร์ที่ท่านเขียนไว้นั้นมิได้เผยแพร่ให้บุคคลภายนอก จะอยู่แค่ภายในตระกูลและภายในราชสำนักเท่านั้น โดยซินแสในรุ่นหลังก็ได้มีความพยายามจะถอดรหัสวิชาของท่านเพื่อนำไปศึกษาต่อไป ดังนั้นท่านปรมาจารย์เจี่ยต้าหงจึงถือว่าเป็นซินแสผู้เป็นบิดาของวิชาทางด้านองศาทิศทางวึ่งถือว่าเป็นศาสตร์ชั้นสูงที่สุดของวิชาฮวงจุ้ย

ส่วนท่านปรมาจารย์จางซงซาง, เสิ่นจูเหยิง และตันหยางวู นั้นถือเป็นปรมาจารย์รุ่นถัดมาที่ได้ถอดรหัสวิชาของเสวียนคงเฟิงสุ่ยมาจากท่านปรมาจารย์เจี่ยต้าหงและได้นำมาเผยแพร่ให้กับสาธารณะชนภายนอก โดยท่านปรมาจารย์เสิ่นจูเหยิงผู้นั้นถือว่าเป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับจากซินแสในรุ่นปัจจุบันมากที่สุด เพราะเป็นผู้ถอดรหัสวิชาของท่านปรมาจารย์เจี่ยต้าหงได้เป็นอย่างดีและนำมาเขียนเป็นคัมภีร์รวมทั้งถ่ายทอดให้แก่ซินแสรุ่นหลังโดยไม่เก็บเนื้อหาวิชาที่สำคัญไว้อย่างซินแสในรุ่นก่อนๆ โดยหลักวิชาเสวียนคงเฟิงสุ่ยหรือระบบดาวเหิรที่ซินแสชั้นนำของมาเลเซีย, by Browser Shop" style="border: none !important; display: inline-block !important; text-indent: 0px !important; float: none !important; font-weight: bold !important; height: auto !important; margin: 0px !important; min-height: 0px !important; min-width: 0px !important; padding: 0px !important; vertical-align: baseline !important; width: auto !important; text-decoration: underline !important; text-transform: uppercase !important; background: transparent !important;">สิงคโปร์ และ ฮ่องกง ได้นำมาใช้ก็เป็นเนื้อหาที่ปรมาจารย์เสิ่นจูเหยิงได้ถ่ายทอดไว้ในสมัยปลายราชวงศ์ชิงนั่นเอง
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
The kingdom of China who has the significance in the development of the science of Feng Shui, which when we mention the philosopher of Chinese that means greater than current scholars.Government, war, wrote the art of war medicine, including Feng Shui. By the science of Feng Shui has been developed since the Zhou Dynasty, (2100, BC - 1700 BC) which is the first dynasty of the kingdom of China. The philosopher of China in those days, use science of Feng Shui in finding suitable location in building the city, such as the detection of soil and vegetation, that there is plenty enough?Check the state of the weather. The health of animals that live within the union as well. To make sure that the power of Chaiyaphum, good nature in feed
.The development of the science of Feng Shui in Chaiyaphum to flourish best in the days of the Qin Dynasty (220 BC - 200 BC) which the concept of science has been developed from the creation of the city to prevent the invasion of the Kingdom).The Mongol Empire is the Yuan Dynasty (1279 AC - 1368 AC) itself, and also to prevent the cold weather because the wind blowing from the Northeast Siberian or Russia at present.The front part of the city will be the river for use in farming. The river has curved around the city will make the soil rich in the city due to the พัดพาเอา sediment into the keep."ฉินสื่อหวงตี้" or "list of South Korean flags." we are well known. It was brought from the principle part of Feng Shui in Chaiyaphum this
.
.However, in the later scholars of China have noted that the mountains close to the abundance unequal house near, but facing different directions have unequal - house of flamesThe Chinese had hypothesized that there must be important factors in determining the Pran chi or vitality of conditions to create prosperity is different. It is the source of the knowledge in "degrees" direction.(1368 AC - 1644 AC) by the master. "Jia Da Hong" (Jiang Da Hong owners to the phrase "the heaven cannot reveal." (Secret. Of heaven cannot be disclosed) because in those days, Feng Shui is also the science of Court banned in revelation.You are part of the master of science of Feng Shui in the direction to reveal to the public into degrees include master "Shenzhen Ju entangled." (Shen Ju Reng) you. "Zhang Zhong Shan" (Zhang Zhong Shan) and "Tan Yang Wu" (Tan Yang Wu)
.
.The master Jia Da Hong is considered as a teacher you first research in the science technique or เสวียนคง flying long Feng Shui (Xuan Kong Feng Shui). He is a teacher and dispersed by the number one in the reign of Ming Dynasty and Qing Dynasty.That house will see but prosperous or. And every time someone asks you what you can make prosperity. They tend to get the answer as a "secret heaven cannot be revealed."Is located just within the tribe, and within the royal family. The teacher in next generation are efforts to decode his subjects to study.
the master Zhang Song sang.Shenzhen Ju entangled, and tons of Yang Wu, it is the next generation to the decoding of of Xuan คงเฟิง Shui from master Jia Da Hong and be published to the public outside.Because the decoder on your master Jia Da Hong as well, and bring a Bible as well as transmitted to teacher, later generations without putting content important subjects like teacher in ก่อนๆ version.Singapore and Hong Kong have used is the content that the Shenzhen Ju entangled broadcast it in the late Qing Dynasty.
.
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: